บทที่ 22 โทรศัพท์ฉุกเฉิน
“พี่ใหญ่ ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีแน่ ผมว่าเรียกหนิงซีมาดีไหม?”
“ไม่ได้” ลู่ถิงเซียวสั่งเสียงเยือกเย็น
ลู่จิงหลี่แนะนำอย่างหวังดี “พี่ใหญ่ เสียวเป่าเป็นแค่เด็กเล็กๆ แล้วก็ไม่ได้เป็นลูกน้องของพี่ด้วย พี่เข้มงวดกับเขามากเกินไปแล้ว อ่อนโยนกับเขาสักหน่อยจะเป็นไรไป? มีเด็กที่ไหนไม่เอาแต่ใจไม่ก่อเรื่องวุ่นวายบ้าง?”
“ไม่จำเป็นต้องให้นายมาสั่งสอนฉัน” ลู่ถิงเซียวตอนนี้ใบหน้าเย็นชา ดูแล้วคงไม่มีทางยอมให้เสียวเป่าใช้วิธีก่อเรื่องวุ่นวายเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการจนติดเป็นนิสัยแย่ๆ อีกต่อไป
ลู่จิงหลี่ที่เป็นคนกลางระหว่างสองพ่อลูก รู้สึกปวดหัวจะตายอยู่แล้ว ถ้าเกิดเรื่องวุ่นวายรู้ไปถึงหูพ่อกับแม่ สืบไปสืบมา อาจจะรู้เรื่องที่เขาพาเสียวเป่าเข้าผับด้วยก็เป็นได้ พระเจ้า! ใครก็ได้ รีบมาช่วยทีเถอะ! ลู่จิงหลี่อาศัยจังหวะที่ลู่ถิงเซียวไล่จับเสียวเป่าอยู่นั้นรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาโทรหาหนิงซีทันที...
ตอนเย็น หนิงซีอยู่ที่บ้านอ่านบทไปพลาง แชทกับเพื่อนในอินเตอร์เน็ตไปพลาง
อ๋องปีศาจผู้โสมม : หนิงซี เธอช่วยเปลี่ยนชื่อ QQ หน่อยได้มั้ย? เห็นแล้วทุเรศลูกกะตา
ความว่างเปล่าเดียวดายที่หายไปของฉัน : อ๋องปีศาจผู้โสมมไม่ทุเรศหรอไง? มีหน้ามาว่าฉันอีกหรอ?
อ๋องปีศาจผู้โสมม : นี่ เดือนหน้าฉันจะกลับแล้วนะ มารับที่สนามบินด้วย!
ความว่างเปล่าเดียวดายที่หายไปของฉัน : ไม่ไป ไม่มีว่าง
อ๋องปีศาจผู้โสมม : มารับฉันด้วย!
ความว่างเปล่าเดียวดายที่หายไปของฉัน : ก็บอกแล้วว่าไม่ว่าง!
อ๋องปีศาจผู้โสมม : ตกลงจะมาไม่มา?
ความว่างเปล่าเดียวดายที่หายไปของฉัน : ก็คนเค้าไม่อยากคุยด้วยนี่ แถมจะทิ้งให้เหมือนหมาตัวหนึ่งด้วย
อ๋องปีศาจผู้โสมม : ยอมเป็นหมาของเธอนะ แถมจะเลี้ยงข้าวอีกด้วย
ความว่างเปล่าเดียวดายที่หายไปของฉัน : นี่คือความในใจของหมา ที่รู้สึกเหมือนกับโดนเข็มทิ่มแทง
อ๋องปีศาจผู้โสมม : ***! เธอนี่โสมมกว่าฉันอีก! แล้วใครกันที่เป็นเข็ม!
ความว่างเปล่าเดียวดายที่หายไปของฉัน : เธอพูดจาไม่ดีใส่ฉันก่อนนี่ ไม่คุยด้วยแล้ว จะอ่านบทละคร
อ๋องปีศาจผู้โสมม : แค่บทรองนางเอก มีอะไรน่าดู! เราสองคนนับว่าเคยมีช่วงเวลาดีๆ ด้วยกัน เธอจะตัดเยื่อใยแบบนี้เลยเหรอ?
ความว่างเปล่าเดียวดายที่หายไปของฉัน : คนที่เคยมีช่วงเวลาดีๆ กับฉันมีตั้งมากมาย เธอเป็นคนที่เท่าไหร่?
อ๋องปีศาจผู้โสมม:หนิงเสี่ยวซี! เธอคอยฉันก่อนเถอะ!!!
หนิงซีปิดคอมพิวเตอร์ ตั้งใจอ่านบทละคร อ่านได้สักพัก เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย เธอเกรงว่าจะเป็นเบอร์ที่กองถ่ายโทรมา จึงรีบกดรับ
“ฮัลโหล หนิงซี ช่วยด้วย!”
“คุณคือ...”
“ฉันลู่จิงหลี่เอง เธอรีบมาที่ปัวจินตี้กงหน่อย เสียวเป่าเกิดเรื่องแล้ว!”
“อะไรนะ? เสียวเป่าเกิดเรื่อง?” หนิงซีได้ฟังก็รู้สึกร้อนใจ
“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เธอรีบมาที่นี่ด่วนเลยนะ...พี่ใหญ่ๆๆ ใจเย็นหน่อยสิ...เขายังเด็ก...เสียวเป่า เสียวเป่าอันนั้นโยนไม่ได้นะ...อ๊ะ...”
ฟังลู่จิงหลี่พูดแล้วเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่มาก ในโทรศัพท์มีเสียงสิ่งของล้มระเนระนาดและเสียงวัตถุกระแทกพื้นดังลอยเข้ามา หนิงซีตกใจหนักกว่าเดิม รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าพลางบอกว่า “ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ!”
เธอก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แค่เพียงได้ยินว่าเสียวเป่าเกิดเรื่องก็รู้สึกนั่งไม่ติดพื้นแล้ว ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่กี่วันแท้ๆ แต่ในใจกลับคิดถึงจนสลัดไม่ออก ที่นี่อยู่ไกลจากปัวจินตี้กงมาก นั่งรถไปก็ใช้เวลากว่า 40 นาที หนิงซีเกรงว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นซะก่อน จึงนำมอร์เตอร์ไซด์ออกมาจากโรงรถ แล้วรีบสตาร์ทขับออกไป
จากเดิม 40 นาที หนิงซีใช้เวลาเพียง 10 กว่านาทีก็ถึง น่าจะเพราะลู่จิงหลี่โทรบอกรปภ.ไว้ก่อนแล้ว หนิงซีรายงานชื่อเรียบร้อย รปภ.ก็ปล่อยให้เข้ามาได้ หลังจากมาถึงหน้าประตูคฤหาสน์หมายเลข 8 ก็มีสาวรับใช้มาคอยนำทางอยู่ก่อนแล้ว