webnovel

บทที่ 8

หลังจากที่ผมได้รู้เรื่องราวต่างๆ มากขึ้น ผมใช้เวลาคิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมดจนถึงเช้า

ส่วนพี่วายุ (ผมตัดสินใจเรียกเขาว่าพี่เพราะยังไงเขาก็แก่กว่าผม) หลังจากเล่าเรื่องราวจบ ก็บ่นว่าง่วงแล้วก็ถอดเสื้อนอน ซะอย่างงั้น ผมสังเกตเห็นรอยสักรูปลิงบนหลังของเขา พอมองดีๆ ผมค่อนข้างแน่ใจว่าผมเห็นรอยสักนั่นขยับ แต่ยังไม่ทันถามอะไร พี่วายุก็หลับพร้อมเสียงกรนเบาๆ

เสียงไก่ป่าขันเช่นเคย ผมออกมานั่งหน้าระเบียง แสงแดดอ่อนๆ ทอประกาย ลมพัดใบไม้ไหวไปมา

เป็นภาพที่ผมเห็นทุกวัน แต่วันนี้ภาพเหล่านี้กำลังทำให้ผมใจหาย เพราะวันนี้ผมต้องไปจากที่นี่ ศพของเหล่าสัตว์หายไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมลองเดินสำรวจรอบๆ

"ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง" ผมหันไปตามเสียงที่คุ้นเคย เจ้าของเสียงนั่งยิ้มอย่างอบอุ่นอยู่บนโขดหิน ผมเดินตรงเข้าไปหาพ่อปู่

"ผมเข้าใจแล้วครับ ว่าทำไมผมถึงต้องไปจากที่นี่ ถึงผมจะรักที่นี่มากแค่ไหน แต่ผมก็ไม่ต้องการให้ทุกชีวิตในป่านี้ต้องมาเสี่ยง" ผมพูดพลางนั่งลงกับพื้น

"ทุกคนล้วนมีชะตากรรมของตัวเอง ข้าเองก็ทำอะไรมากไม่ได้"

"แล้วเหล่าสัตว์ ที่ตายไปละครับพวกมันคืนสู่ธรรมชาติแล้วเหรอครับ" ผมถามเพราะเป็นห่วงพวกมันมาก พวกมันต้องมาตายอย่างผิดธรรมชาติเพราะผม

พ่อปู่เอามือล้วงเข้าไปในย่ามสีขาวแล้วหยิบของบางอย่างออกมา มันมีลักษณะเหมือนลูกแก้ว แต่มีขนาดใหญ่เท่ากำปั้นของผม ท่านยื่นมาให้ผม

ผมพลิกลูกแก้วไปมา สังเกตว่าด้านในมีป่าจำลองอยู่ในลูกแก้ว แล้วก็มีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ในนั้น

"นี่คือลูกแก้ววิญญาณป่า เป็นสถานที่ให้เหล่าวิญญาณสัตว์ป่าที่ตายไปเมื่อคืนอาศัยชั่วคราว รอเวลาหมดอายุขัยของมัน พวกมันอยากไปกับเจ้า"

พอผมเพ่งมองเข้าไปในลูกแก้วก็เห็นว่าในนั้นมีเหล่าสัตว์อยู่จริงๆ ทั้งแม่เสือโคร่ง กระทิง หมาป่า และสัตว์อื่นๆ

ผมรู้สึกผิดที่เป็นสาเหตุทำให้ทุกคนต้องตายก่อนหมดอายุขัย

"ผมพาทุกคนไปได้เหรอครับ"

"พวกมันอยากปกป้องเอ็ง พาพวกมันไปเถอะ เมื่อใดที่เอ็งมีภัย ให้ตั้งสมาธิ แล้วนึกถึงพวกมัน" ผมยังไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็พยักหน้ารับคำพ่อปู่ หลังจากนั้นพ่อปู่ก็มีแสงขึ้นที่ตัวแล้วค่อยๆ หายไป

หลังจากที่พ่อปู่หายไป ไม่นานพี่วายุก็ตื่น แกบอกผมว่าจะออกเดินทางวันนี้ ให้ผมเตรียมตัว ซึ่งผมก็ไม่ได้มีอะไรให้เตรียมตัวมากนัก ข้าวของก็มีเสื้อผ้าแค่ไม่กี่ตัว

ในตอนที่เรากำลังจะออกเดินทาง อยู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าของสัตว์ใหญ่ดังขึ้น เสียงฝีเท้าตรงมาทางพวกเรา นอกจากเสียงฝีเท้าก็มีเสียงต้นไม้หักโค่นดังเป็นระยะๆ และเมื่อเสียงนั้นใกล้เข้ามา ก็รู้ได้ว่าที่มาของเสียงคือโขลงช้างป่า

"ว้าว พวกมันมาทำทางเดินให้พวกเรา" พี่วายุพูดพลางเอามือขึ้นบังแดด คล้ายซุนหงอคง ที่ผมเคยดูในทีวีบ้านลุงแสง

พอสังเกตดีๆ เส้นทางที่พวกช้างเดินมา คือทางที่ตรงออกจากป่า และพวกช้างก็โค่นต้นไม้เป็นทางเดินออกให้กับเรา

ผมเดินไปกอดงวงของช้างที่ตัวใหญ่ที่สุด และพูดขอบคุณพวกมัน ระหว่างที่ผมและพี่วายุเดินออกจากป่า พวกสัตว์ต่างก็พากันเดินตามมา ราวกับมันกำลังมาส่งผม นี่เป็นอีกครั้งที่ผมเสียน้ำตา

ผมไม่ได้อยากจะทำให้มันดราม่าหรอกนะ แต่คุณเข้าใจความรู้สึกที่ต้องจากบ้านของตัวเองโดยมีครอบครัวมายืนส่งไหมละ ความรู้สึกนี้ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน มันโหวงๆ ใจหาย

นี่ผมกำลังจะไปจากที่นี่แล้วจริงๆ ใช่ไหม สถานที่เดียวที่ผมอยู่มาตั้งแต่จำความได้

"ลาก่อนนะทุกคน ดูแลตัวเองดีๆ นะ"