ผ่านไปหนึ่งถ้วยชาก็เห็นร่างในชุดสีขาวเดินใกล้เข้ามา เขาก้มหัวคราหนึ่งก่อนจะเอ่ย "แม่นางคนเมื่อครู่กำลังแจกของที่เดิมพันได้ให้กับชาวบ้านขอรับ"
หืม?…แจกของเดิมพันให้ชาวบ้าน?
"ทุกอย่างเลยรึ?"
"น่าจะใช่ขอรับ"
สตรีผู้นั้นช่างน่าประหลาดเสียจริง ตอนที่เล่นลูกเต๋าชนะก็ทำท่าทางสะใจราวกับลิงค่าง พอได้ของเดิมพันมาเกิดหน้ามืดหรือไรจึงนำมาแจกทานเช่นนี้
เขาต้องไปดูให้เห็นกับตา...…
เมื่อมาถึงศาลาที่เดิมก็เห็นชาวบ้านจำนวนมากล้อมรอบศาลาอยู่แต่ไม่เห็นเงาของสตรีผู้นั้นเลยสักนิด ทว่าได้ยินเสียงสดใสดังขึ้นจากภายในนั้นเขาก็หัวเราะเสียงต่ำในลำคอ
"มาเร็ว! จะหมดแล้วนะ ใครที่ยังไม่ได้มาเอาก็รีบมาเร็ววววว!"
"ขอบคุณแม่นาง ขอบคุณ!" เสียงขอบคุณคลาคล่ำไปทั่วเฮ่อซินหมิงส่งยิ้มให้ทุกคนอย่างจริงใจ ชาวบ้านเริ่มบางตาลงเรื่อย ๆ ของที่นางได้มาก็หมดแล้วเช่นกัน
"เฮ้อ! แค่เห็นชาวบ้านหัวเราะยิ้มได้ก็หายเหนื่อยแล้วเนอะ" เฮ่อซินหมิงนั่งอยู่ที่ขั้นบันไดศาลาพิงเสาด้วยท่าทางผ่อนคลาย
"เอ๊ะ! อาหมิง คนนั้นมารับของด้วยรึเปล่า" เธอชี้นิ้วไปยังชายหนุ่มในอาภรณ์สีดำที่เพิ่งเล่นทอยเต๋าด้วยกันก่อนจะมองหารอบกาย
"เหลือตำลึงทองก้อนสุดท้ายพอดี" เธอกำลังจะวิ่งไปก็โดนสาวน้อยข้างกายดึงตัวไว้ก่อน
"คุณหนูนั่งพักก่อนเถิดเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าจะนำไปให้เอง" นางส่งยิ้มแล้วหยิบของในมือไป เฮ่อซินหมิงยิ้มกลับแล้วตะโกนเสียงดังตามหลัง
"ขอบใจนะ!"
มองตามหลังอาหมิงไปนางก็ยิ้ม เมื่อหันกลับมาก็เห็นเด็กสาวตัวน้อยยืนมองเธออยู่ เธอนึกถึงทองก้อนสุดท้ายเมื่อกี๊ขึ้นมา แต่จะทำยังไงได้ ถ้างั้นให้อย่างอื่นแทนก็แล้วกัน
"หนูน้อย เอานี่ไปสิ" เธอถอดชุดคลุมของเธอออกแล้วพับยื่นให้คนที่ยืนตาแป๋วอยู่ เมื่อเด็กน้อยเห็นก็ยิ้มสดใสแล้วยื่นมือเล็ก ๆ มารับไปอย่างดีใจยิ่ง "ขอบคุณเจ้าค่ะ พี่สาว"
เฮ่อซินหมิงลูบหัวสองจุกน้อย ๆ ด้วยความเอ็นดู "อาจจะตัวใหญ่กว่าเธอในตอนนี้ แต่ต่อไปต้องใส่ได้พอดีแน่"
เด็กสาวตัวน้อยยิ้มรับแล้ววิ่งไปหาแม่ที่ยืนรดน้ำผักอยู่หน้าบ้าน สาวน้อยโผเข้ากอดแม่แล้วยื่นเสื้อคลุมให้แม่ดู ทั้งสองพูดคุยกันแล้วหันมาพยักหน้าขอบคุณเธอ เฮ่อซินหมิงยิ้มโบกมือเป็นเชิงไม่เป็นไร สองแม่ลูกพูดคุยกันอีกพักหนึ่งก่อนจะเดินจูงมือกันเข้าไปในบ้านที่มีพ่อนั่งจักสานบางอย่างอยู่ เด็กสาวโผเข้าไปกอดพ่อ ทั้งพ่อแม่ลูบหัวลูกของตนอย่างรักใคร่ เธอมองภาพตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม
เฮ่อซินหมิงจินตนาการถึงชายหญิงที่ไร้หน้าตากำลังพูดคุยกับเธอด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรัก กอดกันด้วยความอบอุ่น จูงมือเดินไปด้วยกันยามยากลำบาก
ความรู้สึกที่มีพ่อแม่มันเป็นยังไงนะ?
สายลมเย็นพัดผ่านมาหนาวเย็นไปจนถึงขั้วหัวใจ...….
"คุณชาย นี่เจ้าค่ะ" จินหมิงยื่นก้อนตำลึงทองไปให้กับชายหนุ่มที่กำลังยืนกอดอกขมวดคิ้วอยู่
"เอามาให้ข้าทำไม?" เสียงทุ้มเอ่ยเรียบเย็น จินหมิงเอียงคอสงสัย "ท่านมิได้มารอรับของหรือเจ้าคะ?"
รับของที่คุณหนูของนางแจกทานน่ะรึ!?! นำขำสิ้นดี!
เขากัดฟันกรอดด้วยไม่รู้จะเอ่ยคำใด เขาก็แค่อยากมาดูว่าจะมีคนบ้าที่ไหนเอาของมีค่ามากมายเช่นนั้นมาแจกอย่างไม่รู้คุณค่ากัน สายตาพาลหันไปหาสตรีบ้าที่คิดว่าคนอย่างเขามารับของแจกทาน
สายลมพัดผ่านวูบหนึ่งจินหมิงเงยหน้าขึ้นก็ไร้เงาร่างของคุณชายชุดดำเสียแล้ว เห็นเพียงเงาดำแวบผ่านหลังตนไปนางจึงหมุนกายไปดู ทันเห็นร่างบอบบางล้มลงสู่อ้อมแขนของใครบางคนพอดี
ใบหน้าสาวใช้ซีดเผือดราวกระดาษ "คุณหนู!!!"
นางรีบวิ่งกลับมาที่ศาลา มองร่างที่อยู่ในอ้อมแขนบัดนี้กายคุณหนูสั่นเทาไม่หยุด ใบหน้าซีดจนแทบจะเป็นสีเทาลมหายใจมีควันสีขาวพวยพุ่งออกมาราวกับคนที่จมอยู่ในธารน้ำแข็ง
"เสื้อคลุม! เสื้อคลุมของคุณหนูหายไปไหน!?!" จินหมิงตื่นตระหนกหันซ้ายหันขวามองหาเสื้อคลุมสีเขียวแต่ก็ไร้วี่แวว
เสียงผ้าสะบัดพลิ้วคราหนึ่งก็เห็นผ้าผืนสีดำโอบห่อร่างกายบอบบางของนายสาวตน คุณชายได้ถอดเสื้อคลุมชั้นนอกจนเหลือเพียงชุดสีดำที่สวมทับกับชุดสีขาวข้างใน
"เหตุใดนางจึงตัวเย็นเยี่ยงนี้!?!" เขารู้สึกเหมือนว่าคนในอ้อมแขนคล้ายจะเป็นน้ำแข็งเย็นจัดขึ้นทุกที
"คุณหนูคงจะอาการกำเริบเจ้าค่ะ คุณหนูจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งเมื่อต้องลมเย็นหรือสิ่งของที่เย็น"
เขาไม่รอช้ารีบอุ้มร่างนั้นขึ้นเพื่อเข้าไปในศาลาก่อน เขาแทบไม่ต้องออกแรงอันใดมากมายเลยเพราะร่างนี้ช่างเบาราวกับขนนก
นางผอมขนาดนี้เชียว!?
"ข้าจะไปขอน้ำร้อนกับถ่านไฟมาเจ้าคะ" จินหมิงรีบวิ่งตรงไปยังบ้านเรือนที่อยู่ไม่ไกลทันที
เขาไม่กล้าวางร่างนั้นลงนอนกับพื้นจึงได้แต่ห่อร่างนั้นด้วยเสื้อคลุมของเขาให้มิดชิด ร่างนั้นหนาวสั่นไปทั้งตัว ความเย็นแผ่ลามเข้ามาตามแขนเขาจนเส้นเลือดแทบจะจับตัวกันเป็นน้ำแข็ง ชายหนุ่มรีบปล่อยพลังปราณเพื่อป้องกันความเย็นนั้นแล้วจับชีพจรของสตรีที่อยู่ในอ้อมแขน
ชีพจรของนางแทบไม่มีแรงกระเพื่อม นางเหมือนคนที่ติดอยู่ในแดนน้ำแข็งแล้วกำลังจะตาย ยามนี้ใจเขาร้อนรนนัก
"มาแล้วเจ้าค่ะ!" จินหมิงไม่เอ่ยมากความรีบวางอ่างไฟไว้ใกล้กับคุณหนูตนแล้วรีบใช้ผ้าสีขาวชุบน้ำร้อนจัดด้วยความตื่นกลัวจนลืมความร้อนไปหมด
"เอ่อ…คุณชาย ข้าขอเช็ดตัวคุณหนูของข้าหน่อยเจ้าค่ะ" เขาตวัดสายตาคมกริบไปยังสาวใช้
จะให้นางนอนที่พื้นเย็นนี่รึ!
เขาหันไปหาคนสนิทที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ "เสื้อคลุมเจ้า" จิ้นหยี่เหิงทำหน้างุนงงเหมือนยังไม่เข้าใจ แต่เมื่อสายตานั้นเริ่มมีเปลวเพลิงลุกโชนขึ้น เขาก็เข้าใจทันที
"ได้ขอรับ"
จิ้นหยี่เหิงรีบถอดเสื้อคลุมตัวเองปูพื้น คุณชายชุดดำวางร่างนั้นลงไปแล้วหันไปพยักหน้าให้จินหมิง นางเองไม่รอช้ารีบใช้ผ้าชุบน้ำร้อนเช็ดไปตามเนื้อตัวที่อยู่ใต้เสื้อคลุมทันที
"นางเป็นโรคอะไร เคยให้หมอมาตรวจรึไม่?" เขาเอ่ยห้วนสั้น
จินหมิงเอ่ยตอบแต่มือยังไม่หยุดการเคลื่อนไหว "เคยแต่หมอชาวบ้านธรรมดาเจ้าค่ะ พวกเขาบอกว่าอาจจะเป็นไข้หนาวสั่น"
ชายทั้งสองขมวดคิ้วก่อนจิ้นหยี่เหิงจะเห็นคุณชายหันมามองหน้าตน เขาพยักหน้าแล้วแตะปลายนิ้วลงบนแขนซีดขาว คิ้วสองข้างขมวดจนแทบชนกัน
เขาสบตานายของตนด้วยสายตาเคร่งเครียด
...........