webnovel

ภพที่ 6

"คุณภพพพพ จะไปไหน"

ภพกำลังเดินหนีกานต์ที่พยายามเดินตามตื้อเพื่อขอคำตอบรับในการเล่นเป็นแฟนปลอมๆ ภพเอาแต่ส่ายหน้าและเดินหนี แต่สุดท้ายก็ถูกกานต์ตามดักหน้าไว้ไม่ให้เดินต่อ

"กานต์ คุณไม่ใช่เด็กแล้วนะ จะทำอะไรคิดอะไร คุณรู้ดีว่าสิ่งไหนควรไม่ควร"

"แหม…ไม่เห็นต้องดุผมนขนาดนั้นเลย งานนี้ผมเสียเปรียบนะ ไม่ใช่คุณสักหน่อย"

"เฮ้ออออ"

ภพถอนหายใจให้กับความดื้อด้านของคนที่เขาไม่เคยเจอ

"งั้นผมขอถามคุณแค่ข้อเดียว ทำไมต้องเป็นผม

กานต์ยิ้มแก้มปริแล้วตอบภพโดยไม่ลังเล

"ที่ต้องเป็นคุณเพราะเป็นคนอื่นไม่ได้ไง ตอนนี้ผมอยู่กับคุณแค่สองคน จะให้ไปขอใครเป็นแฟนละ"

"เฮ้ออ"

ภพถอนหายใจส่ายหน้าเอือมระอาอย่างไม่เข้าใจ การที่ต้องตายก็นับว่าเป็นทุกอยู่แล้ว แต่กลัยไม่ใช่กับคนตรงหน้าที่ดูจะมีความสุขและคิดว่ามันเป็นเรื่องสนุกซะเหลือเกิน

"คุณภพ…ตกลงไหม?"

กานต์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ภพ เอี่ยงคอถามคนที่กำลังครุ่นคิดอะไรบ้างอย่างจนไม่ทันได้ตั้งตัว ใบหน้าของทั้งคู่ที่อยู่ห่างกันเพียงปลายจมูกกั้น ทำให้เรื่องบางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ดันเกิดขึ้นเพียงกระพริบตา

จุ๊บ

…!?

ริมฝีปากบางซีดรีบยื่นไปช่วงชิงจูบจากยมทูตหนุ่ม โดยไม่ให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว ภพยืนตาค้างชั่วครู่ จากตกใจเปลี่ยนมาเป็นนิ่งเฉยแล้วเดินหันหลังจากไปโดยไม่หันกลับมา กานต์ทำเพียงยืนมองแผ่นหลังภพที่เดินจากไปด้วยสีหน้าระรื่นและแปรเปลี่ยนเป็นหมองเศร้า ก่อนจะถอนหายใจแล้วนั่งลงไปบนชายหาด เหม่อมองทิวทัศน์ด้านหน้าที่สวยงามแต่กลับไม่มีความรู้สึกใดๆเลย

"กานต์…กานต์…กานต์ตื่น…คุณเป็นอะไร ตื่นได้แล้ว"

"อืออออ…"

กานต์บิดขี้เกียจ สองแขนชูขึ้นเหนือหัว ก่อนจะผละตัวลุกขึ้น ตกใจที่ตัวเผลอหลับไปในที่ที่ไม่นานจะหลับได้เลย

"ทำไมชอบหาแต่เรื่อง ทำไมคุณไม่ขึ้นไปนอนบนห้อง นี้มันชายหาด คุณหลับไปได้ยังไง"

"เอ่อออ…ผม ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะ"

กานต์สะลึมสะลือมึนงงเล็กน้อย เจ้าตัวบิดขี้เกียจยกยกมือชูขึ้นซ้ายขวาแล้วลุกขึ้นปัดทรายที่ติดอยู่ตามตัว ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านอย่างว่าง่าย ภพเองเขาก็แต่ทำตามหน้าที่ ไม่ได้มีอะไรไปมากกว่าคำสั่งที่ได้รับมา แต่…ตอนนี้หัวใจที่มันเป็นเป็นจังหวะ กับเต้นผิดแปลกไปจนเจ้าตัวต้องยกมือขึ้นมาคุมไว้เขาเหมือนมันจะหลุดออกมา

ก๊อกๆ

"กานต์ ผมเข้าไปได้ไหม"

ภพเคาะประตู แล้วเอ่ยถามขออนุญาตเจ้าของห้องเพื่อเข้าไปด้านใน

แกร๊ก…

พอได้ยินเสียงเปิดประตู ซึ่งถือเป็นสัญญาณบอกถึงการได้รับอนุญาต ภพจึงเดินเข้ามาในห้อง นั่งลงข้างๆกานต์ที่กำลังนั่งเช็ดผมอยู่บนเตียง

"..."

ทั้งคู่ยังคงนั่งนิ่ง ไม่ได้มีการพูดจาใดๆ จนกระทั่ง

จุ๊บ…

"อุบ อืออออ"

ภพเอี้ยวตัวจงใจโน้มใบหน้าเข้ามาจุมพิตริมฝีปากบางซีดของกานต์ จากแค่แตะกันมันค่อยเริ่มแปรเปลี่ยนบดเบียดดูดกลืนลิ้มรสชาดหอมหวานที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน กานต์ตาโตตกใจที่จู่ๆ ภพก็ทำในสิ่งที่ตนไม่คาดถึง แต่สัมผัสอบอุ่นที่อบอวลไปด้วยความลุ่มหลงที่ไม่เคยเจอทำให้เผลอไผอ่อนโอนไปตามแรงที่ใจปรารถนา

"อืออ…อ่าาา แอ่กๆ"

เมื่อภพถอนจูบออกมา กานต์จึงรีบสูดอากาศเข้าปอด หายใจหน้าแดงหน้าดำเหมือนคนกำลังขาดออกซิเจน

"ผมเองก็ไม่รู้ว่าลึกๆแล้ว ตัวเองรู้สึกยังไง แต่เวลาอยู่ใกล้คุณผมรู้สึกเจ็บที่หัวใจเวลามันเต้นแรงๆ"

"แล้ว…ตอนนี้ เออ…คุณยังเจ็บอยู่ไหม"

กานต์ยื่นมือไปจับทาบทับตรงตำแหน่งหัวใจของภพ ตอนนี้มันกำลังเต้นแรงจนเหมือนจะทะลุออกมา

"สรุปแล้ว ยมทูตอย่างคุณ มีความรู้สึกไหม"

"ผมไม่รู้ ผมก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้เรียกว่าอะไร ถ้าเป็นเพียงดวงวิญญาณที่รอชดใช้กรรม มันจะยังมีความรู้สึก รัก โลภ โกรธ หลงอยู่ แต่ผมที่เป็นยมทูต ผมไม่ควรจะมีความรู้สึกแบบนั้น"

กานต์มองใบหน้าเคร่งเครียดของภพด้วยความสงสาร อึดอัด และไม่เข้าใจ และถ้าทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะเขา เขาควรรู้ตัวได้แล้วว่าได้ทำสิ่งผิดมหันต์ลงไปโดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

"ผมขอโทษ แต่ผมต้องการคุณจริงๆ แค่สักครั้งให้ผมได้รับรู้ถึงความรักที่มันยังมีอยู่บ้าง ให้ผมได้ใช้ชีวิตที่มีแต่ความรักมากกว่าความทุกข์ที่ผ่านมา…ได้ไหมภพ"

สุดท้ายคนเราหรือแม้แต่ดวงวิญญาณก็ยังคงใช้ความรู้สึกของตัวเองนำทางมากกว่าสิ่งใด กรานต์จับใบหน้าคมสันของยมทูตหนุ่ม ฝ่ามือแนบลงไปที่แก้มทั้งสองข้าง ก่อนจะค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้จนจมูกเเตะชิดชนกันและ…

"ผมมีงานด่วน คำสั่งออกมาแล้ว"

ภพผละตัวเด้งออกมา ก่อนที่จะหายวับไปตามเสียงเรียก แต่นั้นกลับเป็นเสมือนสายป่านหรือตัวการที่นำพากานต์ติดตามไปกับเขาด้วยเพราะร่างกายของทั้งคู่ยังสัมผัสกันอยู่

"กานต์! คุณมาได้ไง"

"ผม…ผมก็ไม่รู้ ผมหายมาพร้อมคุณ"

"ชิบ…ช่างเถอะ งั้นคุณก็ช่วยอยู่เฉยๆ ข้างๆผมก็พอ"

กานต์มองภพและพยักรับ สถานที่ที่ทั้งสองคนมาถึงคือกลางสะพานสูงในกลางเมือง ที่เเห่งนี้มีดวงวิญญาณหลายดวงที่ต้องมาจบชีวิตลงเพราะการกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย

"คุณ…นั้น!"

กานต์ให้ภพหันไปมองที่หนุ่มวัยกลางคนซึ่งมีท่าทีมึนเมาและโศกเศร้าร้องไห้ตลอดเวลา

"คุณภพ เขากำลังจะกระโดดน้ำใช่ไหม คุณต้องช่วยเขานะ"

"นั้นไม่ใช่หน้าที่ของผม หน้าที่ของผมคือการมารับดวงวิญญาณ"

กานต์กัดปากทำท่าทีขัดใจ เขาอยากจะเขาไปช่วยแต่ก็ทำไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ยืนมองโศกนาฏกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นตรงหน้า

"คุณค่ะ อย่าทำแบบนี้นะคะ

"คุณพ่อ…งือออ คุณพ่ออย่าโดดนะ"

ตอนนี้ชายวัยกลางคนที่กำลังจับราวกั้นขอบสะพานและพยายามจะปีนลงไป หยุดชะงักเพราะเสียงภรรยาและลูกที่กำลังวิ่งร้องไห้มาหาตน คนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างเริ่มทยอยกันมามุงดูและห้ามปรามไม่ให้ชายหนุ่มคิดสั้น

"พ่อขอโทษ…พ่อเป็นพ่อที่ไม่ดี ไม่เอาไหน พาครอบครัวมาล้มละลาย แค่ข้างสักเม็ดยังหาให้ลูกกินไม่ได้ พ่อมัน…"

"ไม่ใช่นะคะคุณอย่าคิดแบบนั้น ฉันกับลูกไม่เคยโทษคุณเลย เราเริ่มกันไม่ได้จะล้มอีกสักกี้ครั้งก็ลุกใหม่ได้ ถ้ามีคุณ"

ตอนนี้ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกต่างร้องไห้กอดกันตัวกลม ความตรึงเครียดที่สะสมมากำลังจะคลี่คลาย

"หึ…จบแล้วคุณยมทูต ไม่มีคนตายสักคน"

"ใช่ ไม่ใช่สักคน"

ภพทำเพียงยืนนิ่งไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไป

"ผมขอโทษนะคุณ พ่อขอโทษนะลูก"

ตูม!!!!

กรี๊ดดดดดด

"คุณ! คุณพ่อ!"

ตูม!!!!

กรี๊ดดดดด

"ดวงวิญญาณ มีถึง 3 ดวงต่างหาก"

กานต์รีบวิ่งไปมอง สามพ่อแม่ลูกที่จมหายลงไปในน้ำ เพราะหลังจากที่คนเป็นพ่อลูบผมภรรยาและลูกพร้อมเอ่ยขอโทษแล้ว เขาจึงตัดสินใจกระโดดลงน้ำไปทันที ส่วนภรรยาที่ตกใจจึงรีบคว้าสามีและกระโดดลงไปพร้อมกัน และลูกสาวเองคงไม่ทันได้ตั้งตัว และด้วยความตกใจจึงกระโดดลงน้ำตามพ่อแม่ไป ถึงแม้จะมีคนมุมมากมายแต่ก็ไม่มีใครสามารถช่วยได้ทัน

"เชี่ยเอ้ย เรื่องบ้าอะไรเนี่ยคุณ นักดำน้ำจะมาทันไหม จะเจอพวกเขาใช่ไหม"

"ไม่ทันแล้วกานต์ พวกเจ้าตามข้ามา"

ภพหันไปหาพ่อแม่ลูกที่กลับมายืนอยู่ที่เดิม เรียกพวกเขาให้ตามไปยังที่ตัดสินพิพากษาดวงวิญญาณตามกฎแห่งกรรม