webnovel

ตอนที่ 4 : โลกใหม่กับการทำความรู้จัก

เช้าที่ท้องฟ้าเปิดกว้างและแสนจะสดใส วันนี้ที่บ้านหลังใหญ่มีแขกที่ทุกคนต่างรู้จักกันดีมารวมตัวกันตั้งแต่เช้าตรู่ เหมือนจะมีเรื่องราวอะไรพิเศษหรือเปล่านะ

"พากันมาที่นี่แต่เช้ามีอะไรกันหรือเปล่า หรือใครเอาข่าวอะไรไปบอกอีก" นายหัวเจ้าของบ้านเอ่ยขึ้นถามเพื่อนสนิทและน้องชายของตัวเอง แต่สายตากลับหันไปหาลูกน้องคนสนิทอย่างเข้ม

"เเหม พี่ชายของปันนี่รู้ดีทุกอย่างเลยน๊า" ปันรัก น้องชายคนเดียวของนายหัวแห่งเกาะล้อมดาวเดินเข้ากอดแขนพี่ชายอย่างออดอ้อน

"ไม่ต้องมาอ้อนเลย ตกลงมีเรื่องอะไรกันถึงมานี่"

"ก็ปันนะสิ ได้ยินข่าวว่าแกให้คนไปพักที่บ้านท้ายอ่าว เลยให้ฉันพามาเนี่ย" ชาวี หรือวี เพื่อนสนิทของเขาบอก

"จมูกดีไม่พอ ยังหูตาไวอีกนะ"

"เอ๊ะ! ประโยคฟังดูทะแม่งๆ นะ แต่ช่างเถอะ ตอนนี้ปันอยากเห็นหน้าคนที่พี่ชายปันให้ไปพักที่บ้านท้ายอ่าวมากกว่า ตอนนี้อยู่ไหนล่ะ" ปันรักถามพี่ชาย

ยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ยบอกอะไรไป ก็มีเสียงดังเอะอะโวยวายมาจากนอกบ้าน

ด้านฝั่งหน้าบ้าน พารันที่เดินมาจากบ้านพักเพื่อมาหานายหัวตามที่เข้มบอก แต่ยังไม่ทันที่จะได้เดินเข้าไปในตัวรั้วบ้าน ก็มีมือเรียวของใครคนหนึ่งมากระชากแขนของเขาอย่างแรง

"โอ๊ย! ใครวะ" ร่างบางของพารันเซถอยหลังไปตามแรงดึง

"แกเป็นใคร ทำไมถึงได้ไปอยู่บ้านคุณแม่ของปรานต์ได้ห๊ะ!" หญิงสาวท่าทางดูดี หมายถึงการแต่งตัวอ่ะนะ ถามเขาอย่างเกรี้ยวกราด

"อะไรของป้าเนี่ย อยู่ดีๆ ก็มากระชากแขนคนอื่นเฉยเลย สติดีอยู่ป้ะ"

"กรี๊ดดด... นี่แกเรียกใครป้าห๊ะ!"

"อ้าว! ยืนอยู่นี่สองคน แล้วผมจะเรียกใครได้ล่ะถ้าไม่ใช่..." ร่างบางพูดพร้อมกับปรายตาไปมองผู้หญิงตรงหน้า

"แก! บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ว่าแกไปอยู่บ้านคุณแม่ของปรานต์ได้ยังไง"

"ใครคือปรานต์เนี่ยป้า ผมจะไปรู้กับป้าเหรอ โว๊ะ! คนที่นี่เป็นไรเนี่ย พูดไม่รู้เรื่องเอาซะเลย"

"กรี๊ดดด..." เมื่อไม่ได้คำตอบที่ถูกใจก็เอาแต่ร้องกรี๊ดอยู่แบบนั้น จนอีกคนที่ยืนอยู่ด้วยถึงกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดหู

"หูดับหมดแล้ว ตายๆ"

ยังไม่ทันที่จะคุยกันรู้เรื่อง คนที่อยู่ในบ้านก็ออกมาดูที่มาของเสียงที่ดังเข้าไปข้างใน

"อะไรกัน! วิ" นายหัวของบ้านเอ่ยขึ้น เสียงร้องโวยวายของหญิงสาวตรงหน้าถึงสงบลง

"ปรานต์คะ ไอ้เด็กนี่มันเป็นใครคะ ไม่มีมารยาทเอาซะเลย" วิภาดาหรือวิ เอ่ยถามเจ้าของบ้านพร้อมเดินมาควงเเขนอีกฝ่าย

"อ้าวป้า! พูดแบบนี้ก็สวยสิ" พารันพูดพร้อมกับถกแขนเสื้อขึ้น

"มาสิ" ทั้งสองเตรียมพร้อมจะกระโจนใส่กันเต็มที่จนคนกลางอย่างนายหัวปรานต์ต้องห้ามทัพ

"หยุด! ไม่งั้นผมจะให้ออกไปจากที่นี่ให้หมดเลย" นั่นแหละ ทั้งสองคนจึงยอมแยกออกจากกัน แต่ไม่วายส่งสายตาฟาดฟันกันอย่างดุเดือน ส่วนคนอื่นๆ ก็ได้แต่มองเหตุการณ์อยู่ห่างๆ

ตอนนี้ทุกคนก็ได้เข้ามารวมกันอยู่ภายในห้องรับแขกของบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บรรยากาศดูเหมือนจะอึมครึมเล็กน้อยเมื่อมีคนสองคนยังส่งสายตาฟาดฟันกันไม่หยุด

"ตกลงมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น" นายหัวปรานต์เอ่ยถามขึ้นท่ามกลางความเงียบที่ร้อนระอุ

"ก็ไอ้เด็กนี่สิคะ มันมาเรียกวิว่าป้า คุณต้องจัดการมันให้วินะคะปรานต์" วิภาดาบอกอย่างไม่ยอม

"อ้าวๆ ทำไมมาโบ้ยให้ผมแบบนี้ล่ะป้า อยู่ดีๆ ป้าก็เดินมากระชากแขนผมแล้วถามอะไรไม่รู้ แล้วผมจะไปรู้เรื่องกับป้าไหมถามก่อน" เอาสิ ใครจะไปยอมกันล่ะ นี่นักเลงเก่านะเว้ย

"แก!" หญิงสาวทำท่าจะเข้าไปหาร่างบาง แต่ก็โดนนายหัวขัดขึ้นเสียก่อน

"หยุด! วิ ผมว่าวันนี้คุณกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวผมจะให้เข้มขับเรือไปส่ง" นายหัวปรานต์เลือกที่จะให้หญิงสาวกลับไปก่อนเพื่อตัดปัญหา

"ก็ได้ค่ะ เห็นว่าปรานต์ขอนะคะวิเลยยอม เหอะ!" พอพูดจบก็หยิบกระเป๋าเดินออกไปทันที

"ชิ!" พารันทำท่าเบะปากมองบน จนทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นหันไปมอง

"ส่วนเธอ..." นายหัวหนุ่มเอ่ยขึ้น

"อะไรอ่ะ" ร่างบางเอียงคอทำหน้างง

"อย่าเที่ยวไปมีเรื่องกับใครที่นี่อีก เธอยังไม่รู้จักใครดี เดี๋ยวจะเดือดร้อน"

"แต่ป้านั่นมาหาเรื่องผมก่อนนะนายหัว ใครจะไปยอม"

"แล้วถ้าเธอเจ็บตัวขึ้นมาจะทำยังไง" คำพูดของร่างสูงทำให้ทุกคนที่นั่งฟังบทสนทนาหันพรึ่บไปมองอย่างพร้อมเพียงกันทันที

"โอ้พระเจ้า! ใช่แบบที่พี่เข้มว่าจริงด้วย" ปันรักอุทานขึ้นเสียงดัง นั่นทำให้พารันต้องหันไปสนใจคนที่ตัวเองยังไม่รู้จัก

"ใช่อะไรปัน" ถามน้องชาย

"ไม่บอก... หลบๆ ปันจะคุยกับคนนี้" ปันรักผลักพี่ชายให้หลบก่อนจะเดินตรงไปหาร่างบางแล้วจับมืออีกคนขึ้นมา

"....." ทำให้อีกคนงง

"สวัสดีเราชื่อปันรักนะ เรียกปันเฉยๆ ก็ได้ เป็นน้องพี่ปรานต์ เเล้วนายชื่ออะไรเหรอ" ปันรักแนะนำตัวเองและถามอีกคนกลับ

"พารัน เรียกรันก็ได้" ถึงแม้จะงงอยู่ แต่ก็ตอบคำถามกลับไป ดูท่าทางน่าจะเป็นเพื่อนกันได้

"รันเหรอ... เรามาเป็นเพื่อนกันไหม เมื่อกี้เราชอบรันมากเลยอ่ะ ที่รันสู้ยัยคุณวินั่นกลับ เห็นแล้วหมั่นไส้" ปันรักบอกอย่างถูกอกถูกใจ

"ได้สิ หึๆ" มีเรื่องสนุกแล้วสิ

"ฉันว่าแกเตรียมปวดหัวไว้ได้เลย" ชาวีเอ่ยกระซิบเพื่อนสนิทของตัวเองเบาๆ

"เฮ้อ..." นี่แค่วันแรกก็มีเรื่องปวดหัวแล้ว แล้วนี่ยังมีน้องชายเขาเพิ่มคูณสองไปอีก ไม่รู้จะมีเรื่องอะไรให้กลุ้มกว่านี้อีก...