เพราะฟ่านอี้หยวนต้องไปจัดการเรื่องการค้าสำคัญกับแคว้นเหลียงทำให้มาถึงสถานที่จัดงานเลี้ยงล่าช้าไปบ้าง เมื่อเห็นว่าคนที่อยากเจออยู่ตรงบริเวณไหน สองขายาว ๆ ของเขาก็รีบก้าวไปหานางทันที
"ผิงเอ๋อ"
ฟ่านอี้หยวนตะโกนร้องเรียกซวนผิงอี้ คนตัวเล็กเมื่อได้ยินเสียงคุ้นเคยก็ยิ้มแย้มแจ่มใส
"อี้หยวน ข้านึกว่าเจ้าจะไม่มาแล้ว"
หญิงสาวหยิบผ้าเช็ดหน้าออกจากอกเสื้อ ซับเหงื่อเม็ดใหญ่ที่ประทับอยู่บนหน้าผากให้อย่างอ่อนโยน
ชายหนุ่มส่งมือให้นาง ซวนผิงอี้รับไปแต่โดยดี พร้อมค้อมกายขอตัวจากไป ทิ้งคนสามคนให้จัดการแก้ปัญหาเอาเอง
ตอนเดินออกไปแล้วซวนผิงอี้รู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก พวกเขายังไม่ได้แก้ไขความเข้าใจผิดกันเลย ซ้ำยังมีปัจจัยภายนอกอย่างเซียวจ้าวเหอเข้ามาเกี่ยวข้องอีก
ไม่ได้!! จะให้เรื่องเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้
ฟ่านอี้หยวนมองใบหน้างดงามที่ทอประกายซุกซนของนาง วันนี้นางมีแผนการใหญ่จะทำอะไรอีกเล่า เขารอฟังอย่างตั้งใจ
"อี้หยวน เจ้ารู้จักคนเยอะหรือไม่" ซวนผิงอี้ที่จับมือฟ่านอี้หยวนแน่นรั้งถาม
"ก็พอสมควร"
"แล้วเจ้ารู้จักใครในนี้บ้าง"
ฟ่านอี้หยวนถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะชี้แนะนำไปทีละคน
"คนนั้นบุตรสาวเจ้ากรมคลัง คนนั้น....." ฟ่านอี้หยวนชี้ไม้ชี้มือไปจนถึงสตรีผู้หนึ่ง ใบหน้านางน่ารักแจ่มใสตามวัย แต่เขาไม่รู้จักว่าเป็นใคร
"เอาเถอะๆ พอแล้ว ให้ใครสักคนไปพูดคุยกับคุณชายเซียวหน่อยดีหรือไม่ จะได้แยกคุณชายผู้นั้นออกมาจากสองคนนั้น"
"อ้อออออ" ฟ่านอี้หยวนลากเสียงยาว ๆ "แล้วไม่บอกเหตุข้าตั้งแต่แรก"
ฟ่านอี้หยวนลาก คนตัวเล็กไปใกล้ ๆ กลุ่มสตรีที่พูดคุยกันสนุกสนาน
"เจ้าว่าคุณชายเซียวหล่อเหลาหรือไม่" ฟ่านอี้หยวนแกล้งพูดเสียงดังเขาส่งสายตาให้นาง
"หล่อ หล่อมากเลย แถมยังโสดสนิท ร่ำรวยเงินทอง ชาติตระกูลก็ดี"
"อะไรนะโสดสนิทและกำลังหาภรรยาหรอกหรือ" ฟ่านอี้หยวนเน้นคำว่าโสดดัง ๆ
บรรดาคุณหนูได้ยินก็หูผึ่ง ซุบซิบกันไปต่าง ๆ นานา
"ว่าแต่คุณชายเซียวอะไรนั่นใช่บุรุษรูปงามชุดสีม่วงที่ยืนคุยกับองค์รัชทายาทหรือไม่
"ย่อมใช่"
ไม่ทันจะสิ้นประโยคบรรดาสาวงามก็วิ่งกรูกันเข้าไปล้อมรอบเซียวจ้าวเหอ ผลักดันเจิ้นหลินเฟิงและลู่ซีออกห่าง
ฟ่านอี้หยวนรีบส่งสายตาให้เขาพาลู่ซีไปจากตรงนั้นเสีย
แน่นอนว่าเจิ้นหลินเฟิงรับน้ำใจครั้งนี้เขาลากสตรีตัวเล็กออกไปนอกงานเลี้ยง
"ซีซี" เมื่อพ้นจากสายตาผู้คนเขาเรียกชื่อนางและโอบกอดอย่างโหยหา
"องค์ชายปล่อยหม่อมฉันเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า" ลู่ซีตื่นตระหนกเป็นลูกกวาง ร่างเล็กนุ่มนิ่มของนางทั้งผลักทั้งดันเขาให้ออกห่าง
"....." เจิ้นหลินเฟิงกอดนางอยู่เนิ่นนาน ไม่พูดไม่จาและไม่ปล่อยให้นางเป็นอิสระ
ร่างนุ่มนิ่มในอ้อมกอดแข็งแกร่งพยายามดิ้นรนให้พ้นการควบคุมของเขา แต่ยิ่งดิ้น เขาก็ยิ่งกอดนางแน่นกว่าเดิม
"ซีซี แต่งงานกับข้า" เจิ้นหลินเฟิงตัดสินใจพูด
"เหอะ..... แต่งงานกับท่าน แต่งไปเป็นอนุภรรยาของท่านงั้นหรือ" ลู่ซีขึ้นเสียง "ใครอยากเป็นอนุภรรยาท่านกัน สู้ให้ข้าแต่งกับคุณชายเซียวหรือบุรุษอื่นไม่ได้ดีกว่าเหรอ" นางพรั่งพรูคำพูดออกมาเป็นสาย
เขาพลิกร่างเล็กให้หันมาสบตา ลู่ซีอยากจะหนีเขาให้พ้น นางถอยกายไปเรื่อย ๆ จนแผ่นหลังติดกับเสา เขาก็ไม่หยุดควบคุมนาง
"ใครจะให้ท่านไปเป็นอนุภรรยากัน" เขาขมวดคิ้ว
"ท่านหมั้นหมายกับผิงเอ๋อไปแล้ว แน่นอนว่าข้าต้องเป็นรองจากนาง" หยาดน้ำตาอุ่นร้อนไหลลงอาบแก้มเนียน
เขาเกลียดน้ำตาขอนาง กาลที่แล้วเขาจำได้ว่านางร้องไห้ เพียงแค่เห็นเขาก็แทบบ้า
เจิ้นหลินเฟิงโน้มกายจูบพรมซับน้ำตา กิริยาของเขาเป็นการกระทำที่นางคาดไม่ถึงหญิงสาวยืนแข็งค้างไม่ไหวติง คำพูดอะไรก็แล้วแต่ที่ตั้งจะพูดถูกลืนลงคอ ไม่เพียงแค่นั้นเขายังโน้มลงปากจุมพิตนาง ปากเขาวนเวียนแนบสนิทอยู่กับริมฝีปากนุ่มละมุนของนาง เขาชื่นชอบรสสัมผัสของนางเป็นที่สุด
ทั้งอ่อนโยน ทั้งไร้เดียงสา
มือไม้ของลู่ซีไม่รู้จะไปวางที่นางจึงได้แต่วางแนบอกเขา คนตัวสูงจูบนางอย่างอ้อยอิ่ง ความรู้สึกเริ่มเร่าร้อนขึ้นเรื่อย ๆ จนลู่ซีต้องเบี่ยงหน้าหนี
เจิ้นหลินเฟิงจ้องมองใบหน้าแดงระเรื่อของนางด้วยสายตากรุ้มกริ่ม กาลที่แล้วเขาหยาบคายรุนแรงกับนาง ครั้งนี้ให้เขาได้แก้ตัวเถอะ
"สตรีที่ข้าจะแต่งงานด้วยมีเพียงคนเดียวเท่านั้นลู่ซี" เจิ้นหลินเฟิงเรียกชื่อนางตรง ๆ "ลู่ซี ท่านหญิงลู่ซี แต่งงานกับข้าเป็นภรรยาเพียงคนเดียวของข้าได้หรือไม่"
น้ำเสียงของเจิ้นหลินเฟิงแม้จะแผ่วเบาแต่แฝงไปด้วยความจริงใจ นางสบตาล้ำลึกของเขาเพื่อพิสูจน์ความจริงใจ
"แต่..."
"ข้ากับผิงเอ๋อ เป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งนั้น นางไม่ได้มีใจให้ข้า ข้าไม่ได้มีใจให้นางจะแต่งกันได้อย่างไร สู้ปล่อยให้นางไปแต่งกับคนที่นางรักไม่ดีกว่าหรือ" เขาอธิบายช้า ๆ และชัดเจน
คนตัวเล็กเม้มปากเป็นเส้นตรง ความหมายที่แฝงในคำพูดของเขาคืออันใดกัน จะแต่งกับนางเพราะมีใจให้นางเช่นนั้นหรือ สมองของนางพร่าเบลอจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว เป็นเพราะเขานั่นแหละที่ทำให้สมาธิของนางหล่นหาย
"ใครจะแต่งกับเจ้ากัน" ใบหน้าของนางแดงก่ำ หญิงสาวทุบอกเขาไปสองสามที
ลู่ซีทำท่าจะเดินหนี แต่เจิ้นหลินเฟิงกลับอุ้มร่างนุ่มนิ่มของนางขึ้นแนบอก พากลับตำหนักทันที
เซียวจ้าวเหอมาช้าไปเพียงก้าวเดียว เขาเห็นเจิ้นหลินเฟิงโอบอุ้มสตรีที่เขาหมายปองไปต่อหน้าต่อตา แม้จะอ้าปากร้องห้ามปรามก็ทำไม่ได้ บุรุษชุดสีม่วงได้แต่นั่งทอดถอนใจกระดกสุราในขวดขึ้นดื่มอย่างหมดหวัง
ทุกการกระทำของคนสองคนอยู่ในสายตาของเฉินกงกง
เฉินกงกง ซึ่งเป็นกงกงข้างกายองค์จักรพรรดิกำหมัดแน่นสีหน้าแสดงความโกรธเกรี้ยว เขาสู้อุตส่าห์วางแผนให้เจ้าเด็กนั่นแต่งงานกับสตรีที่เหมาะสม แต่เขาดันไม่รับน้ำใจจากตน
กว่าตัวเขาและกุ้ยกงกงจะผลักดันเจ้าเด็กนั่นมาถึงจุดนี้ได้ต้องสูญเสียลงแรงอะไรไปบ้าง ไม่เพียงไม่รับน้ำใจซ้ำยังโยนทิ้งอย่างไม่ไยดี
เอาเถอะเจิ้นหลินเฟิงอย่างไรข้าก็จะทำให้เจ้าผิดใจกับลู่จวิ้นอ๋องให้ได้