ดวงใจ...เจ้าเฟยหลง
ตอนที่ 8.....ของขวัญ
เฉินลู่เหลียนกลับเข้ามาในห้องพักของตัวเองหลังจากได้ร่วมรับประทานอาหารค่ำกับเจ้าเฟยหลงเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งลงบนเตียงของตัวเองก่อนที่จะเอื้อมมือไปหยิบบางอย่างที่ลิ้นชักข้างหัวเตียง ซองจดหมายสองฉบับถูกนำมาถือไว้และถูกอ่านอีกครั้ง น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลออกมาเมื่ออยู่ตามลำพัง ข้อความในจดหมายสร้างความสะเทือนใจให้กับผู้ที่อ่าน
"ท่านย่า" หญิงสาวเอ่ยชื่อเจ้าของจดหมายนั้นเสียงเครือ รู้สึกคิดถึงย่าของตนเองจับหัวใจ
"นายหญิงเจ้าคะ" เสียงของสาวใช้ทำให้เฉินลู่เหลียนรีบเช็ดน้ำตา นางไม่ต้องการให้ผู้ใดได้เห็นมัน ไม่อยากให้ใครเห็นความอ่อนแอที่เก็บซ่อนเอาไว้
"มีอะไรหรือจ๊ะ" อดีตสาวใช้เอ่ยถามเสียงหวาน
"ท่านแม่ทัพให้มาเชิญนายหญิงให้ไปที่หอสมุดเจ้าค่ะค่ะ" สาวใช้บอกตามคำสั่งที่ได้รับมา
"ท่านแม่ทัพมีอะไรหรือเปล่า"
"ข้าไม่ทราบเจ้าค่ะ แต่ท่านแม่ทัพบอกว่าให้นายหญิงไปพบให้ได้ และถ้านายหญิงปฏิเสธข้าจะถูกลงโทษเจ้าค่ะ" สาวใช้พูดรัวๆ เสียงสั่นเล็กน้อยเพราะกลัวกับคำสั่งนั้น เฉินลู่เหลียนถอนหายใจ ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะบีบให้นางไม่มีทางเลือกนอกจากยอมทำตามคำสั่งโดยดี
"ไปบอกท่านแม่ทัพว่าอีกสักครู่ข้าจะไปพบ" สาวใช้ยิ้มดีใจ อย่างน้อยการตอบรับนั้นก็ทำให้ตนไม่ต้องโดนลงโทษ
-----------------+
เฉินลู่เหลียนเดินเข้ามาในห้องหนังสือด้วยท่าทางที่สงบและเยือกเย็น หอสมุดที่ว่าตั้งอยู่ไม่ไกลจากหอพักของเจ้าเฟยหลงนัก ที่นี่เต็มไปด้วยหนังสือมากมาย บ่งบอกว่าผู้เป็นเจ้าของเป็นพวกที่มีความใฝ่รู้ เมื่อเห็นคนที่ตนต้องการพบมาแล้ว แม่ทัพหนุ่มก็โบกมือสองสามทีเป็นการไล่บรรดาเด็กรับใช้ให้ออกไป
"ท่านต้องการพบข้ามีเรื่องอะไรหรือเจ้าคะ"
"มีบางอย่างที่ข้าอยากให้เจ้า" แม่ทัพหนุ่มบอกพร้อมทั้งยกหีบไม้ที่สลักลวดลายสวยงามขนาดพอประมาณมาวางไว้ตรงหน้าของนาง เฉินลู่เหลียนมองหีบไม้สลับกับมองหน้าผู้ที่ยกมาให้เป็นเชิงถาม
"เปิดดูสิ" แม่ทัพหนุ่มพูดสั้นๆ หญิงสาวลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะเปิดหีบไม้นั้นช้าๆ ของที่อยู่ด้านในทำให้ผู้ที่ได้เห็นตกใจมันคือเครื่องประดับนานาชนิด และทุกชิ้นนั้นน่าจะมีมูลค่ามหาศาลเพราะมันสวยงามมาก แต่แทนที่เฉินลู่เหลียนจะดีใจนางกลับปิดหีบลงและมีท่าทีสงบนิ่งเหมือนที่เคยเป็น ทำเอาผู้แม่ทัพหนุ่มแปลกใจ
"ว่ากันว่าสตรีชอบเครื่องประดับและของสวยงาม สงสัยข้าคงจะต้องคิดใหม่เพราะดูเหมือนเจ้าจะไม่ชอบสิ่งที่ข้าให้เลยสักนิด"
"ท่านให้ข้าหรือเจ้าคะ" เจ้าเฟยหลงพยักหน้ารับ
"ใช่ ชอบไหม"
"ของพวกนี้สวยงาม แต่ว่าคงไม่เหมาะที่จะอยู่กับสาวใช้แบบข้า" คำพูดที่ฟังแล้วเหมือนคนกำลังถ่อมตัวนั้นทำให้คนฟังยิ้มที่มุมปาก
"เจ้าจะบอกว่าไม่อยากได้อย่างนั้นรึ"
"เจ้าค่ะ" คราวนี้รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าคมคาย
"รู้ไหมว่าของพวกนี้มีมูลค่ามากแค่ไหน"
"คงมีค่ามากกว่าชีวิตของข้า" คำตอบนั้นทำให้ดวงตาคำอ่อนลงเล็กน้อย
"ข้าให้เจ้า" คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน
"ให้ข้าทำไมเจ้าคะ" เจ้าเฟยหลงไหวไหล่ช้าๆเหมือนกับว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญ
"ข้าได้ยินมาว่าพวกผู้หญิงชอบของสวยๆงาม ข้าเลยคิดว่าเจ้าน่าจะชอบ"
"แค่นี้หรือเจ้าคะ"
"จริงๆมันก็มีมากกว่านั้นเพราะถ้าเจ้าชอบของพวกนี้เจ้าอาจจะมองข้าในด้านที่ดีมากกว่าเดิม และบางทีสิ่งพวกนี้อาจจะทำให้หัวใจของเจ้าเป็นของข้า" เจ้าเฟยหลงบอกแบบไม่ปิดบัง เขาชอบความตรงไปตรงมามากกว่าที่จะพูดอ้อมๆ ในเมื่อให้ของก็ย่อมต้องการสิ่งตอบแทนเป็นธรรมดา เฉินลู่เหลียนถอนหายใจเมื่อฟังจบ
"ช่างเป็นการซื้อใจสตรีที่แย่มาก ท่านไม่อาจติดสินบนข้า ไม่อาจซื้อหัวใจของข้าด้วยของพวกนี้" คำตอบนั้นทำให้คนฟังเริ่มหงุดหงิด ตั้งแต่โตมาเป็นหนุ่ม ไม่เคยมีสักครั้งที่แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่อย่างเจ้าเฟยหลงจะยอมลดตัวทำให้ผู้หญิงสนใจขนาดนี้ ที่ผ่านมามีบรรดาหญิงสาวมากมายที่ต้องการและพยายามจะเอาอกเอาใจ แต่ทว่าไม่มีสตรีนางไหนที่ตนอยากจะอยู่ใกล้ชิดด้วยเลยยกเว้นแม่สาวใช้จอมอวดดีนางนี้
"คำพูดของเจ้าช่างทำให้ลายความมั่นใจของข้าได้ดีจริงๆ แต่เอาเถอะ ถึงเจ้าไม่อยากได้ แต่ข้าจะให้ และเจ้าก็ไม่มีทางที่จะปฏิเสธมันได้ ดังนั้นสิ่งที่เจ้าควรจะทำคือขอบคุณและรับของพวกนี้ไป"
"แต่" เฉินลู่เหลียนทำท่าจะค้าน แต่ทว่าเจ้าเฟยหลงโบกมือห้ามเสียก่อน
"รับไป และขอเตือนว่าอย่าทำให้ข้าโกรธ เพราะถ้าข้าโกรธเจ้าจะเดือดร้อน"
"ท่านเรียกข้ามาเพราะต้องการจะมอบของพวกนี้ให้ใช่ไหมเจ้าคะ" เฉินลู่เหลียนเปลี่ยนเรื่อง
"ใช่"
"ข้าจะรับของพวกนี้ไว้ ข้าจะเก็บมันไว้ตามที่ท่านบอก แต่จะเป็นเพียงแค่การรับฝากเท่านั้น" แม่ทัพหนุ่มไหวไหล่ไม่ใส่ใจกับคำพูดของนางนัก
"เรื่องของเจ้าข้าให้เจ้าแล้ว"
"ข้ากลับหอนอนได้หรือยังเจ้าคะ"
"ลู่เหลียนตอนนี้เจ้าอาจจะยังไม่ชอบหน้าข้านัก แต่ข้าเชื่อว่าไม่นานข้าจะได้หัวใจของเจ้ามา และเมื่อนั้นเจ้าจะต้องอ้อนวอนขอความรักจากข้า" เสียงของแม่ทัพหนุ่มมั่นคง และมันทำให้หัวใจของแม่สาวใช้จอมอวดดีหวั่นไหวเถึงอย่างนั้นนางก็ยังเชิดหน้าและเดินจากไปเงียบๆทิ้งให้แม่ทัพหนุ่มอยู่เพียงลำพังในหอหนังสือ
---------------------+
เจ้าเฟยหลงแปลกใจเล็กน้อยเมื่ออ่านจดหมายที่ท่านหญิงเลี่ยงซูให้บ่าวส่งมาให้จบ ดูเหมือนว่านางจะมีเรื่องบางอย่างที่อยากจะคุยกับตนตามลำพัง แม่ทัพหนุ่มพับจดหมายและเก็บมันลงในซองตามเดิม และหันมามองบ่าวรับใช้ของตน
"ข้าจะไปจวนพี่หญิง เจ้าเตรียมม้าให้ข้าด้วย" แม่ทัพหนุ่มสั่ง และไม่นานนักเจ้าเฟยหลงก็มาปรารกฏตัวที่หน้าจวนสกุลหวัง
ท่านหญิงเลี่ยงซูยิ้มดีใจเมื่อญาติผู้น้องมาหา นางจัดรับรองแม่ทัพหนุ่มที่ห้องรับรองแขกด้วยชาชั้นดีและขนมเปี๊ยะดอกบัวที่ถูกทำอย่างประณีตแถมยังรสชาติอร่อย เมื่อรับประทานของวางที่เตรียมมารับรองเรียบร้อยแล้วท่านหญิงก็สั่งให้เด็กรับใช้คนอื่นออกไปจะเหลือไว้ก็เพียงสาวใช้วัยกลางคนคนสนิทเพียงนางเดียวเท่านั้น
"ท่านพี่มีเรื่องที่จะเล่าให้ข้าฟังใช่หรือไม่" ท่านหญิงพยักหน้ารับ "และเรื่องที่จะเล่าคงเป็นเรื่องที่ท่านไม่อยากให้ใครรู้"
"เจ้าทายถูกเฟยหลง มันเป็นเรื่องที่พี่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ ความจริงพี่คิดจะเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวจนวันตาย แต่พี่ไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว" ท่านหญิงพูดเสียงเครือ
"คงเป็นเรื่องที่สะเทือนใจ" แม่ทัพหนุ่มคาดเดา
"ใช่"
"เจ้าพร้อมที่จะฟังแล้วใช่ไหม" ท่านอ๋องแม่ทัพพยักหน้ารับ
เรื่องราวทั้งหมดของท่านหญิงเลี่ยงซูถูกเล่าออกมาแบบไม่มีอะไรปิดบัง เรื่องราวของความรัก การพลัดพราก เจ้าเฟยหลงรับฟังเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความทุกข์ที่มีมากกว่าความสุขของญาติผู้ที่เงียบๆ ไม่พูดแทรกหรือไม่ถามอะไรจนนางเล่าจบ บวกกับคำยืนยันของสาวใช้คนสนิทที่อยู่กับท่านหญิงมาตั้งแต่สาวๆทำให้เขาเชื่อเรื่องที่เล่ามาโยไม่มีข้อสงสัยแววตาและน้ำตาของญาติผู้พี่ทำให้แม่ทัพหนุ่มรู้ว่านางเจ็บปวดกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากเพียงใด
"ท่านพี่คิดว่าลู่เหลียนเป็น..." เจ้าเฟยหลงเว้นไว้แค่นั้น
"พี่คิดว่าลู่เหลียนเป็นลูกของพี่ ทั้งปานแดงรูปหัวใจที่หลังหูข้างซ้าย หยกที่นางพกติดตัว รวมทั้งแซ่ของนาง ล้วนมีความสัมพันธ์กันทั้งนั้น"
"ท่านพี่อยากให้ข้าช่วยอะไรไหม"
"พี่อยากรู้ว่าย่าของนางชื่ออะไร แม่นมเฉินมีแซ่เดิมว่าหวาง ชื่อว่ามี่ เจ้าช่วยพี่ได้ไหม" ท่านหญิงถามต่อ แม่ทัพหนุ่มพยักหน้ารับ แน่นอนว่าเต็มใจจะช่วยญาติผู้พี่อยู่แล้ว แต่ครั้นจะทำอะไรแบบโจ่งแจ้งไปคงไม่ใช่เรื่องดีเพราะไม่รู้เหมือนกันว่าเฉินลู่เหลียนคิดอย่างไรกับเรื่องนี้
"ข้าจะพยายามถามนางให้ บอกตรงๆนะ ท่าทางจะยากเพราะนางไม่อยากคุยกับข้ามากเท่าไหร่นัก" ท่านหญิงมองสบตาญาติผู้น้อง สักพักก็พอจะเดาออกว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่คงไม่รายรื่นนัก
"อย่าเพิ่งบอกลู่เหลียนเรื่องของพี่ สายตาของนางที่มองมามันดูเย็นชาจนพี่กลัวใจของนาง" เจ้าเฟยหลงยิ้มและบีบมือพี่สาวเพื่อให้กำลังใจ
"ข้าจะทำเงียบๆ รับรองว่าข้าจะพยายามสืบให้รู้เรื่องเร็วที่สุด"
"ขอบใจมากนะเฟยหลง ขอบใจ"
"ท่านพี่ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก มันไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอะไรเลย ข้าขอเวลาสักหน่อย"
"พี่รอได้ พี่จะรอ" ท่านหญิงพูดเสียงเครือ รู้สึกมีความหวังลึกๆในใจ
--------------------------+
เฉินลู่เหลียนหยิบจดหมายที่ย่าของตนเขียนไว้ขึ้นมาอ่านอีกครั้ง ยิ่งอ่านยิ่งคิดถึงผู้ที่เขียนจับใจ ตั้งแต่จำความได้ย่าของนางเป็นคนใจดี นางคอยพร่ำสอนแต่สิ่งที่ดีๆให้ ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหนย่าของนางไม่เคยบ่นหรือตัดพ้อโชคชะตาเลยสักครั้ง
"เจ้าร้องไห้รึ" เสียงของบุรุษที่ดังขึ้นทำให้เฉินลู่เหลียนรีบเช็ดน้ำตาและหันมามองผู้บุกรุกอย่างไม่เป็นมิตรนัก
"ท่านเข้ามาได้อย่างไร"
"ข้าสามารถไปไหนมาไหนในจวนของข้าได้ทุกที่ ว่าแต่เจ้าร้องไห้ทำไม แล้วเจ้าอ่านอะไรอยู่" เฉินลู่เหลียนรีบเอาจดหมายนั้นซ่อนไว้ด้านหลังและเชิดหน้าขึ้นเพียงเล็กน้อย
"เรื่องส่วนตัวบางเรื่องไม่จำเป็นต้องบอกเจ้าค่ะ" แม่ทัพหนุ่มส่ายหน้าช้าๆ ไม่เห็นด้วย
"สำหรับข้าแล้วเจ้าไม่จำเป็นต้องมีเรื่องส่วนตัว อย่าลืมสิตอนนี้ข้าเป็นเจ้าชีวิตของเจ้านะ" เฉินลู่เหลียนเม้มปากแน่น ชายผู้นี้กำลังบีบนางอยู่
"แต่"
"เอาเถอะ ไม่อยากให้ข้ารู้ข้าก็จะไม่อยากรู้ ว่าแต่เจ้าร้องไห้ทำไมบอกข้าได้ไหม" คราวนี้นางหลบตาแล้วถอนหายใจ
"ข้าคิดถึงท่านย่าของข้าเจ้าค่ะ" คราวนี้นางบอกตามตรงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องโกหก นางคิดถึงย่า คิดถึงมากเสียด้วย
"เจ้ารักนางมาก"
"นางเป็นญาติเพียงผู้เดียวของข้า เป็นผู้ที่เลี้ยงดูข้ามาตั้งแต่เด็ก เป็นผู้ที่คอยพร่ำสอนให้ข้าพึ่งพาตนเองไม่ให้รอวาสนา" เจ้าเฟยหลงพยักหน้ารับและเดินเข้ามาใกล้ มือหนาเชยคางของมนขึ้นเพื่อให้นางเงยหน้ามาสบตาของตน ความเจ็บช้ำที่ซ่อนอยู่ในแววตาทำให้หัวใจแม่ทัพหนุ่มอ่อนยวบ นึกอยากที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ดวงตาคู่นี้มีประกายของความสุข
"เจ้าอยากจะไปเยี่ยมนางไหม" คำถามนั้นทำให้คนฟังกระพริบตาติดๆกันเพราะคิดไม่ถึง
"ท่านหมายความว่า"
"หากเจ้าต้องการข้าจะพาเจ้าไปไหว้หลุมศพของนาง" น้ำตาของเฉินลู่เหลียนไหลออกมาอีกครั้ง
"ท่านพูดจริงใช่ไหม" แม่ทัพหนุ่มพยักหน้าช้าๆเพื่อยืนยันคำพูดของตน
"ทำไมท่านถึงใจดีกับข้าล่ะเจ้าคะ" สาวใช้คนงามถามอีกครั้ง
"เพราะข้าอยากให้เจ้ามองข้าในแง่ดีบ้าง อย่างน้อยก็ดีกว่าที่ผ่านมา" แม่ทัพหนุ่มพูดทีเล่นทีจริง ทำอาคนฟังนึกไม่ถึงมากขึ้น "ว่าอย่างไร เจ้าอยากไปไหม"
"ไปเจ้าค่ะ"
"ว่าแต่ไหนบอกมาสิว่าย่าของเจ้าถูกฝังไว้ที่ไหน"
"เชิงเขาทางใต้ของเมืองเจ้าคะ"
"เมืองที่เจ้าจากมาใช่หรือไม่" แม่ทัพหนุ่มถามต่อ เฉินลู่เหลียนพยักหน้ารับช้าๆ
"เจ้าค่ะ"
"ถ้าอย่างนั้นข้าจะให้เวลาเจ้าเตรียมตัว อีกไม่กี่วันข้าจะพาเจ้ากลับไปไหว้ย่าที่นั่น และข้าหวังว่าการกระทำในครั้งนี้ของข้าจะทำให้เจ้ามองข้าในทางที่ดีบ้างไม่มากก็น้อยนะ" เฉินลู่เหลียนมองสบตาคมนิ่ง
ของขวัญจากผู้อ่านคือกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ช่วยส่งกำลังใจให้ไรต์หน่อยนะ!