webnovel

บทที่ 18 อดีต 3

บทที่ 18

อดีต 3

ฝัน…ข้าฝันร้าย…มันไม่ใช่ความจริง จะเป็นไปได้ยังไง ท่านพ่อจะตายได้ยังไง ไม่จริง ข้าแค่ฝันไป ท่านพ่อยังไม่ตาย ท่านเพียงแค่ไปฝึกเวทย์บทใหม่ ไม่กี่วันก็กลับแล้ว รอท่านพ่อกลับมาครอบครัวที่อบอุ่นของเขาก็เหมือนเดิมแล้ว ข้าแค่ต้องตื่น ต้องตื่นเท่านั้น เมื่อคิดได้แบบนั้นดวงตาเรียวสวยที่ปิดอยู่เปิดออกมองผ้าม่านสีขาวที่แล้วหันมองซ้ายขาวเพราะม่านที่เตียงนี่แตกต่างจะเตียงในเรือนเขานัก เมื่อเห็นหันไปทางซ้ายก็เห็นเสี่ยวหู่กุมมือเขาแล้วนั่งมองไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย เขาเห็นเพียงดวงตาที่แดงกล่ำเหมือนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักนั้น รวมทั้งเตียงหลังใหญ่ที่เขานอนในห้องท่านพ่อนี่อีก หัวใจที่เหมือนสงบจากการหลอกตัวเองก็ตื่นขึ้น ท่านพ่อตายแล้วจริงๆ มันไม่ใช่ความฝัน หางตาเริ่มกลับมาร้อนเหมือนมีน้ำตาไหลออกมาเงียบ ๆเสี่ยวหู่ที่กุมมือเขาอยู่คงสัมผัสได้ถึงแรงสะอื้นเบาๆจึงหันกลับมามองเขาที่กำลังนอนปล่อยน้ำตาไหลรินออกมา

"หลันเอ๋อร์ ตื่นแล้วรึ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"

"....."

"อย่าเศร้าเสียใจไปเลยนะหลันเอ๋อร์ "

"..."

"เจ้าอย่าร้องไห้เลยนะ อย่าเป็นแบบนี้ แค่ท่านพ่อจากไปหัวใจข้าก็เจ็บปวดแล้ว เจ้าอย่าเป็นแบบนี้เลยนะ ข้าขอร้อง เห็นเจ้าเป็นแบบนี้ใจข้าจะขาดแล้วหลันเอ๋อร์"เสี่ยวหู่ที่เห็นอี้หลันนอนร้องไห้เงียบและดวงตาสวยไร้แววนั้นม่นแสงลงมากจนเสี่ยวหู่ใจไม่ดี กลัวว่าร่างบางจะเป็นอะไรไปอีกคน เสี่ยวหู่ทนไม่ได้หรอกนะที่จะสูญเสียคนที่รักไปพร้อมกันสองคน เขาทำได้แค่เพียงกุมมือบางนั้นแน่นขึ้นแล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ขอร้องให้ร่างบางนึกถึงใจเขาบ้าง อย่าทำร้ายตัวเองด้วยการตรอมใจแบบนี้เลย เขาที่มีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพื่อใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับหลันเอ๋อร์และท่านพ่อตลอดไปเท่านั้น แม้ตอนนี้จะไม่มีท่านพ่อแล้ว เหลือเพียงหลันเอ๋อร์ที่ทำให้เขาอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อเป็นความสุขที่เหลืออยู่ให้แก่กัน ขอเพียงเท่านั้นจริงๆ

"ท่านพ่อ…จากไปแล้ว…จริงๆใช่มั้ย"เสียงหวานเอ่ยออกมาสั่นๆราวกับจะขาดใจเมื่อพูดประโยคนั้นออกมา เสี่ยวหู่จึงเงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาขึ้นมามองอี้หลันที่เอ่ยถามออกมา

"ท่านพ่อจากไปแล้วจริงๆหลันเอ๋อร์ แต่ยังเหลือเศษเสี้ยวจิตวิญญาณที่ข้าเรียกคืนมาได้บางส่วน หากเจ้าอยากรู้เรื่องราวทั้งหมดคงต้องใช้เวลาในการรวบรวมเสี้ยววิญญาณหน่อย เจ้า…เอ่อ..อยากรู้เรื่องก่อนที่ท่านพ่อจะจากไปหรือไม่"เสี่ยวหู่ถามเขาอย่างลังเล เหมือนกังวลว่าเขาจะรับเรื่องที่จะรู้ไม่ได้

"แสดงว่าเจ้าเห็นบางอย่างที่เกิดขึ้นกับท่านพ่อแล้วสินะถึงถามพี่อย่างนี้"เขาที่ยันตัวลุกขึ้นมาถามเสี่ยวหู่ถึงท่าทางแปลกๆที่อีกฝ่ายอึกอักเหมือนลังเลว่าจะพูดดีมั้ย

"ตอนข้ารวบรวมจิตวิญญาณท่านพ่อ มีเศษเสี้ยวความทรงจำเข้ามาที่หัวข้า เป็นความทรงจำที่ท่านพ่อผลึกลงในจิตวิญญาณ ข้าเลยเห็นมันแค่บางส่วน"เสี่ยวหู่บอกเล่าสิ่งที่ทำตอนเขาหมดสติไป

"เจ้าเห็นอะไรบ้างเสี่ยวหู่ บอกพี่สิ บอกพี่มา ทำไมท่านพ่อถึงตาย มีคนทำร้ายท่านพ่อใช่หรือไม่"เขาจับแขนเสี่ยวหู่เขย่าแล้วถามตามความคิดที่เขาคิดได้ในตอนนั้น ต้องมีคนทำร้ายท่านพ่อแน่ๆ แต่เหตุผลอะไรเขาเองก็ไม่ทราบ แต่ต้องมีคนรอบทำร้ายท่านแน่ ตัวท่านพ่อเองเป็นถึงปรมาจารย์เวทย์จะพ่ายแพ้ง่ายๆได้ยังไง อย่างน้อยๆคนพวกนั้นต้องมีมากกว่าหนึ่งคนเป็นแน่ แล้วต้องใช้เล่ห์กลบ้างอย่างที่ทำให้ท่านพ่อใช้ยันต์เคลื่นย้ายกลับมาที่นี่ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นท่านพ่อจะตายได้ยังไง ด้วยตัวท่านพ่อเอง หากต้องสู้กับผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปยังไงก็ไม่มีวันแพ้ หากจะสู้กับผู้ใช้เวทย์ด้วยกันก็ต้องชนะแน่อยู่แล้วเพราะท่านพ่อบำลุเป็นปรมาจารย์ด้านเวทย์ ซึ่งสูงที่สุดอยู่แล้วจะแพ้พวกใช้เวทย์ด้วยกันได้ยังไง เขาคิดยังไงก็ไม่มีทางที่ท่านพ่อจะแพ้จนตัวตายแบบนี้ได้ นอกจากจะโดนลอบทำร้าย โดนใช้เล่ห์กลจนตัวเองจนมุมมากกว่า เขาคิดวิเคราะห์ไปในทิศทางที่เป็นไปได้ ซึ่งก็ไม่มีทางไหนที่คิดได้นอกจากโดนลอบทำร้ายเลย

"ใช่ มีคนลอบทำร้ายท่านพ่อ"เสี่ยวหู่ตอบคำถามเขา ตามที่เขาคิดเลย

"เช่นนั้น มันเป็นใครต้องการอะไร ทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร"เขาถามเสี่ยวหู่ระรัว

"งั้นข้าจะพาเจ้าไปดูสิ่งที่ข้าเห็น"

"อืม…"เขาที่ตั้งสติกลับมาได้ เลิกร้องไห้แล้วลุกขึ้นนั่งเผชิญหน้ากับเสี่ยวหู่

"ข้าจะใช้วิชาผสานจิตให้หลันเอ๋อร์เห็นในสิ่งที่ข้าเห็น แต่เจ้าต้องสัญญาว่าจะมีสติทุกขณะจิต ไม่อย่างนั้น หากหลันเอ๋อร์ควบคุมสติและจิตไม่ได้ จิตวิญญาณที่ผนึกไว้จะไม่เปิดเผยต่อจิตเจ้า และจะทำให้ภาพที่เห็นเลือนรางจางหายไป"

"อืม ข้าจะพยายาม"เขารับปากที่เสี่ยวหู่บอก จากนั้นเสี่ยวหู่ก็ยกมือทั้งสองข้างผสานกับมือเขาแล้วหลับตาลงปล่อยใจให้วางและจู่ๆเขาก็เหมือนโดนดึงเขามาในจิตวิญญาณของใครสักคนที่ตอนนี้กำลังถูกมัดอยู่ ซึ่งพอมองสำรวจดูแล้วชุดแล้วน่าจะเป็นท่านพ่อไม่ผิดแน่

"เจ้าจะบอกมั้ย ว่าแก่นรากวิญญาณที่เหลืออยู่ที่ใด"เสียงที่เกรี้ยวกราดดังขึ้นตรงหน้า ร่างที่เขามองผ่านอยู่ตอนนี้เห็นเพียงภาพร่างใหญ่ที่เลือนราง น่าจะมาจากเลือดที่ไหลลงมาปิดดวงตาข้างขวาไว้ ทำให้มองหน้าไม่ชัดเท่าไหร่เพราะเวลานี่ก็มืดค่ำแล้ว นอกจากครอบเพลิงที่คนพวกนี้ถือก็ไม่มีแสงสว่างอื่นใดอีก คนที่ยืนอยู่รอบๆตัวกะจากสายตาน่าจะมีถึงแปดคน เชือกที่มัดอยู่ตอนนี้ที่เขาเห็นคือเชือกมัดเซียนเวทย์ มิน่าละท่านพ่อเขาจึงสู้ไม่ได้ เพราะแค่จอมเวทย์สามคนและผู้ฝึกยุทธ์ระดับจินตานห้าคนนี้ไม่คณามือปรมาจารย์เวทย์แน่ หากไม่มีเชือกมัดเซียนที่ทำให้คนที่โดนเชือกมัดไม่สามารถใช้เวทย์ได้ และยิ่งพยายามจะทำร้ายหรือแก้มัดยังไงก็จะยิ่งโดนรัดแน่นขึ้น เชือกนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้มัดนักโทษหรือโจรที่เป็นนักเวทย์หรือผู้ฝึกยุทธ์ชั้นสูงเท่านั้น จะได้ไม่สามารถแหกคุกหรือหนีได้ และที่เขาชอกช้ำสุดคืออาวุธเวทย์นี้ท่านพ่อเป็นคนคิดค้นขึ้นมา พวกมันตรงหน้าเขาใช้ของที่ท่านพ่อสร้างมาทำร้ายท่านพ่อเองงั้นเหรอ ช่างใจคอโหดเหี้ยมนัก

"แก่นรากวิญญาณอะไร ข้าไม่รู้จัก ข้าไม่เข้าใจในสิ่งที่เจ้าพูด"ท่านพ่อตอบไปด้วยเสียงแหบพร่าไร้เรี่ยวแรงจากการโดนทำร้ายร่างกายทั่วทั้งร่าง

"ท่านจะไม่รู้ได้ยังไง ปรมาจารย์เวทย์เมิ่งซีหลี่ ก็แก่นรากวิญญาณเดิมทีอยู่ในร่างของธิดาเผ่าจิ้งจอกเก้าหางฟู่ชิวหลิง ภรรยาของเจ้าไง ข้าติดตามแกะรอยจนเจอภรรยาเจ้าที่ท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีหวังว่าจะได้แก่นรากวิญญาณมาง่ายๆ แต่ภรรยาเจ้าสู้สุดใจนัก สู้ไปด้วย หนีไปด้วย แถมยังจะคลอดอีกด้วย น่าจะเป็นตอนที่โดนซ่างหมิ่นฟาดพลังยุทธ์ใส่นะ จึงช่วยเร่งภรรยาเจ้าคลอดเร็วขึ้น น่าเสียดายที่ตอนนั้นไม่มีเชือกมัดเซียนเวทย์นะ ไม่อย่างนั้น ข้าคงได้แก่นรากวิญญาณที่สมบูรณ์กลับไปแล้ว ไม่ใช่เศษเสี้ยวแก่นรากวิญญาณนั้น"ร่างสูงตรงหน้าพูดออกมาเสียงเหี้ยมก่อนจะเดินเข้ามาบีบคางท่านพ่อ จนเขาเห็นใบหน้านั้นชัดๆ ใบหน้าที่เกลี้ยงเกลาหล่อเหลามีรอยบาดที่หางคิ้วแบบนี้มีอยู่ไม่กี่คน ซึ่งเขาที่ไม่ได้รู้เรื่องภายนอกเขตเท่าไหร่จึงไม่รู้จักคนผู้นี้

"นี่…เจ้า…หมิงหลง เจ้าสำนักมังกรนิลเพลิงนี่ เจ้าเองรึที่ไล่ล่าภรรยาข้า จนนางต้องคลอดบุตรก่อนกำหนดแล้วออกไปสู้ปกป้องลูกจนตัวตายเช่นนี้"ท่านพ่อพูดอย่างแค้นเคืองถืงเรื่องราวที่รู้ เดิมทีท่านพ่อเล่าให้ฟังเพียงแค่อยู่ๆก็มีเขาในห่อผ้าที่เต็มไปด้วยเลือดโผล่มากลางเรือนใหญ่ในเขตวิมานดาว แล้วมียันต์ส่งสารให้ท่านพ่อดูแลเลี้ยงดูเขาให้ดี เพราะนี่คือลูกของเรา ส่วนตัวเองจะจบเรื่องทางนี้เอง เพื่อป้องกันการแกะรอยและเพื่อชีวิตที่สงบสุขของท่านพ่อและเขา โดยบอกเพียงว่าในตัวของเขามีแก่นรากวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์อยู่ แก่นรากวิญญาณนี่จะช่วยให้เขามีชีวิตที่แข็งแรงและยืนยาวโดยไม่จำเป็นต้องเป็นเซียน แถมยังสามารถดึงพลังมันออกมาใช้มากเท่าไหร่ก็ได้เทียบเท่ากับผู้ที่บำลุเป็นเซียนเลยก็ว่าได้ โดยแก่นรากวิญญาณจะได้รับการสืบทอดมาเฉพาะเผ่าจิ้งจอกเก้าหางเท่านั้น ทำให้ตอนตั้งครรถ์เขาท่านแม่เลยทะนุบำรุงอย่างดีให้พร้อมที่แก่นรากวิญญาณจะเข้ามาอยู่ในร่างกายเขาจนกว่าจะคลอด แต่เมื่อคลอดก่อนกำหนดแก่นรากวิญญาณจึงไม่สมบูรณ์ ยังมีบางส่วนที่เหลือในตัวท่านแม่อยู่ และท่านแม่เองตั้งแต่ตั้งครรถ์ก็ไม่สามารถดึงพลังของมันใช้ได้ เพราะมันจะถ่ายเทพลังมาที่เขาแทน ท่านแม่จึงอ่อนแอจนใช้เวทย์มากไม่ได้ แถมยังโดนทำร้ายจนบาดเจ็บแทบไม่เหลือพลังเวทย์แล้ว หากจะใช้เวทย์เคลื่อนย้ายทางไกลทั้งแม่และลูกต้องพลังหมดก่อนจนโดนจับได้แน่ ท่านแม่จึงเลือกส่งเขากลับมาคนเดียว ส่วนตัวเองจะออกไปล่อให้พวกที่ต้องการแก่นรากวิญญาณมาเอาที่ตัวนางเอง เพื่อที่พวกมันจะได้ไม่ตามล่าลูกของนางต่อไป โดยไม่บอกท่านพ่อว่าอยู่ที่ไหนเพื่อให้ท่านพ่อไปช่วยหรือไม่ได้บอกว่าใครที่เป็นคนไล่ล่าอยู่ ท่านแม่บอกเพียงจงใช้ชีวิตให้มีความสุขเพื่อนางแล้วไม่ต้องแก้แค้นใดๆ ใช้ชีวิตต่อไปให้ดีเป็นพอ

"ใช่ ข้าเอง นางช่างทำข้าเจ็บแสบนัก ไม่เพียงแต่ฆ่าน้องชายของข้าได้ ก่อนตายนางยังร่ายเวทย์คำสาปใส่แก่นรากวิญญาณที่เหลืออยู่จนตอนนี้ลูกข้าที่ใช้มันเจ็บปวดเจียนตาย เมื่อทำการบำเพ็ญเพื่อบำลุเป็นเทพเซียน นอกจากแก่นรากวิญญาณที่เหลืออยู่เท่านั้นที่จะแก้คำสาปนี้ได้ หรือเลือดของจิ้งจอกเก้าหางที่ทำการสาปเท่านั้นที่จะล้างคำสาปได้ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ก็คือเด็กคนนั้น ลูกของนางที่เป็นทั้งทายาทจิ้งจอกเก้าหางและเป็นแก่นรากวิญญาณที่เหลือ ข้าเพิ่งจะรู้ไม่นานนี่เองว่าแก่นรากวิญญาณจะส่งมอบกันในครรถ์เท่านั้น หากข้ารู้ ข้าจะรอจนกว่านางจะคลอดเด็กคนนั้นออกมาอย่างสมบูรณ์เลยละ แล้วค่อยแย่งชิงแก่นรากวิญญาณนั้นอีกที เรื่องราวจะได้ง่ายกว่านี้ พอข้ารู้ว่าลูกต้องคำสาป ก็ผ่านมาแล้วตั้งห้าปี ข้าตามล่าหาเบาะแสพวกเจ้าอยู่นาน แต่ก็ไม่พบอะไรสักอย่างทั่วทั้งแผ่นดินไม่มีใครรู้จักสามีหรือครอบครัวของนางเลย พวกเผ่าจิ้งจอกก็หายสาปสูญไปตั้งแต่เผ่าอสูรบุกลุกครั้งก่อน ข้าจึงได้แต่คิดว่าสามีของนางต้องเป็นบุคคลที่มีพลังแข็งแกร่งมากเป็นแน่ หรือไม่ก็เป็นผู้ใช้เวทย์ที่สามารถสร้างอาณาเขตเวทย์เป็นของตัวเองได้แน่ๆ ข้าเลยหาตัวพวกเจ้าไม่พบสักที ต้องได้ไปขุดหาศพภรรยาเจ้าที่ก้นเหวขึ้นมาเพื่อตามรอยจากกระดูกที่มีพลังแฝงหลงเหลืออยู่เพียงนิดนั้น กว่าที่จอมเวทย์คนของข้าจะหาร่องรอยพบว่าอยู่ในป่าอาถรรพ์เวลาก็ล่วงเลยมาเกือบสิบปี สิบปีที่ลูกข้าทนทุกข์ทรมาน ที่ข้าต้องทนเห็นลูกข้าทุรนทุรายทุกครั้งเมื่อเดินพลังยุทธ์ เจ้ารู้มั้ยว่าข้าอยากจะกระชากวิญญาณนางกลับมาทรมานให้หายแค้นใจ เดิมทีข้ารู้สึกผิดที่ทำหน้าเด็กคนนึงต้องกำพร้าแม่ แต่ลูกข้าก็จำเป็นต้องมีชีวิตเหมือนกัน พอเห็นลูกตนเองมีชีวิตอย่างทุกข์ทรมานเช่นนั้น ไฉนเลยคนเป็นพ่อจะอยู่เฉยได้ ฉะนั้นไม่ลูกนางก็ลูกข้าที่ต้องมีชีวิตอยู่ ต่อให้ข้าจะตกนรกขุมสุดท้ายที่ก่อเวรสร้างกรรม ข้าก็ไม่สนใจ ขอเพียงลูกข้ามีชีวิตในเส้นทางเทพเซียนนั้นก็เพียงพอแล้ว ตลอดสามวันที่ข้าเฝ้าดูเจ้าฝึกเวทย์นี่ก็รู้ได้แล้วว่าเจ้าเป็นปรมาจารย์เวทย์ มีความเป็นไปได้ว่าเจ้าจะเป็นสามีนาง ข้าจึงสืบเรื่องราวของเจ้าจนรู้ว่าเจ้าเป็นผู้คิดค้นเวทย์บทต่างๆและอาวุธเวทย์ที่เป็นประโยชน์มากมาย เป็นผู้ที่ควรค่าแก่การนับถืออย่างยิ่ง แต่ที่ทำให้เจ้ามีสภาพเช่นนี้ คงเป็นเพราะพลังแฝงที่เหลือของกระดูกภรรยาเจ้า ที่ดูจะตื่นเต้นมีพลังเพิ่มขึ้นมาเมื่อเข้าใกล้เขตป้องกันเวทย์ของเจ้า นั้นจึงทำให้ข้ามั่นใจว่าเป็นเจ้าจริงๆ ซึ่งตอนนี้หากเจ้าอยากมีชีวิตอยู่ ก็ส่งสารเวทย์ให้ลูกเจ้ามาที่นี่ซะ ข้าจะไม่ทำอะไรลูกเจ้า ขอเพียงเลือดไม่กี่หยดที่เพียงพอจะล้างคำสาปเท่านั้น เมื่อถอนคำสาปได้ ข้าสัญญาจะปล่อยพวกเจ้าไปและไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกเจ้าอีก"หลิงหลงพูดออกมาอย่างหน้าไม่อาย ท่าทางที่ข่มขู่กับคำพูดที่เหมือนขอร้องนี่ดูยังไงก็เชื่อถือไม่ได้ทั้งสิ้น

"อ้าว พี่ใหญ่ ไหนพี่บอกว่าจะเอาทั้งเลือดไปล้างคำสาปทั้งแก่นรากวิญญาณไปเพิ่มพลังยังไงละ นี่ท่านจะเปลี่ยนใจงั้นเหรอ"ร่างใหญ่ทางซ้ายมือที่คอยทำร้ายท่านพ่อยามที่ท่านพ่อเผลอ เอ่ยขึ้นมาเมื่อหลิงหลงที่บีบคางท่านพ่ออยู่พูดจบ

"หุบปากเจ้าไปซะเจ้าสาม!! ไม่รู้อะไรก็ไม่ต้องพูด"เสียงตวาดดังขึ้นมาก่อนจะปล่อยคางที่บีบแล้วลุกขึ้นยืนตรงหน้าท่านพ่อ

"เจ้าจะส่งสารเวทย์เรียกลูกเจ้ามามั้ย หากไม่ มีแค่ทางเดียวให้เจ้าเลือก คือตาย!!!! เพราะถือว่าข้าให้ทางรอดเจ้าแล้ว และในไม่ช้า หากข้าตามหาลูกเจ้าพบข้าจะส่งเขาตามเจ้าไปซะ"เสียงเหี้ยมพูดออกอย่างเหลืออดเต็มที

"ต่อให้ตายข้าก็ไม่เชื่อคำที่เจ้าบอกหรอก เจ้ากล้าฆ่าคนที่ไม่เคยทำอะไรให้เจ้าอย่างชิวหลิง ทำไมจะไม่กล้าฆ่าข้าและลูก คำพูดของเจ้ามีคำไหนที่เชื่อได้กัน"ท่านพ่อเอ่ยออกมาอย่างโกรธแค้น

"นี่เจ้า!!! ได้ งั้นข้าจะไม่ใจดีกับเจ้าอีกแล้ว ทำร้ายมัน!!! เค้นออกมาให้ได้ว่าลูกมันอยู่ที่ไหน!!"เสียงเหี้ยมเอ่ยออกมาอย่างเกรี้ยวกราด พร้อมทั้งจอมเวทย์สามคนก็ร่ายเวทย์เพื่อตึงร่างท่านพ่อด้วยเชือกมัดเซียนเวทย์ไว้สี่มุมสองเส้นล่ามแขนทั้งสองข้างอีกสองล่ามข้อเท้า แต่เมื่อเห็นท่านพ่อยังคงร่ายเวทย์อะไรบางอย่างก็เสกอีกเส้นมามัดคอไว้ ลักษณะไม่ต่างอะไรจากนักโทษที่ต้องประหารด้วยห้าม้าแยกร่างเลย และเขาก็เพิ่งรู้ว่าเวทย์ที่ท่านพ่อฝืนพลังเวทย์เฮือกสุดท้ายใช้นั้นคือเวทย์ผนึกความทรงจำและความรู้สึกลงในจิตวิญญาณเพื่อส่งกลับมาให้เขาและเสี่ยวหู่ พร้อมทั้งฝากฝังเขาให้เสี่ยวหู่ดูแล เพราะท่านพ่อมั่นใจว่าเสี่ยวหู่จะดูแลเขาได้แน่ๆ พร้อมทั้งบอกรักเขาเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ก่อนที่ท่านพ่อจะทนความเจ็บปวดทรมานไม่ไหวใกล้จะตาย ก็มีวิหคเพลิงสัตว์เวทย์ระดับเก้าบินอยู่เหนือฟากฟ้าพร้อมทั้งสะบัดขนที่เต็มไปด้วยเพลิงลงมาที่จุดที่ท่านพ่อโดนมัดตึงไว้อยู่ และรอบๆตัวที่มีต้นไม้อยู่มากมายทำให้เกิดกองเพลิงรอบๆคนพวกนี้กองใหญ่ วิหคเพลิงที่ฝืนฉีกมิติพันธะสัญญาออกมาก็บาดเจ็บพอตัว แต่จะให้คู่พันธะตัวเองตายไม่ได้ เพราะซีหลี่นั้นเป็นเพื่อนบำเพ็ญที่ดีที่สุดที่มันเคยมีมา จะให้อยู่เฉยคงไม่ได้มันจึงฉีกมิติออกมาแล้วปล่อยขนเพลิงเพื่อช่วยซีหลี่เท่านั้น ซึ่งตอนนี้จอมเวทย์ทั้งสามเผลอตัวลืมร่ายเวทย์ให้เชือกมัดเวทย์แน่นเหมือนเดิม เป็นทีให้ท่านพ่อร่ายเวทย์ผนึกได้สำเร็จ เมื่อกำลังจะหลุดจากเชือกที่พันธการจอมเวทย์ทั้งสามก็หันกลับมาร่ายเวทย์ให้เชือกแน่นเหมือนเดิม ส่วนวิหคเพลิงตอนนี้ก็มีร้องเจ็บปวดออกมาเป็นระยะ เพราะโดนอสรพิษนิลกาฬและเต่ามังกรรุมทั้งร้ายทั้งซ้ายขวาอยู่ วิหคเพลิงที่โดนโจมตีทั้งสองฝั่งจึงทำได้เพียงตั้งรับ จนตอนนี้พลังที่เหนือกว่าขั้นนึงของวิหคเพลิงได้แต่ถดถอยลงจากการได้รับบาดเจ็บทั้งฝืนมิติและโดนรุมทำร้าย ร่างวิหคจึงเผาไหม้ตัวเองเพื่อนำร่างนี้กลับเผ่าตัวเองจากพลังที่ใกล้หมด เพื่อกำเนิดตัวเองจากขี้เถ้าใหม่ โดยกำเนิดขึ้นมาเหมือนเดิมทุกอย่างทั้งรูปร่างและพลัง ความทรงจำ แต่ต่างตรงไม่มีพันธะแล้วเพราะถือว่าร่างเดิมตายไปแล้ว ตอนนี้บนท้องฟ้าจึงเหลือแต่อสรพิษนิลกาฬและเต่ามังกรที่แทบไม่ได้รับบาดเจ็บเลย จากนั้นก็มีกระเรียนน้ำที่บินโปรยน้ำลงไปบนกองเพลิงเพื่อดับไฟ เมื่อสถานการณ์กลับมาสงบพวกที่ถูกเรียกว่าน้องสามก็เข้ามาทำร้ายทุบตีท่านพ่อทันที เมื่อเห็นท่านพ่อไม่ปริปากอะไรสักคำ พวกมันจึงทรมานท่านพ่อ โดยเฉือนเนื้อและเส้นเอ็นท่านพ่อออกมาอย่างโหดเหี้ยมเริ่มจากขาทั้งสองข้างจนแขน มาที่ลำตัว ทั้งเนื้อทั้งตัวท่านพ่อเต็มไปด้วยเลือด จนในที่สุดท่านก็จากไปอย่างทรมานพร้อมทั้งจิตวิญญาณที่แตกละเอียดจากความเจ็บปวดที่ได้รับทั้งกายและใจ อยู่ๆเขาก็รู้สึกวูบแล้วเหมือนมีอะไรเขย่าตัวสักอย่าง

"หลันเอ๋อร์!! ตื่นสิ ตื่น! รู้สึกตัวสักทีสิหลันเอ๋อร์"เสียงเสี่ยวหู่เรียกเขา และแรงที่เขย่าตัวนี่อีก เขาจึงลืมตาที่มีแต่น้ำตาขึ้นมา ก็เห็นเสี่ยวหู่มองเขาอย่างเจ็บปวดและสงสารเขา เขาจึงพุ่งตัวเข้าไปกอดเสี่ยวหู่ทันทีพร้อมทั้งร้องไห้ออกมาอย่างหนัก กับสิ่งที่เขามองเห็น ทั้งท่านพ่อและท่านแม่ล้วนแต่ใช้ชีวิตปกป้องเขา ใช้ชีวิตตัวเองแลกให้เขามีชีวิตอยู่ จากคนผู้เดียวที่โหดเหี้ยมที่สุด หลิงหลงเจ้าสำนักมังกรนิลเพลิง

"ไม่เป็นไร ข้าอยู่นี่แล้วหลันเอ๋อร์ ข้าอยู่นี่"เสี่ยวหู่กอดเขาแน่น พร้อมทั้งลูบหลังเขาไปด้วย

"พวกมัน!! พวกมันฆ่าท่านพ่อและท่านแม่ พวกมันทรมานท่านพ่อ ทำร้ายจิตใจท่านพ่อ ชั่วช้าที่สุด!!!ข้าเกลียดพวกมัน!! เกลียดๆๆ ข้าจะฆ่าพวกมันทุกคน!! ข้าจะแก้แค้นให้ท่านพ่อและท่านแม่"เขาร้องไห้ฟูมฟายออกมาพร้อมหมายมาดจะแก้แค้นให้ครอบครัวของเขา

"ได้สิ หากเจ้าจะแก้แค้น ข้าจะช่วยเจ้าเอง แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาของเรา ตอนนี้พวกมันทั้งแข็งแกร่งและมีจำนวนมากกว่าเรา กำลังตามล่าเราอยู่ เราคงต้องอยู่แต่ในอาณาเขตวิมานดาวฝึกฝนตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นจนมากพอจะฆ่าพวกมันได้ แล้วเราจะเป็นฝ่ายไปหามันเอง พร้อมทั้งสงครามเลือดที่เราจะละเลงด้วยสองมือของเรา"เสี่ยวหู่พูดด้วยน้ำเสียงและท่าทางราวกับให้คำสัญญาว่าช่วยเขาอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตาม นั้นยิ่งทำให้เขาร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม เพราะอย่างน้อยก็เหลือครอบครัวเขาอีกคนนึงที่พร้อมจะปกป้องและก้าวเดินไปกับเขาทุกที่ ไม่เว้นแม้แต่นรก

"อืม ยังไม่ถึงเวลาของเรา เราต้องแข็งแกร่งกว่านี้"เขาที่เปลี่ยนความเสียใจเป็นแรงผลักดันก็เริ่มปาดน้ำตาไม่ร้องไห้ฟูมฟายแล้ว จึงแบ่งหน้าที่กับเสี่ยวหู่เพื่อทำการปกปิดเขตที่อยู่นี้ใหม่แล้วเริ่มวางแผนหลอกล่อพวกนั้นไปไกลๆจากตำราเวทย์ใหม่ๆที่ท่านพ่อเขียนไว้ แต่ยังไม่เคยทดลอง เพื่อถ่วงเวลาให้เขากับเสี่ยวหู่ฝึกตัวเองเลื่อนขั้นขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด โดยแผนที่วางไว้น่าจะมีเวลาฝึกสองถึงสามปีเลยทีเดียว

ของขวัญจากผู้อ่านคือกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ช่วยส่งกำลังใจให้ไรต์หน่อยนะ!

mmmintmintcreators' thoughts