webnovel

เงารักในรอยใจ

เรื่องเมื่อสี่ปีก่อนทั้งหมดเป็นเพียงความผิดพลาด จี้อี้ แอบชอบ 'เขา' มาโดยตลอด เธอหวังว่าเขาจะชอบเธอบ้าง แต่หลังจากงานเลี้ยงจบมัธยมปลาย ค่ำคืนที่เธอคิดว่าเป็นคืนสุดแสนโรแมนติกกลับกลายเป็นความเพ้อฝันอันว่างเปล่า ... “ถ้าคืนนั้นฉันไม่เมา เธอคิดหรือว่าฉันจะแตะต้องตัวเธอ” “เพราะงั้นเธอบอกราคามาดีกว่า สรุปแล้วคืนนั้นจะเอาเท่าไหร่ เธอถึงจะยอมแล้วกันไป ทำเหมือนเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น” ... ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ขณะที่เธอคิดว่าตัวเองสามารถลืมเขาได้แล้ว แต่ทุกครั้งกลับพบว่าในส่วนที่ลึกที่สุดในหัวใจกลับมีเงาของเขาอยู่ตรงนั้นเสมอ

เย่เฟยเย่ · Thành thị
Không đủ số lượng người đọc
1075 Chs

004

บทที่ 4

จี้อี้เหลือบมองสายเรียกเข้า เป็นรูมเมทของเธอปั้วเฮ่อนั่นเองที่โทรมา จี้อี้รับสายแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร เสียงของปั้วเฮ่อก็ดังขึ้น “ เสี่ยวอี้ คืนนี้ที่นัดไปกินข้าวกันที่อวี้หวาถาย ตอนทุ่มนึง เธออย่าลืมนะ”

อาหารค่ำที่นัดกันไว้ก่อนหน้านี้ จี้อี้เองก็รู้ เพียงแต่สถานที่ ทำไมจู่ ๆถึงเปลี่ยนจากที่นัดไปกินด้วยกันแค่ไม่กี่คนที่ร้านหม้อไฟถึงกลายเป็นนัดรวมกันที่ร้านอวี้หวาถายไปได้ล่ะ?

จี้อี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ ทำไมถึงเปลี่ยนที่ล่ะ?”

“ เสี่ยวหย่าเป็นคนเปลี่ยน..” ผู้หญิงทุกคนต่างก็เกิดมาพร้อมกับนิสัยชอบนินทา หลังจากที่ปั้วเฮ่อตอบคำถามของจี้อี้แล้ว ก็เสริมอีกว่า “ ..ดูเหมือนว่าแฟนใหม่ของเธอเป็นคนจัดการนะ ดูแล้ว แฟนใหม่ของเสี่ยวหย่าคงจะรวยมากเลยล่ะ”

เสี่ยวหย่าหรือหลินหย่า เธอเป็นรูมเมทอีกคนของจี้อี้ เป็นหนึ่งในสิบดาวมหาวิทยาลัยที่ปรากฏตัวอยู่ในภาพยนตร์ B เธอเป็นหนึ่งในบุคลที่ไม่มีบทบาทในภาพยนตร์ แต่บนอินเตอร์เน็ตกลับปรากฏชื่อของเธอ การที่เธอสามารถหาแฟนที่มีฐานะร่ำรวยได้ ใช่ว่าจะเป็นเรื่องน่าตกใจหรือแปลกประหลาดเสียหน่อย

จี้อี้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า “ อ้อ อย่างนั้นเหรอ”

เมื่อปั้วเฮ่อเห็นน้ำเสียงของจี้อี้เรียบนิ่ง เหมือนกับเธอไม่สนใจที่จะคุยเรื่องนี้ต่อ ปั้วเฮ่อจึงตัดบทและไม่ได้คุยต่อ เพียงแค่เตือนไม่ให้จี้อี้มาสายเท่านั้น แล้วบสนทนาก็จบลง

จี้อี้วางมือถือไว้ข้างๆ แล้วเริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งหน้า จนเมื่อจัดเก็บทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็ใกล้ได้เวลาพอดี

ก่อนที่จะเดินออกจากหอพัก จี้อี้มองตัวเองในกระจก สำรวจตัวเองรอบหนึ่ง เด็กสาวที่อยู่ภายในกระจกมีผิวขาว เครื่องหน้างดงาม สมบูรณ์แบบจนหาจุดบกพร่องใดๆไม่เจอ เธอสวมกระโปรงสั้นที่เผยขาเรียวงามทั้งสองข้าง เอวเล็กคอดบาง รูปร่างนี้มักทำให้คนตื่นตะลึงได้เสมอ

จี้อี้เม้มริมฝีปากอย่างพึงพอใจ ขณะที่ใช้ลิปสติกแท่งเก่าทาปากบางๆให้ดูเป็นธรรมชาติ หลังจากนั้นเธอก็หยิบกระเป๋าและมือถือเดินออกจากหอพักไป

อวี้หวาถายออยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยของจี้อี้มากนัก แต่ว่าช่วงนี้ดันตรงกับเวลาเลิกงานซึ่งเป็นชั่วโมงเร่งด่วน จึงทำให้บนท้องถนนแออัด ตอนที่จี้อี้มาถึงคนภายในห้องก็มากันเกือบครบแล้ว หลินหย่ากำลังถือเมนูอาหารและสั่งอาหารอยู่

มีสิบที่บนโต๊ะอาหาร มีสองที่ที่ยังว่างอยู่ ที่หนึ่งข้างๆหลินหย่า ส่วนอีกที่อยู่ข้างๆปั้วเฮ่อ

จี้อี้กับปั้วเฮ่อค่อนข้างสนิทกัน หลังจากที่เธอทักทายทุกคนแล้ว เธอจึงเดินไปนั่งข้างๆปั้วเฮ่อ

รอจนอาหารมาเสิร์ฟครบ ทุกคนก็เริ่มรับประทานอาหาร ทว่าที่นั่งข้างหลินหย่ากลับยังคงว่างเปล่า

สิ่งที่งานเลี้ยงจะขาดไปไม่ได้เลย ก็คือการดื่มเหล้า หลังจากหลายแก้วผ่านไป บรรยากาศก็เริ่มครึกครื้นขึ้น

ท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครม อาหารบนโต๊ะหลายจานหมดลง ขณะที่บริกรเริ่มนำของหวานมาเสิร์ฟ เสียงโทรศัพท์ของหลินหย่าก็ดังขึ้น แค่เธอเหลือบมองที่หน้าจอโทรศัพท์ นัยน์ตาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอก็รีบกดรับโทรศัพท์โทรศัพท์มือถือพร้อมพูดกับคนปลายสายว่า “คุณถึงแล้วเหรอ?”

ไม่รู้ว่าคนปลายสายพูดอะไร หลินหย่าเอ่ยปากพูดอีกครั้ง เสียงปกติที่นุ่มนวลอยู่แล้ว ครั้งนี้ยิ่งนุ่มนวลและอ่อนโยนราวกับจะหยาดหยดออกมา” เดี๋ยวฉันออกไปรับคุณเอง” เมื่อพูดจบเธอก็วางโทรศัพท์พร้อมกับลุกขึ้นทันที

“ เสี่ยวหย่า แฟนของเธอมาแล้วเหรอ?” มีคนถามเธออย่างอยากรู้อยากเห็น เธอไม่ยอมรับแล้วก็ไม่ปฏิเสธ เพียงแต่พูดด้วยน้ำเสียงดีใจมากกว่าปกติว่า “ ฉันจะออกไปรับคน” แล้วก็รีบวิ่งออกไปจากห้องทันที

ฝ่านไปไม่ถึงห้านาที ประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาใหม่อีกครั้ง ทุกคนภายในห้องต่างหันไปมองทิศทางเดียวกันโดยไม่ต้องนัดหมาย ไม่เว้นแม้แต่จี้อี้ เมื่อหลินหย่าที่รีบวิ่งออกไปเมื่อครู่กลับเข้ามา ด้านหลังของเธอ ก็ปรากฏร่างของชายหนุ่มเพิ่มขึ้นมาอีกคน