บทที่ 37 แมงมุมวายร้าย
เสียงเคาะชามของต้าซื่ออย่างรื่นรมย์พร้อมส่ายหนวดบนหัวไปมา
มันดมกลิ่นจากหม้อก่อนจะหันหน้าหนีด้วยความรังเกียจ
“มันเป็นพิษ…มันเป็นพิษ”
เกาเผิงพูดไม่ออก เขารู้ว่าของในหม้อเป็นพิษร้ายแรงจริง แต่ต้าซื่อกำลังบอกเขาว่ามันกลัวพิษอย่างนั้นหรือ?
“กินเสีย เพื่อวิวัฒนาการของนายเอง หากไม่กินแล้วนายจะแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างไร?” เกาเผิงกล่าวเสียงเข้ม
หลังจากถูกดุ ต้าซื่อจึงต้องกล้ำกลืนฝืนกินจนหมดและค่อยๆ ขดตัวเป็นลูกบอล นอนหลับอยู่บนพื้น
…
ณ หุบเขาเงียบสงบ ในถ้ำแห่งหนึ่งไร้แสงลอดผ่าน แมงมุมยักษ์สีเทาสองสามตัวค่อยคลานออกจากส่วนลึกของถ้ำด้วยดวงตาสีเลือด
ส่วนป่าส่วนรกทึบ ตัวนิ่มเกล็ดทองโผล่ออกมาจากพุ่มไม้ขณะแมงมุมยักษ์พ่นใยเข้ารัดมันเอาไว้ชั่วพริบตา ตัวนิ่มเกล็ดทองคำรามเสียงต่ำและเปลี่ยนเกล็ดให้เป็นใบมีดนับไม่ถ้วนและกลิ้งตัวไปข้างหน้า
เมื่อใยถูกตัดขาด ตัวนิ่มคิดว่ามันหลบหนีพ้น ทว่าถูกใยสีขาวพุ่งใส่อีกครั้งและอีกครั้ง
แมงมุมยักษ์พ่นใยออกมาต่อเนื่องและพันธนาการตัวนิ่มเอาไว้ในรังใยขาวใหญ่ยักษ์ ไม่ว่าตัวนิ่มจะพยายามอย่างไร มันไม่สามารถหลุดรอดไปจากใยแมงมุมที่ถาโถมมาอย่างต่อเนื่องได้
สุดท้ายมันนอนนิ่งอยู่บนพื้นอย่างสูญสิ้นความหวัง ขณะแมงมุมยักษ์ไต่เข้ามาหามัน
ดวงตาสีแดงเลือดจำนวนมากส่องประกายขึ้นจากในถ้ำชัดเจนว่านี่คือรังของพวกมัน
…
“ลุงเฉิน ขอซื้อลูกสนเข็มสิบสี่กิโลกรัมครับ” เกาเผิงกล่าวเมื่อเข้าไปในร้านค้าแห่งหนึ่งในวันเสาร์
“สิบสี่กิโลเหรอ?” ชายที่เกาเผิงเรียกลุงเฉินเป็นชายผอมสูงผิวคล้ำ ลูกค้ามักเรียกเขาว่าลุงเฉิน
“เสียใจด้วยคุณเกา เหลือลูกสนเข็มเพียงห้ากิโลกรัมเท่านั้น” ลุงเฉินเอ่ยขอโทษ
เกาเผิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ถ้าเช่นนั้นผมขอซื้อทั้งหมดครับ”
เนื่องจากสำนักงานนกร็อคทะยานฟ้าของเกาเผิงอยู่ใกล้กับร้านค้าแห่งนี้ เขาจึงมักมาซื้อวัตถุดิบเป็นประจำ
เจ้าของร้านอีกคนกล่าวต่อ “ความจริงแล้ว ไม่ใช่แค่ลูกสนเข็มเท่านั้นหมดสต๊อก แต่มีสินค้าอีกหลายรายการที่ขาดตลาด”
“เกิดอะไรขึ้นครับ?” เกาเผิงถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ดัมมี่ต้องกินลูกสนเข็มอีกเก้าสิบกิโลกรัม เพื่อยกระดับเป็นมหากาพย์ หากกระบวนการมันขาดตอน เขากลัวว่ามันจะมีปัญหา
“ร้านค้าของเราได้รับสินค้ามากมายจากที่ดินส่วนตัวที่อยู่ใกล้เมืองฉางอาน” เจ้าของร้านดูดบุหรี่ก่อนกล่าวต่อ “ตอนนี้ข่าวยังไม่ถูกเผยแพร่ออกไป แต่ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมามีแมงมุมวายร้ายย้ายถิ่นมาจากที่อื่นและสร้างปัญหาไปทั่ว พวกมันกินทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า นั่นทำให้สัตว์อสูรในบริเวณนั้น เริ่มอพยพไปอยู่ที่อื่นแล้ว เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์เป็นอย่างมาก ผมเกรงว่าคุณเกาจะไม่สามารถหาลูกสนเข็มได้พักใหญ่ๆ”
“แมงมุมวายร้าย…” เกาเผิงพึมพำและพยายามจินตนาการถึงสิ่งที่เรียกว่าแมงมุมวายร้าย
“แมงมุมวายร้ายเป็นชื่อเล่นที่เราใช้ แต่ชื่อจริงๆ ของมันคือแมงมุมปีศาจสีเทาหรืออะไรทำนองนี้แหละ ผมจำไม่ได้นักหรอก” เจ้าของร้านทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้นและใช้เท้าเหยียบก้นบุหรี่ “หากคุณเกาต้องการสินค้า คงต้องหามันด้วยตัวเองแล้วล่ะ”
เกาเผิงเดินออกมาจากร้านค้าและถอนหายใจ ตอนนี้เป็นชั่วโมงเร่งด่วนถนนเต็มไปด้วยผู้คน แต่เขาต้องรีบทำธุระให้เสร็จและกลับไปดูต้าซื่อที่กำลังวิวัฒนาการ
ลูกสนเข็มเป็นสินค้าที่มีความต้องการซื้อสูงเพราะมันเป็นอาหารของสัตว์อสูรธาตุหยินทุกชนิด เกาเผิงไม่สามารถเพิกเฉยได้ หลังจากได้ยินข่าวนี้เขาจึงเริ่มกักตุนลูกสนเข็ม
เกาเผิงเดินไปทุกร้าน เขากว้านซื้อลูกสนเข็มมาทั้งหมด สุดท้ายเขาได้มาเพียงสี่สิบห้ากิโลกรัม
อย่างไรก็ตาม เขาไปยังสำนักงานนักล่าเพื่อมอบภารกิจหาลูกสนเข็มเป็นจำนวนหนึ่งร้อยสามสิบหกกิโลกรัมด้วยเงินรางวัลหนึ่งพันหนึ่งร้อยดอลลาร์พันธมิตร มีลูกสนเข็มอยู่ตามถิ่นทุรกันดารหลายแห่ง ทว่ามันมักกระจายตัวกันออกไป การรวบรวมจึงต้องใช้เวลาและพลังงานค่อนข้างมาก
แต่เกาเผิงสามารถทำงานให้สำเร็จได้ด้วยการใช้เงิน เขาไม่จำเป็นต้องออกไปเก็บรวบรวมมันด้วยตนเอง
เมื่อกลับถึงบ้าน เกาเผิงเปิดคอมค้นหน้าข่าวเกี่ยวกับแมงมุมปีศาจสีเทา หลังจากอ่านข่าวเกี่ยวกับแมงมุมปีศาจสีเทาแล้วพบว่า “แมงมุมพวกนี้ช่างน่ากลัว”
เกาเผิงเลื่อนดู บทความของแมงมุมปีศาจสีเทา
“สุดช็อก! แมงมุมยักษ์โหดร้ายป่าเถื่อนที่สุด...”
“คุณจางที่อยู่ในเมืองเล่าให้เราฟังว่า มันเป็นคืนที่น่าหวาดกลัวที่สุด เขาเกือบกลายเป็นอาหารของแมงมุมวายร้ายแล้ว!”
“แมงมุมสายพันธุ์ใหม่ปรากฏตัวขึ้นแล้วในป่าหินดําใกล้กับเมืองฉางอาน ตอนนี้ทางรัฐบาลได้ประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่ อย่าเข้าใกล้ป่าโดยไม่จำเป็น”
…………………………………………….