webnovel

9. มากัซซาร์

เมืองมากัซซ่ามหานครที่งดงามอีกเมืองหนึ่งของอินโดนีเซีย แม้จะเป็นค่ำคืนที่แสนยาวนานแต่มากัซซาร์กลับไม่เคยหลับไหล อัญชันนึกถึงเมืองพัทยาที่เมืองนี้ให้ความรู้สึกแบบเดียวกันนั้น หญิงสาวตื่นตาตื่นใจไปกับบรรยากาศยามค่ำของที่นี่จวบจนรถลีมูซีนที่เธอโดยสารมากับชายหนุ่มมาถึงโรงแรมหรูที่ิยู่ในตัวเมือง

" คืนนี้เราจะพักกันที่นี่ก่อน...ริสาจะพาคุณไปที่ห้องนะ" ชายหนุ่มบอกเรียกสติที่ล่องลอยไปกับความงามนั้นของอัญชันให้กลับมา

"คะ....อ้อ...ค่ะ" อัญชันตอบสติของเธอที่ล่องไปกับแสงสีเสียงในมากัซซาร์กลับเข้ามาอยู่กับตัวทันทีเธอเขินอายที่ทำตัวเป็นบ้านนอกเข้ากรุง แต่นั่นมันก็ไม่ได้หน้าแปลกเพราะเธอเองก็พึ่งเคยมาต่างบ้านต่างเมืองขนาดนี้

"คุณไม่เรียกผมว่าพี่อีกเหรอ..." เสียงทุ้มนั้นดูเศร้าสร้อยเล็กน้อยดวงตาสีอำพันจ้องมองหญิงสาวด้วยความคาดหวังราวกับเจ้าหมาตัวน้อยๆที่รอรางวัลจากเจ้านาย

"...คะ...พี่!!...อ้อ...ค่ะ..พี่...ราตรีสวัสดิ์นะคะพี่" อัญชันส่งยิ้มหวานให้กับชายหนุ่มที่ดูนุบนิ้บผิดกับครั้งที่เจอกันคราวก่อนเธอรู้สึกเหมือนชายหนุ่มร่างสูงกำยำตรงหน้าเป็นเจ้าหมีตัวน้อยน่าเอ็นดูเสียมากกว่า

"ครับ...ราตรีสวัสดิ์ครับ" ชายหนุ่มส่งยิ้มพึงพอใจที่น้อยคนจะได้เห็นให้กับหญิงสาว ทำเอาเอฮาซานตกตะลึงอ้าปากค้าง

"(นั่น...ท่านไลอาห์ยิ้มเหรอ!!)" เขาคิดพลางหยิบสมาร์ทโฟนออกมาถ่ายภาพรอยยิ้มนุ่มละไมนั้นเก็บไว้ด้วยความไวเหนือแสง

" คุณเอฮาซานคะ...เจ้านายคุณนี่...เขาปกติดีอยู่ใช่ไหมคะ..." เพียงจันทร์ถามเมื่อเห็นภาพตรงหน้ามะนฟรุ้งฟริ้งน่าขนลุกแปลกๆ

" เริ่มจะไม่ปรกติเพราะอยู่กับน้องของคุณนั่นแหล่ะครับ...เหมือนกับผมตอนนี้" เขาตอบพลางหันมาส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับหญิงสาวข้างๆ

" ค่ะ...ฉันเข้าใจค่ะ...ว่างๆพวกคุณคงต้องไปปรึกษาจิตเเพทย์บ้างนะคะ...ฉันเป็นห่วง" เพียงจันทร์ทำหน้าปุเลี่ยนๆเมื่อมองชายหนุ่มร่างสูงข้างๆทำหน้าตาเจ้าชู้ใส่ เธอรู้สึกขัดกับไอ้ความหน้าตาดีนั้นนิดๆก่อนจะเดินไปยังลิฟท์ที่ใกล้ที่สุดเพื่อไปยังห้องพักเร็วๆ

แสงไฟจากห้องพักของสองสาวปิดลงแล้วพวกเธอคงเหนื่อยจากการเดินทางจึงเข้านอนทันทีที่ทำธุระเสร็จเสียด้วยซ้ำ เว้นเสียแต่สองหนุ่มที่ยังคงตื่นอยู่ทั้งคู่นั่งดื่มด้วยกันเงียบๆ พลางนึกถึงหญิงสาวที่เขาตรึงใจอยู่ในห้องพักอีกฝากฝั่งของเขา

"ท่านพึงใจสาวไทยคนนั้นหรือครับ" เอฮาซานถามเมื่อเห็นเจ้านายของตนยิ้มกริ่มกับแก้วเหล้าที่ถืออยู่

"นายก็เหมือนกันนี่" เขายอกย้อน

" พวกเธอดูตรงไปตรงมาดีนะครับดูไม่มีพิษมีภัยใดๆ" เขาตอบตามความรู้สึก

" พรุ่งนี้พามิสเพียงจันทร์เข้าเมืองไปตามหาหมอที่ดีที่สุดในอินโดนีเซียมารักษาอาการแพนิคของมิสอัญชันด้วยนะเอฮาซาน...ส่วนฉันจะกลับแคว้นทันที...ท่านแม่คงอยากเห็นว่าที่สะไภ้ใจจะขาดแล้ว" เขาพูดพลางกระดกน้ำสีอำพันดีกรีสูงลงลำคอหนา รสชาติล้ำลึกของมันบาดคอจนรู้สึกร้อนผ่าว

"ข่าวจะไวขนาดนั้นเลยหรือครับ" เขาถามอย่างสงสัย

"มิสซูซี่กลับแคว้นทันทีที่ลงจากเรือ...นายคิดว่าเธอจะไม่รีบนำข่าวดีนี้ไปบอกท่านแม่รึ" เขาตอบ

" ถึงแม้แคว้นฮาลัลจะอยู่ไกลจากที่นี่หลายร้อยไมล์ จากเที่ยวบินล่าสุดของวันนี้ ผมว่าไม่เกินพรุ่งนี้ตอนเย็นก็ถึงแล้ว เครื่องบินส่วนตัวของท่านคงจะถึงไวกว่านะครับ"

" ฉันจะไปที่คฤหาสน์ก่อน...มิสอัญชันเป็นคนต่างชาติต่างศาสนาจะไห้สถ่มสี่สุ่มห้าไปที่แคว้นไม่ได้หรอก ตาเฒ่านั่นได้เล่นงานเธอตาย" เขาพูดพลางทำหน้ายุ่งเมื่อพูดถึงบิดาของตนที่คอยจะคัดค้านการแต่งงานของเขาตลอดจนเป็นเหตุให้เขาเป็นม่ายมาถึงสี่ครั้ง

"ครับ...ผมทราบแล้ว" เอฮาซานรับทราบถึงความต้องการของเจ้านายของตนพลางออกจากห้องไป

สายๆของเมืองมากัซซาร์ไม่ได้วุ่นวายอย่างที่เคยนึกฝัน อัญชันตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นพร้อมกับอาหารเช้าสุดหรูบนเตียงนอนที่ทางโรงแรมจัดมาให้ ถึงแม้จะเสียดายที่ไม่ได้ร่ำลาเพียงจันทร์ที่ออกไปกับเอฮาซานก่อนก็เถอะแต่ริสาก็ทำให้เธอคลายเหงาไปได้บ้าง

" พี่!!!" หญิงสาวร้องเรียกชายหนุ่มที่กำลังยืนอยู่กับชายชุดดำอีกสามคนตรงเลาท์ของโรงแรม

" คุณอัญ...อรุณสวัสดิ์ครับ หลับสบายดีไหมครับ" เขาหันมาถามหญิงสาวด้วยโทนเสียงอันอบอุ่นเกินบรรยายจนทำเอาสามหนุ่มที่ยืนอยู่ถึงกับตกตะลึงตาค้าง

" สบายมากกกกเลยค่ะ...ขอบคุณนะคะที่ดูแลฉันขนาดนี้...นี่ใครกันคะ" อัญชันนั้นสดใสราวกับตะวันย่ำรุ่งดวงตาวาวราวกับแม่กวางน้อยนั้นมองสามหนุ่มชุดดำที่ถึงกับหายใจติดขัดกับร่างบางที่สวยงดงามตรงหน้า

"(สาวไทยน่ารักเกินไปแล้ววววว)"

" นี่ เอเลนกับเซนซิล บอดี้การ์ดของผม...ส่วนนี่ เรนดอล ต่อจากนี้เขาจะเป็นบอดี้ดาร์ดร่วมกับริสาดูแลคุณ " เขาภูมิใจแนะนำ

" สวัสดีค่ะ...ฉันอัญชันค่ะ ขอฝากตัวด้วยนะคะ คุณเอเลนคุณเซนซิลคุณเรนดอล" อัญชันยกมือไหว้สวยยิ่งทำให้ทั้งห้าคนที่มองอยู่นั้นถึงกับเกือบหยุดหายใจ

" ไม่ต้องเรียกพวกผมสุภาพขนาดนั้ก็ได้ครับมิส เรียกชื่อเฉยๆก็พอครับ" เรนดอลร้องขอ เขาเองก็รู้สึกตกใจไม่น้อยเมื่อรู้ข่าวว่านายท่านของเขากำลังพาว่าที่นายหญิงมาด้วย เขาก็นึกไปว่าว่าที่นายหญิงของเขาคงจะไม่ได้แตกต่างจากนายหญิงที่ผ่านมาเท่าไหร่ แต่เขาคิดผิด หญิงไทยคนที่เกาะกุมนายเหนือหัวของเขาได้คนนี้ ยิ่งกว่าระเบิดปรมนูความงามใดๆในโลกนี้ต่างหาก ยิ่งเธอส่งยิ้มโลกทั้งโลกก็แทบคลั่งเสียไห้ได้ เรนดอลรู้สึกไม่เสียใจเลยที่เขานั้นได้เป็นแฟนคลับดาราสาวไทยหลายๆคนที่โด่งดัง

ทั้งห้าคนเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมหรู และพากันขึ้นรถซีดานคันงามแล่นไปตามถนนที่ราดด้วยคอนกรีต แสงแดดในอินโดนีเซียร้อนแรงไม่แพ้ประเทศไทยเลย อัญชันสัมผัสได้ถึงไอร้อนที่ระอุขึ้นมาจากผืนดินของมากัซซาร์

"เราจะไปที่ไหนกันหรือคะพี่...แล้ว...ฉันต้องทำยังไงบ้าง" อัญชันหันไปถามชายหนุ่มที่วุ่นอยู่กับไอแพดของตนเองอยู่ตั้งแต่ขึ้นรถ

"เราจะไปที่ฮาลัลน่า...บ้านของผม...สิ่งที่คุณต้องทำต้องเรียนรู้ผมจะมอบหมายให้ริสาและอิลลันช่วยคุณเองคุณมีหน้าที่ทำมันให้ดีที่สุดก็พอ" เขาตอบพลางลูบปอยผมสีน้ำตาลอ่อนที่ยาวถึงกลางหลังของอัญชันนั้นอย่างถนุถนอม เขานึกถึงอาการแพนิคขั้นรุนแรงของเธอบนเรือแล้วเกิดไม่สบายใจขึ้นมาตะหงิดๆ แต่ครั้นจะถามเธอไปตรงๆก็เกรงว่าเธอจะรู้สึกเป็นปมใดๆอีกเขาจึงได้แต่กลืนคำถามนั้นลงลำคอและปล่ิยให้ร่างบางมองวิวทิวทัศน์สองข้างทางไปเรื่อยๆ

จากตึกรามบ้านช่องใหญ่โตที่แน่นขนัดของเมืองหลวงค่อยๆเปลี่ยนเป็นชานเมืองที่เริ่มมีบ้านของผู้คนประปราย ต้นไม้สีเขียวขจีมีให้เห็นมากขึ้นกว่าเดิม บ่งบอกว่าตอนนี้รถเริ่มพาแล่นออกนอกเมืองหลวงแล้วอัญชันตื่นตากับสองข้างทาง หญิงสาวสอบถามคนข้างๆไม่หยุดปากเหมือนเด็กน้อยที่เพิ่งได้เรียนรู้ ชายหนุ่มก็ไม่เคยคร้านที่จะตอบเธอ เขาตั้งใจตอบหญิงสาวทุกคำถามอย่างตั้งใจ

" คุณเห็นนั่นไหม...มันคือสถานที่ขึ้นชื่อของอินโดนีเซียเลยนะ" เขาชี้ชวนให้หญิงสาวได้มองวัดโบราณที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งในอิโดนีเซีย

"ไหนคะไหนๆๆๆ" อัญชันตื่นเต้นจนลืมตัวหญิงสาวเอี้ยวกายไปยังอีกฝั่งเพื่อให้ตนเองได้เห็นความงามของวัดแห่งนั้นโดยลืมไปว่าตอนนี้เธอไกล้ชิดกับชายหนุ่มจนเขานั้นแทบจะหยุดหายใจไปเสียแล้ว

กลิ่นหอมของกายสาวที่กระทบเข้ากับปลายจมูกของเขานั้นทำเอาเขาเผลอสูดดมกลิ่นหอมนั้นเข้าเต็มปอดร่างบางเสียดสีไปกับอกแกร่งจนทำเอาใจของชายหนุ่มเต้นระรัวราวกับกลองดรัมเบก

"ว้าววววว...สวยจังเลยค่ะพี่..." ฉับพลันที่สองสายตาสอดประสานกันนั้นทั้งคู่ได้มองลึกไปสู่ก้นบึ้งของจิตใจของกันและกัน อัญชันเหมือนได้ยินเสียงพังทลายของกำแพงบางอย่างในใจของเธอ ดวงตาสีอำพันที่จ้องมองเธอเนิ่นนานนั้นลึกล้ำไปกว่าความรู้สึกใดๆ หญิงสาวได้ยินเสียงเต้นเป็นจังหวะของหัวใจของชายหนุ่มที่ระรัวราวกับจะออกมาโลดเเล่นอยู่นอกอกใบหูของเขาแดงก่ำแม้ใบหน้านั้นจะหล่อเหลาคมคายแบบชาวอาหรับ ขนตาเป็นแพเรียงตัวสวยงดงาม ชั่วขณะหนึ่ง หัวใจของเธอก็เริ่มสั่นไหว

"ขอโทษค่ะ.." อัญชันผละกายออกทันทีที่รู้สึกตัว เธอรู้สึกว่าเวลานั้นช่างผ่านไปอย่างเนิบช้าเกินไป

" วันหลัง...ผมจะพาคุณมาที่นี่นะ" ไลอาห์พูดเสียงแหบแห้ง เมื่อครู่ที่สบตากับหญิงสาวเขารู้สึกเหมือนจมอยู่ในทะเลทราย เหมือนกับอากาศหายใจขิงเขามันหยุดลง โลกทั้งโลกมันหยุดหมุน ทว่าท้องฟ้ากลับสดใส ดวงตาคู่นั้นที่ตรึงใจเขาแต่แรกเห็นจ้องมองเขาแทบจะชนจมูก ชายหนุ่มขยับกายแก้ขัดเขิน พลางเสมองไปยังนอกหน้าต่างรถคันหรู