webnovel

ดวงใจอสุรา

เพราะเหตุพลิกผันทำให้ มู่หรงชีชีต้องย้อนอดีตมาเป็นนางซินในยุคโบราณที่เจ้าของร่างคนเดิมถูกลงโทษด้วยกฎบ้านจนตาย แต่คิดหรือว่านางจะยอมแพ้ต่อโชคชะตานี้ แม้จะถูกพี่สาวร่วมตระกูลแย่งคู่หมั้น มิหนำซ้ำยังถูกบิดาจับคลุมถุงชนเพื่อแต่งงานแก้เคล็ด แต่ดูเถอะว่ามู่หรงชีชีคนนี้จะไม่มีวันยอมแพ้แน่นอน! เนื่องด้วยพระราชโองการจากฮ่องเต้ ทำให้มู่หรงชีชีต้องยอมอภิเษกกับ เฟิ่งชาง หนานหลินอ๋องแห่งแคว้นเป่ยโจว บุรุษที่ได้สมญานามว่า ‘อ๋องปีศาจ’ ผู้ที่มีดวงพิฆาตภรรยาอย่างไม่มีทางเลือก ทว่าใครเล่าจะรู้ว่าหนานหลินอ๋องที่นางเคยได้ยินคำล่ำลือมาว่าแสนร้ายกาจนั้นจะไม่เหมือนบุรุษตรงหน้าที่นางได้พบเลยแม้แต่น้อย ยิ่งนางได้รู้จัก นางก็ยิ่งจะหลงรักเขามากขึ้นเสียแล้ว

ล่าหมี่ทู่ · Lịch sử
Không đủ số lượng người đọc
156 Chs

ตอนที่ 014

ตอนที่ 14 ถีบนางลงไป

“แปะๆ แปะๆ” ไป๋มู่เฟยปรบมือขึ้นมา “ไม่ใช่แค่พอฟังได้เท่านั้น เรียกได้ว่าไพเราะดุจเสียงสวรรค์ก็ว่าได้ คำร้องดี บทเพลงเพราะ เสียงไพเราะ ดนตรีเสนาะหู วันนี้มาจวนอำมาตย์ถือว่าไม่เสียเที่ยวจริงๆ”

“ขอบคุณ!” มู่หรงชีชียืนอยู่บนก้อนหินใหญ่ กระโดดลงมายืนตรงหน้าตวนมู่อีอี ชุดของนางพลิ้วไสว งดงามราวกับนางฟ้า “คุณหนูตวนมู่ ถึงตาเจ้าแล้ว”

“ข้า......” ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ตวนมู่อีอีรู้สึกเหมือนว่ามู่หรงชีชีนั้นเปลี่ยนไปเป็นคนละคน นางช่างเปล่งประกายเสียจนตาพร่า ทำให้ตวนมู่อีอีเริ่มที่จะตาขาวขึ้นมา

นางจะแพ้ไม่ได้! ตวนมู่อีอีกัดฟันนั่งลงข้างหน้ากู่ฉิน สองมือดีดลงบนสายกู่ฉิน ปลายนิ้วกลับเริ่มสั่นขึ้นมา

เดิมนางคิดว่าให้มู่หรงชีชีบรรเลงก่อน นางจะได้รู้ความสามารถของมู่หรงชีชี จะได้เลือกบรรเลงบทเพลงที่ถนัดให้ทุกคนได้ตกตะลึงในความสามารถของนาง แต่นางกลับคิดไม่ถึงว่ามู่หรงชีชีจะเก่งกาจถึงเพียงนี้ หากนางพ่ายแพ้ให้แก่คนไร้ประโยชน์อย่างมู่หรงชีชี แล้วต่อไปนางจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!

“กึง!” ทันใดนั้นก็มีเสียงแหลมแสบแก้วหูดังขึ้น ใบหน้าของตวนมู่อีอีซีดเผือด ริมฝีปากสั่นระริก

“เจ้าแพ้แล้ว!” มู่หรงชีชีมองตวนมู่อีอีด้วยสายตาเย็นชา ดีดกู่ฉินกลับเสียงเพี้ยน ไม่ว่าใครได้มาเห็นก็ต้องพูดเช่นนี้

“เจ้าจะกระโดดลงไปในทะเลสาบเองหรือให้ข้าช่วยส่งเจ้าลงไปดีเล่า”

ดูแล้วสีหน้าของมู่หรงชีชีไม่ได้ล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย ตวนมู่อีอีรู้ดีว่าตัวนางนั้นแพ้แล้ว แต่นางก็คาดไม่ถึงว่ามู่หรงชีชีจะเอ่ยถึงบทลงโทษที่พนันกันไว้ในตอนนี้ จะให้คุณหนูตวนมู่ผู้สูงศักดิ์กระโดดลงทะเลสาบ ฆ่านางให้ตายเสียยังจะดีกว่า

“ท่านพี่......” ตวนมู่อีอีส่งสายตาอ้อนวอนไปให้ตวนมู่หงเฉิน หากวันนี้นางกระโดดลงในทะเลสาบจริงๆ แล้วต่อไปนางจะมีหน้าออกไปเจอผู้คนได้เช่นไร

“เฮ้อ” เมื่อได้เห็นท่าทางน่าสงสารของน้องสาว ตวนมู่หงเฉินก็ถอนหายใจออกมา ถึงแม้วันนี้ตวนมู่อีอีจะทำเกินไป แต่จะให้เขายืนมองน้องสาวกระโดดลงทะเลสาบไปต่อหน้าต่อตา เขาก็ทำไม่ได้ “คุณหนูสาม เห็นแก่หน้าข้าผ่อนปรนแก่นางได้หรือไม่”

ตวนมู่หงเฉินคิดว่าด้วยฐานะของเขาแล้ว อย่างไรก็ตามแต่มู่หรงชีชีจะต้องยอมอ่อนข้อให้แน่ แต่คิดไม่ถึงว่านางจะพูดตอกกลับมา “เราสนิทกันเช่นนั้นหรือ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน แพ้ไม่เป็นก็อย่ามาเล่นเสียสิ”

หน้าของตวนมู่เฉินเจื่อนลง คุณชายแห่งตระกูลตวนมู่อย่างเขา ยังไม่เคยมีใครที่กล้าหักหน้าเขาเช่นนี้มาก่อน คิ้วทรงดาบเรียวงามขมวดเข้าหากันเป็นปม “ถ้าเช่นนั้นต้องทำเช่นไร คุณหนูสามถึงจะปล่อยนางไป”

“ปล่อยไป?” ราวกับว่ามู่หรงชีชีได้ฟังเรื่องตลกอย่างไรอย่างนั้น “หากวันนี้เป็นข้าที่พ่ายแพ้ แล้วนางจะปล่อยข้าไปหรือ คุณชายตวนมู่จะมาขอร้องอ้อนวอนปกป้องข้าหรือไม่”

เมื่อได้ฟังในสิ่งมู่หรงชีชีถาม ตวนมู่หงเฉินก็ไม่มีอะไรจะโต้แย้ง หากมู่หรงชีชีเป็นคนแพ้ ตามนิสัยไม่ลดราวาศอกของตวนมู่อีอีแล้ว นางคงไม่มีทางที่จะหยุดเพียงเท่านี้แน่ นางจะต้องให้มู่หรงชีชีกระโดดลงทะเลสาบให้จงได้ เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้ พูดไปพูดมาก็เป็นตัวตวนมู่อีอีเองที่แกว่งเท้าหาเสี้ยน......

“ชีชี แค่ล้อกันเล่น เจ้าก็จริงจังไปได้!” มู่หรงจวิ้นที่เงียบมานานเริ่มแสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ขึ้นมา “เรื่องนี้ก็ให้มันจบกันเท่านี้ เจ้าเป็นคนชนะ ของพนันทุกอย่างก็ตกเป็นของเจ้า เจ้ายังต้องการสิ่งใดอีก”

คำพูดของมู่หรงจวิ้นยิ่งทำให้มู่หรงชีชีหัวเราะเยาะ “พี่ใหญ่ ในที่สุดท่านก็ยอมเอ่ยปากออกมาเสียที แต่ที่ท่านพูดมานี่ ข้านึกว่าท่านสกุลตวนมู่เสียอีก คนอื่นมีปัญหา พี่ชายเขาก็ออกมาปกป้อง แต่ข้าไม่เห็นว่าท่านจะออกหน้าช่วยข้าบ้างเลย”

คำพูดเยาะเย้ยของมู่หรงชีชีทำให้มู่หรงจวิ้นโกรธจนหน้าดำหน้าแดง “มู่หรงชีชี อย่าให้มันมากนัก! เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน เจ้ามันก็แค่คนไร้ประโยชน์......”

คำว่า “คนไร้ประโยชน์” ยังพูดไม่ทันจบ ก็มีแสงสีเขียวแวบขึ้นมา เส้นผมดกดำข้างใบหูของมู่หรงจวิ้นก็ถูกตัดออกร่วงลงสู่พื้น เมื่อมองอีกครั้ง ปรากฏว่าสิ่งที่ตัดผมของมู่หรงจวิ้นให้ขาดร่วงเป็นเพียงแค่ใบหลิวอ่อนบาง คนที่ลงมือก็คือหลี่อวิ๋นชิง

“หลี่อวิ๋นชิง เจ้าทำอะไรของเจ้า!” มู่หรงจวิ้นสะดุ้งจนเด้งตัวขึ้นมา ดีที่ใบหลิวใบนั้นตัดไปเป็นเพียงเส้นผม ถ้าหากใกล้กว่านั้นอีกเพียงเล็กน้อย สิ่งที่ถูกตัดไปจะเป็นเส้นโลหิตที่คอของเขาแทน

หลี่อวิ๋นไม่สนใจมู่หรงจวิ้น เขาหันไปส่งยิ้มให้มู่หรงชีชี รอยยิ้มนี้ส่งเสริมให้หน้าตาที่สมบูรณ์แบบของเขามีเสน่ห์ขึ้นไปอีก “เมื่อครู่น้องหญิงน้อยใจที่ไม่มีพี่ชายคอยปกป้องมิใช่หรือ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปข้าจะปกป้องเจ้าเอง ดีหรือไม่เล่า”

มู่หรงชีชีคิดไม่ถึงว่าหลี่อวิ๋นชิงจะออกมาปกป้องนาง พี่ชายคนนี้ดูเหมือนจะชอบดูเรื่องสนุกเป็นที่สุด แต่ตอนนี้เขากลับช่วยนาง อีกทั้งยังเอ่ยปากสัญญาว่าเขาจะปกป้องนางอย่างนั้นหรือ เช่นนั้นหากมีใครจะมารังแกนาง ก็คงต้องดูเสียก่อนว่าหลี่อวิ๋นชิงอนุญาตหรือไม่

มีเขาเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้พักพิง มู่หรงชีชีย่อมยินดีเป็นธรรมดา “ท่านพี่ พูดแล้วห้ามคืนคำนะ วันหลังหากมีคนรังแกข้า ข้าก็จะอ้างชื่อท่าน”

“แน่นอนอยู่แล้ว!”

“ถ้าเช่นนั้น ข้าทำอะไรลงไปเกิดมีปัญหาขึ้นมา ข้าทำผิดเยี่ยงไร ท่านจะรับผิดชอบแทนข้าใช่หรือไม่”

“ไม่มีปัญหา......”

หลี่อวิ๋นชิงยังพูดไม่ทันจบ มู่หรงชีชีก็ไปปรากฏตัวที่ด้านหลังตวนมู่อีอีเสียแล้ว นางยกเท้าขึ้นมาหนึ่งข้าง แล้วถีบตวนมู่อีอีลงไปในทะเลสาบ

“ตู้ม...” ตวนมู่อีอีตกลงไปในน้ำ ทำให้มีน้ำกระเซ็นขึ้นมามากมาย ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเสียจนทุกคนมิอาจฉุดรั้ง กว่าที่ทุกคนจะรู้ตัว ก็ตอนที่ตวนมู่อีอีตะเกียกตะกายไปตะโกนไป “ช่วยด้วย”

“เจ้า!” ตวนมู่หงเฉินถลึงตาใส่มู่หรงชีชีอย่างโกรธแค้น รีบใช้วิชาตัวเบา เดินเหยียบผิวน้ำไปช่วยตวนมู่อีอีขึ้นมา

“เจ้าเนี่ยนะ......” หลี่อวิ๋นชิงไม่คิดเลยแม้แต่นิดว่าที่มู่หรงชีชีพูดมาเยอะแยะมากมาย สุดท้ายจะมาไม้นี้ แต่ในเมื่อเขาสัญญาไปแล้ว ก็ต้องช่วยนางให้ตลอดรอดฝั่ง

คิดอีกที นางคงจะตั้งใจเพื่อการนี้โดยเฉพาะ “เด็กปีศาจ!” น้ำเสียงของหลี่อวิ๋นชิงกลับแฝงไปด้วยความเอ็นดู

“กรี๊ด! มู่หรงชีชี ข้าจะฆ่าเจ้า!”

เป็นถึงคุณหนูแห่งตระกูลตวนมู่ นางไม่เคยถูกเหยียดหยามเช่นวันนี้มาก่อน ตวนมู่อีอีไม่สนใจเรือนร่างอันเปียกปอน นางคว้าดาบของตวนมู่หงเฉินที่เหน็บไว้ที่เอว แทงไปยังมู่หรงชีชี “นังสารเลว! ไปตายซะ!”

“ระวัง!” ซั่งกวานอู๋จี้ร้องออกมาด้วยความตกใจ แต่เขาอยู่ห่างมู่หรงชีชีเกินไป ไม่มีทางเข้าไปช่วยนางได้

“ช่วยด้วย!”

มู่หรงชีชี “ตกใจกลัว” ไปหยิบมีดสั้นที่ซั่งกวานอู๋จี้เอามาพนัน ดวงตาสองข้างปิดสนิท ปากก็ตะโกนโวยวาย ไม่กล้ามองตวนมู่อีอี

ขณะที่ดาบของตวนมู่อีอีจะปักลงบนอกของมู่หรงชีชีนั้น นางกลับเบี่ยงร่างหลบ ทำให้ดาบแฉลบไปข้างตัวนาง แต่มือขวาของตวนมู่อีอีที่ถือดาบอยู่ กลับบังเอิญโดนมีดสั้นเข้าพอดี “เคร้ง......” ตวนมู่อีอีรู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อมือขวา ปรากฏเป็นเลือดไหลออกมา

“อย่าฆ่าข้า! ท่านพี่ช่วยข้าด้วย!” มู่หรงชีชีตะโกนออกมา กระโดดไปหลบด้านหลังของหลี่อวิ๋นชิง ตวนมู่อีอีกลับกุมข้อมือของตัวเองกรีดร้องออกมา “มือข้า......”

“น้องเล็ก!” ตวนมู่หงเฉินรีบร้อนไปตรวจดูตวนมู่อีอี พบว่าเส้นเอ็นข้อมือของนางถูกมีดสั้นตัดขาดพอดิบพอดี เลือดไหลไม่หยุด หากไม่รีบรักษาน่ากลัวว่ามือขวาของนางจะใช้การไม่ได้อีก แม้แต่ยกมือยังยาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบรรเลงเครื่องดนตรีหรือฝึกวรยุทธ์

“น้องเล็ก อดทนหน่อย!” ตวนมู่หงเฉินขึงตาใส่มู่หรงชีชีอย่างโกรธแค้น อุ้มตวนมู่อีอีไว้ในอ้อมอก ออกจากศาลาหูซินไปอย่างรวดเร็ว

“พี่สาม ท่านทำเรื่องเข้าแล้ว!” มู่หรงชิงเหลียนที่อยู่ไม่ไกล ยิ้มเยาะอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น “ท่านตัดเส้นเอ็นข้อมือของคุณหนูตวนมู่ ครานี้เป็นเรื่องใหญ่เสียด้วย ตระกูลตวนมู่ไม่มีทางปล่อยท่านไปง่ายๆ แน่”