webnovel

ตอนที่ 8 ผีลงโทษเสกใบไม้ลงตับ

เมื่อผ่าตัดน้าพูดจนสำเร็จแม้ไม่หายแต่ก็ทำให้รูปร่างของขาซ้ายนั้นไม่น่าเกลียดอีกต่อไป วันนี้หมอนิลลี่และมูมู่ กับลูกศิษย์ทั้ง 2 ไปทำกายภาพให้น้าพูดเป็นวันแรก โดยต้องการไปตรวจทั้งคุณตาคุณยายด้วยว่ามีโรคประจำตัวหรือเจ็บป่วยอะไรบ้างจะได้ให้การรักษาที่ถูกต้อง

"มูมู่เดี๋ยวตรวจร่างกายคุณตาด้วยกันนะ ยังไม่รู้ว่าคุณตาจะต้องตรวจอะไรเพิ่มไหม" นิลลี่พูดเมื่อมาถึงที่ห้องนอนของคุณตา

"ส่วนคุณณัฐกับตุ๊ดตู่ไปช่วยขยับขาน้าพูดให้ก่อนนะคะ"

"ได้ครับ"

"อืม วันก่อนเราดูคุณตาไกลๆ และบ้านก็มืดด้วย นึกว่าจะไม่มีอะไรมากอย่างมากก็เป็นโรคชรา" นิลลี่บ่นพึมพำอยู่กับมูมู่ แล้วก็เดินมาหาคุณยายเพื่อต้องการจะถามประวัติคุณตาเพิ่ม

"คุณตาชอบกินปลาดิบๆ ไหมคะ แล้วตาเหลืองตัวเหลืองเป็นมานานเท่าไหร่แล้วคะ"

"แกชอบกินของดิบทุกอย่างแหละ เป็นกับแกล้มเหล้านะ ไม่ได้สังเกตเลยว่าแกตาเหลืองตัวเหลือง"

"คือตอนนี้นอกจากมีโรคสูงวัยที่ทำให้แกเดินเหินไม่ได้แล้ว แกน่าจะมีโรคตับอะไรบางอย่าง ซึ่งตอนนี้ต้องรอผลตรวจหลายอย่างจากมูมู่ก่อนคะ"

"มูมู่อัลตราซาวด์ ซีทีช่องท้องอย่างละเอียด เจาะเลือดตรวจตับ ตรวจอุจจาระด้วย"

มูมู่เดินไปทำการตรวจอย่างละเอียดตามคำสั่งแล้วสักพักก็ส่งรูปผลการตรวจอุจจาระรายงานให้ดร.นิลลี่ดูก่อนที่ผลอย่างอื่นจะมา เนื่องจากระบบเอไอของมูมู่จับภาพอะไรบางอย่างได้

"ขอบใจมาก มูมู่ อืมมีไข่พยาธิหลุดออกมาจริงด้วย ว่าแล้วต้องเป็นโรคพยาธิใบไม้ในตับด้วย"

"คุณยาย ผลมาแล้วในส่วนต้นนั้นมีพยาธิใบไม้ในตับ ซึ่งมีอาการระดับนี้แล้วไม่น่าจะรักษาหายได้แล้วคะ แต่ยังไงต้องกินยาถ่ายพยาธิก่อน ถ้าถ่ายออกมามีตัวอะไรแบนๆ คล้ายใบไม้ไม่ต้องตกใจนะคะ ส่วนตาเหลืองตัวเหลือง ต้องดูตับทั้งหมดก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่แนวโน้มน่าจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่"

แล้วผลการตรวจจากมูมู่ก็ออกมา พบว่าคุณตาเป็นโรคมะเร็งท่อน้ำดีในตับด้วย

"คุณยาย ตับของคุณตานั้นรักษาไม่ได้แล้วจริงๆ ด้วยคะ แต่อย่างไรหมอก็จะมาทำกายภาพให้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้บ้างนะคะ และถ้าคุณตามีอาการเจ็บปวดอะไรก็รักษาตามอาการให้คะ"

"อ้าวตอนนี้ถึงคราวคุณยายแล้ว คงต้องโดนเอ็กซเรย์กับเจาะเลือดนะคะ"

แล้วมูมู่ก็ทำการตรวจคุณยายตามคำสั่งของดร.นิลลี่ ผลออกมาไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง นอกจากกระดูกที่เสื่อมและทำให้หลังผิดรูปเท่านั้น

"คุณยายแค่มีกระดูกเสื่อมและกระดูกหลังคดผิดรูป คงทำแค่กายภาพนะคะ"

โดยรวมของครอบครัวนี้เป็นคุณยายเป็นโรคชรา คุณตาเป็นมะเร็งในท่อน้ำดีของตับและน้าพูดเป็นโรคเท้าช้าง ซึ่งต้องทำกายภาพให้ทั้งหมด ดังนั้นคงต้องมากันครบทีมสัปดาห์ละ 3 ครั้ง

ในช่วงที่ทีมของหมอนิลลี่เข้าๆ ออกๆ บ้านน้าพูดซึ่งบ้านน้าพูดนี่อยู่เกือบท้ายหมู่บ้าน ซึ่งห่างบ้านพ่อหมอมาไม่กี่หลังนั้น ทำให้พ่อหมอนั้นไม่พอใจอย่างมาก และช่วงเวลาเดียวกันนั้นหมูที่เลี้ยงไว้ตามบ้านเริ่มทยอยป่วยและล้มตาย เป็นจำนวนมาก ซึ่งหาสาเหตุของการตายไม่ได้ว่าเป็นจากโรคอะไร

ทำให้พ่อหมอส่งลูกน้องออกมาดักรอที่บ้านของน้าพูด เพื่อรอพบกับทีมของหมอนิลลี่ที่มาเป็นประจำทุกสัปดาห์นั้น

"ออกไปไอ้ตัวซวย พ่อหมอมีญาณทิพย์ เห็นว่าพวกแกไปบุกรุกบนยอดดอย อันเป็นที่หวงห้ามเพราะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สิงสถิตอยู่ ดูซิหลังจากพวกแกมาไม่นาน ผีจึงได้ลงโทษให้ไฟไหม้ป่า หมูล้มตายนับไม่ถ้วน" เสียงลูกสมุนของพ่อหมอ ตะโกนไล่หมอนิลลี่นั่นเอง

"ผีลงโทษ อะไรงมงาย" ณัฐบอกกับลูกสมุนของพ่อหมอ

เมื่อชาวบ้านละแวกนั้นได้ยินเสียงตะโกนของลูกสมุนของพ่อหมอ ก็ออกมารวมตัวกัน แล้วก็มองมาที่หมอนิลลี่และมูมู่ พร้อมกับโยนก้อนหินใส่ บ้างก็เดินเข้าไปทำร้าย

"เออ จริงอย่างพ่อหมอว่า พวกเราอยู่กันมาตั้งนาน ไฟไหม้ป่าบ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยหนักเท่านี้ หมูที่เลี้ยงก็ไม่เคยตายพร้อมกันมากอย่างนี้ มันต้องเป็นผีลงโทษ ที่ให้ไอ้ตัวประหลาดนี่อาศัยอยู่แน่ๆ " ชาวบ้านคนดังกล่าวพูดจบก็เอากิ่งไม้ตีไปที่มูมู่

ณัฐพยายามเอาตัวมากันหมอนิลลี่ไว้ พร้อมกับพูดตอบโต้ไปอีกว่า

"อะไรกัน แม่หมออยู่ที่นี่ก็มีแต่ช่วยดูแลสุขภาพให้กับทุกคน หลายคนรอดตายได้เพราะแม่หมอนะ นี่พอมีหมูล้มตายยังไม่หาสาเหตุก็มาขับไล่กัน"

"ออกไปจากหมู่บ้านข้าซะ ไอ้ตัวพาผีมาทำลายหมู่บ้านของเรา" เสียงพ่อหมอออกมาขับไล่ด้วยตัวเอง ทำให้ชาวบ้านบางส่วนที่ยังคงเคารพพ่อหมอเริ่มเห็นด้วยและช่วยกันตะโกนไล่หมอนิลลี่

ณัฐเองก็จนปัญญาที่หาเหตุผลใดใดมากล่าวอ้างให้ชาวบ้านกลุ่มที่เชื่อพ่อหมอเข้าใจอย่างไร ได้แต่เอาตัวกันหมอนิลลี่แล้วรีบพาหลบออกมาจากหมู่บ้านก่อน แล้วทั้งทีมก็กลับมาตั้งหลักที่บ้านริมน้ำ

"อะไรกัน เราอุตส่าห์ ออกรักษาให้คนทั้งหมู่บ้าน พอพ่อหมอพูดคำเดียว คนที่เคยรักษาก็ดันมาเกลียดซะงั้น" ตุ๊ดตู่บ่น

"แต่พักนี้ก็มีแต่เรื่องแปลกๆ จริงด้วย ไม่แปลกหลอกที่ชาวบ้านจะเชื่อพ่อหมอ" ดร.นิลลี่พูด

"ก็จริงนะ อยู่ๆ ไฟก็ไหม้ป่าเป็นวงกว้าง มีไร่ฝิ่นที่หน้าหมู่บ้าน แล้วหมูก็มาล้มตายเป็นแถว คิดๆ แล้วหรือทั้งสามเหตุการณ์จะเกี่ยวเนื่องกัน ดูมันมีเงื่อนงำยังไงไม่รู้แล้วสิ" ณัฐเริ่มไตร่ตรอง

"เราจะสืบจากอะไรก่อนดี มืดแปดด้านเลย แล้วตอนนี้หมอก็เข้าไปในหมู่บ้านไม่ได้ด้วย" ณัฐเริ่มหาทางออก

"เดี๋ยวชั้นขอเวลาในการอัพเกรดมูมู่ก่อน เพื่อให้ไปเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งหมดมาก่อนนะคะ แล้วค่อยมาวิเคราะห์ว่าเกิดอะไรขึ้น มันเป็นความบังเอิญ หรือฝีมือมนุษย์"

"แต่ก่อนที่จะแยกย้ายกัน วันนี้ขอสอนเรื่องพยาธิใบไม้ในตับให้ก่อนนิดนึง เข้าใจว่าคงได้ยินที่หมอได้คุยกับคุณยาย เรื่องคุณตาแล้วนะ"

"ได้ยินครับ แถมยังได้ยินด้วยว่า อึมาจะเจอตัวอะไรไม่รู้เหมือนใบไม้ ผมอยากเห็นตัวเป็นๆ จัง" ตุ๊ดตู่ส่งเสียงตอบ

"ฮา ฮา ฮา อยากเห็นตัวเป็นๆ หรือ ดูจากมูมู่ก็ได้ มูมู่มีวิดีโอ ตัวเป็นและไข่ที่พบในอึด้วย มูมู่เอาวิดีโอฉายโปรเจ็คเตอร์เลยก็ได้นะ จะได้อธิบายได้ง่ายขึ้น" มูมู่ฉายรูปขึ้นให้ลูกศิษย์ทั้งสองของนิลลี่ดู

"ไข่นี่หน้าตาประหลาดดี แต่ตัวมันนี่หน้าตาประหลาดกว่า เป็นใบไม้เลยเนอะ ศิษย์น้อง"

"จริงๆ เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้ไม่คิดว่าจะทำให้เป็นโรคมะเร็งได้ด้วย" ณัฐพูด

"ตามนั้นคะ ไอ้ตัวเป็นนี้มันอยู่ในท่อน้ำดีคะ ไปอุดตันไว้ทำให้ตาเหลืองตัวเหลือง พออยู่นานๆ ไปทำให้ร่างกายเปลี่ยนเป็นมะเร็งได้คะ พวกพยาธิจะออกไข่แล้วหลุดมากับอึ แล้วคนแถวนี้เมื่อก่อนไม่มีส้วมก็ไหลลงน้ำ หอยน้ำจืดไปกินไข่ ปลากินหอย แล้วตัวพยาธิตัวอ่อนออกจากไข่ไปฝังในเนื้อปลา กินปลาดิบๆ เข้าไปก็เอาพยาธิเข้าไป มันก็วนไปแบบนี้เรื่อยๆ งั้นป้องกันทำไงคะ"

"ไม่กินของดิบครับ" ตุ๊ดตู่รีบแย่งตอบ

"การรักษาแค่ถ่ายพยาธิเท่านั้น ถ้ายังไม่มีอาการก็หายเลย แต่ถ้าเป็นหนักถึงขั้นอุดตันท่อน้ำดีแล้วก็รักษาไม่หายแล้วคะ"

"จริงป้องกันง่ายนิดเดียวเอง เราเจอโรคที่เกี่ยวกับการกินอาหารดิบมากี่โรคแล้วน้า"

"2 ครับ" ณัฐแย่งตุ๊ดตู่ตอบบ้าง

"ไข้หูดับกับพยาธิใบไม้ในตับ" ตุ๊ดตู่ส่งเสียงตอบบ้าง

"แล้วเราจะป้องกันได้ยังไงบ้างคะ"

"กินอาหารสุกๆ ครับ ดูแล้วผมอาจจะต้องทำโครงการสอนสุขศึกษาให้ชาวบ้านฟังแล้ว แต่เท่าที่เห็นจะเป็นในคนสูงวัยหน่อย เพราะเด็กๆ ไปโรงเรียนจะได้เรียนมาจากโรงเรียนแล้ว ตอนนี้แม่หมอออกโรงอะไรก็ไม่ได้ คงต้องปล่อยเป็นหน้าที่ของผม"

"คงงั้นคะ วันนี้แยกย้ายกันก่อนนะคะ ขอเวลาสัก 2 วันในการอัพเกรดเจ้ามูมู่ก่อน แล้วค่อยมาวางแผนว่าจะทำอะไรกันต่อไป"

"ได้ครับ ฝันดีนะครับ คงไม่เจอกัน 2 วัน ผมคงคิดถึงคุณหมอแย่" ก่อนกลับณัฐไม่วาย หยอดคำพูดหวานๆ ใส่ หลังจากที่ได้ผจญภัยกันมาหลายครั้ง ณัฐเองก็เริ่มสนิทกับหมอนิลลี่มากขึ้น

"แหมศิษย์น้อง มีหยอด พี่หมอผมด้วย ดูซิ พี่หมอผม แก้มแดง อายม้วนไปถึงไหนแล้วหน่ะนั่น"

เมื่อณัฐหันไปมอง ดร.ก็เขินแก้มแดงก้มหน้าก้มตาส่งเสียงมาว่า "กลับกันได้แล้ว ไป๊"

ลูกศิษย์ทั้งสองก่อนกลับมิวายยังหันหน้ามาส่งยิ้มยียวนกวนประสาทให้ คำพูดณัฐวันนี้ทำเอาหมอนิลลี่แห่งหมู่บ้านดอยมอมแมมไปไม่ถูกเลยทีเดียว

"กลับมาได้แล้ว จะลอยไปไหน" นิลลี่พูดกับตัวเอง แล้วก็เดินนำมูมู่เข้าไปในห้องทดลอง

คืนนั้นสรุปว่าใจลอยไม่เป็นอันทำอะไร เอาแต่คิดถึงคำหยอดของณัฐ จนนอนก็ไม่หลับ ยังดีว่าตื่นมายังสามารถดึงสติกลับมาได้ แล้วดร.นิลลี่ก็มานั่งหาข้อมูลในการปรับดัดแปลงมูมู่ว่าจะทำอะไรบ้าง แล้วก็ค่อยๆ หาอุปกรณ์มาประกอบมาใส่ จนในที่สุดก็อัพเกรดสำเร็จ

ครบ 2 วัน ทุกคนมาตามนัดหมาย เห็นมูมู่ที่มีรูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไปบางส่วน

"คิดถึงจังครับ" ไม่วายที่ณัฐจะหยอดคำหวานส่งให้

"อย่าแกล้งกันแบบนี้สิคะ" นิลลี่ตอบแล้วยิ้มอายๆ

"ศิษย์น้องเริ่มบุกอีกแล้ว" ตุ๊ดตู่แซว

"เอิ่ม เรานัดกันมาทำอะไรคะ ไม่ใช่เรื่องนี้สักหน่อย มามาดูกันว่ามูมู่มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง คือตอนนี้ได้ตัดแปลงให้เป็นหุ่นยนต์สปายนะคะ" นิลลี่บอก

"นอกจากนี้ยังมีหุ่นตัวเล็กๆ นี่เอาไว้ไปเก็บข้อมูลต่างๆ ด้วย"

"ซึ่งต้องบอกตรงๆ ว่าตอนนี้ยังมืดแปดด้านเลย ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อน เข้าไปในหมู่บ้านก็ไม่ได้"

"เดี๋ยวผมกับศิษย์เข้าไปสืบเองครับ เรื่องในหมู่บ้าน ส่วนเรื่องไร่ฝิ่นคงต้องไปด้วยกัน มันอันตรายมากถ้าแม่หมอไปคนเดียว เป็นห่วงหน่ะ"

"อื่ม หยอดอีกแล้ว" ตุ๊ดตู่แซว

"งั้นเดี๋ยว ฝากเอาไอ้หุ่นยนต์ตัวเล็กไปเก็บหลักฐานก่อนแล้วกันคะ น่าจะเริ่มจากเรื่องหมูตายก่อนดูแล้วยังมีหลักฐานให้เก็บอยู่ ส่วนไฟไหม้ป่ามันหลายวันแล้ว อาจจะเหลือหลักฐานน้อย"

"ได้ครับ ฝากให้ผมจัดการได้"

"ตุ๊ดตู่เป็นเด็ก อาจจะไม่ใช่จุดน่าสงสัยมาก ลองไปเลียบเคียงคุยกับคนในหมู่บ้านดู เผื่อได้อะไรมาบ้าง ส่วนทางนี้คงทำอะไรไม่ได้เลย แล้วอย่าลืมไปทำกายภาพบ้านน้าพูดด้วยนะคะ แล้วก็ถ้ามีเคสไม่สบายก็ส่งออกมาให้ทางนี้ดูแลด้วยคะ"

"งั้นตามนี้มารายงานผลกันทุกวันตอนมาเรียนนะ อยากรู้จังว่าเป็นคนหรือผีกันที่ลงโทษ"

แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำตามแผน

วันรุ่งขึ้น สิ่งแรกที่ณัฐเข้าไปทำคือ เข้าไปสำรวจบ้านที่มีหมูตาย และให้หุ่นยนต์ตัวเล็กเก็บเลือด เก็บชิ้นเนื้อ บันทึกภาพ บันทึกรอยนิ้วมือต่างๆ ไปตามเก็บทุกบ้านเท่าที่เป็นไปได้

เย็นวันนั้นนำหลักฐานที่เก็บได้ทั้งหมด ส่งให้นิลลี่

"มูมู่นำหลักฐานไปหาเชื้อโรคนะดูว่าเป็นโรคระบาดอะไร หาสารพิษว่าถูกวางยาไหม รวมทั้งภาพถ่าย ลายนิ้วมือ ไปสังเคราะห์หาดีเอ็นเอที่น่าสงสัยไว้ด้วย"

"อืม จัดหนักเลยหรือครับ" ณัฐกล่าว

"ใช่คะ คงต้องให้เวลามูมู่สักวันนึงให้วิเคราะห์ประมวลผล พรุ่งนี้มาดูผลกัน"

และแล้วมูมู่ก็ประเมินผลส่งให้ดร.นิลลี่ในวันที่นัดกันมาฟังการประมวลผล

"เป็นดังคลาดเลยคะ เป็นเรื่องเดียวกันมีคนเข้ามาเกี่ยวข้อง เราพบลายนิ้วมือต้องสงสัยในสิ่งส่งตรวจที่เก็บมาจากบ้านหลายหลัง แต่เป็นลายนิ้วมือคนคนเดียวกัน ซึ่งจะรู้ได้ต้องแอบไปเก็บผม ของชาวบ้านทั้งหมู่บ้านมาวิเคราะห์ดูคะ คงต้องรบกวนคุณณัฐสำหรับเรื่องนี้"

"สบายมากเดี๋ยวผมกับตุ๊ดตู่จัดการให้"

"ส่วนหมูนั้นเป็นโรคระบาดอหิวาต์แอฟริกาในหมูคะ แต่จากการตรวจพบลายนิ้วมือต้องสงสัยจึงเดาว่าน่าจะเกิดจากคนนำมาให้ มากกว่าจะเกิดจากการระบาดเอง ดูมีเงื่อนงำแปลก ๆ มากขึ้น"

ยังไงต้องคอยดูต่อไปว่าผลการตรวจดีเอ็นเอจากเส้นผมแล้วมาเปรียบเทียบกับที่ได้มาจะเป็นใครกันนะ แล้วก็เริ่มไปตรวจเรื่องของไฟไหม้ป่าได้เลยคะ

"ขอนัดช้านิดนึงให้เวลาไปหาหลักฐานหลายอย่าง อีกสัก 5 วันมาพบกัน"

"ครับตามนั้น งั้นกลับกันก่อนนะครับ หลับฝันถึงกันบ้างนะครับ"

"แหมๆ ศิษย์น้องเปลี่ยนไปนะ มีหยอดมีแซวกันตลอด"

"ไปไปกลับได้แล้ว"

เมื่อทั้งสองกลับไป นิลลี่เองก็มานั่งคิดว่า แอบงงๆ กับท่าทีที่เปลี่ยนไปของณัฐเช่นเดียวกับที่ตุ๊ดตู่สังเกตเห็น

อ่านแล้วชอบไหม เพิ่มในคลังหนังสือเลยสิ!

DrNillycreators' thoughts