webnovel

Braille: Love code ปฏิญาณรักอักษรเบลล์

อุบัติเหตุวัยเด็กทำให้ ‘รามิล’ ต้องสูญเสียการมองเห็น เขาจึงไม่สามารถที่จะรักษาสัญญาที่เคยให้ไว้กับเด็กสาวคนหนึ่งได้ “โตขึ้นหนูจะเป็นเจ้าหญิงแต่งงานกับพี่เอง” เพราะว่าดวงตาที่ไม่สามารถคอยมองดูเธอเติบโต และปกป้องเธอได้อีกต่อไปเขาจึงไม่สามารถเป็นเจ้าชายให้เธอได้ ทำให้เขาต้องการที่จะปฏิเสธการแต่งงานระหว่างเธอ กับเขาที่ผู้ใหญ่เป็นคนจัดการให้ ทว่ายิ่งใกล้ชิดความรู้สึก ความผูกพันก็ยิ่งถลำลึกเกินกว่าจะห้ามใจ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนเธอยังเป็นเด็กน้อยที่เขาอยากจะปกป้อง เพียงแต่ว่าตอนนี้เธอได้กลายเป็นสาวน้อยเต็มวัยที่เขาไม่อยากรั้งอนาคตของเธอให้ต้องมาแต่งงานกับผู้ชายตาบอดอย่างเขา

Ceres_s · วัยรุ่น
เรตติ้งไม่พอ
9 Chs

Episode 01 ว่าที่สามีตาบอด

Episode 01 ว่าที่สามีตาบอด

ร่างอรชรในชุดเสื้อฮู๊ดแขนยาวสีขาวพิมพ์โลโก้แบรนด์ดังกับกางเกงยีนคู่ใจสีฟ้าอ่อนเดินตามพนักงานร้านอาหารเข้ามายังโต๊ะที่พ่อของเธอจองเอาไว้ตามเวลานัด ซึ่งครั้งนี้ดูจะผิดคาดจากที่เธอคิดอยู่หน่อยๆ เพราะว่ารามิลมานั่งรอที่โต๊ะอยู่ก่อนแล้ว

"รอนานไหมคะ" อลิชาเอ่ยทักทายเขาด้วยน้ำเสียง และถ้อยคำที่เป็นกันเอง ถึงแม้จะรู้สึกประหม่าทุกครั้งที่ต้องมาเจอเขาก็ตาม

"พี่พึ่งมาถึงเหมือนกัน" รามิลตอบกลับประโยคคำถามของหญิงสาวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเหมือนกับสีหน้าของเขาที่ไม่ได้บ่งบอกอารมณ์ใดๆ ออกมา

"สั่งอะไรมาทานรึยังคะให้หนูสั่งให้ไหม" อลิชายังคงชวนอีกฝ่ายคุยเพื่อทำลายบรรยากาศอึดอัดเนื่องจากหัวข้อสนทนาที่ตั้งใจมาพูดคุยวันนี้ค่อนข้างอึดอัดพอสมควร

"พี่ให้เลขาสั่งให้แล้ว"

"อ๋อ งั้นหนูสั่งของหนูนะ"

"อืม"

อลิชาหันไปสั่งอาหารกับพนักงานพร้อมกับเครื่องดื่ม เธอจ้องมองใบหน้าหล่อเหล่าของเขาเงียบๆ เพราะไม่รู้ว่าจะชวนคุยเรื่องอะไรดีอีกทั้งยังแอบรู้สึกเสียดายดวงตาคู่สวยของเขาที่มองไม่เห็น ถ้าหากเขามีร่างกายที่ปกติเหมือนคนอื่นคงจะมีสาวๆ รุมล้อมกายตลอดเวลา

"ทำไมวันนี้พี่รามถึงมีเวลาว่างมากินข้าวกับหนูได้ ปกติพี่รามงานยุ่งมากนี่คะ" หลังจากนั่งเงียบอยู่นานเธอก็ตัดสินใจเอ่ยถามเขาอีกครั้ง เพราะดูแล้วถ้าเธอไม่เป็นฝ่ายชวนคุยก่อนเขาก็คงจะไม่พูดอะไรเลย

"เรามีเรื่องจะคุยกับพี่ไม่ใช่เหรอ"

"พี่รามรู้ได้ยังไงคะว่าหนูมีเรื่องจะคุยด้วย"

"เรื่องยกเลิกงานแต่งใช่ไหม" เพราะกำหนดวันแต่งงานที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายบีบบังคับเข้ามาหลังจากที่อลิชาเรียนจบ เขาเองก็พอจะเดาได้ว่าเธอคงจะรู้สึกกดดันไม่น้อย

"เกือบจะเดาถูกแล้วค่ะ แต่หนูไม่ได้มาคุยเรื่องนี้" เธอตอบกลับด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มถึงแม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นก็ตามว่าเธอมีสีหน้ายังไงตอนนี้ "เดี๋ยวหนูทำเองค่ะ" เธอหันไปบอกนาวาเลขาของรามิลที่กำลังจะเข้ามาจัดตำแหน่งอุปกรณ์ทานอาหารให้เขาเอาไว้ พร้อมกับลุกเดินไปจัดวางตำแหน่งช้อนส้อมให้เขาด้วยตัวเอง

ถึงแม้ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอจะไม่มีอะไรพิเศษ แต่เธอก็ทำหน้าที่ว่าที่ภรรยาของเขามาตลอดเท่าที่จะทำได้เนื่องจากเขาไม่ใช่ว่าที่สามีแบบปกติทั่วไปจึงมีรายละเอียดให้เธอได้เรียนรู้ก่อนจะแต่งงานกัน แน่นอนว่าทั้งหมดที่ทำเขาไม่เคยต้องการเลย แต่เธอก็ทำมันจนกลายเป็นความเคยชินจึงรู้รายละเอียดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของเขาดีไม่แพ้กับนาวาเลขาคู่ใจของเขาที่จะคอยตามดูแลเขาไปทุกที่

"ขอบใจ"

"ไม่เป็นไรค่ะ" เธอกางผ้าเช็ดปากลงบนตักของเขาเป็นอย่างสุดท้ายก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่ของตัวเอง

"แล้ววันนี้ตั้งใจมาคุยกับพี่เรื่องอะไร"

"เรื่องงานแต่งค่ะ แต่ไม่ใช่เพราะไม่อยากแต่ง แต่อยากรู้ว่าทำไมพี่รามถึงไม่อยากแต่งต่างหาก"

"เพราะไม่อยากแต่ง"

"ถ้าไม่อยากแต่งทำไมต้องรับปากพ่อเรื่องให้เราไปทดลองอยู่ด้วยกันด้วย"

"พี่ก็ถูกแม่บังคับมาเหมือนกัน" เขารู้มาตลอดว่าก่อนหน้านี้อลิชามีแฟนที่คบกันมาตั้งแต่มัธยมปลายพึ่งจะเลิกกันไปไม่กี่เดือนก่อน ทั้งสองครอบครัวเลยบังคับให้เธเต้องมาแต่งงานกับเขา

การที่เธอต้องมาแต่งงานกับคนอย่างเขาคงไม่ง่ายเลย เขาเองก็อยากรีบยกเลิกงานแต่งนี้ให้เร็วที่สุดเพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย แต่การเอาชนะครอบครัวเขาเป็นอะไรที่ยากเกินไป

"ที่ผ่านมาสำหรับหนูไม่ใช่การเสียเวลาถึงแม้จะแค่เวลาสั้นๆ ที่หนูกับพี่ได้กลับมาทำความรู้จักกันอีกครั้ง" อลิชาผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ เธอไม่รู้ว่าต้องทำแบบไหนเขาถึงจะมองเห็นความจริงใจของเธอ

"ต่อให้เราอยู่ด้วยกันพี่ก็จะไม่เข้าไปก้าวกายชีวิตส่วนตัวของเราแน่นอน เราจะแยกกันอยู่คนละห้องไม่น่ามีปัญหาอะไรใช่ไหม"

"หนูไม่ติดอยู่แล้วค่ะ"

"อดทนหน่อยนะ"

"ทำไมต้องใช้คำว่าอดทนด้วย ไม่อยากแต่งงานกับหนูขนาดนั้นเลยเหรอ" เป็นครั้งที่สองที่เธอเอ่ยถามเขาถึงเรื่องนี้ เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงอยากยกเลิกการแต่งงานครั้งนี้ทั้งทีเธอเองก็เต็มใจแต่งกับเขา และครอบครัวเขากับเธอก็เห็นด้วยกับการแต่งงานของเรา

"บอกแล้วไงว่าแค่ไม่อยากแต่ง"

"ไม่อยากแต่งงาน หรือไม่อยากแต่งกับหนู"

"เราจะอยากรู้ไปทำไม"

"อยากรู้ไม่ได้เหรอคะ หนูก็อยากรู้ว่าหนูไม่ดีตรงไหนขาดคุณสมบัติอะไรถึงจะสามารถเป็นเจ้าสาวของพี่ได้"

"…" คำถามของหญิงสาวทำให้รามิลนิ่งเงียบไป แต่กลับไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอะไร เขาเองก็คิดไว้อยู่แล้วว่าเธอควรเจอคู่ชีวิตที่ดีกว่านี้ คนที่พร้อมจะปกป้องเธอไปตลอดชีวิต

"หนูไม่เคยรู้สึกไม่ดีที่พี่เป็นแบบนี้ถ้าพี่เต็มใจที่จะแต่งงานกับหนู หนูก็ยินดีที่จะทำหน้าที่ภรรยาที่ดีดูแลพี่อย่างไม่มีเงื่อนไข" เป็นครั้งแรกที่เธอเปิดใจคุยกับเขาอย่างตรงไปตรงมา เพราะเธอเองก็รู้สึกอัดอั้นเต็มทนที่เขาแสดงท่าทีแบบนี้ใส่เธออยู่ตลอดเวลา

"…"

"ไหนๆ เราก็ต้องไปอยู่ด้วยกันแล้วทำไมแทนที่พี่จะขีดเส้นกั้นระหว่างเรา ทำไมเราไม่มาลองเปิดใจกันดูละบางทีพี่อาจจะชอบหนูก็ได้นะ" จากที่ตอนแรกตั้งใจมาเพื่อปฏิเสธการอยู่ร่วมกันกับเขา พอได้ฟังคำตอบที่ไร้เหตุผลจากเขาบ่อยๆ เข้ากลับทำให้เธออยากเอาชนะใจเขาให้ได้เสียอย่างนั้น

"พี่ยังยืนยันคำเดิมว่าพี่ไม่ต้องการแต่งงาน"

"แล้วถ้าหนูทำให้พี่อยากแต่งได้ พี่จะแต่งงานกับหนูไหม"

ความสดใส ความจริงใจ ความตรงไปตรงมาของหญิงสาวทำให้รามิลไม่สามารถตอบกลับอะไรออกมาเป็นคำพูดได้ แต่ก็รับรู้มาตลอดว่าที่เธอทำไปทั้งหมดคงเพราะต้องการประชดชีวิตหลังการอกหัก ซึ่งการอยู่ร่วมกันในครั้งนี้เขาจะทำให้เธอได้เรียนรู้ว่าการที่ตัดสินใจแต่งงานกับเขาเป็นอะไรที่ผิด

"อาหารพร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ" พนักงานสาววางจานอาหารลงบนโต๊ะก่อนจะเดินกลับออกไป

ทว่ารามิลกลับไม่ยอมทานอะไรเลยจนอลิชาต้องละจากจานตัวเองเงยหน้าขึ้นไปถามเขา

"ทำไมไม่ทานคะ"

"คุยธุระเสร็จแล้วพี่กลับก่อนแล้วกัน…อือ" รามิลร้องอุทานในลำคอเบาๆ ด้วยความตกใจเมื่อชิ้นสเตกถูกป้อนเข้ามาในปากกะทันหัน

"ไหนๆ ก็มาถึงร้านดังแล้วลองชิมสักคำก็ยังดีค่ะ" อลิชาบอกพร้อมกับแอบหัวเราะด้วยความเอ็นดูท่าทางเลิ่กลั่กของชายหนุ่มที่ไม่ได้มีมาให้เห็นบ่อยนัก "ถ้าไม่ทานเองหนูจะป้อนอีกนะคะ" เธอข่มขู่เขาเสียงหวานทำให้รามิลแอบผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ แต่ก็ยอมหยิบมีดกับส้อมขึ้นมาหันสเตกทาน ถึงแม้จะมองไม่เห็นแต่เขาก็สามารถทานอาหารได้เหมือนคนปกติ ใช้ความเคยชิ้นจากตำแหน่งการวางอุปกรณ์อาหารที่ใช้เป็นประจำ

การสร้างสรรค์งานเป็นเรื่องยาก ส่งกําลังใจให้กันด้วยนะ!

มีความเห็นเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ใช่รึเปล่า คอมเมนต์มาได้เลยไรต์อยากฟัง

Ceres_screators' thoughts