บดินทร์วูบไปแวบหนึ่ง แวบหนึ่งที่เรียกว่ายังไม่ทันกะพริบตา
อเล็กซานเดอร์อ้าปากค้าง "ฉันสาบานว่าเมื่อครู่นายเพิ่งวูบไป"
บดินทร์ลืมตาขึ้น ตะเกียงดวงหนึ่งส่องอยู่เหนือร่างของเขา ดูเหมือนเขาจะเป็นลมและไถลไถลเลื่อนตกจากท่ายืนลงมากองอยู่กับพื้น อเล็กซานเดอร์กับแคสซิโอเปียคุกเข่าอยู่ข้างๆ และเหนือร่างของทั้งสอง บดินทร์มองเห็นวิลเลี่ยมและฟ้าประทานกำลังจ้องมองเขาอยู่
อเล็กซานเดอร์กับแคสซิโอเปียพยุงเขากลับขึ้นมานั่ง
"นายเป็นอะไรหรือเปล่า" อเล็กซานเดอร์ใจคอไม่ดี
"ไม่เป็นไร ฉันหลับแปดชั่วโมง กินสารอาหารห้าหมู่ สงสัยจริงว่าเป็นลมเพราะอะไรกันนะ" บดินทร์เห็นท่าทางของแคสซิโอเปียยิ่งตกใจกลัวมากขึ้นอีก
"ลมแดด"
บดินทร์มองไปที่วิลเลี่ยม เขาก้าวยาวๆ ผ่านบดินทร์และหายลับไปในทางเลี้ยวมุมหนึ่ง ฟ้าประทานที่หน้าซีดไม่มีสีเลือดมองดูบดินทร์อย่างไม่ใคร่วางใจ เธอปาดเหงื่ออกจากใบหน้าอีกครั้ง ก่อนจะหันหลังกลับแล้วเดินหายลับไปในทางเลี้ยวด้วยอีกคน
ในตอนนี้เองที่เด็กๆ เห็นป้าย อ่านว่า [จากข้อมูลการเฝ้าระวังการเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตเนื่องจากภาวะอากาศร้อน สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ช่วงฤดูร้อน (มีนาคม-พฤษภาคม) ระหว่างปี 2538-2541(1995-1998) พบว่ามีรายงานผู้เสียชีวิตที่เข้าข่ายการเฝ้าระวังการเสียชีวิตจากภาวะอากาศร้อน จำนวน 56, 60, 24, 18 ราย ตามลำดับ]
"นายน่าจะต้องขอบคุณวิลเลี่ยม แคทจะตัดเสื้อของนาย แต่วิลบอกว่าเสื้อของนายบางและไม่รัดแน่น อุณหภูมิถ่ายเทพอแล้ว หรือจะขอบคุณรักฟ้าก็ได้ เธอใช้ถุงน้ำแข็งประคบตามรักแร้ คอ หลังและขาหนีบ พื้นที่กักเก็บอุณหภูมิทั้งหลายตอนที่นายวูบ"
บดินทร์ อเล็กซานเดอร์ และแคสซิโอเปียเดินอย่างรวดเร็วไปตามทางเดิน
พวกเขาควรตามเพื่อนอีกสองคนให้ทัน
อเล็กซานเดอร์คอยชำเลืองดูเขาอยู่ตลอด ส่วนแคสซิโอเปียก็คะยั้นคะยอส่งน้ำให้ดื่มเหมือนกับกลัวว่าเขาจะล้มลงไปอีก
แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เด็กทั้งสามคนถึงกับตาค้างทันทีที่เห็นลานกว้าง
มีความเห็นเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ใช่รึเปล่า คอมเมนต์มาได้เลยไรต์อยากฟัง