webnovel

ตอนที่ 1 : คนดวงตกกับอุบัติเหตุไม่คาดฝัน

"โอ๊ย! ทำไมงานทุกวันนี้มันหายากจังวะ แล้วทีนี้จะเอาเงินที่ไหนมาประทังชีวิตเนี่ย เซ็ง!" ผมที่เดินหาที่สมัครงานมาทั้งวันบ่นอย่างหงุดหงิดนิดหน่อย

งานทุกวันนี้หายากกว่างมเข็มในทะเลพัทยาอีก เดินตากแดดจนตัวดำยังไม่ได้เลยสักที่ เฮ้อ...

สวัสดีครับ ผมชื่อพารัน หรือเรียกสั้นๆ ว่ารัน สถานะตอนนี้คือว่างงานมากถึงมากที่สุด

เงินติดตัวในกระเป๋าตอนนี้ก็มีแค่สองร้อย ส่วนเงินในบัญชีก็เหลือแค่สามพัน ค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ไหนจะค่ากินค่าอยู่อีก แน่นอนว่ามันต้องไม่พอใช้

ผมอาศัยอยู่ตัวคนเดียวที่ห้องเช่าเล็กๆ ในซอยที่ค่อนข้างเปลี่ยว ถ้าถามว่าทำไมไม่หาห้องที่ดีกว่านี้ ดูปลอดภัยกว่านี้ คำตอบก็คือ ห้องเช่าที่ใหม่และความปลอดภัยเยอะขนาดนั้นราคาก็ค่อนข้างที่จะแพง ซึ่งตอนนี้ผมคิดแค่ว่า ที่ไหนที่สามารถนอนได้และราคาถูกก็อยู่ไปก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที

ผมเป็นเด็กกำพร้า จะว่าแบบนั้นก็ได้ ผมต้องสูญเสียครอบครัวไปจากอุบัติเหตุเมื่อห้าปีก่อน ตอนที่ผมอายุแค่สิบห้าปี

หลังจากงานศพของพวกท่าน ผมได้ไปอาศัยอยู่กับญาติฝั่งแม่ที่ยังเหลืออยู่เป็นที่พึ่งสุดท้าย แต่ก็เหมือนกับฟ้าไม่เป็นใจและโหดร้ายกับผมเกินไป เงินที่ได้จากประกันชีวิตทั้งหมดก็ถูกนำมาใช้ ป้าของผมนำเงินส่วนนั้นไปเข้าบ่อนเล่นการพนันจนหมดตัว ส่วนตัวผมก็ถูกละเลยไม่มีใครสนใจ

จนในที่สุด ผมจึงได้ตัดสินใจที่จะออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนอายุสิบแปดปี มาเช่าห้องอยู่แถวตัวเมือง แล้วหางานทำเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตัวเอง

แต่มันก็เลือกงานมากไม่ได้ เนื่องจากผมเรียนจบแค่มัธยมปลาย งานที่ทำมาก่อนหน้านี้ก็เป็นเพียงเด็กเสิร์ฟในผับบาร์ จนเมื่อล่าสุดไปมีเรื่องกับลูกค้าที่ผับแล้วถูกเจ้านายไล่ออกเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง แล้วตอนนี้ผมถึงได้มาเดินเร่หางานใหม่อยู่นี่ไง

นี่แหละคือเรื่องราวของผมที่ผ่านมา...

"เฮ้อ... หาไรกินก่อนดีกว่าเรา เดินมาครึ่งวันแล้ว" ผมเลือกที่จะแวะพักที่ร้านอาหารตามสั่งข้างทางร้านหนึ่ง

"เอาอะไรดีจ๊ะพ่อหนุ่ม" คุณป้าเจ้าของร้านถามเมื่อเห็นผมเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะ

"เอาผัดพริกแกงหมูไข่ดาวครับป้า" ผมบอกป้าแกไป ตอนนี้กินอะไรก็ได้ หิวจนไส้จะขาดแล้วเนี่ย

"ได้จ้า น้ำเปล่าเสิร์ฟตัวเองเลยนะพ่อหนุ่ม" ป้าแกบอกแบบนั้น ผมจึงลุกเดินไปกดน้ำดื่มมาแก้วนึง พอได้น้ำเย็นๆ ก็ทำให้อาการเหน็ดเหนื่อยเมื่อสักครู่ดีขึ้นเยอะเลย

"ข้าวได้แล้วจ้ะ" รอไม่นาน ข้าวที่สั่งไว้ก็มาเสิร์ฟพอดี

กลิ่นหอมจากอาหารตรงหน้ายิ่งทำให้ผมรู้สึกหิวยิ่งขึ้น จนอดใจไม่ไหวที่จะลงมือกินอย่างรวดเร็ว

ผ่านไปไม่นาน อาหารที่ล้นจานก็เหลือเพียงจานเปล่าหนึ่งใบเท่านั้น ส่วนตัวผมตอนนี้บอกเลยว่าอิ่มมาก

"ป้าครับเก็บเงินเลยครับ" เมื่อกินเสร็จก็ถึงเวลาที่จะต้องไป หมายถึงไปหางานทำต่อนั่นแหละ เฮ้อ... คิดแล้วก็ท้อใจ

"สี่สิบบาทจ้ะ" ผมหยิบธนบัตรใบสีเขียวออกมาสองใบแล้วส่งให้ป้าแกไป

ร่อยหรอลงเรื่อยๆ แล้วเงินในกระเป๋าผมตอนนี้ ได้แต่ภาวนาให้หางานได้เร็วๆแล้วกัน

ถ้าเลือกเกิดได้ ก็อยากจะอยู่ในที่ที่ผมไม่ต้องดิ้นรนมากมายขนาดนี้ ที่ที่อยู่แล้วสบายใจกว่าที่เป็น

ว่าแล้วก็อยากทะลุมิติไปอีกโลกเหมือนในนิยายจังเลย คงจะไม่ต้องมาเดินขาลากบนถนนเหมือนคนไร้บ้านแบบนี้

และในขณะที่ผมกำลังจะเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามนั้น ก็ได้ยินเสียงเหมือนคนตะโกนบอกให้ระวัง

เมื่อผมกำลังจะหันกลับไป เสียงเบรคของล้อรถยนต์ก็ดังสนั่นขึ้นทั่วบริเวณ ผมที่ตัวเเข็งทื่ออยู่กลางเลนส์ถนน พยายามจะวิ่งออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด

แต่มัน...ไม่ทันแล้ว!

เอี๊ยด! โคร๊ม!!