webnovel

1. ใครว่าชีวิตต้องสวยหรู

เสียงแก้วตกกระทบพื้นแตกกระจาย เสียงโหวกเวกโวยวายของคนขี้เมา เสียงก่นด่าทอที่หยาบที่สุดเท่าที่จะถูกขุดมาด่าได้ และเสียงร้องสะอื้นที่ทำให้หัวใจแตกสลาย เสียงเหล่านี้เป็นเสียง ปกติ ของบ้านไม้หลังหนึ่งในชุมชนเล็กๆที่อยู่ในต่างจังหวัด ร่างบางของ อัญชัน เดินหลบเศษแก้วบนพื้นอย่างระมัดระวังเลี่ยงเข้าไปยังห้องนอนของตนเองที่เป็นพื้นที่เซฟโซนที่สุดสำหรับเธอแล้ว

"มึงจะไปไหน!!!นังลูกไม่รักดี!!!กูบอกว่าให้มึงเอาเงินมา!!!" เสียงโวกเวกของชายชราวัยกลางคนตะโกนไล่หลังเธอที่หายลับเข้าไปในห้อง

"นังสารเลว!!!มึงกล้าเมินกูอย่างนั้นเหรอ!!!" เขาสบถพลางจับขวดแก้วเขวี้ยงใส่ประตูไม้ที่เต็มไปด้วยร่องรอยของการถูกทำลาย หากประตูบานนี้ไม่ได้ทำขึ้นมาจากไม้สักที่แข็งแรงปานนี้ชีวิตน้อยๆของหญืงสาวคงจะไม่ได้อยู่หายใจเั่งเช่นทุกวันนี้หรอก

" ก็ไห้ไปแล้วไง!!จะกินอะไรนักหนากันวะ!!!งานการก็ไม่ทำ!!" เสียงของหญิงสาวตะโกนสวนออกมาอย่างเหลืออด เหมือนจะได้ผลเสียงโวกเวกของผู้เป็นพ่อของอัญชันเงียบลงไปเสียที หญิงสาววัย24ปี จึงมีเวลาได้ทำความสะอาดห้องของตนเสียทีหลังจากเหนื่อยจากงานมาทั้งวัน แต่ความสงบสุขของเธอนั้นไม่ได้ยืนยาวเสียเท่าไหร่ เสียงที่เธอจงเกลียดจงชังนั้นก็ดังขึ้นมาอีก

" ยัยอัญ!!!ออกมานี่หน่อยสิลูก" เสียงที่เคยตวาดเธอกลับอ่อนหวานลงฟังดูพิกลนักแต่ หญิงสาวก็แง้มประตูออกไปตามคำเรียกร้องนั้น

" เนี้ยะ!!!พี่เขาให้เงินพ่อมา...แกหน่ะดูแลเขาหน่อยสิ" อัญชัญรีบปิดประตูลงกลอน พลางถอยกรูดออกมาอย่างหวาดกลัว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอถูกขายให้กับคนแปลกหน้า มันจึงไม่แปลกที่เธอจะรับมือกับเรื่องแบบนี้ได้ โต๊ะตู้หรืออะไรก็ตามที่สามารถขวางประตูไว้ได้ถูกขนมาปิดไว้ทั้งหมด มือเรียวบางหยิบข้าวของที่จำเป็นยัดใส่กระเป๋าเท่าที่จะยัดได้ และไม่ลืมที่จะแชทหาผู้ช่วยคนสำคัญของเธอไม่นานนักเสียงเคาหน้าต่างก็ดังขึ้นเป็นจังหวะ

" พี่ฟ้า!!" เธอกระซิบเรียกพลางค่อยๆเดินเข้าไปทางหน้าต่างตรงหัวนอน

"อย่าเสียงดังไปรีบๆออกมาได้แล้วพี่ฟ้ามันคงดึงความสนใจได้ไม่นานหรอก" เสียงนั้นกระซิบตอบ อัญชันยิ้มกว้างที่ได้ยินเสียงๆนั้น มันคือเสียงของพี่ดาวที่อยู่บ้านไกล้ๆกัน อัญชัรได้ยินเสียงบีบแตรรถตรงหน้าบ้านจองเธอและเสียงเรียกที่เป็นเหมือนแสงสว่างของเธอ หญิงสาวรับรู้ได้ว่าครั้งนี้เธอรอดแล้วแน่เพราะเสียงคนที่เรียกอยู่หน้าบ้านคือเสียงของ นภัทธา ที่เป็นทั้งพี่และเพื่อนของเธอ อัญชันไม่รีรอที่จะรีบใช้จังหวะนี้เปิดหน้าต่างออกและรีบแทรกตัวออกจากห้องที่เคยเป็นเซฟโซนของเธอนั้นออกไปหา หญิงสาวอีกคนหนึ่งที่ยืนรอเธอ

" อ้าวลุง!!!ไอ้อัญมันอยู่ไหม??" เสียงตะโกนถามของผู้มาเยือนหน้าบ้านร้องเรียกเมื่อเห็นร่างผอมแห้งของชายชราเดินโซเซออกมาจากเงามืด

" อยู่ๆ...อยู่ในห้องมาเรียกมันทีมันไม่ยอมออกมา" ชายชรากวักมือเรียกหญิงสาวที่คร่อมมอเตอร์ไซค์อยู่หน้าบ้าน ในใจนึกไปว่าให้เพื่อนมันมาเรียกพอเพื่อนมันออกไปค่อยจับตัวมันไว้ส่งให้กับชายฉกรรจ์ที่แอบอยู่หลังเสา...มันเป็นแผนที่เขานึกในหัวแทบจะทันที

" ฝากบอกมันทีนะวันพรุ่งนี้มีงาน...ไปล่ะ" ไม่ทันที่แผนของเขาจะสำเร็จ ร่างอวบๆของ นภัทธาก็หายไปพร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ เขาได้แต่หัวเสียและยอมคืนเงินให้กับชายฉกรรจ์แปลกหน้านั้นพร้อมกับชิมหมัดล่ำๆที่เบ้าตาข้อหาหลอกลวง

เสียงโวกเวกดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงข้าวของที่แตกกระจายลงบนพื้น เสียงนั้นไม่ได้เบาลงเลยเพราะตอนนี้ อัญชันได้หลบมาอยู่บ้านของเพียงจันทร์ที่ห่างกับบ้านตนเพียงแค่กำแพงกั้น

"อีหรอบนี้คงกลับบ้านไม่ได้อีกแหงๆ....พี่ว่าเราไปบ้านพี่ฟ้ากันเถอะ" เพียงจันทร์ออกความเห็นพลางคว้ากุญแจรถและเสื้อคลุม

" น้องก็ว่าแบบนั้นแหล่ะพี่..ดีนะที่เอารถฝากไว้ที่บ้านพี่ไม่งั้นพ่อคงเอารถน้องไปขายแน่ๆ" อัญชันมองรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจที่ถูกจอดแอบไว้ใต้ต้นขนุน

"ไปกันเถอะ...อีกเดี๋ยวมันคงรู้ว่าเอ็งอยู่บ้านพี่...ถึงมันจะไม่กล้าเข้ามาแต่ใช่ว่ามันจะเลิกระรานเอ็ง" เพียงจันทร์ สตาร์ทรถและพาอัญชันออกจากบ้านของตนไปอีกทางมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านของนภัทธา

ชุมชนสันแก้ว เป็นชุมชนเล็กๆในชนบทที่แม้จะไม่ได้ใหญ่โตเท่าในเมืองที่ห่างกันไปเกือบ40โล แต่ก็เป็นชุมชนที่บ้านช่องไม่ได้ห่างกันมากนัก จากถนนเมนหลักของชุมชนบ้านของอัญชัญจะอยู่ข้างๆถนน จ้างบ้านของอัญชันจะเป็นซอยเล็กๆที่สุดซอยจะเป็นบ้านของ เพียงจันทร์ และหากวิ่งไปตามถนนเส้นหลักอ้อมไปยังทิศตะวันตกไกลจากบ้านของสองสาวไปอีกเพียงไม่กี่นาทีจะเป็นบ้านของพี่ใหญ่ในกลุ่มนั่นคือบ้านของ นภัทธา

มอเตอร์ไซค์เวบร้อยคู่กายของเพียงจันทร์ปราดเข้าจอดรถข้างๆทาง สองสาวรีบลงจากรถและหายเข้าไปในใต้ถุนของบ้านหลังเล็กๆซึ่งเป็นที่ที่พวกเธอมากันบ่อยๆ เรัยกได้ว่าเป็นรังลับของพวกเธอก็ว่าได้

" จะทำไหมล่ะงานหน่ะ!!!เรื่องมากก็อดตายไป!!!" เสียงตวาดแหวดังขึ้นจากภายในห้องๆหนึ่งเป็นเรื่องปกติเวลาที่พวกเธอมาที่บ้านหลังนี้ สำหรับคนอื่นคงคิดว่าไม่ได้ต่างกับบ้านของอัญชันนัก แต่สำหรับอัญชันแล้ว ที่นี่อบอุ่นมากกว่า นภัทธาเป็นได้ทุกอย่างที่เธอควรเป็น ทั้งพี่ ทั้งแม่ และภรรยาที่เข้มงวดกับสามีขี้เมาไม่ต่างตากพ่อของเธอเท่าไหร่ ต่างกันตรงที่ เธอนั้นทรงพลังมากกว่าหญิงสาวแบบเธอกว่ามาก ไม่แปลกที่พี่ใหญ่คนนี้จะเป็นที่พึ่งพาแก่ใครๆ

" ก็ทำ...ก็เขาชวนไปดื่มนิดๆหน่อยๆเอง"

"จะทำงานหรือโดนหยุมหัว!!!เลือกเอา!!"

"ทำงานคร้าบบบบ!!!"

เสียงดังที่เหมือนทะเลาะกันนั้นเบาลงแต่มีเสียงประตูเปิดออกพร้อมกับร่างเล็กๆของชายหนุ่มที่เป็นสามีของพี่ฟ้าปรากฏตัวขึ้น

"อ้าว!!!มาหาฟ้าเหรอ...มันตกมันอยู่ในห้องแหน่ะ..." เขาพูดพลางชี้ให้พวกเธอเข้าไปด้านในห้องที่เป็นเหมือนออฟฟิศเล็กๆของนภัทธาพลางมีตุ๊กตาหมีตัวน้อยๆตัวหนึ่งลอยแหวกอากาศมากระทบกับหัวยุ่งๆของเขา

" ไป...ทำ...งาน" เสียงขู่ฟ่อๆของหญิงสาวกัดฟันพูดเขาได้แต่เดินจึ้นไปบนเรือนและทำงานตามที่ภรรยาอันเป็นที่รักได้สั่งเอาไว้

"มาแล้วเหรอ...เข้ามากันก่อนสิ" ร่างอวบๆของนภัทธา ปรากฏขึ้นตรงหน้าประตู เธอร้องเรียกน้องๆที่เป็นเหมือนเพื่อนสนิทเข้าไปยังออฟฟิศเล็กๆของตน

ภายในนั้นเป็นห้องเล็กๆขนาดไม่ใหญ่มากมีเตียงขนาด5ฟุตที่เป็นเตียงไม้อยู่สุดห้อง และโต๊ะทำงานของนภัทธาที่ดูรกเล็กน้อยเพราะเธอกำลังทำงานอยู่

"พี่ปีงอแงอะไรของมันอีกนั่นหน่ะ" เพียงจันทร์ถามพลางนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ไกล้ๆประตู

" จะไม่ทำงานหน่ะสิ...พี่ก็ดีลงานกับลูกค้าไว้แล้วด้วย...กลับมาพี่เขยพวกแกก็นั่งก๊กเหล้าเรียบร้อยแล้ว...น่าหยุมหัวมันจริงๆ" หญิงสาววัย30เศษๆถอดถอนหายใจพลางนั่งลงบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน

"ชีวิตของพวกเราไม่ได้สวยหรูเหมือนที่คิดเลยเนอะพี่" อัญชันถอนใจบ้างพลางทิ้งกายนั่งข้างๆเพียงจันทร์

" ใช่...อีพสกที่มันมีชีวิตดีๆเนี้ยะมันทำบุญด้วยอะไรกันนะ" เพียงจันทร์เห็นด้วยย

" ถ้าน้องไม่มีพี่ฟ้ากับพี่ดาว ปานนี้น้องคงไม่ต่างจากเมื่อก่อนเลย" อัญชันหลับตา เหนื่อยหน่าย ฉับพลันเสียงเงียบก็เข้ามาเกาะกินทั้งสามคนที่มีชะตาชีวิตไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่นัก

อัญชัน นั้นถูกแม่ทิ้งไว้อยู่กับพ่อกับปู่ตั้งแต่เกิดมา พ่อของเธอติดเหล้าขนาดหนักมากไม่มีวันไหนที่ไม่เข้าหาแอลกอล์ฮอล์จนสติหลุด เมื่อเธอสิ้นร่มโพธิ์สุดท้ายอย่างปู่ไป เธอก็ต้องใช้ชีวิตไม่ต่างอะไรกับโสเภณีที่ต้องทนทุกข์ทรมาณเพื่อหาเงินเลี้ยงพ่อที่ไม่มีอะไรเลยมีเพียงความกตัญญูเท่านั้นเองที่ค้ำคอเธออยู่

นภัทธาเองก็ไม่ได้มีพื้นฐานครอบครัวที่ดีเช่นกัน เพียงแต่พ่อแม่เธอยังอยู่ไม่ได้แยกทางกันไปไหนแต่ก็บ้านแตกเพราะพิษสุราของบิดาจึงทำให้เธอต้องจำยอมแต่งงานตั้งแต่เธออายุได้เพียง18ปี

ส่วนเพียงจันทร์ จะดูดีที่สุดแล้วในกลุ่ม เพราะถึงแม้พ่อแม่จะแยกทางกันและแม่แท้ๆก็ไม่ได้รักเธอเลยแต่เธอก็ยังได้รับความใส่ใจจากปู่กับย่าที่เลี้ยงดูเธอมาและน้องชายต่างมารดาที่รักเธอมาก อีกทั้งแม่เลี้ยงของเธอเองก็ไม่ได้ตั้งแง่รังเกียจเธอเลยสักนิดเดียว มีแต่ตัวเธอที่น้อยใจไปในบางครั้งเท่านั้นเอง

ชะตาชีวิตของสามสาวไม่ได้ดีเริสหรือสวยหรูนัก ต่างคนต่างกัดฟันดิ้นรนกันพึ่งพาและพึ่งพิงกันเป็นกลัยานมิตรที่ดีต่อกันมายาวนานนับสิบปี แม้สถานะทางสังคมของเธอจะเป็นญาติห่างๆกันแต่สถานะทางใจของเธอคือเพื่อนที่ดีต่อกัน