webnovel

ตอน กรรมบันดาล8

    ตอน กรรมบันดาล 8

หลังจากที่ทิวาแนะนำให้จิรปรียาทำตาม อาการของหลานสองคนก็อาการดีขึ้น หายปวดท้องและไปโรงเรียนได้ตามปกติ

แต่ด้วยดวงจิตที่จิรปรียานั้น ยังห่วงใยในหลานและพี่เขย เธอก็ได้นั่งสมาธิกำหนดถอดดวงจิตตนเอง เพื่อไปยังที่ๆทำให้เกิดเหตุการณ์นี้

ดวงจิตของจิรปรียาได้ไปถึงทิวเขากลางเขื่อนในเมืองกาญฯ และได้พูดคุยตกลงกับนางไม้ที่นั่น ทั้งสองฝ่ายยินยอมตกลงกันด้วยดี แต่ก็หาได้รู้ไม่ว่า ยังมีบริวาลที่ยังไม่ยอมถอยยอมลาด้วยแรงอาฆาต..

ตอนนี้เด็กๆปลอดภัยดี ก็ถือว่าสำเร็จไปขั้นหนึ่ง จะเหลือก็เพียงพี่เขยของเธอที่อาการยังทรงตัวไม่ดีขึ้น พี่เขยของจิรปรียาได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแถวบ้าน จากนั้นทางโรงพยาบาลได้จัดส่งไปรักษาตัวอีกแห่งหนึ่ง ที่เป็นโรงพยาบาลของรัฐ

แต่ได้หารู้กันไม่ว่าที่โรงพยาบาลแห่งนี้ จะเป็นที่สิ้นสุดของพี่เขยตน หลังจากย้ายที่มารักษาที่นี่ ได้เพียงสองวันอาการของพี่เขยจิรปรียาก็ทรุดตัวลง จิรปรียาได้ทักมาปรึกษากับทิวาอีกครั้ง

ทิวาเองก็ได้บอกกับจิรปรียาไปว่า "ให้ทำการย้ายคนป่วยอีกครั้ง ไม่อย่างงั้นคนป่วยจะแย่"

เธอก็ได้แจ้งต่อพี่สาวและญาติๆ ทางพี่เขย แต่ทุกคนก็หาได้สนใจไม่

จนมาถึงวันที่2ตุลาคม  ทิวาทำธุระของตนเองเสร็จก็ตัดสินใจไปพบจิรปรียาที่บ้านพี่สาวเธอ ในตอนบ่าย และก็มาเยี่ยมคนป่วยพร้อมกัน ในตอนเย็น

หลังจากถึงเวลาได้เข้าเยี่ยม ทิวาได้เข้าไปเยี่ยมพี่เขยพร้อมจิรปรียา ทิวาได้เห็นใบหน้าของพี่เขยจิรปรียาชัด ก็ได้เกิดภาพขึ้นมาในหัว มันเป็นภาพที่เค้าเคยเห็นและครั้งนี้มันเด่นชัดมาก

ในขณะที่เข้าเยี่ยมกันอยู่นั้น จิรปรียาก็ทำการนวดที่ท้องข้อมือข้อเท้าของพี่เขยเธอ ทิวาได้แต่ยืนมองและนึกคิดตามภาพที่ตนเห็น เมื่อคิดได้และตัดสินใจ ทิวาจึงได้จับมือของพี่เขยจิรปรียาขึ้นมา โดยกำหนดจิตให้เป็นสมาธิแล้วใช้ดวงจิตตนผูกกับร่างของพี่เขยจิรปรียาเอาไว้

โดยทิวานั้นได้เขียนตัวยันต์ผูกดวงจิตของตนและร่างของพี่เขยจิรปรียาเอาไว้ เพื่อคอยช่วยพะยุงอาการของพี่เขยเธอ หลังจากที่ได้ทำเช่นนั้นเสร็จ ทิวาก็เดินออกมาข้างนอกห้องผู้ป่วย และมานั่งรอจิรปรียาที่ม้านั้งตรงระเบียง

สักพักจิรปรียาก็ตามออกมานั่งลงข้างๆทิวา และพี่สาวของจิรปรียากับญาติๆก็เดินมานั่งใกล้ๆกัน

ทิวาตัดสินใจพูดในสิ่งที่ตนรู้ แม้ว่ามันจะเป็นการฝืนชะตาของเค้าก็ตาม ทิวาได้บอกกับจิรปรียาโดยพูดเสียงดังพอประมาณ เพื่อให้ทุกคนได้ยินและได้คิดตัดสินใจกันเอา

ทิวาได้บอกว่า "ให้ทำการย้ายคนป่วยเสียซะตอนนี้ หากอยากให้คนป่วยรอดและมีชีวิตต่อไป" ทิวาบอกไปเพียงแค่นั้น

แต่ทางญาติๆของพี่เขยจิรปรียากลับไม่สนใจฟังกัน 

เมื่อทิวาเห็นอย่างนั้น ก็เลยเงียบไม่พูดอะไรอีก ซักพักพี่สาวของจิรปรียาก็หันมาถามทิวาว่า..

"ทิวา..แฟนพี่ที่ป่วยจะหายไหม??"

ทิวาสองจิตสองใจ ว่าจะตอบดีหรือไม่ตอบดี แต่ก็ตัดสินใจพูดไปว่า "อีกไม่เกิน10วัน..คับ.! คนป่วยได้ออกจากโรงพยาบาลนี้แน่...!!"

"แต่....!!" ทิวาพูดไม่ออกได้แต่กล้ำกลืนเอาไว้

"จะให้ดี..ให้พากันทำเรื่องย้ายคนป่วยเสียนะคับ เพราะที่นี่ทางโรงพยาบาลเหมือนเค้าจะรองยาคนป่วย" 

ทิวาพูดได้แค่นั้น ก็เหมือนมีอะไรมาจุกที่คอทำให้พูดอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้

วันนี้คือวันแรกที่ทิวาและจิรปรียาได้พบหน้ากัน หลังจากที่รู้จักกันมาเป็นปี  พอหลังจากหมดเวลาเยี่ยมทั้งหมดก็พากันแยกย้ายกลับบ้าน

ทิวากลับมาที่บ้านพี่สาวของจิรปรียา ก็ได้นั่งพูดคุยกันต่อจนได้เวลาสี่ทุ่ม ทิวาจึงตัดสินใจขอตัวกลับที่พัก เพราะว่าตอนเช้ามีงานที่โรงแรม ตัวทิวาเองต้องเข้างานเช้า เพื่อไปเตรียมงานต่างๆ

ก่อนที่จะกลับ ทิวายังย้ำกับจิรปรียาว่า"ให้ย้ายคนป่วยโดยเร็ว"

จิรปรียาเองก็รับคำ "ค่ะ..ฉันจะพยายามพูดให้พี่สาวนั้น ทำเรื่องย้าย"

จากนั้นทิวาจึงขี่รถเครื่องกลับที่พักตนเอง....

******************************

"ชะตาแม้นเราจักรู้และ แนะวิธีแก้ไข แต่หากเมื่อคนที่ฟังไม่เชื่อ..!คนเราก็ไม่สมควร อย่าฝืนในชะตาคนอื่น"

"ศรัทธาก่อเกิดปาฏิหาริ หากไร้ซึ่งศรัทธาที่แท้จริง ปาฏิหาริก็หาได้เกิดไม่"

ตอนถัดไป