webnovel

ตอนที่1 ตามมาพบผมที่ห้องทำงาน

" ไม่!!!!..."

05:30 น.

เมื่อสิ้นสุดเสียงของชายหนุ่มร่างเล็กที่ได้ร้องลั่นห้องนอนห้องใหญ่ เขาก็ได้สะดุ้งตื่นพร้อมลุกขึ้นนั่ง มือทั้งสองข้างกำผ้าห่มสีขาวไว้แน่น พร้อมหายใจรัวคล้ายกับคนที่ตกใจกลัวอะไรบางอย่าง ซึ่งถ้าให้เดาเขาคงฝันไม่ค่อยดีนักเท่าไหร่ และเมื่อเขาเริ่มได้สติเขาจึงเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่บนลิ้นชักไม้ใกล้กับหัวเตียงเพื่อปิดเสียงของนาฬิกาปลุกที่เขาตั้งทิ้งไว้เมื่อตอนหัวค่ำเพื่อให้ปลุกเตือนเขาให้ตื่นในเวลาที่กำหนด

ซึ่งชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่าไป๋ ซึ่งไป๋นั้นพึ่งจบจากการศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และวันนี้ก็เป็นวันแรกที่ไป๋จะต้องไปฝึกงานที่บริษัทของคุณอานทีซึ่งคุณอานทีเป็นเพื่อนสนิทของพ่อและแม่ของไป๋ ท่านจึงฝากลูกชายเพียงคนเดียวให้มาฝึกงานกับเพื่อนสนิทเพื่อท่านทั้งสองจะได้สบายใจ

ชายหนุ่มร่างเล็กที่กำลังนั่งกุมขมับอยู่บนเตียงคล้ายกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง เขาค่อยๆหายใจเข้าออกอย่างช้าๆเพื่อตั้งสติก่อนที่จะลุกขึ้นพร้อมก้าวฝีท้าวเดินตรงไปที่ห้องน้ำเพื่อจัดการทำธุระส่วนตัวให้เสร็จ..... เขาใช้เวลาไม่นานในการทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ จากนั้นร่างเล็กได้บิดกรประตูห้องน้ำออกพร้อมเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าคลุมสีขาวเพียงผืนเดียวที่ใช้ในการคลุมตัว ก่อนที่จะเดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าที่อยู่ไม่ห่างจากจุดที่เขายืนอยู่

ชายหนุ่มร่างเล็กได้หยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวพร้อมกางเกงขายาวสีดำสุภาพและก้มลงไปเปิดลิ้นชักล่างที่อยู่ภายใต้ตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบเนคไทสีดำในลิ้นชักออกมาเพื่อที่จะนำไปใส่ในวันฝึกงานในวันนี้ จากนั้นเขาก็นำสิ่งที่พึ่งหยิบออกมาทั้งหมดมาวางเรียบไว้กับที่นอนเพื่อรอใส่หลังจากเป่าผมเสร็จ

"ฟู้ววววว...."

เสียงของเครื่องเป่าผมที่ถูกเจ้าของนิ้วเรียวยาวเปิดขึ้นเพื่อใช้ทำหน้าที่ในการเป่าผมของร่างเล็กให้แห้งสนิด ร่างเล็กใช้เวลาไม่นานในการเป่าผมให้แห้งและเมื่อผมแห้งสนิดแล้วเขาจึงเอื้อมมือไปถอดปลั๊กของเครื่องเป่าผมที่ถูกเสียบไว้อยู่ออก ก่อนที่จะก้มลงไปหยิบกางเกงขายาวสีดำที่วางไว้บนเตียงนอนมาใส่ให้เรียบร้อยและก้มลงไปหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวพร้อมเนคไทขึ้นมาใส่ตามหลัง

"ตื้ดดด"..... "ตื้ดดด"..... "ตื้ดดด"....

เสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนลิ้นชักไม้ข้างหัวเตียงได้ดังขึ้น ก่อนที่ร่างเล็กจะเดินอ้อมเตียงใหญ่เข้าไปหยิบขึ้นมาและมองดูรายชื่อที่อยู่บนหมายเลขโทรศัพท์ เมื่อเขารับรู้แล้วว่าเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์ผู้นี้คือใครเขาจึงกดรับสายในทันที

"ครับแม่...." ร่างเล็กกดรับสายพร้อมทักทายผู้เป็นแม่ทันที

"เป็นยังไงบ้างไป๋ไปบริษัทของอานทีรึยัง....."

"ใจเย็นครับแม่....นี้พึ่งจะหกโมงครึ่งเองนะครับ"

ร่างเล็กถือสายพร้อมเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายข้างสีดำที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานและหยิบแฟ้มเอกสารสำคัญที่อยู่ข้างกันใส่เข้าไปในกระเป๋า

"ไปทำงานแล้วก็ทำตัวดีๆนะห้ามมีปัญหาเด็ดขาดแม่เกรงใจอานทีเค้า....."

"ครับ....แม่ แม่บอกผมเป็นพันครังแล้วนะ งั้นแค่นี้ก่อนนะครับผมเดี๋ยวสักพักผมก็ออกไปแล้ว"

เมื่อจบการสนทนาร่างเล็กก็จัดการกดวางสายในทันที และเดินตรงไปที่ห้องครัวพร้อมเปิดตู้เย็นและหยิบขวดนมวัวรสจืดออกมาเปิดฝาและจัดการเทนมใส่แก้วพอประมาณจากนั้นเขาก็เดินเข้ามาที่ห้องโถงใหญ่พร้อมหยิบรีโมทโทรทัศน์ขึ้นมาเปิดเพื่อดูข่าวสารต่างๆในยามฟ้าแจ้ง....

"07:00 น."

ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาที่ค่อนข้างที่จะเริ่มสายแล้วสำหรับบริษัทใหญ่อย่างบริษัท อาร์เอส หรือบริษัทของคุณอานทีนั้นเอง ร่างเล็กได้หยิบโทรศัพท์ขนาดหน้าจอ 6.06นิ้ว ขึ้นมาเพื่อเปิดดูเวลา ก่อนที่จะเบิกตากว้างเพราะเขาไม่คิดว่าเวลาจะเดินเร็วขนาดนี้ ซึ่งนมในแก้วของร่างเล็กยังไม่หมดจากแก้วเลยด้วยซ้ำ เขารีบหยิบรีโมทโทรทัศน์ที่วางไว้อยู่ตรงหน้าขึ้นมาเพื่อกดปุ่มปิดและได้วิ่งไปที่โต๊ะทำงานในห้องนอนเพื่อหยิบกระเป๋าเอกสารสีดำ และไม่ลืมที่จะหยิบกุญแจรถเก๋งสีดำคู่ใจที่คุณพ่อและคุณแม่ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดครบรอบ 18ปีเต็ม ไปด้วย

ร่างเล็กได้กดลิปที่อยู่ในชั้น14เพื่อลงมา ณ ชั้น1ของคอนโด เมื่อมาถึงเขาไม่รอช้าที่จะวิ่งจ้าไปที่รถเก๋งคันสีดำที่จอดอยู่ไม่ไกลจากคอนโด เขาใช้เวลาไปเพียง15นาทีในการขับรถเพื่อตรงมาที่ทำงาน

"ขอโทษนะครับ...ตรงนี้จอดรถไม่ได้นะครับ...."

หลังจากที่เขาขับมาถึงที่ทำงานและกำลังจอดรถ แต่จู่ๆก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือที่เรียกว่า รปภ วัยกลางคนได้เดินเข้ามาเพื่อบอกให้ไป๋นั้นเปลี่ยนที่จอด

"ทำไมถึงจะจอดไม่ได้ล่ะครับ...ผมก็เห็นอยู่ว่าว่าง"

ไป๋ได้เอ่ยถาม รปภ ไปด้วยความสงสัยเพราะที่ ๆ เขาจอดอยู่ก็ล้วนแต่เป็นพื้นที่ส่วนกลางในการจอดรถของพนักงานของบริษัทนี้

"เอ่อ..."

รปภ วัยกลางคนได้แต่อ้ำอึ้งไม่ยอมพูดออกมา จนมีรถเก๋งคันสีขาวทะเบียนป้ายแดงได้ขับเข้ามาจอดอยู่ตรงหน้าที่ไป๋และ รปภ วัยกลางคนคนนั้นยืนอยู่พร้อมกับลดกระจกลงต่ำเพื่อมองดูด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

ปี้กกก ๆ ๆ !!!

เสียงของแตรรถเก๋งคันดังกล่าวได้ดังขึ้นมา 2-3 ครั้งก่อนที่เสียงของ รปภ จะรีบกล่าวขอโทษผู้หญิงในรถที่กำลังทำสีหน้าไม่พอใจอยู่ รปภ ได้หันมาขอร้องร่างเล็กอีกครั้งเพราะตนไม่อยากมีปัญหากับคุณพรอยมนว่าที่คู่หมั้นของเจ้าของบริษัทที่เขากำลังทำงานอยู่

ร่างเล็กจ้องมองไปที่ผู้หญิงในรถที่กำลังบีบแตรไม่หยุดเพื่อส่งสัญญานให้ไป๋ไปจอดที่อื่น จนตอนนี้ทุกคนในระแวกใกล้เคียงก็ต่างหันมามองทางต้นเสียงที่ดังขึ้นเป็นระยะไม่ยอมหยุด จนสุดท้ายหญิงสาวหุ่นดีผิวขาวผมรอนได้เปิดประตูรถเก๋งสีขาวและเดินลงมาหยุดอยู่ต่อหน้า รปภ

"นิ่!!! ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหม? ว่าห้ามให้ใครมาจอดในที่ของฉันเด็ดขาด อยากตกงานรึไง!!"

"ขอโทษครับคุณพรอยมน..."

"นิ่!คุณ ช่วยให้เกียรติคุณลุงเค้าด้วยครับ..."

"แล้วนายเป็นใครมีสิทธิอะไรมาสั่งฉัน!!!"

ผมกำลังจะโต้ตอบกลับไปแต่ก็มีชายสูงขาวผมบอนแต่งตัวดูดีดูเข้มหล่อและสุขุมเดินเข้ามาขัดจังหวะไว้สะก่อน ชายคนนี้ก็คือคุณพอร์ชซึ่งเขาเป็นCEOของบริษัทนี้และก็เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของอานทีเพื่อนสนิทของพ่อและแม่ไป๋นั้นเอง

"มีอะไรกัน....."

เสียงเข้มที่อยู่ไม่ไกลจากจุดที่ทุกคนยืนอยู่ได้ดังขึ้น ทุกคนก็ต่างหันไปมองตามต้นเสียงก่อนที่พนักงานทุกคนจะรีบแยกย้ายกันออกไป ชายคนนี้เดินเข้ามายืนอยู่ต่อหน้าทั้งสาม เพื่อถามปัญหาที่เกิดขึ้น พรอยมนไม่รอช้าที่จะทำตัวน่าสงสารและเข้าไปเกาะแขนของคนตัวสูงพร้อมเอ่ยคำฟ้องให้แก่คนตัวสูงฟัง

"พอร์ชข๋าา.... ก็เด็กนี้มันมาแย่งที่จอดรถของพรอยอ่ะ พรอยขอร้องดีๆแล้วนะคะแต่เด็กนี้ก็ไม่ยอมถอยรถแถมยังมาว่าพรอยอีกอ่ะ"

"โอ๋โห๋!!... คุณเนี่ยแต่งเรื่องเก่งจังเลยนะครับ ก็เห็น ๆ อยู่ว่าผมมาจอดก่อน ...."

"นิแก!!!...."

ไป๋ขมวดคิ้วพร้อมส่ายหน้าออกมาเบาๆและกำลังจะเดินหนีออกไปแต่ร่างสูงก็ได้เอ่ยคำสั่งให้ไป๋หยุด ก่อนที่จะหันไปพูดกับว่าที่คู่หมั้นของตน

"พรอยมนผมเคยบอกคุณแล้วใช่ไหม? ว่าที่จอดรถไม่มีคำว่าของใคร พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ส่วนรวมใครมาก่อนก็มาสิทธิ์จอดก่อน"

ร่างเล็กยิ้มมุมปากออกมาอย่างสะใจ อย่างน้อยประธานบริษัทแห่งนี้ก็ไม่ได้เข้าข้างคู่หมั้นตัวเองจนไม่ลืมหูลืมตา

"แต่พอร์ชคะ!!...."

พรอยมนไม่มีโอกาสแม้แต่ที่จะได้พูดต่อให้จบประโยค คุณประธานบริษัทอย่างคุณพอร์ชก็พูดแทรกขึ้นมาสะก่อน

"ส่วนคุณ...ตามมาพบผมที่ห้องทำงานด้วย"

ร่างเล็กถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แต่ก็เดินตามคุณพอร์ตไปโดยไม่ปฏิเสธ แต่เขาก็มีแอบคิดในใจว่านี้พึ่งมาวันแรกก็จะโดนไล่ออกเลยหรอเนี่ย.... ทั้งสองคนเดินออกไปโดยที่ปล่อยให้หญิงสาวว่าที่คู่หมั่นของท่านประธานยืนทำหน้าไม่พอใจอยู่คนเดียว.....

ตอนนี้ร่างเล็กที่กำลังเดินตามท่านประธานอย่างคุณพอร์ชเข้ามาในบริษัท ไม่ว่าจะเป็นแผนกไหน ๆ ก็เริ่มสนใจและหันมามองทั้งสองเป็นสายตาเดียว ไป๋ก็ไม่ได้สนใจใครหรืออะไรทั้งนั้นเค้าได้แต่เดินก้มหน้าก้มตามาตามคุณพอร์ชไปอย่างเงียบ ๆ แต่จู่ ๆ ร่างสูงก็หยุดชะงักขึ้นมาแบบกะทันหันจนร่างเล็กที่ไม่ทันจะได้ตั้งตัว ได้ชนไปที่แผ่นหลังอันใหญ่ของเขาไปเต็ม ๆ

"ตึ๊ก!!! โอ๊ย.....!!!!" ร่างเล็กได้แต่ลูบหน้าผากของตัวเองไปมาพร้อมขมวดคิ้วท้าชก

"เดินมองทางหน่อยสิ่ไม่ไช่มั่วแต่มองเท้าตัวเอง" คุณท่านประธานพูดออกมาอย่างหน้านิ่ง ๆ

ร่างเล็กได้แต่กัดฟันตัวเองพร้อมเบิกตากว้าง และกำลังที่จะตอบโต้กลับไปแต่คุณพอร์ชก็หันไปพูดกับพนักงานคนนึงสะก่อน

"เอ่อ..คุณทิพย์ช่วยตามผมไปที่ห้องทำงานด้วยนะครับ" ร่างสูงหันไปสนทนากับหญิงวัยกลางคนที่ใส่แว่นปากแดงผมรวบตึงและกำลังนั่งจดจ่ออยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นเลขาของเขา

" อ๋อ... ได้ค่ะ " หญิงคนที่พึ่งถูกท่านประธานเรียกในเมื่อสักครู่นี้ได้ละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์พร้อมนิ้วเรียวขยับแว่นที่หล่นมาจุกับจมูกโด่งให้เข้าที่และหันมาตอบรับผู้เป็นนายในทันที

จากนั้นทั้งร่างเล็กและพนักงานคนดังกล่าวก็ได้เดินตามร่างสูงเข้าไปในห้องทำงาน ซึ่งเมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานห้องใหญ่ของท่านประธาน ร่างเล็กก็จ้องมองไปรอบห้องอย่างกับคนที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะทุกอย่างถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบและห้องก็สะอาดตามากๆ ร่างเล็กได้แต่คิดในใจไปว่า ชายสูงที่เดินนำเขามาไม่ได้เป็นคงจัดเองแน่ๆ และถ้าให้เดาอีกก็คงเป็นคุณคู่หมั้นของเขานั้นแหละเป็นคนจัดให้

เมื่อเข้ามาถึงร่างสูงก็ได้เดินอ้อมโต๊ะทำงานไปนั่งที่เก้าอี้หนังสีดำหรูดูแพงสมกับเป็นเก้าอี้ของCEOบริษัท

"นี้คุณทิพย์เลขาของผม แล้วนี้ไป๋เป็นเด็กฝึกงานใหม่ครับ..." ร่างสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังพร้อมใช้แขนเรียวยาวทั้งสองวางเรียบลงมาที่โต๊ะทำงานได้แนะนำระหว่างเลขาของเขาและร่างเล็กให้ทั้งสองรู้จักกัน

"เอ่อ.....สวัสดีครับคุณทิพย์" ร่างเล็กได้หันตัวไปทางที่หญิงวัยกลางคนได้ยืนอยู่และยกมือขึ้นพร้อมก้มหัวไหว้คนตรงหน้าอย่างสุภาพ

"สวัสดีค่ะ.....เอ่อ แต่ทุกครั้งที่เด็กฝึกงานเข้ามาทำงานบอสไม่ได้ให้เข้ามาที่ตึกนี้ไม่ใช่หรอคะ" หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะที่จริงแล้วเด็กฝึกงานจะอยู่คนละตึกกับพนักงานทั่วไป

"นี้แหละที่ผมจะบอก ผมอยากให้คุณทิพย์ช่วยพาไป๋ไปแนะนำให้ทุกคนรู้จักและอยากให้คอยสอนงานไป๋หน่อย ได้ไหมครับ"

"เอ่ออ..... " หญิงสาววัยกลางคนอ้ำอึ้งอยู่สักพัก

"คือไป๋เนี่ยเป็นลูกของเพื่อนสนิทป๊า....ผมเลยอยากให้ไป๋อยู่ในความดูแลของผม" ผู้เป็นนายของหญิงวัยกลางคนได้อธิบายต่อให้เขาได้เข้าใจ

"อ๋อค่ะ...แล้วบอสอยากให้น้องฝึกงานที่แผนกไหนคะ..."

" เอาเป็นแผนกอีเว้นท์ก็แล้วกัน"

"ได้ค่ะ....."

หลังจากจบการสนทนาระหว่างบอสและเลขา คุณพอร์ชก็สั่งให้เลขาของเขานั้นออกไปก่อน ก่อนที่จะลากสายตามองร่างเล็กที่ยืนนิ่งอยู่ต่อหน้า คุณพอร์ชได้ลุกขึ้นออกจากเก้าอี้เขาค่อยๆก้าวเท้าเดินมาใกล้ร่างเล็กอย่างช้าๆ ร่างเล็กค่อยๆใช้สายตาชำเลืองมองก่อนจะเอ่ยถามคุณท่านประธานของเขาออกมาอย่างใจกล้า

ท่านประธานจะทำอะไรครับ?!!!

ของขวัญจากผู้อ่านคือกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ช่วยส่งกำลังใจให้ไรต์หน่อยนะ!

DaoistNJqWVVcreators' thoughts