webnovel

Braille: Love code ปฏิญาณรักอักษรเบลล์

อุบัติเหตุวัยเด็กทำให้ ‘รามิล’ ต้องสูญเสียการมองเห็น เขาจึงไม่สามารถที่จะรักษาสัญญาที่เคยให้ไว้กับเด็กสาวคนหนึ่งได้ “โตขึ้นหนูจะเป็นเจ้าหญิงแต่งงานกับพี่เอง” เพราะว่าดวงตาที่ไม่สามารถคอยมองดูเธอเติบโต และปกป้องเธอได้อีกต่อไปเขาจึงไม่สามารถเป็นเจ้าชายให้เธอได้ ทำให้เขาต้องการที่จะปฏิเสธการแต่งงานระหว่างเธอ กับเขาที่ผู้ใหญ่เป็นคนจัดการให้ ทว่ายิ่งใกล้ชิดความรู้สึก ความผูกพันก็ยิ่งถลำลึกเกินกว่าจะห้ามใจ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนเธอยังเป็นเด็กน้อยที่เขาอยากจะปกป้อง เพียงแต่ว่าตอนนี้เธอได้กลายเป็นสาวน้อยเต็มวัยที่เขาไม่อยากรั้งอนาคตของเธอให้ต้องมาแต่งงานกับผู้ชายตาบอดอย่างเขา

Ceres_s · วัยรุ่น
เรตติ้งไม่พอ
9 Chs

Episode 02 ทดลองอยู่ด้วยกัน

Episode 02 ทดลองอยู่ด้วยกัน

บ้านรามิล

วันนี้เป็นวันแรกที่เธอจะย้ายเข้ามาอยู่กับรามิลในบ้านหลังเดียวกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ไปท้าทายเขาเอาไว้ว่าจะทำให้เขาเปลี่ยนใจยอมแต่งงานกับเธอให้ได้ทำให้เธอรู้สึกประหม่านิดหน่อยที่ต้องมาอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับเขา ถ้าวันนั้นเธอไม่ปากไว้ไปแบบนั้นก็คงไม่ต้องรู้สึกกดดันแบบนี้

บ้านรามิลเป็นบ้านหนึ่งชั้นขนาดใหญ่มีทั้งหมดสามห้องนอนสองห้องน้ำซึ่งห้องอาบน้ำต้องใช้ร่วมกัน ภายในบ้านจะดูโล่งๆ โปร่งสบายคงออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับรามิลที่มองไม่เห็น

"อยู่ได้ไหมอยากเปลี่ยนอะไรรึเปล่า" รามิลที่ใช้ความคุ้นเคยทางเดินในบ้านเดินนำเธอมาที่ห้องนอนของเธอซึ่งถูกตกแต่งสไตล์มินิมอลสีขาวเรียบง่าย ซึ่งเป็นแบบที่เธอชอบจึงไม่รู้สึกติดขัดอะไร

"สบายมากค่ะ ห้องสวยมาก"

"ที่นี่จะมีแม่บ้านมาอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง ระหว่างนั้นต้องดูแลบ้านเอง หากับข้าวกินเองส่วรใหญ่จะสั่งมาแช่ตู้เย็นเอาไว้แล้วอุ่นเอา" รามิลอธิบายรายละเอียดคราวๆ ให้คนตัวเล็กฟัง

"แล้วห้องพี่รามอยู่ทางไหนเหรอคะ"

"อยู่ถันจากห้องเราไป"

"แล้ววันนี้พี่รามไม่ออกไปทำงานเหรอ" อลิชาแสร้งถามเพราะวันนี้หากสังเกตจากชุดที่เขาใส่แล้วไม่เหมือนกับคนที่กำลังจะไปทำงานเลยสักนิด

"วันนี้ไม่ได้ไป"

"ไม่ได้ไปแล้วทำอะไร"

"ไม่ได้ทำอะไร"

"งั้นไปเดินเล่นข้างนอกกันไหมคะ"

"พี่อยากอยู่คนเดียว"

คำตอบที่แสนจะเย็นชาไร้ความรู้สึกของรามิลทำให้อลิชาแอบเบ๊ะปากคว่ำใส่เขาด้วยความหมั่นเขี้ยว แต่ก็ไม่ย่อท้อที่จะหาเรื่องคุยกับเขา

"งั้นพี่รามช่วยเล่าเกี่ยวกับบริษัทพี่ให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ"

"เดี๋ยวพรุ่งนี้เริ่มงานจะมีคนคอยแนะนำให้เอง"

ดวงตากลมโตยืนกระพริบตามองดูร่างสูงโปร่งที่หันหลังเดินออกไปด้วยความเหนื่อยใจ ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนที่ไร้ปฏิสัมพันธ์ขนาดนี้

"แต่ที่ผ่านมาพี่เขาก็เป็นแบบนี้นี่ ยังไม่ชินอีกเหรอลิชา" หญิงสาวพึมพำกับตัวเองเมื่อชวนอีกฝ่ายคุยไม่สำเร็จเธอจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปเก็บข้าวของของตัวเองเข้าที่แทน

ในขณะที่อลิชากำลังเก็บของอยู่ภายในห้องรามิลก็เดินมาที่ห้องทำงานที่ออกแบบเป็นกึ่งห้องหนังสือ ซึ่งหนังสือทั้งหมดในห้องนี้จะเป็นหนังสืออักษรเบลล์สำหรับผู้พิการทางสายตาโดยเฉพาะ

หนังสือส่วนใหญ่ก็จะเป็นเกี่ยวกับการทำธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ต่างๆ เพื่อใช้ในการบริหารบริษัทในเครือของเขา รวมถึงบนโต๊ะทำงานที่ยังคงมีกองเอกสารที่ฉะลุเป็นตัวอักษรเบลล์เกือบทั้งหมด

ภายในบ้านหลังนี้เขาสามารถเดินไปยังที่ต่างๆ หรือทำกิจวัตรประจำวันได้โดยที่ไม่ต้องใช้ไม้เท้านำทางสำหรับคนพิการ เพราะความคุ้นเคยบวกกับตำแหน่งข้าวของที่วางตำแหน่งเดิมเขาจึงไม่มีปัญหาในการใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้เพียงลำพัง โทรศัพท์มือถือที่ใช้ติดต่อก็เป็นโทรศัพท์แบบมีปุ่มกดที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ และจะเน้นการใช้งานรูปแบบเสียงเป็นหลัก อย่างเวลามีคนโทรเข้ามาก็จะอ่านชื่อเบอร์โทรเพื่อระบุตัวตนของเจ้าของเบอร์โทร

อลิชาที่เก็บของเสร็จแล้วเดินออกมาแอบดูเขานั่งอ่านหนังสือเงียบๆ อยู่ตรงมุมประตูห้องนอนไม่ได้เข้าไปรบกวนสมาธิของเขา พอได้มองมุมสบายๆ ของเขาตอนอ่านหนังสือแล้วยิ่งทำให้เธอรู้สึกถึงอ่อร่าบางอย่างในตัวของรามิลที่เปล่งประกายออกมา ถึงแม้ดวงตาของเขาจะมองไม่เห็นแต่เขากลับโดดเด่นอยู่ตลอดเวลาราวกับรูปปั้นไม่มีที่ติ

"มาตั้งแต่เมื่อไหร่"

"พี่รามรู้ได้ไงคะว่าหนูอยู่ตรงนี้" คนตัวเล็กตาเบิกโพลงด้วยความประหลาดใจที่รามิลทักออกมาราวกับรู้ว่าเธออยู่ตรงไหน

"ได้ยินเสียงหายใจน่ะ"

"หนูหายใจดังขนาดนั้นเลยเหรอ" เธอย่นหน้าด้วยที่ถูกจับได้ ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งลงบนพื้นข้างๆ เก้าอี้ของเขา "พี่รามอ่านหนังสืออยู่เหรอคะ" เธอเอ่ยถามพร้อมกับมองหนังสือที่มีรอยปะของตัวอักษรเบลล์อยู่เต็มหน้ากระดาษซึ่งแน่นอนว่าเธอไม่สามารถอ่านมันออกได้

"อืม"

"สอนหนูอ่านบ้างได้ไหม"

"จะอยากอ่านไปทำไม"

"ก็เพื่อหนูจะช่วยงานพี่ได้บ้างไง หรือจะให้หนูอ่านหนังสือให้ฟังดีไหม"

"พี่อยากอยู่ด้วยตัวเองไม่ต้องมาดูแลพี่"

"หนูรู้ว่าพี่อยากทำทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่หนูก็แค่…"

"เราไม่จำเป็นต้องทำอะไรให้พี่ทั้งนั้นพี่ดูแลตัวเองได้ อีกอย่างงานแต่งของเราก็ไม่มีวันเกิดขึ้นอยู่แล้วไม่ต้องมาเสียเวลากับพี่หรอก"

เนื่องจากไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับประโยคตัดความสัมพันธ์กลายๆ ของเขายังไงอลิชาจึงเลือกที่จะไม่ตอบอะไรกลับไปแทน

"หนูไปชงชามาให้นะคะ จะได้อ่านหนังสือสบายๆ"

เสียงฝีเท้าที่เดินไกลออกไปบ่งบอกว่าอลิชาคงเดินออกไปจากห้องนี้แล้วทำให้รามิลแอบผ่อนลมหายใจออกมาให้กับความดื้นรั้นของคนตัวเล็ก

เขาไม่อยากให้เธอมาสร้างความทรงจำเพิ่มเติมให้กับเขา เพราะที่มีอยู่มันก็มีค่ามากพอที่จะทำให้เขาจดจำไปทั้งชีวิตแล้ว

"พี่รามเรามาเล่นกันเถอะ" น้ำเสียงเล็กๆ ตะโกนเรียกพร้อมกับวิ่งถือมงกุฎมาสองอัน

"เล่นอะไรตัวเล็ก" เขาเอ่ยถามสาวน้อยวัยห้าขวบลูกสาวเพื่อนพ่อที่มักจะมาเล่นที่บ้านบ่อยๆ ด้วยความเอ็นดู

"คุณพ่อซื้อมงกุฎเจ้าหญิงมาให้ หนูเลยขอคุณพ่อซื้อมงกุฎเจ้าชายมาด้วย"

"ให้พี่เหรอ"

"ใช่ค่ะ หนูจะให้พี่รามเป็นเจ้าชายของหนู"

"ฮ่าๆๆ โอเค"

"คุณพ่อบอกว่าตอนนี้หนูเป็นเจ้าหญิงน้อยอยู่ยังแต่งงานไม่ได้"

"งั้นเหรอ"

"โตขึ้นหนูจะเป็นเจ้าหญิงแต่งงานกับพี่เอง แต่พี่รามต้องมาเป็นเจ้าชายให้หนูนะ"

"อืม สัญญา"

ความทรงจำวัยเด็กเมื่อยี่สิบสี่ปีก่อนตอนที่ดวงตาของเขายังมองเห็นรอยยิ้มสดใสของเด็กน้อยที่ชื่ออลิชา กับสัญญาวัยเด็กที่เขาเคยให้เอาไว้กับเธอ แต่น่าเสียดายที่เขารักษาสัญญากับนั้นกับเธอไม่ได้ เพราะว่าดวงตาที่ไม่สามารถคอยมองดูเธอเติบโต และปกป้องเธอได้อีกต่อไปเขาจึงไม่สามารถเป็นเจ้าชายให้เธอได้ตามที่ให้สัญญาเอาไว้ ถึงแม้เธอจะจำมันไม่ได้เพราะตอนนั้นยังเด็กมาก ทว่านับตั้งแต่วินาทีนั้นเขาก็ตั้งใจจะแต่งงานกับเธอมาตลอดจนกระทั่งวันที่เขาหยุดความคิดนั้นลงเมื่อไม่สามารถใช้ชีวิตปกติร่วมกับเธอได้

ตอนนี้จึงทำได้แค่ปล่อยให้เธอได้เติบโตเป็นเจ้าหญิงที่งดงามในอ้อมแขนของเจ้าชายที่พร้อมจะปกป้องเธอจริงๆ ไม่ใช่คนพิการแบบเขา