นกแก้วตัวหนึ่งโผบินเข้ามายังรังไม้จำลองใกล้กับอาศรมนักบวช ส่งเสียงร้องก้องไปทั่ว หม่องมิโมเห็นและเป็นผู้เดินไปหามันที่รัง สกุณาหลากสียังส่งร้องเสียงเจื๊อยแจ้วบอกข้อความไม่ได้ขาด ชายหนุ่มฟังจบก็หยิบกระดาษที่ผูกบริเวณปลายขาออก ก่อนนำทั้งนกและสารลับกลับไปหาเจ้านายของเขาบนเรือนใหญ่
"เราชนะแล้ว... ชนะแล้ว..." ปักษาส่งสารร้องเป็นคำเมื่อเห็นฤๅษีผมขาวตรงหน้า มินเลตยาฟังสารจากเจ้านกแก้วก็หัวเราะ พลางควานหาผลไม้ที่มีคนถวายให้มันเป็นรางวัล
"ส่งมาจากชายแดนมณีปุระที่เมืองกระแซขอรับ" หม่องมิโมกล่าวรายงาน
"แค่นกแก้วพูด ข้าเดาได้แล้วว่าส่งมาจากที่ไหน" มินเลตยาแบมือรับสารจากคนสนิท แต่ไม่ทันที่ผู้ทรงศีลจะได้อ่าน เสียงคนกลุ่มหนุ่มก็ดังขึ้นใกล้เข้ามาบริเวณถิ่นพำนัก เจ้าตัวจึงกำสารไว้พลางพูด "เสียงพวกนี้ข้าก็เดาไม่ถูกเลยว่าเป็นใคร"กล่าวจบก็เอานกน้อยฝากมิโมไปเก็บ แล้วจึงคว้าไม้เท้าเดินออกไปชะเง้อดูหน้านิวาส มองว่าเป็นเสียงคณะผู้ใด
หลานตัวน้อยมาอีกแล้ว ผู้เป็นญาติผู้ใหญ่พึมพำ วันนี้พวกหลานชายหลานสาวก็เดินทางมาพบตนอีกครั้ง เหล่าแขกของอาศรมรั้งรอบริเวณด้านล่าง ก่อนเป็นองครักษ์หนุ่มชาวต่างชาติก้าวเท้ามายังปลายบันไดชานที่พำนัก
"ช่วยเรียนผู้ทรงศีลทีขอรับ องค์หลานหลวงและคณะมาขอเฝ้าขอรับ" ซิมาวเอ่ย มองขึ้นหาผู้อยู่ด้านบน ครั้นพอมินเลตยาออกมาพบซิมาวก็ก้มหน้าลงต่ำ โค้งด้วยความเคารพ
"เสียงมาก่อนตัวเลยเชียวหนา หลานของข้า ไม่ได้มาอาศรมตั้งหลายเดือนกว่านึกว่าลืมข้าไปแล้วนะ" สายตาของนักบวชมองซิมาวจากมุมสูง เขาย่อเข่าเล็กน้อย ก้มทางผู้ที่อยู่ด้านล่างก่อนพูดเสียงกระซิบ "ไม่เจอหน้าเป็นเดือน เดอเมลโล สบายดีไหม?"
"บิดาของข้าปลอดภัยดีขอรับ ท่านกำลังกลับมาจากมณีปุระ และขอบคุณไวน์ที่ท่านส่งไปให้คราวก่อนอีกด้วย..."
"ข้าไม่ได้หมายถึงพ่อของเจ้า ...ซิมาว"
ซิมาวคล้ายจะพูดบางอย่างแต่เลี่ยงไว้ ก่อนเสสายตาไปทางอื่น "แข็งแรงดีขอรับท่าน"
"ดีแล้ว เป็นราชองครักษ์ก็ต้องแข็งแรงไว้สิดี" ฤๅษีพูดจบก็ลงจากบันไดอาศรมพร้อมมิโมที่ตามไล่หลังมา ทั้งสองฝ่ายทักทายแก่กันเป็นพิธีแล้วก็เป็นมินเลตยาที่เอ่ยขึ้นก่อน "ว่าแต่คราวนี้มีกระไรกันล่ะ ข้าว่ายังไม่ถึงเวลาที่ตกลงกันไว้หนก่อนนี่หนา มังสามเกียด...น้ายังมิไปเป็นครูฝึกให้เจ้าในวังหรอกหนา"
"เจ้าพ่อกับเจ้าปู่ใคร่นัดแนะพบเจ้าน้าเพื่อปรึกษาราชกิจ แลเตรียมงานมหรสพเถลิงศกปีใหม่ที่จะถึงนี้ขอรับ" มังสามเกียดทูลพระญาติไปตามตรง "ข้าจึงออกมาเพื่อแจ้งข่าวด้วยตนเอง และอาศัยเหตุคราวนี้แวะมาช่วยงานไปด้วยในตัว"
"ช่วยงานฤๅ?" ฤๅษีใช้ปลายนิ้วม้วนปลายผมของตน
"เจ้าน้าเคยบอกหลานหนก่อน ว่าหลังสงครามมณีปุระ เจ้าน้าต้องการลูกมือช่วยงาน" โอรสเจ้าวังหน้าเลิกแขนเสื้อขึ้นเล็กน้อย "ข้าขอเชงมาหน่องจามาช่วยด้วย ส่วนซิมาวกับคนอื่นจะดูแลรอบหน้า ไม่ก่อกวนกิจการของเจ้าน้าหรอกขอรับ"
"จะดีฤๅ อยู่กับน้าบ่อยเจ้าจะมัวหมองนะ"
"ช่วยงานน้าชายมีกระไรให้มัวหมองหรือขอรับ"
"...น้ามั่นใจเรื่องชื่อเสียงตัวเองอยู่นะ และคิดว่าเชื้อพระวงศ์ถือยศถือศักดิ์ศรีไม่น่าเสด็จมาหาสักเท่าไรหรอก"
"เจ้าน้าพูดกระไรป่านนี้ คราวก่อนเจ้าพ่อกับเจ้าปู่ก็เสด็จมาที่นี่" หลานชายแย้มโอษฐ์ไม่ยอมแพ้
มินเลตยาเลิกคิ้วแกมเจ้าเล่ห์ ทำหน้าไม่รู้เรื่อง "ใครมาเรอะ น้าเห็นแต่ครอบครัวปาดตาลจะทะเลาะกับนายสำเภาจากต้าหมิง"
"กับแค่คนพูดกัน ข้าไม่ยี่หระหรอกขอรับ หรือเจ้าน้าจะผิดคำพูดไม่รับข้าทำงาน"
ฤๅษีหนุ่มรูปงามเดาะลิ้น เจ้าตัวจำได้ดีว่าเคยกล่าวอะไรไปแต่แสร้งเป็นจำไม่ได้เพื่อหยอกเย้าหลานชาย "ผ่านมาตั้งหลานเดือนแล้ว น้าจำไม่ค่อยได้ว่าเอ่ยเช่นนั้นนะ" เจ้าอาศรมกระแอมจำยอมคำหลานชาย แล้วจึงหันไปทางหลานสาว "เอาเถิด กับมังสามเกียดก็คุ้นหน้าอยู่ แต่หลานสาวคนดีก็จะมาช่วยงานอาศรมย่านกันดารดงด้วยหรือ..."
"งานนี้หลานไม่เหมาะกระมังเพคะเจ้าน้า" เจ้านางน้อยมังอะถ้วยแย้มพระสรวลชวนเอ็นดู ช่วงเวลาที่ผ่านมาพระนางได้ติดตามพระอนุชาอยู่เนืองๆ จนบัดนี้ก็พอคุ้นชินเจ้าน้ามากกว่าแต่ก่อน "หลานออกมานอกวังกับน้องสามเพราะเรื่องกิจการค้าให้เจ้าย่าเท่านั้นเพคะ ตามมาคราวนี้ก็เพียงมาส่ง อีกประการเจ้าแม่ได้ฝากของกำนัลมาให้เจ้าน้าด้วยเพคะ" กล่าวจบก็ลอบส่งสัญญาณให้แม่ดานองนำของกำนัลไปมอบให้หม่องมิโม
"ของกำนัลหรือ...พี่หญิงเรามัดมือข้าแล้วซิ" มินเลตยานึก ของกำนัลคราวนี้ก็เป็นของและสารฝากฝังดูแลลูกชายหัวแก้วหัวแหวน "ช่วยกิจการค้าซิหนา...มหาเทวีเจ้าทรงรับรองวาณิชคนกันเองดีเลิศจริงเชียวหนอ"
"แน่นอนซิเพคะ เรื่องสำคัญนี่เพคะ" เจ้านางน้อยแย้มสรวลเล็กน้อย เข้าใจความนัยของคู่สนทนา "หลานขอตัวไปพบทำภารกิจก่อนนะเพคะเจ้าน้า"
"มิโมเอย ช่วยไปส่งที ให้ถึงที่พวกเดอมาร์โคราอยู่โดยปลอดภัย" เจ้าน้าตบบ่าคนสนิท ร่างสูงหน้านิ่งคล้ายจะเอ่ยทักท้วงแต่มินเลตยาก็กล่าวต่อไม่ทันเขาจะขัด "ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ก่อเรื่องหรอก แถมมีมือดีอยู่ด้วย" เจ้าตัวหันไปทางซิมาวเล็กน้อย หม่องมิโมนิ่งครู่หนึ่งก่อนจะทำตามรับสั่งแล้วออกไปพร้อมคณะเจ้านางน้อย พระนางรุ่นเยาว์โบกพระหัตถ์แก่อนุชาก่อนจะเดินจากไป
"อยู่ที่นี่เป็นลูกมือข้า เจ้าต้องปลอมตัวด้วยหนา คิดชื่อเด็ดไว้ใช้ปลอมตัวบ้าง...ดูปู่ของหลานสิ แนบเนียบเป็นที่สุด เอาอะไรมาตั้งชื่อตัวเองว่าจะเด็ด[1] คนปาดตาลจากตองอู...นี่ถ้าคนเก่าคนแก่ได้ยินคงขำพิลึก ตองอูยุคก่อนมีแต่สันดอนทราย แห้งแล้งจะตายไป ต้นตาลจะปลูกขึ้นหรือเปล่าหนอ"
"ท่านคงเห็นรังปลวกในตลาดกระมังขอรับ"
เจ้าน้าหัวเราะก่อน "ในฐานะลูกมือ ยินดีต้อนรับสู่นิวาสหลังน้อยของฤๅษี ...มังสามเกียด เข้ามาแล้วอย่าท้อจนเตลิดกลับวังไปเสียก่อนล่ะ"
หลานหลวงได้ยินก็ยิ้มที่ปลายโอษฐ์ ทรงวิริยะบากบั่นมาจุดนี้มีหรือที่จะหนี
...การต่อสู้ของพระองค์เพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
หวังว่าทุกคนจะชอบนะครับ ขอไปให้ถึง 200000 วิวหรือ300000ไปเลยครับ
Your gift is the motivation for my creation. Give me more motivation!
Creation is hard, cheer me up!
I tagged this book, come and support me with a thumbs up!