webnovel

ตอนที่ 47 ช่วย

อสูรปลาพาหะเกล็ดสะท้อน

ดีนะที่ฆ่าพวกยิงไกลไปก่อนแล้วมาหลบใต้เพื่อนต่างพันธุ์ตรงมุมที่ไม่ค่อยมีพวกอาหารยิงใส่

ข้าเลยวิวัฒนาการได้อย่างปลอดภัย

ตอนนี้ตัวเบาขึ้นมากเลย ไม่รู้สึกเทอะทะจากเกล็ดหนาเตอะถึงสองชั้น

ที่ดีที่สุด คือ ไม่ปวดหัวแล้ว ยิ่งสูดหายใจเอาละอองสีดำเท่าไหร่ก็ยิ่งสดชื่น

ข้าคว้าแขนของอาหารสัตว์ข้างที่เหลือขึ้นมาแล้วค่อยๆ บิดจนมือหัก

"โอ๊ย! เจ็บบบบ!"

ฟู่มมมม!

ตอนนั้นเองที่ลูกไฟพุ่งเข้าใส่ใบหน้า แต่ทันทีที่มันชนเกล็ดเปลวไฟทั้งลูกกลับแฉลบไปทางอื่น แล้วโดนอาหารโชคร้ายตัวนึงจนบาดเจ็บแทน

ข้ามองไปทางอาหารตัวที่ยิงมา มันผงะตกใจพร้อมกับอาหารตัวอื่น

การวิวัฒนาการแบบกลายพันธุ์นี่ดีเหลือเกิน

"ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวข้ากินพวกแกทุกตัวแน่"

ตอนนี้มาทรมานอาหารสัตว์นี่ก่อน ข้าวิวัฒนาการช้าลงก็เพราะมันตัวเดียวเลย

"เอาเลย!"

สิ้นเสียงคำสั่งของอาหารตัวหนึ่ง ทั้งบ่วงเชือกและแส้ก็พุ่งเข้ามา

แส้พอโดนเกล็ดข้าก็สะท้อนออกทันที แต่พวกบ่วงเชือกคล้องคอกับหางข้าไว้ได้

"ลากมันออกมา!"

เพราะไม่ได้ตั้งตัว ข้าจึงเซถลาไปเล็กน้อย

ข้าปล่อยมือจากอาหารสัตว์ ค่อยกลับมาจัดการมันทีหลัง

พอจะพ่นเมือกใส่พวกอาหารขยะ บ่วงที่คอก็ถูกกระชากอย่างแรงจนยิงไปทางอื่น

แต่ข้ากระชากสร้อยที่อาหารสัตว์มันสวมใส่อยู่ทิ้งไปได้ทันก่อนโดนลากไป

"อึก! แค่ก ๆ ๆ"

อาหารขยะเริ่มติดเชื้อ แค่นี้มันก็ฝืนไปไหนไม่ได้แล้ว

คนที่มาช่วยกันดึงเชือกเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนตัวข้าเริ่มโดนลากไปเรื่อยๆ

อยากให้กินขนาดนั้น เดี๋ยวจัดให้

แทนที่จะปลดเชือกข้ากลับกระโดดพุ่งตัวไปหามันเอง

พวกที่ดึงเชือกจึงล้มก้นจ้ำเบ้า

"กำแพงหอก!"

พวกอาหารถือหอกกว่าสามสิบคนรีบวิ่งมาข้างหน้าแล้วตั้งหอกดักรอข้า

ข้าไม่หลบแม้แต่น้อยปล่อยให้หอกแทงโดนร่างกายเต็มๆ

แล้วหอกของพวกมันก็แฉลบออกข้าง ข้าจึงเข้าถึงกลางวงของพวกอาหารถือหอก

"เหวอออ!"

"ฉิบหาย!"

"อะไรวะเนี่ย!"

ข้าจึงยืดแขนออกไปจนสุดจับหัวของปลายแถวแต่ละฝั่งบี้เข้าหากันตรงกลาง

เสียงกะโหลกแตกร้าวผสมกับเสียงสมองถูกบีบจนเละ ทำพวกแนวหลังหวาดกลัวจนขาสั่น

ยิ่งเจอข้าอ้าปากกลืนกองหัวเละๆ เข้าไปในอึกเดียว พวกมันถึงกับก้าวถอยหลัง

"ย้ากกกก!"

อาหารตัวใหญ่รายหนึ่งกระโดดเข้ามาพร้อมกับจามขวานใส่ข้า

ข้าหันไปอ้าปากพ่นเมือกเหนียวสีดำเข้มใส่มัน เมือกเกาะตัวจนมันขยับตัวไม่ได้ ก่อนตกลงมากระแทกพื้น

เพราะเมือกเคลือบไปทั้งใบหน้ามันจึงมองไม่เห็น ไม่ได้ยิน ส่งเสียงไม่ได้และหายใจไม่ออก

ไม่ว่าจะออกแรงดิ้นขนาดไหน ไม่นานมันก็ขาดอากาศหายใจตาย

"ยิง!"

ลูกธนูกว่าสามสิบดอกของพวกมันแฉลบออกทั้งหมด

"ยิงเวท!"

เวททุกธาตุก็ให้ผลลัพธ์แบบเดียวกับธนู

"ฆ่ามัน!"

ข้ากระชากเชือกจนขาดแล้วยืนรออาหารเข้ามาหาข้าเอง

*****

รอคต้า เจนเทีย หัวหน้ากองทหารรักษาความปลอดภัยเมืองชั้นในที่ 10 รับผิดชอบเขตใกล้สลัมจนถึงประตูทางเข้าออกเมือง

ปัจจุบันถูกสั่งให้เข้าร่วมแนวหน้าสลัมเพื่อเติมเต็มกำลังพลส่วนที่หายไป

"ฆ่ามัน!"

หลังสั่งให้ทุกคนเข้าไปฆ่ามันพร้อมกัน ผมก็รีบวิ่งเข้าไปในละอองสีดำ

ผมตรงไปคว้าตัวสองเด็กสาวขึ้นมาอุ้มไว้ข้างตัวแล้วรีบหนีออกมา

เพราะความแข็งแรงของร่างกายที่ฝึกฝนหนักกว่าพลทหารเป็นประจำ ทำให้กว่าอาหารจะเริ่มออกก็หลังออกจากเขตละอองสีดำพอดี

ผมเริ่มปวดหัวตัวร้อน แต่เวทฮีลกับชะล้างก็ครอบคลุมผมกับเด็กสาวทั้งสองจนหายสนิท

"ขอบใจมาก นี่เงินตามสัญญา"

ผมส่งเหรียญเงิน 3 เหรียญให้ฮีลเลอร์ [แรงค์ B] คนนั้นตามที่ตกลงไว้ว่าจะจ่ายให้หลังใช้เวทชะล้างกับรักษาพวกเราทั้งสามคน

ตามจริงฮีลเลอร์คนนั้นไม่คิดเงิน แต่พอรู้ว่าผมจะเข้าไปช่วยคนสลัมกับทาสออกมา เขาก็ทำหน้ารังเกียจแล้วคิดราคาแพงทันที

แพงจนเรียกว่าปล้นได้เลย ซึ่งเขาให้เหตุผลว่าพลังเวทควรเก็บไว้รักษาคนที่มีประโยชน์กับสนามรบ ไม่ใช่ขยะพวกนั้น

แต่พอควักเงินให้ดู เขาจึงยอมตกลง

ผมวางเด็กสองคนลงกับพื้น เอลด้าสภาพร่างกายเลวร้ายมากยังกับโดนจับทรมานในห้องสอบสวนอาชญากร

ใครมันทำกับเด็กได้ขนาดนี้กัน

ส่วนเด็กมนุษย์สัตว์อีกคนก็ขอบคุณผม สภาพของเธอก็สาหัสพอๆ กัน ขากับแขนอย่างละข้างใช้การไม่ได้แล้วตลอดชีวิต

แต่เธอกลับห่วงเอลด้ามากกว่าตัวเอง

ส่วนไอตัวการที่ทำร้ายเธอ

ผมมองไปที่อสูรตัวนั้น คงเพราะเกล็ดของมัน แม้แต่ดาบที่ฟันเต็มแรงยังแฉลบออกข้างจนเสียการทรงตัว

จังหวะนั้นมันก็ฆ่านักดาบด้วยการกัดจนหัวแหว่งไปครึ่งนึงแล้วกลืนลงท้อง

มันไม่หลบแม้แต่น้อย ยืนปล่อยให้โจมตีอย่างวางท่า

จะปล่อยให้มันฆ่าไปกินไปแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ได้

ผมลุกขึ้นปลดดาบทั้งฝักออกจากเอว

"เปิดใช้งานสกิล"

[สกิลเปิดใช้งานแล้ว]

หลังมีเสียงแจ้งเตือนในหัวกับดาบทั้งฝักเปล่งแสงสีขาวบางๆ ออกมา ผมก็พุ่งตัวเข้าไปทันที

ระหว่างที่มันวางท่าอย่างไม่ระวังตัว ผมใช้ใบดาบด้านข้างทุบเข้าที่ท้ายทอยมันอย่างจัง

ดาบกระเด้งออกแต่ไม่แฉลบเหมือนการโจมตีที่ผ่านมาอย่างที่คิด

ส่วนมันล้มหน้าฟาดพื้นด้วยอาการงงๆ

ผมรีบกระโดดถอยหลังออกมาหลบหางที่ฟาดตอบโต้ใส่ได้อย่างเฉียดฉิว

"ไปหาคนที่ถนัดค้อนมา! มันแพ้ทางการโจมตีแบบทุบ! หยุดใช้ด้านคมโจมตี!"

อสูรตัวนั้นหันขวับมาหาผมพร้อมกับยิงเมือกใส่ทันที

ผมกลิ้งตัวหลบแล้วพุ่งเข้าใส่อีกครั้งพร้อมกับฟาดดาบไปที่ใบหน้า

อสูรตัวนั้นกระโดดหลบขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ผมจึงฝืนเปลี่ยนวิถีดาบฟาดใส่กล่องดวงใจของมันแทน

"อุ๊ก!"

ตัวดาบเปล่งสีขาวสว่างขึ้นอีกเล็กน้อย

มันกุมเป้าแล้วร่วงลงมากระแทกพื้น

"ไอ้อาหารชั้นกลางน่ารำคาญ"

มันถีบขาพุ่งใส่ผมทันที ผมยกดาบขึ้นง้างไปข้างหลังเพื่อเตรียมฟาด

มันอ้าปากยิงเมือก ผมถีบขาหลบไปด้านข้าง

กลายเป็นเมือกเป็นแค่การยิงล่อ มันกำดินที่แช่น้ำมานานจนเป็นโคลนขึ้นมาปาใส่หน้าผม

ฉลาดเกินไปแล้ว ผมยกมือกันไม่ทัน

ดินโคลนบางส่วนกระเด็นเข้าตาจนผมลืมไม่ขึ้น

ผมรีบเหวี่ยงดาบออกไปมั่วๆ เพื่อหวังให้มันถอย จะได้มีเวลาถอยไปที่พื้นที่น้ำขังเพื่อล้างโคลนออกจากตา

แต่สิ่งที่ผมไม่รู้คือมันหมุนตัวฟาดหางใส่ผมเต็มแรง

ส่วนสิ่งที่มันไม่รู้คือร่างกายของผมได้รับผลของสกิลจากอีกคน

หางฟาดเข้าใส่สีข้างเต็มแรงจนผมปลิวกระเด็นไปไกลถึงเขตน้ำขังที่สไลม์พาหะเป่าไม่ถึง

ผมจึงได้โอกาสจุ่มหน้าลงไปล้างโคลนออก

พอลุกขึ้นแล้วดูสีข้างที่โดนมันฟาดหางใส่ กลับไม่พบแม้แต่รอยขีดข่วน

นักผจญภัยกับทหารจากที่หวาดกลัวก็กลับมาฮึกเหิมแล้วเข้ารุมโจมตีมัน

ถึงจะแพ้ด้านกำลังจนโดนมันซัดกระเด็น แต่ก็ไม่มีใครตายหรือได้แผลสักคนเดียว

และคนที่ทำให้เป็นแบบนั้นก็คือ เอโตส หัวหน้ากิลด์ [ปราการเหล็ก]

เมื่อไม่มีวันตายทุกคนรวมถึงผมจึงเข้าใส่ไม่ยั้ง

มันเริ่มบอบช้ำขึ้นเรื่อยๆ เกล็ดเริ่มปริแตก

"อาหารชั้นกลางสารเลว"

มันพุ่งใส่เอโตส แต่กลับโดนแทงค์ลูกกิลด์ของเอโตสเกือบ 30 คน สกัดไว้

พอจะกระโดดข้ามหัว พวกแทงค์ก็ปล่อยโล่แล้วพุ่งเข้ากอดมันลงมาแล้วรุมกระทืบไม่ยั้ง ส่วนเอโตสก็ถอยหลังไปเรื่อยๆ

มันซัดลูกกิลด์เอโตสที่เกาะแกะไปหมด แต่ก็โดนคนอื่นรอบตัวเข้ามาโจมตีใส่ไม่หยุด แถมหน้าเอโตสก็มีคนเข้ามาช่วยคุ้มกันมากขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อทำอะไรไม่ได้ มันก็เริ่มถอยแทน

แบบนี้ชนะแน่ ผมเข้าหามันตรงๆ แล้วซัดแลกกับมันให้มากที่สุดจนดาบทั้งฝักเปล่งแสงสว่างขึ้นเรื่อยๆ

ตอนที่มันชกอัปเปอร์คัทผมจนลอยไปบนฟ้า แล้วหมุนตัวใช้หางฟาดทุกคนรอบตัวจนกระเด็น

ผมก็เห็นมันกวาดตามองหาอะไรสักอย่างอยู่

เมื่อเจอเป้าหมาย มันก็รีบพุ่งไปทันที ผมมองไปล่วงหน้ายังทิศที่มันไป

ตรงนั้นมีทาสสาวหูหมาใช้ปากกัดเสื้อเอลด้าพร้อมกับใช้แขนข้างเดียวที่เหลือพยายามคลานหนีออกจากสนามรบ

"มันไปหาเด็กสองคนนั้น!"

ผมตะโกนสุดเสียงเพราะยังลอยอยู่กลางอากาศจึงเข้าไปช่วยไม่ได้

เอโตสยิ้มเยาะเพราะเด็กสองคนนั้นก็อยู่ในรัศมีของสกิลปราการเหล็ก

อสูตรปลาตัวนั้นเมื่อเข้าถึงเด็กทั้งสองคนมันก็จับทั้งคู่เขวี้ยงอย่างแรงเข้าไปในละอองสีดำ

"ไอ้ปลาหน้าโ... ฉิบหาย!!!"

เอโตสที่กำลังยิ้มเยาะหน้าเปลี่ยนสีในทันที เพราะมันขว้างพวกเธอทั้งสองคนจนหลุดจากรัศมีสกิล

เอโตสตะโกนให้ทุกคนหลีกทางเพื่อวิ่งเข้าไปให้รัศมีสกิลไปถึง

"อย่าแตะต้องคนที่อาจเป็นน้องสาวคาลิก้าของผมนะโว้ยยยยยย!"

แม้จะแหกปากอสูรก็ไม่สนใจมันพุ่งเข้าใกล้พวกเธอมากขึ้นเรื่อยๆ

เอโตสที่หมดทางเลือกจึงต้องใช้อีกสกิลออกมา

"บงการปฐพี!"

กำแพงดินพุ่งขึ้นขังตัวมันไว้เป็นทรงโดมได้ทันเวลาก่อนมันไปถึงตัวเด็กสองคน อีกทั้งเอโตสยังบังคับผืนดินผลักเอลด้ากลิ้งออกมา

"ช่วยเด็กอีกคนด้วย!"

"ชิ!"

เอโตสจึงยอมผลักเด็กอีกคนออกจากละอองสีดำ แล้วสั่งให้ลูกกิลด์ไปพาตัวทั้งคู่มา

ผมที่ตกลงพื้นรีบทรงตัวแล้วรีบวิ่งไปที่ละอองสีดำ

ระหว่างทางสไลม์พาหะยิงชิ้นส่วนใส่ผม

เพราะสกิลเอโตสต่อมันจึงแทรกตัวเข้ามาไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่โดนผมเอาด้ามดาบฟาดจนกระเด็น

ตอนแรกก็ไม่สงสัย แต่พอยิ่งเข้าใกล้ละอองมันกลับยิงใส่ผมถี่มากขึ้น

ผมจึงเข้าใจในที่สุดว่า พวกมันช่วยกัน

น่าจะเพราะอสูรปลามันเล่นงานพวกนักเวทไฟจนการโจมตีลดลง อสูรสไลม์จึงช่วยมัน

แต่ไม่ใช่แค่ยิงใส่ผม มันยังยิงใส่โดมให้ตัวลูกของมันช่วยละลายดินที่ขังอสูรปลาอีกด้วย

"ยิงเวทไฟเผาโดมให้ที! อย่าให้รุนแรงจนพัง!"

เมื่อเข้าไปในละอองสีดำผมก็พูดในใจว่า เก็บเกี่ยว

เสียงในหัวดังขึ้นทันที

[สะสมการโจมตีได้ทั้งหมด 67 ครั้ง]

เท่านี้การโจมตีหลังจากนี้จะมีความรุนแรงเท่ากับการโจมตีถึง 67 ครั้งต่อ 1 การโจมตี และใช้ได้ถึง 67 ครั้ง

"สกิลสะสมดาเมจ ทำงาน"

[สกิลสะสมดาเมจ ทำงานแล้ว]

เจอแบบนี้เข้าไปเกล็ดแกกันไม่อยู่แน่

โดมดินถูกเผาจนไหม้ เอโตสสร้างกำแพงขึ้นกันชิ้นส่วนสไลม์ให้ผม

"เอโตส! เปิดเลย!"

ผมถอดฝักดาบทิ้งแล้วง้างดาบไปข้างหลังทันที

เมื่อโดมดินเปิดออก ผมถึงกับชะงักกับภาพตรงหน้าจนลืมฟันเข้าไป

และเพราะความผิดพลาดครั้งนี้ จึงกลายเป็นบทเรียนราคาแพง ผมถูกมันคว้าข้อมือหยุดเอาไว้

แต่ที่ทำให้ผมชะงัก คือ การที่มันวิวัฒนาการเสร็จแล้ว

กลายเป็นโดมที่ใช้ขังมันกลับเป็นเกราะปกป้องให้มันวิวัฒนาการได้อย่างสบายใจ

ร่างกายของมันตัวสูงใหญ่กว่าเดิมเท่าตัว เกล็ดทั้งตัวเปลี่ยนเป็นใบมีด

ส่วนหางข้างหลัง จากหางเดียวก็แยกซอยย่อยเป็น 4 หางเล็กที่เคลื่อนไหวได้รวดเร็ว ปลายหางแต่ละหางยังมีใบมีดคมกริบ

"ข้าพร้อมแล้วเจ้าอาหาร ฮิฮิฮิ"

Chương tiếp theo