ผืนดินยกตัวสูงขึ้นไปบนฟ้า แล้วตกลงมาดั่งลูกเห็บมรณะ ฆ่าผู้โชคร้ายที่หนีไม่ทัน
ชิ้นส่วนอวัยวะกับละอองเลือดตกลงมาเป็นห่าฝน
ผืนดินยุบตัวเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่ กลายเป็นแอ่งเลือดซากศพ
เสียงระเบิดดังกัมปนาทไปถึงกลางเมืองชั้นใน
สิ่งมีชีวิตทุกสิ่งที่ได้ยินต่างชะงักงัน
กำแพงพังทลายเป็นแนวยาวหลายกิโล
มอนสเตอร์จำนวนนับไม่ถ้วนเสียชีวิต
นักผจญภัยกับทหารที่หนีไม่ทันบาดเจ็บล้มตายมากมาย
สถานการณ์ที่ฝั่งมนุษย์กำลังจะเสียเปรียบกลับมาเสมอกันอีกครั้ง
*****
คาลิก้า เนฮิว
[เป้าหมายที่เลือกถูกกำจัดแล้ว]
[ยกเลิกการยับยั้งสติและความนึกคิด]
[ทำการยุติสถานะ คลั่ง]
...
[คาลิก้า เนฮิว ยังมีความต้องการสถานะ คลั่ง]
[ยกเลิกการยุติสถานะ คลั่ง]
[สถานะ คลั่ง มีผล 1 อาทิตย์]
[แจ้งเตือน!! คาลิก้า เนฮิว ได้รับโทษจากสถานะ คลั่ง]
[ภายใต้สถานะคลั่ง ไม่สามารถกินแกนดันเจี้ยนเพื่ออัพสกิลได้]
[หลังสถานะ คลั่ง ยุติ แต้มสกิลที่มีอยู่ทั้งหมดจะหายไป]
[หลังสถานะ คลั่ง ยุติ สกิลทั้งหมดที่อัพไว้จะกลับเป็น 0]
[หลังสถานะ คลั่ง ยุติ สกิลทั้งหมดจะทำการติดลบ x 2 ตามจำนวนที่เคยอัพไว้]
[หลังสถานะ คลั่ง ยุติ สมดุลร่างกาย -20]
[หลังสถานะ คลั่ง ยุติ พละกำลัง -10]
[หลังสถานะ คลั่ง ยุติ ความทนทานของผิวหนัง -16]
[หลังสถานะ คลั่ง ยุติ ความคล่องแคล่ว -12]
[หลังสถานะ คลั่ง ยุติ การฟื้นฟู -20]
[หลังสถานะ คลั่ง ยุติ ความเสียหาย 0]
[หลังสถานะ คลั่ง ยุติ จะเข้าสู่สภาวะหลับใหลจนกว่าร่างกายจะคืนสภาพเสร็จสิ้น]
[แจ้งเตือน!! สภาวะหลับใหลไม่สามารถรู้สึกตัวและปกป้องตัวเองได้]
[แนะนำให้หาที่ปลอดภัยก่อนสถานะคลั่งจะ ยุติ]
[ประมาณเวลาการคืนสภาพ อย่างเร็วที่สุดใช้เวลา 3 เดือน]
หลังสติกลับคืนมาและอ่านข้อความทั้งหมดแล้ว ฉันก็รีบถามเจ้าหน้าต่างอย่างตื่นเต้น
เจ้าหน้าต่าง แบบนี้ฉันรักษาได้สองคนเลยใช่มั้ยเพราะระดับการฟื้นฟูอยู่ที่ 20
[ไม่สามารถทำได้]
[ค่า 20 ที่ได้รับเกิดจากการเพิ่มความสามารถชั่วคราวจากสถานะ คลั่ง เท่านั้น]
...งั้นเหรอ
แสดงว่าฉันเลือกช่วยได้แค่คนเดียว ระหว่างพี่เทียร่า กับ เอลด้า ...สินะ
ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลามาตัดสินใจ ฉันวิ่งกลับไปเก็บหน้ากาก ท่ามกลางความหวาดกลัวของพวกนักผจญภัยระดับต่ำ
แต่ฉันสวมไม่ได้เพราะติดเขาบนหน้าผาก เลยเจาะรูเพิ่มอีกสองรู แล้วค่อยสวมลงไป
ส่วนพวกระดับกลางพุ่งเข้ามาเพื่อจัดการฉันเพราะคิดว่าเป็นอสูร
ซึ่งฉันเลือกที่จะวิ่งหนีขึ้นไปบนกำแพงที่ตอนนี้ไม่มีทหารประจำการ
แล้วรีบไปที่กิลด์ [เวทกังวาน]
*****
ไจเกีย นักผจญภัย [แรงค์ A] เจ้าของฉายา สัตว์ร้ายกระหายเลือด หัวหน้ากิลด์ [เขี้ยวประกายแสง]
เหตุการณ์ก่อนคาลิก้าเข้าสู่สถานะคลั่ง
เพราะมัวแต่สนใจนางเงือก กว่าจะรู้ตัวอีกทีคาลิก้าก็ช่วยน้องของเธอได้แล้ว
แค่งานง่ายๆ กับแค่การกินเด็กขยะตัวเดียวเข้าไป ทำไมมันถึงทำไม่ได้
ไอ้อสูรขยะ น่ากระทืบทิ้งแล้วฉีกร่างให้เละไปซะตั้งแต่แรก ไหนจะยังมีเรื่องที่มันบังอาจทำร้ายคาลิก้าของข้าด้วย
เดี๋ยวจะฆ่าให้ทรมานที่สุดจนไม่อยากเกิดมาเลย
แต่ตอนนี้ ข้าหันไปมองกลุ่มทหารน้ำแข็งที่รับน้องสาวของเธอ
สุดท้ายข้าก็ต้องลงมือเองจนได้
ข้าเปลี่ยนแขนข้างนึงเป็นร่างเสือ รอจังหวะฆ่าทิ้งด้วยการโจมตีเดียว
"แฮ่ก ๆ ๆ ๆ ๆ เจอท่าน... สักที... แฮ่ก ๆ ๆ"
ตอนนั้นเองที่ลูกกิลด์คนนึงวิ่งหอบเข้ามา
"ไสหัวไป!!!"
"อะ อะ อะ ตะ แต่ว่า"
ข้าหันไปจ้องจนมันล้มลงหวาดกลัวตัวสั่น มันร้องไห้พร้อมกับฉี่แตกออกมาอย่างน่าขยะแขยง
ไอ้นี่ก็น่าฆ่าทิ้ง แต่แล้วมันก็รวบรวมความกล้าตะโกนออกมา
"ท่านเรเชลถูกทหารคุมตัวไว้ครับ!"
"?!!อะไรนะ!!!"
"พะ พวกเขาบอก..."
"บอกว่าอะไร!!!"
"อ๊าาาาาาา! พวกเขาบอกว่าเธอทำผิดกฎอัยการศึกด้วยการออกนอกสลัม! ตอนนี้รอให้ท่านไจเกียไปจัดการครับ!"
ข้าปล่อยมือที่จิกหัวนางเงือกทิ้งแล้วพุ่งตัวไปแนวหลังด้วยความเร็วสูงสุด
นางเงือกสภาพร่อแร่ค่อยมาเก็บทีหลังได้ ส่วนคาลิก้าต้องใช้เวลาอีกนานค่อยวางแผนใหม่ แต่กับเรเชลที่เป็นของข้าอยู่แล้ว
ข้าจึงเลือกไปช่วยเรเชล
*****
คาลิก้า เนฮิว
บนกำแพงที่ไม่ต้องวิ่งหลบคน ไม่มีใครขวางทาง เป็นเส้นทางตรงอย่างเดียว ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งก็มาถึงประตูเมือง
แต่จากตรงนี้ไปมีทหารประจำการอยู่เพียบ เหนือประตูเมืองมีอัศวินอีกคนมาประจำการแทนจีเซ็นด้วย
ฉันไม่ลดความเร็วแล้วกระโดดข้ามหัวพวกเขาไปเลย โดยเล็งจุดลงที่ลานกว้าง
อัศวินคนใหม่ที่เห็นฉันกระโดดเข้าไปในเมืองชั้นนอกก็ตะโกนว่ามอนสเตอร์หลุดและสั่งการให้ทหารตามล่าฉัน
ขณะอยู่กลางอากาศ ฉันกลับโดนอะไรสักอย่างแทงเข้าที่กลางหลัง
ขนาดความทนทานระดับ 16 ยังเจาะเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
แต่เพราะค่าอื่นก็เพิ่ม ฉันจึงฟันศอกสวนกลับใส่อย่างรวดเร็ว
ศอกกระแทกโดนอะไรสักอย่างจนฉันได้ยินเสียงกระดูกหักและกระอักเลือดออกมา
แต่เพราะมองไม่เห็นตัว ฉันจึงคิดว่าน่าจะเป็นโรจา
แม้มีดที่ใช้แทงฉันจะเป็นของพวกทหารก็ตาม
โครมมมมมมมมม!
ไม่นานบ้านหลังนึงก็ถูกบางสิ่งกระแทกจนเป็นรูขนาดเท่าตัวคน
แล้วฉันก็เข้าใจว่าทำไมมันถึงลอบโจมตีฉันกลางอากาศ
เพื่อเปลี่ยนเส้นทางจุดที่ฉันลงจากลานกว้างที่ไม่มีอะไรเลย ไปยังกองศพทหารที่จีเซ็นส่งมาจับตัวฉัน
ที่น่าแปลกคือทุกคนตายคล้ายกับถูกจับฉีกร่างออกเป็นชิ้นๆ
ตูมมมมมมมมมมมมมมมม!
ชิ้นส่วนศพของพวกทหารกระจัดกระจายปลิวไปแปะตามบ้านเรือนรอบด้าน เลือดไหลอาบลงมาเป็นทางยาว
ฉันหันตัวกลับแล้วถีบพื้นพุ่งตัวไปยังบ้านที่โรจามันปลิวเข้าไป แล้วคำรามอัดใส่เต็มกำลัง
บ้านเรือนตรงหน้าราบเป็นหน้ากลอง ส่วนโรจาก็ไม่เห็นตัวเหมือนเดิม
มันคงหนีไปแล้ว เพราะหลังจากนั้นไม่นานพวกทหารก็ไล่ตามฉันมาทัน ซึ่งสิ่งที่พวกนั้นเห็นคือตัวฉันที่อาบไปด้วยเลือดกับซากศพของพรรคพวกที่กระจัดกระจาย
ยังไงก็ไม่มีทางแก้ไขความเข้าใจผิดนี้ได้ ฉันจึงหันหลังหนีอย่างไม่สนใจ ท่ามกลางเสียงก่นด่าสาปแช่งและโจมตีเข้ามาไม่หยุดอย่างโกรธแค้น
ฉันจงใจอ้อมเพื่อไม่ให้พวกมันรู้ว่าฉันจะไปที่ไหน แล้วแอบเข้าไปในบ้านหลายหลัง หาอ่างอาบน้ำที่ยังมีน้ำเต็มในห้องน้ำ ยกขึ้นมาราดตัวล้างคราบเลือดออก
จากนั้นก็หยิบเสื้อผ้าในตู้มาเปลี่ยนพร้อมกับขโมยเสื้อผ้าผู้หญิงกับชุดชั้นในหลายชุดแล้วก็ผ้าสะอาดอีกหลายผืนใส่ถุงผ้า
ตอนเดินผ่านห้องครัวก็ขโมยอาหารแห้งทั้งหมดเก็บไว้ในหม้อแล้วห่อด้วยถุงผ้าอีกชั้น
"ไว้วันไหนที่มีเงินและตั้งตัวได้แล้ว จะมาชดใช้คืนให้นะคะ"
แล้วจึงออกจากบ้าน ก่อนลอบไปที่กิลด์ [เวทกังวาน]
ที่กิลด์ฉันแสดงตัวว่าเป็นคาลิก้ากับพนักงานคนเดิมอีกครั้ง ถึงเธอจะสงสัยเรื่องเขาที่งอกขึ้นมา แต่คงเพราะสีผมกับหน้ากากยังเหมือนเดิมแม้จะเสียหายไปบ้าง เธอจึงยอมพาฉันไป
ที่หน้าบ้านของคุณเลร่าทหารน้ำแข็งเกือบทุกนายละลายไปเกินครึ่งตัวแล้ว แต่ทุกนายยังคงเฝ้าประตูอยู่อย่างนั้นไม่ให้ใครผ่านเข้าไปได้นอกจากฉัน
ฉันหันไปขอผ้าผืนใหญ่กับเชือกจากพนักงาน แล้วเข้าไปในบ้านคนเดียว
เป็นบ้านที่ค่อนข้างโล่ง เฟอร์นิเจอร์ไม่ค่อยมี เหมือนเจ้าบ้านใช้แค่พักอาศัยกับรับแขกเท่านั้น
พี่เทียร่าราวกับนอนหลับอยู่ในโรง ส่วนเอลด้ากับน้องหูสัตว์ พนักงานบอกว่าใช้ยารักษาให้แล้ว แต่สภาพไม่ดีขึ้น และบอกว่าหมดทางเยียวยาแล้ว
พวกเธอนอนอยู่บนโซฟาคนละตัว เอลด้าหายใจรวยริน น้องหูสัตว์หายใจติดๆ ขัดๆ และมีสีหน้าทรมานตลอดเวลา
ระหว่างรอเชือกกับผ้า ฉันก็หยิบผ้าสะอาดออกมาไปชุบน้ำในห้องน้ำ บิดหมาดๆ แล้วเช็ดตัวให้น้องหูสัตว์กับเอลด้าอย่างเบามือจนสะอาด แล้วจึงเปลี่ยนชุดใหม่ให้พวกเธอ ก่อนใส่ทับให้อีกหลายชั้นเพื่อกันหนาว
เสร็จแล้วจึงไปที่ภาพวาดของคุณเลร่าสมัยยังสาวที่แขวนอยู่กลางบ้าน
คุณเลร่าในสมัยยังสาวนั้นสวยมาก ฉันคุกเข่าลงแล้วก้มลงกราบขอบคุณเธออีกครั้ง
"ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะคะ ถ้าไม่ได้คุณเลร่าหนูคงช่วยครอบครัวไว้ไม่ได้"
จนเสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉันจึงไปรับเชือกกับผ้ามา แล้วขอให้พนักงานช่วยฉันผูกเอลด้ากับน้องหูสัตว์ไว้บนหลัง
ส่วนโลงพี่เทียร่าฉันแบกขึ้นบ่าแล้วเดินออกไป
ที่หน้าบ้าน ฉันหันกลับไปมองทหารน้ำแข็งทุกนายแล้วโค้งคำนับให้พวกเขา
"ขอบคุณที่ช่วยแล้วก็ฟังคำสั่งเอาแต่ใจของฉันนะคะ"
ทหารน้ำแข็งทุกนายเปลี่ยนนิ้วตัวเองให้แหลมแล้วกรีดใบหน้าเป็นรูปหน้ายิ้ม แล้วยกนิ้วโป้งให้
ฉันยกนิ้วโป้งกลับโดยที่น้ำตาซึม เมื่อภารกิจจบ พวกเขาก็ละลายหายไปที่หน้าบ้านของคุณเลร่า
ฉันขอบคุณพนักงานอีกครั้ง แล้ววิ่งออกจากกิลด์
ที่หน้ากิลด์ฉันหันไปมองยังทิศที่พระราชวังตั้งตระหง่านอยู่ไกลลิบเกือบสุดสายตา เป็นครั้งสุดท้าย
ท่ามกลางหิมะตกหนักจนทั้งอาณาจักรเป็นสีขาวโพลน เขตขุนนางขึ้นไปดูสงบเงียบ แสงไฟในคฤหาสน์สว่างไสวและให้ความอบอุ่น
ต่างกับสลัมที่มีแต่สีแดงของโลหิตกับสีส้มของเปลวเพลิง ทุกอย่างสับสนวุ่นวายและมีแต่เสียงกรีดร้องทรมาน ราวกับอยู่คนละโลก
"พวกเราไปกันเถอะ ที่อาณาจักรนี้ไม่มีที่อยู่ให้พวกเราแล้ว"
ฉันรู้ว่าพวกเธอทั้งสามไม่สามารถตอบกลับได้ แต่เพราะมันเป็นความรู้สึกจากใจในตอนนี้ จึงพูดออกมา
ฉันหันหลังให้พระราชวังวิ่งอ้อมหลบพวกทหารตรงไปที่กำแพงเมืองแล้วไต่ขึ้นไป
"มีทาสกับคนสลัมคิดหนี!"
ทหารที่สังเกตเห็นฉันไต่มาได้ครึ่งทาง รีบตะโกนบอกหัวหน้ากับพรรคพวก
หัวหน้าสั่งเล็งแล้วยิงทันทีแบบไม่ลังเล
ฉันจึงเปิดหน้ากากแล้วคำรามสวนกลับไป
ตูมมมมมมมมมมมมมมมมม!
ลูกธนูถูกทำลาย ฐานด้านบนกำแพงเมืองระเบิดออก ทหารปลิวลอยขึ้นไปบนอากาศ
เมื่อถึงปลายยอด ฉันกระโดดพุ่งข้ามออกไป นำหน้าทหารทุกนายที่ปลิวลอยกลางอากาศ
แล้วพลิกตัวหันกลับไปคำรามโดยลดแรงของคลื่นกระแทกลง
ฉันคงโง่เกินเยียวยาถึงยังใจดีช่วยพวกเขา
คลื่นกระแทกพัดทหารทุกนายที่ควรจะตกกระแทกพื้นเสียชีวิต ปลิวกลับขึ้นไปบนฐานด้านบนกำแพงเมือง
หัวหน้าทหารสั่งเล็งอีกครั้ง พวกเขาต้องทำตามกฎอัยการศึก
"ยิงอิสระตามที่พวกแกอยากยิง!"
ทหารทุกนายต่างหันไปมองหัวหน้าก่อนพยักหน้าให้แล้วเริ่มยิงธนู
ฉันเตรียมคำรามใส่ลูกธนู แต่ปรากฏว่าทุกดอกล้วนถูกยิงแบบจงใจผ่านตัวฉันไป
หัวหน้าทหารคนนั้นแอบพยักหน้าให้ฉันเล็กน้อย ฉันจึงหันไปคำรามใส่พื้นเพื่อลดแรงตกโดยไม่ต้องพะวงเรื่องธนูจะโดนเอลด้ากับน้องหูสัตว์อีก
ตึง!
เมื่อลงถึงพื้น ฉันก็ถีบตัวทะยานเข้าไปในป่าต่อทันที
โดยไม่หันหลังกลับไปมองอีก
----------------------------------------------- จบภาค -----------------------------------------------