webnovel

ตอนที่ 46 วิ่ง

เหตุการณ์หลังจากสไลม์พาหะกลืนกินทุกคนในชั้นใต้ดินหมดแล้ว

มันสัมผัสได้ว่ามีอาหารอีกตัวอยู่ในกล่อง

แต่ยิ่งมันเข้าใกล้ กล่องก็จะร้อนขึ้นจนมันเข้าใกล้ไม่ได้ ร่างกายที่สัมผัสโดนถูกฆ่าในพริบตา

พอลองฝืนโถมทับตัวลงไปดู คิดว่าไม่นานมันก็คงสิ้นฤทธิ์ ผลคือตัวมันเสียหายอย่างหนักจนต้องถอยหนีออกมาดูอยู่ห่างๆ

มันจึงเปลี่ยนเป็นเฝ้ารอ โดยคอยยิงส่วนหนึ่งของร่างกายไปที่กล่องเพื่อทดสอบว่ากินได้หรือยัง

แต่แล้วน้ำร้อนก็ทำให้มันทนไม่ไหวทิ้งอาหารตัวนี้ไป

*****

โซร่า เผ่าพันธุ์มนุษย์หมา ทาส???

เหตุการณ์ช่วงสไลม์พาหะต่อสู้ยื้อชีวิตกับเวทไฟของนักเวท

ฉันไม่ได้นอนหลับสนิทและนานมากแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต แต่ไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่เพราะต้องขดตัวตลอดเวลา

พอลืมตาตื่นแสงในกล่องมิติก็สว่างขึ้นอย่างช้าๆ

ฉันยังคงไม่กล้าออกไปและคอยเงี่ยหูฟังตลอดเวลา

ทำใจอยู่สักพักฉันจึงแง้มกล่องเปิดดู จึงได้พบสภาพห้องที่ถูกน้ำท่วมจนเกือบถึงปากกล่องของฉัน

ฉันเปิดฝากล่องจนสุดแล้วรีบกวาดตามองรอบตัว สไลม์คงจากไปแล้วจริงๆ แต่มีน้ำขังมาแทนเต็มไปหมด

เมื่อแน่ใจว่าปลอดภัยจึงก้าวขาออกจากกล่อง

อุณหภูมิของน้ำที่สัมผัสรู้สึกอุ่นจนสบายเท้า จนอยากแช่ตัว

แต่ถึงจะอยากอาบแค่ไหน ตอนนี้ก็ต้องรีบไปช่วยเอลด้าแล้ว

ฉันตรงไปที่ทางออก ถึงได้รู้ว่าสไลม์มันยังไม่ไปไหน เพราะมันขวางทางขึ้นบันไดอยู่

แถมพอเข้าใกล้มันก็ยิงส่วนหนึ่งของร่างกายใส่ฉัน

แต่พอส่วนหนึ่งที่ยิงมาของมันโดนฉัน มันกลับกรีดร้องแล้วสลายไปทันที

แสดงว่าสร้อยได้ผล ฉันจึงลองเสี่ยงเดินขึ้นบันไดไปทีละก้าว

ส่วนมันก็เขยิบถอยหนีออกห่างจากฉันเรื่อยๆ ฉันจึงแน่ใจแล้วรีบออกจากชั้นใต้ดิน

จนขึ้นมาอยู่บนพื้นดินได้ ใช้เวลาไม่นานในการปรับสายตาให้เข้ากับแสง เพราะฤดูหนาวแสงจึงไม่สว่างมากนัก

ฉันกวาดตามองโดยรอบ พื้นที่ที่มีละอองสีดำไม่มีน้ำเลยเพราะสไลม์มันระเบิดละอองสีดำออกมาเรื่อยๆ

ละอองพวกนี้พอเข้าใกล้ฉันก็ระเหยกลายเป็นควันไป

ส่วนสลัมตอนนี้กลายเป็นสนามรบไปแล้ว ทหารร่วมมือกับนักผจญภัยฆ่ามอนสเตอร์น่ากลัวหลากหลายแบบที่แห่บุกเข้ามาไม่หยุด

ส่วนตรงที่ฉันอยู่ ก็มีเวทไฟยิงมาไม่หยุด

ตอนแรกฉันก็กลัวจนจะวิ่งกลับเข้าชั้นใต้ดิน แต่พอลูกไฟระเบิดโดนฉัน กลับไม่รู้สึกถึงความร้อน ไม่ปลิวกระเด็น ไม่เป็นอะไรเลย

ฉันจึงรีบวิ่งฝ่าเวทไฟออกไปให้ห่างจากสไลม์แบบชิลๆ

และตอนนั้นเองที่ฉันเห็นเอลด้ากำลังจะถูกมอนสเตอร์ตัวนึงกิน

ไม่สิพีโวด้าเคยพูด มอนสเตอร์ไม่อยู่ข้างนอกดันเจี้ยน ไม่กินคนด้วย

งั้นเจ้านี่ก็เป็นอสูร ฉันรีบวิ่งสุดฝีเท้าพลางใช้พลังที่ตัวเองมี

อาจไม่ทำให้บาดเจ็บ แต่แค่สะดุ้งทำได้แน่

"อย่ามาแตะต้องเพื่อนฉันนะ!"

แล้วฉันก็ทุบหลังมันพร้อมกับปล่อยไฟฟ้าสถิตออกไป

เปรี๊ยะ!!!

"อรู๊กกก!"

ได้ผล มันร้องดังลั่น ตัวกระตุกแล้วโยนเอลด้าทิ้งทันที

ฉันกระโดดโผเข้าไปรับแล้วรีบเผ่นออกจากที่นี่

ระหว่างอุ้ม เอลด้าไม่ตอบสนองเลย ฉันจึงก้มลงไปดู

"เอลด้า?!"

ฉันเจ็บปวดจนสรรหาคำไหนมาอธิบายไม่ได้

รอบปากเละไปหมด แขนก็ขาด แถมยังมีแผลที่ช่วงท้องที่ถึงปิดไปแล้วแต่มันก็ยังน่ากลัวอยู่ดี

มันจะเจ็บขนาดไหนกันนะ ถ้าเป็นฉันคงพอทนไหว แต่เอลด้าเป็นแค่มนุษย์ธรรมดานี่สิ

ตอนนี้ไม่ว่าร้องเรียกเท่าไหร่ ดวงตาเอลด้าก็ไม่มีประกายและขยับเลยแม้แต่น้อย มีแต่ลมหายใจที่ทำให้รู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่

ยังดีที่สร้อยมณีเพลิงครอบคลุมเอลด้าไปด้วย เธอจึงไม่ได้รับผลจากเวทไฟ

แต่กับละอองสีดำนั้นมาช้าเกินไป ร่างกายเอลด้าเหงื่อผุดเต็มไปหมด สีหน้าก็เริ่มหมองคล้ำ ปากขาวซีด การหายใจมีขาดช่วง

ต้องรีบหาฮีลเลอร์ ไม่สิพวกเขาไม่รักษาคนแบบเรา งั้นขอแค่ยารักษาก็พอ

ถึงไม่รู้ว่าขอแล้วพวกเขาจะให้ไหม แต่ก็ต้องลองดู

เธอคือเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตที่ฉันเคยเจอมา เพราะงั้น

"ทนไว้ก่อนนะเอลด้า! เดี๋ยวจะรีบหายามาให้!"

"อาหารสัตว์ชั้นต่ำ"

เสียงน่าขนลุกดังมาจากด้านหลังไม่ไกล

โชคดีที่ฉันหันกลับไปมอง การตอบสนองของเผ่าสัตว์นั้นเร็วกว่ามนุษย์

ฉันรีบล้มตัวไปด้านข้างเพื่อหนีจากปากที่อ้ากวางและกำลังงับลงมาของมัน

"โอ๊ยยยยย!"

ถึงจะเจ็บแค่ไหน ฉันก็รีบลุกขึ้นแล้วออกวิ่งต่อทันที

"ถุ้ย แหวะ ขนเต็มไปหมด แถมโคตรร้อนเลย"

มันกัดหูขวากับผมส่วนนึงของฉันจนขาด เลือดไหลอาบครึ่งใบหน้าซีกขวา ฉันต้องหลับตาข้างนั้นเพื่อไม่ให้เลือดไหลเข้าตา

จะเช็ดกับแขนก็ไม่ได้เพราะอุ้มเอลด้าอยู่

พวกนักเวทเริ่มยิงเวทใส่ฉันไปพร้อมกับอสูรตัวนั้น

แต่ละคนด่าฉันว่าให้วิ่งกลับไป จะพามันมาทำไมและอีกสารพัดคำดูถูกคนอย่างพวกเรา

แต่ฉันไม่สนใจ เพราะเพื่อนฉันกำลังจะตาย

เมื่อเห็นว่าไฟใช้ไม่ได้ผลกับพวกฉัน พวกมันก็ให้นักเวทหินยิงใส่

ฉันหลบโดยใช้ร่างกายตัวเองบังเพื่อไม่ให้โดนเอลด้า จนหัวแตก ตามตัวมีรอยฟกช้ำเต็มไปหมด

แต่คงเห็นว่าฉันไม่ยอมล้มและไม่ยอมวิ่งกลับไป พวกมันคนนึงก็ลอบยิงธนูใส่ขาขวาของฉัน

"โอ๊ย!"

ฉันเจ็บจนเกือบล้ม แต่หยุดตอนนี้ไม่ได้

พอฉันฝืนวิ่งต่อไป พวกมันก็ยิงเวทไฟลูกใหญ่ ฉันหันหลังแล้วกระโดดฝ่าไป แต่พวกมันจงใจใช้ไฟปิดบังลูกธนูที่ยิงตามมาทีหลัง

ฉันจึงโดนลูกธนูปักเข้าที่สีข้างด้านซ้าย

อสูรข้างหลังก็โดนกระหน่ำยิงจนมันช้าลงเช่นกัน

"ขอร้องล่ะค่ะ! อย่ายิงใส่พวกเราเลย! ฉันแค่จะช่วยเพื่อน!"

"ไปตายทั้งคู่นั่นแหละอีพวกขยะ!"

แล้วมันก็กระหน่ำยิงมาอีกครั้ง

เพราะเจ็บสีข้างกับขาคราวนี้จึงหลบไม่ทัน ฉันโดนลูกธนูสามดอกปักเข้าที่ขาซ้ายจนทะลุ

ทำให้ฉันล้มลงเพราะฝืนความเจ็บไม่ไหวอีกต่อไป

เอลด้ากลิ้งหลุดจากมือฉัน ละอองสีดำจึงเริ่มทำร้ายเธออีกครั้ง ร่างกายเธอค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำ

ฉันรีบคลานเข้าไปหาเธอ แม้จะมีลูกธนูอีกลูกนึงปักมือยึดกับพื้น ฉันก็ฝืนเจ็บกระชากมันออกจนแผลแหวะแล้วรีบคลานไปหาเอลด้า

"ขอร้อง! แค่ช่วยเธอก็ได้!"

"หุบปากแล้วไปให้มันแดกทั้งคู่นั่นแหละ!"

แล้วพวกนักเวทใจร้ายก็โดนอสูรปลาตัวนั้นที่เลิกสนใจพวกเราแล้ววิ่งฝ่าเข้าไปฆ่าอย่างโหดเหี้ยม

แววตามันเจือด้วยความโกรธ ที่ร่างกายมันสะบักสะบอมไปทั้งตัว หลังโดนเผาอยู่นาน เกล็ดมันคงละลายจนลูกธนูแทงเข้าเนื้อได้

มันใช้แขนทรงพลังทุบร่างพวกนั้นซ้ำๆ จนเละ

บางคนถูกจับฉีกร่างขาดเป็นสองซีก แล้วใช้ซีกร่างที่ขาดไล่ฟาดฆ่าคนอื่นต่อ

บางครั้งก็อ้าปากกว้างแล้วกัดตัวขาดครึ่งในทีเดียว

บางคนถูกกินทั้งเป็น

พอมีอาชีพอื่นเข้ามาช่วย มันก็กระโดดหนีกลับเข้าละออง เข้าไปหลบใกล้ๆ สไลม์

จากนั้นมันก็ทรุดตัวลง พร้อมกับที่ร่างกายมันก็เริ่มยุบพองไม่หยุดอย่างน่ากลัว

"มันกำลังวิวัฒนาการ! ไปฆ่ามันเร็ว!"

"ใครจะเข้าไปล่ะ!"

"ก็ยิงเข้าไปสิวะ!"

"ยิงไม่ถึงโว้ย!"

"ไอ้พวกโง่!"

"ด่าใครวะ! พวกเอ็งนั่นแหละที่โง่!"

ฉันอาศัยจังหวะที่พวกเขาทะเลาะกันเรื่องโจมตีอสูรตัวนั้นพยายามคลานหนีโดยใช้สองมือ เพราะฝืนยืนไม่ไหวแล้ว

ส่วนเอลด้าฉันใช้ปากกัดเสื้อเธอไว้แล้วลากตามมาด้วย

"ฉิบหายแล้ว!"

"เพราะมัวแต่เถียงกันอยู่นี่ไง!"

"พูดงี้ได้งวะ! เอ็งยังปอดแหกไม่กล้าเข้าไปเลย!"

"ไปตาม [แรงค์ B] มาจัดการมันเร็ว!"

"ข้าไม่อยู่แล้วโว้ยยยย!"

ฉันเค้นแรงเท่าที่มีคลานหนีให้เร็วที่สุด อย่างน้อยขอออกจากละอองสีดำนี่ก็ยังดี

กร๊อบ!

"อ๊าาาาาาาาาาาาาาา!"

ความเจ็บเกิดขึ้นที่ขาซ้าย พอหันกลับไปก็เห็นขาของฉันถูกอสูรตัวนั้นเหยียบจนเละไปพร้อมกับลูกธนูที่ปักอยู่

อสูรที่ราวกับคนละตัว

จากร่างกายใหญ่โต ตอนนี้มันสูงใหญ่เท่าชายฉกรรจ์ เกล็ดตามตัวลดความหนาลง แทนที่ด้วยความมันวาวราวกับกระจก ด้านท้ายมีหางงอกออกมาเหมือนสัตว์เลื้อยคลานมากกว่าปลา

ทุกครั้งที่มันหายใจจะมีละอองสีดำพ่นออกมาทางจมูก และในปากที่มีฟันเขี้ยวเต็มไปหมดมีของเหลวสีดำข้นหนืดส่งกลิ่นชวนอาเจียน

มันแสยะยิ้มมองฉันแล้วก้าวเท้าไปเหยียบแขนขวาของฉันจนเละ

"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!"

Chương tiếp theo