webnovel

25. ลาก่อน

ภาพบนจอบอกเล่าความจริงทั้งหมดที่ไลอาร์สงสัย เขารู้สึกผิดที่หลงเข้าใจผิดเพียงเพราะคำใส่ร้ายงี่เง่าขอมหาราณี ชายหนุ่มหมกตัวอยู่ในห้องทำงานทั้งคืนครุ่นคิดถึงปัญหาที่เขาเผชิญโดยมีเอฮาซานอยู่ด้วยข้างๆ

" นายกลับไปเถอะเอฮาซาน...ฉันไม่เป็นไร" เขาพูดกับเลขาคนสนิท

" อย่าเข้าใจผิดสิครับ..หากนายท่านไม่ได้แต่งงานกับมิสอัญชันผมเองก็คงไม่ได้พบคุณดาวเหมือนกันนี่ครับ" เขาตอบอย่างเย็นชาพลางยกกาแฟขึ้นดื่ม

"นายนี่มัน!!!" เขาโยนปากกาใส่เลขาทว่าทั้งคู่กลับมองหน้ากันแล้วหัวเราะขึ้นมา พวกเขาอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กแค่มองตาก็รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอ่านอย่างไร ไลอาร์รู้ดีที่สุดว่าความรู้สึกที่เอฮาซานมีแก่เพียงจันทร์นั้นไม่ได้แตกต่างไปกว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่ออัญชันเสียนิดเดียว

" เห้อ!!! อย่างแรกเราต้องทำการรักษาอาการป่วยของอัญชันก่อนนั่นแหล่ะนะ...เธอยังผวาทุกคืนอยู่เลย" ไลอาร์พูด

" ดีครับ" เอฮาซานออกความเห็นสั้นๆพลางนึกต่อในใจหมายถึงเขาจะได้หมดคู่เเข่งแบบไอ้ผู้ช่วยผู้ดีเก่านั่นไปอีกคน

การรักษาอาการแพนิคที่เรื้อรังมานานของอัญชันนั้รไม่ได้ซับซ้อนมากเธอต้องได้รับยากระตุ้นพร้อมกับการสะกดจิตเป็นเวลาหนึ่งเดือน ระหว่างการรักษา นภัทธาที่ถูกเชิญมางานเลี้ยงก็บินกลับประเทศไปก่อนส่วนเพียงจันทร์ก็ถูกเอฮาซานลากไปเจรจางานแทนไลอาร์ที่ญี่ปุ่นต่อทันที

การรักษาของอัญชันนั้นเป็นไปอย่างไม่เร่งรีบแต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่ทรมาน การสะกดจิตนั้นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่จะสามารถลบอดีตของเธอได้อย่างหมดจด ทว่าหลังจากที่อัญชันรักษาหายได้เพียงไม่กี่วันเธอก็ได้รับข่าวร้ายจาก นภัทธา นั่นก็คือข่าวการเสียชีวิตของบิดาของเธอ

" ริสา...จองตั๋วให้ฉันทีสิ..." อัญชันร้องขอหญิงสาวหลังจากวางสายจากนภัทธา ริสาที่ได้ยินทุกอย่างจากบทสนทนาเมื่อครู่จึงรีบแจ้งไลอาร์กับจองตั๋วให้เธอตามคำขอ

ในงานศพนั้นเป็นงานที่จัดขึ้นตามประเพณีพื้นบ้านไม่ได้มีมโหรสพสมโภชน์ใดๆนอกเสียจากทำพิธีตามความเชื่อต่างๆ มีเพียงญาติสนิทและจิตอาสาที่มาร่วมไว้อาลัยในงานศพนี้ ไม่มีใครเศร้าไม่มีใครอาลัยอาวรผู้ที่จากไปมีเพียง ความรู้สึกที่โล่งใจของการจากไปของคนที่มักจะก่อปัญหาให้ทุกคนบ่อยๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พอจะมีความดีอยู่บ้าง

อัญชันใช้เวลาเคลียร์ธุระทุกอย่างไม่นานนักด้วยความช่วยเหลือของไลอาร์ เขากับพรรคพวกดูเด่นที่สุดในงานศพด้วยตัวที่สูงใหญ่และหน้าตาที่หล่อเหลา เป็นที่หมายปองของสาวๆน้อยๆใหญ่ๆที่ได้พบเจอ

" พี่อัญ...นั่นใครเหรอ...หล่อจัง" เพื่อนรุ่นน้องของอัญชันถามในขณะที่ทุกคนกำลังง่วนเตรียมของตักบาตรร้อยวันกันอยู่

" เจ้านายพี่เอง..." อัญชันตอบเธอไม่กล้าจะบอกใครๆถึงความสัมพันธ์ที่คลุมเครือของเธอกับเขา แม้จะรู้สึกปวดใจทุกครั้งที่มีสาวๆมาเข้าไกล้ชายหนุ่มแต่เธอก็ต้องรักษาระยะห่างของเธอเอาไว้เสมอๆ

" เอ้า!!!อ้ายฝรั่ง!!!ลองชิมไอ้นี่ดูสิบรั่นดีของบ้านเราเลยนะ!!!เราเรียกมันว่าน้ำสะอาด!!" คุณลุงคนหนึ่งยื่นแก้วเป๊กให้กับเหล่าชายหนุ่มต่างชาติคนละแก้วในนั้นบรรจุน้ำใสๆจนปริ่ม สีของมันใสเหมือนน้ำเปล่าทว่ากลิ่นของมันนั้นกลับหอมละมุนผิดกับกลิ่นบรั่นดีราคาแพงที่พวกเขาเคยลิ้มรสมา

" เอ้าๆ...ลองดูๆ...กินกับลาบควายนี่...เหมาะนา" คุณลุงคนนั้นยังดันทุรังยื่นให้พวกเขาพลางเลื่อนลาบเลือดสดๆแดงๆน่ากลัวให้พวกเขา คุณลุงจกผักแกล้มมาม้วนอย่างชำนาญก่อนจะจ้วงลาบสีแดงสดคำใหญ่เข้าปากเคี้ยวตุยๆและกระดกน้ำสะอาดนั้นลงคอตาม

" ข่าาาาาาาา!!!!" เขาอุทานมาด้วยสีหน้าที่ฟินสุดๆราวกับได้ลิ้มรสชาติแห่งชีวิตเข้าไปก็มิปาน

" เอ้านี่!!!กินแบบนี้ก็ได้นะ " คุณยายอีกคนมาร่วมวงนางวางจานลาบที่นำไปคั่วจนสุกดีแล้วสาธิตวิธีกินอีกแบบให้ชายหนุ่มทั้งหลายดู นางกระดกบรั่นดีที่มีทั้งหมดลงลำคอตามด้วยน้ำเปล่าและตบด้วยกับแกล้ม สีหน้าของหญิงชรานั้นไม่ได้ต่างกับคุณลุงเมื่อครู่สักนิดเดียว

" ลองดูๆ...อร่อยนะ" ว่าแล้วก็คะนั้นคะยอให้เหล่าหนุ่มๆได้ลิ้มรสชาติของชีวิตชาวบ้าน ไลอาร์ ที่เป็นสิงห์นักดื่มอยู่แล้วเขาจึงไม่

ครนาต่อแอลกอฮอล์ ชายหนุ่มกระดกน้ำสะอาดนั้นลงลำคอหนามันมีรสชาติที่ละมุนลิ้นแต่ดีกรีนั้นสูงจนรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งลำคอหนา ร้อนวาบไปถึงสะดือจนเขาอดที่จะออกเสียงข่าาาาตามคุณลุงไม่ไหว เขารีบคว้ากับแกล้มที่วางอยู่ตรงหน้านั้นเข้าปาก ก้อนเลือดที่เรียกว่าลาบนั้นกลับให้รสชาติที่น่าอัศจรรย์มาก เนื้อที่ถูกสับจนละเอียดเหนียวคลุกเคล้ากับเครื่องในสุกและปรุงด้วยพริกลาบและเกลือรสเผ็ดร้อนและขมนิดๆกระจายไปทั่วทั้งปากไม่มีกลิ่นคาวเลยสักนิดเดียวทว่ากลับหวานด้วยความสดของเลือดและเนื้อที่คลุกเคล้าจนเข้ากัน อีกทั้งผักแกล้มก็ชูรสของลาบนั้นให้โดดเด่นเข้ากันกับบรั่นดีที่ดื่มลงไปเป็นอย่างมาก ไลอาร์รู้สึกหลงรักธรรมเนียมการกินแบบนี้มีทั้งแกงฮังเลที่รสออกหวานแต่ไม่เลี่ยนเพราะขิงที่ถูกตัดรสไว้ทั้งแกงอุ๊บ ที่เป็นเหมือนสตูว์ที่เขาคุ้นเคยแต่รสของแกงนั้นกลมกล่อมด้วยพริกแกแบบเฉพาะถิ่น ยังรวมไปถึงยำต่างๆและต้มขมต้มยำที่มีอยู่เต็มโต๊ะไม้กลมๆ เขาเห็นบางคนจกข้าวจากกระติ๊บข้าวแล้วจ้วงจิ้มกับลาบบ้างแกงบ้างน่าเอร็ดอร่อยนัก วันนี้เขาจึงรู้จักกับข้าวเหนียว ลาบควาย แกงอุ๊บ ต้มขม แกงอ่อม ยำรวม และที่สำคัญบรั่นดีพื้นเมืองที่ทำเอาเขาเมามายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พวกหนุ่มๆถูกลากไปเต้นไปโต๊ะโน้นชนแก้วกับโต๊ะนี่ บางทีเห็นใครจะออกไปซื้อของก็ตามออกไปบ้าง เขาได้รู้ได้เห็นประเทศโปรดของเขาในแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เนื้อปิ้งที่ปรุงแค่เกลือกับผงชูรสก็เข้ากันกับข้าวเหนียวร้อนๆมาก หรือแม้แต่ส้ำตำที่เผ็ดจนทำเอาเขาและพรรคพวกสร่างเมาก็ยังอร่อยจนท้องของเขาแน่นไปหมด น่าเสียดายที่ปาร์ตี้มีเพียงแค่วันเดียวเท่านั้นเขาจำเป็นต้องบินกลับไปทำงานด่วนๆโดยที่ไม่อยากไปเลย

" ไปเถอะค่ะไลอาร์ฉันขอบคุณที่คุณช่วยฉันมากขนาดนี้ว่างเมื่อไหร่ค่อยมาเที่ยวนะคะ" อัญชันที่มาส่งชายหนุ่มทั้งหลายขึ้นเครื่องกลับฮาลันเว้นแต่เรนดอลกับริสาที่ต้องอยุ่ดูแลนายหญิงของเขาต่อไป

" ผมจะรีบเคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วมาหาคุณนะอัญ" เขาร่ำลาด้วยความอาลัยอาวรณ์

" รีบไปเถอะค่ะเครื่องจะออกแล้ว...เรนดอล...ริสา...ไม่กลับไปจะดีเหรอ??" อัญชันหันไปถามสองคนที่ยืนล่ำลาพวกองครักษ์อยู่

" ไม่เป็นไรค่ะนายหญิงดิฉันอยู่ได้" เธอตอบำลางส่งยิ้มกว้างมาให้ เธอเองก็หลงรักวิธีชีวิตเรียบง่ายของคนที่นี่อาหารที่รสชาติลือโลกไม่ได้เป็นแค่ข่าวลือแต่อย่างไรมันน่าอัศจรรย์เสียมากกว่าเรนดอลเองก็รู้สึกเช่นเดียวกับเธอ

" ก็ตามใจเถอะ...ฉันต้องไปแล้วนะคะ" อัญชันหันหลังกลับเดินจากไปโดยมีองครักษ์ทั้งสองเดินตามมาติดๆ มือบางเกาะกุมท้องน้อยเอาไว้อย่างแผ่วเบา สองเดือนแล้วที่รอบเดือนเธอไม่มา คงไม่ใช่ว่าเธอนั้นจะมีชีวิตน้อยๆอยู่ในท้องหรอกนะ!!! แต่ถึงอย่างนั้นเธอกลับไม่เสียใจที่มีเด็กคนนี้ขึ้นมาเพราะมันเกิดจากการที่เธอเต็มใจ ทว่าเธอกลับไม่ยอมบอกไลอาร์เรื่องนี้เพราะไม่อยากให้เขาเป็นกังวล การกลับไปของไลอาร์คราวนี้นั้นอาจจะใช้เวลาหลายปีกว่าจะได้พบกันอีกเพราะเขาต้องกลับไปจัดการเรื่องรางหลายๆเรื่องของเขาให้เสร็จ

อัญชันเก็บเรื่องที่มีชีวิตน้อยๆนี้บังเกิดขึ้นในครรภ์ของเธอเอาไว้เป็นความลับที่รู้แค่นภัทธาและเธอเท่านั้น เธอรู้ดีหากเด็กคนนี้เกิดมามหาราณีคงไม่ปล่อยเธอกับลูกไว้แน่ๆ

" ลาก่อนนะคะไลอาร์" อัญชันมองเครื่องบินลำยักษ์ที่กำลังโผบินขึ้นสู่น่านฟ้าทะยานข้ามโลกไปยังดินแดนที่ไกลออกไป ส่วนเรื่องที่ริสากับเรนดอลที่เกาะติดเธออยู่ตรงนี้...อีกเดี๋ยวพวกเขาก็คงต้องตามเจ้านายไปอยู่ดีเรื่องนี้เธอจึงไม่กังวลเสียเท่าไหร่นัก

" ไปกันเถอะอัญ...แกต้องไปฝากท้องนะอย่าลืมสิ " นภัทธาที่ขับรถมาส่งเธอกระซิบบอกอัญชัญพยักหน้ารับก่อนจะหันไปออกคำสั่งผู้ติดตามของตน

" ทั้งสองคนกลับไปก่อนเลยนะฉันจะไปชอปปิ้งกับพี่ฟ้าหน่อยเดี๋ยวตามไป....ที่นี่ถิ่นฉันไม่มีใครมาปองร้ายฉันหรอก" อัญชันพูด ทั้งริสาและเรนดอลเห็นด้วยจึงปลีกตัวกลับไปจัดเตรียมที่หลับที่นอนของตนก่อน

" ไปกันเถอะ..." นภัทธา จูงมือบางขึ้นรถ เธอแสร้งทำเป็นว่าเข้าไปในห้างหรูทว่ากลับทะลุหลังห้างไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ไกลออกไปแทน