webnovel

บทที่ 9 ฉันจะไม่ขอโทษคุณแน่นอน

ตอนบทที่ 9 ฉันจะไม่ขอโทษคุณแน่นอน

โรงพยาบาลส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์เหมือนอย่างเคย ถังหนิงเข้าไปข้างในด้วยการปกป้องจากโดยมีผู้ช่วยของหันอวี่ฝานเป็นคนนำทาง เธอมาตัวคนเดียว ไม่มีผู้ช่วยแม้สักคนที่จะสนับสนุนมากับเธอ

หลังจากหาห้องโม่อวี่โหรวเจอ พบ ถังหนิงก็เห็นผู้ช่วยของโม่อวี่โหรวยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู นี่คือผู้ชายคนที่อ้างว่าเธอตัดสินใจทุกอย่างด้วยตนเองในวันที่มีการแสดง

เขาโยนความผิดทุกอย่างให้เธอ

“คุณมาแล้ว” เขาพูดขณะมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างยโส เขาจงใจทำให้มันเป็นเรื่องยากสำหรับถังหนิง “คุณรอตรงนี้ก่อน อวี่โหรวกำลังพักผ่อน”

ถังหนิงใช้สองมือยกกระเป๋าถือขึ้นมา และจ้องตาผู้ช่วยของโม่อวี่โหรว เธอถามอย่างช้าๆ ด้วยน้ำเสียงสุภาพว่า “คุณรู้จักนามสกุลฉันไหมคะ”

“ไร้สาระน่า! ใครจะไม่รู้ว่านามสกุลของคุณคือถังกัน”

“ถ้าคุณรู้ว่านามสกุลฉันคือถัง คุณก็ควรระวังน่าจะรู้จักพื้นเพครอบครัวฉันดีไว้ด้วย ผู้ช่วยตัวเล็กๆ อย่างคุณกล้าแสดงกิริยาก้าวร้าวต่อหน้าฉันได้อย่างไร”

“ผม…”

“นั่นใช่ถังหนิงหรือเปล่า เข้ามาสิ” โม่อวี่โหรวได้ยินเสียงถังหนิงอยู่ข้างนอก และรู้สึกผิดหวังกับความ

โง่เขลาของผู้ช่วย หากเขาต้องการจะเป็นปรปักษ์กับถังหนิง นี่ไม่ใช่วิธีที่ดีเลย เพราะเธอยังคงมีชื่อเป็นตระกูลถังอยู่เบื้องหลัง (ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่สนใจเธอมากเท่าตอนที่ยังคงมีชื่อเสียงก็ตาม)

ถังหนิงเชิดหน้าขึ้นและเดินเชิดหน้าเข้าไปในห้อง ไม่สนใจผู้ช่วยที่โกรธอยู่ โม่อวี่โหรวกำลังนั่งอยู่บนเตียง ทำตัวน่าสงสารเพราะขาข้างหนึ่งได้รับบาดเจ็บ เธอยิ้ม “อวี่โหรว เป็นอย่างไรบ้าง”

ถังหนิงรู้ว่าโม่อวี่โหรวตั้งใจทำให้ขาของตัวเองเจ็บเพื่อขัดขวางไม่ให้หันอวี่ฝานแต่งงาน ผู้หญิงคนนี้ช่างเหี้ยมโหดจริงๆ

“ฉันได้ยินจากประธานหันมาว่าเรากำลังจะแพร่ภาพสดเป็นเวลาสามนาทีใช่ไหม ถังหนิง เราก็เหมือนเป็นพี่น้องกันนะ ฉันยินดีจะช่วยคุณทำเรื่องนี้มาก คุณจะได้กู้ชื่อเสียงกลับมาจากสาธารณชนได้”

ถังหนิงลังเลใจอยู่สักครู่ เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าโม่อวี่โหรวจะไร้ยางอายได้มากขนาดนี้แค่ไหน เธอเกือบจะอยู่ในระดับเดียวกับหันอวี่ฝานเสียด้วยซ้ำ ความจริงที่อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์สลับตัวนี้มีเพียงพวกเขาสามคนที่รู้ แต่โม่อวี่โหรวกลับทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ถังหนิงรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยขณะพูดด้วยน้ำเสียงโกรธว่า “ฉันแค่มาเยี่ยมคุณ…”

“คุณไม่จำเป็นต้องสุภาพก็ได้นะ…”

“ถูกต้อง เราเตรียมจัดฉากไว้ให้คุณแล้ว ตอนที่หมอเข้ามาเปลี่ยนผ้าพันแผลให้อวี่โหรว เราจะให้คุณล้างเท้าอวี่โหรวเพื่อเน้นย้ำความจริงใจของคุณ นี่เป็นวิธีที่จะทำให้สาธารณชนรู้ว่าคุณเสียใจมากแค่ไหน”

“พอได้แล้ว…” ถังหนิงพูดขัดทั้งสองคนด้วยความโกรธ “โม่อวี่โหรว ทั้งคุณและฉันต่างก็รู้ความจริงเรื่องเหตุการณ์สลับตัว คุณไม่คิดเหรอว่าคุณควรจะหยุดได้แล้ว”

“ถังหนิง คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร ฉันไม่เข้าใจ…”

“คุณต้องเปลี่ยนจากผิดเป็นถูก จากถูกเป็นผิดจริงๆ หรือ” น้ำเสียงของถังหนิงแฝงไปด้วยความรู้สึกผิด “ถ้ามันไม่ใช่เพราะอวี่ฝาน ฉันคงไม่อดทนกับคุณหลายครั้งขนาดนี้ นี่ฉันยังช่วยคุณไม่พออีกเหรอ”

“ถังหนิง แค่คุณไม่ขอโทษมันก็มากพอแล้ว นี่คุณยังจะวิจารณ์คนอื่นด้วยหรือ คุณยอมรับไปแล้วนี่ว่าทำ

ทุกอย่างไปเพื่อสร้างข่าวลือ” โม่อวี่โหรวคือเจ้าแม่ของการแสดง เธอไม่ลืมคำพูดตนเองและยังคงรักษาความไร้เดียงสาเอาไว้ได้

“ฉันจะไม่ขอโทษคุณแน่นอน!” ถังหนิงพูดอย่างไม่คาดคิดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ในช่วงเวลานี้ ผู้ช่วยของ

โม่อวี่โหรวบันทึกคำพูดของเธอไว้ และปล่อยวิดีโอลงสื่อออนไลน์ทันทีด้วยหัวข้อข่าวว่า

[ ยัยผู้หญิงชาเขียวที่ชอบเรียกร้องความสนใจแสดงความไม่จริงใจ ประกาศอย่างลับๆ ว่า ‘ฉันจะไม่ขอโทษคุณแน่นอน!’]

คลื่นนับพันลูกโหมกระหน่ำทันที…และพร้อมที่จะถาโถมเข้าหาถังหนิง

นักข่าวไปรวมตัวกันที่โรงพยาบาล แต่ไม่มีใครหยุดยั้งถังหนิง ปล่อยให้โม่อวี่โหรวร้องไห้อย่างน่าสงสารเพียงลำพังต่อหน้ากล้อง “ตอนแรกฉันคิดว่าเพราะเราเป็นนางแบบเหมือนกัน ฉันจึงไม่ติดตามเหตุการณ์นี้ แต่ถังหนิงไปไกลมากเหลือเกินทำล้ำเส้นมากเกินไป นอกจากเธอจะไม่ขอโทษแล้ว เธอยังด่าทอด้วย”

และนี่คือจุดเริ่มต้นสงครามระหว่างทั้งสองคน นางแบบสองคนที่ไม่รู้วิธีควบคุมตนเองต่อหน้าสาธารณชน เล่นละครร้องไห้ฟูมฟายเพื่อดึงความสนใจของผู้คนที่ผ่านไปมา

เทียนอี้โต้ตอบอย่างรวดเร็วด้วยการปล่อยแถลงการณ์ขอโทษต่อสาธารณชน และระบุว่าพวกเขาตั้งใจที่จะจัดการกับถังหนิงอย่างจริงจัง โดยมีการออกความเห็นว่าพวกเขาจะไล่เธอออก

ในขณะเดียวกัน คำพูดของถังหนิง ‘ฉันจะไม่ขอโทษคุณแน่นอน’ กลายเป็นประโยคฮิตในโลกออนไลน์ ตอนที่ทุกคนกำลังด่าทอถังหนิง…บุคคลมีชื่อเสียงในโลกออนไลน์ปล่อยอัลบั้มภาพที่มีหัวข้อว่า [ไม่ใช่ว่า

ถังหนิงไม่ขอโทษ แต่เป็นเพราะเธอไม่ควรขอโทษต่างหาก!]

อัลบั้มเต็มไปด้วยรูปภาพของโม่อวี่โหรวและหันอวี่ฝานกำลังกอดกัน ในรูปภาพทั้งโม่อวี่โหรวและหันอวี่ฝานอยู่ในโรงพยาบาลด้วยกันทั้งคู่ หันอวี่ฝานอยู่ด้านบนโม่อวี่โหรวโดยที่เธอยังคงสวมเสื้อคลุมของโรงพยาบาลชุดผู้ป่วยอยู่…

ชาวเน็ตทุกคนตาสว่างขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อเว็บไซต์ที่โด่งดังก็ตอบสนองความต้องการในออกมาโพสต์ด้วยหัวข้อ [เปิดเผยความจริงเบื้องหลังเหตุการณ์สลับตัวของถังหนิง]

ภายในโพสต์เล่ารายละเอียดของเหตุการณ์ไว้อย่างดี โดยใช้ความจริงที่ว่าโม่อวี่โหรวและหันอวี่ฝานกำลังหลอกลวงเพื่อสร้างสถานการณ์ให้ตนเอง อีกทั้งแสดงให้เห็นการวิเคราะห์ที่ชัดเจนว่าถังหนิงถูกบังคับให้ยินยอม ถูกบังคับให้อดกลั้น และในที่สุดเธอก็ต้องโต้ตอบด้วยความโกรธ…

เพราะเพื่อความรัก เธอจึงถูกบังคับให้ยอมรับความผิดทั้งหมด ในขณะที่ภรรยาน้อยของคู่หมั้นกำลังก้าวหน้าและทำให้เธอเสียเกียรติ

เรื่องอื้อฉาวถูกเปิดเผยด้วยวิธีนี้ รูปภาพของหันอวี่ฝานและโม่อวี่โหรวที่สนิทคุ้นเคยกันแพร่กระจายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง และในที่สุดชาวเน็ตก็ค้นพบว่า นอกจากเหตุการณ์สลับตัวแล้ว ถังหนิงก็ไม่เคยมีข่าวเสียหายเลยสักนิดเดียว แม้ว่าจะขุดคุ้ยย้อนกลับไปไกลถึงสามปีก็ตาม สิ่งที่พวกเขาพบคือภาพของถังหนิงที่เป็นนางแบบบนเวที สวยงามอย่างที่เคยเป็นมา

นางแบบที่ยอมละทิ้งอาชีพเพื่อความรัก ไม่เคยพยายามอธิบายตนเองเลยสักครั้งเดียว แม้แต่หลังจากสถานการณ์ล่าสุด เธอก็ยังรีบออกมาและรับผิดชอบทุกอย่างทันที

คุณพระช่วย ทุกคนเข้าใจถังหนิงผิดไป!

โม่อวี่โหรวรู้ช่างมารยาสาไถยเสียจริงว่าควรทำตัวอย่างไร ใครจะไปคาดคคิดว่าเทียนอี้จะกำราบผู้หญิงที่น่าสงสารคนนี้ได้ลงคอ

สถานการณ์ได้พลิกอีกครั้งแล้ว…

ผู้คนในโลกออนไลน์จำนวนนับไม่ถ้วนเริ่มรู้สึกผิดกับการตัดสินถังหนิงก่อนหน้านี้ ความรู้สึกของพวกเขาที่มีต่อเธอเปลี่ยนจากลบไปเป็นบวกอย่างรวดเร็ว ขณะที่เรื่องทั้งหมดกำลังเกิดขึ้น โม่อวี่โหรวก็อยู่ระหว่างการสัมภาษณ์ “ฉันไม่รู้จะประเมินความหน้าไม่อายของเธออย่างไรแล้ว…”

นักข่าวเสียเวลาชั่วครู่เมื่อเพื่อนร่วมงานของเธอหยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างกะทันหันเพื่อให้เธอดูอะไรบางอย่าง

หลังจากเห็นรูปภาพ นักข่าวก็ยกโทรศัพท์ขึ้นและถามโม่อวี่โหรวว่า “คุณโม่ รูปภาพพวกนี้จริงหรือเปล่า”

“นี่มันอะไรกัน” ใบหน้าของโม่อวี่โหรวหน้าซีดเผือด

“นี่คือรูปภาพที่แสดงความใกล้ชิดกันของคุณและประธานบริษัทเทียนอี้ หันอวี่ฝาน คุณอยากให้ฉันลงรายละเอียดมากกว่านี้ไหมว่าจริงๆ แล้วคุณกำลังทำอะไรอยู่ในภาพพวกนี้”

โม่อวี่โหรวนิ่งไป… เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เธอยังคงร้องไห้ต่อหน้ากล้องแสร้งทำตัวน่าสงสารอยู่เลย แต่ตอนนี้เธอกลายเป็นภรรยาน้อยที่ล่อลวงแฟนคนอื่นไปแล้ว ในสายตาของพวกเขา เธอก็คงไม่ต่างจากนางแบบหน้าใหม่ที่ขายตัวเองเพื่อให้ก้าวหน้าในอุตสาหกรรมนี้

ที่สำคัญที่สุดคือ เธอไม่สามารถหาคำใดๆ มาต่อสู้เพื่อตนเองได้เลย

นักข่าวต่างก็รู้สึกอับอายแทนเธอ

“ถ้าอย่างนั้น ฉันคิดว่ารูปพวกนี้เป็นเรื่องจริง ด้านหนึ่งคุณกำลังร้องไห้ ในขณะที่อีกด้านคุณกำลังขโมยแฟนคนอื่น” คำถามของนักข่าวหญิงรุนแรงขึ้นทันที

“ม…ไม่…”

“รูปภาพมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว อย่าบอกนะว่าคุณยังจะปฏิเสธอีก”

“ไม่ใช่ ทั้งหมดนี่เป็นของปลอมทั้งหมด…เป็นส่วนหนึ่งในแผนของถังหนิง” โม่อวี่โหรวหมดหนทางต่อหน้ากล้องทันที “อย่าถ่ายอีก ออกไป ฉันไม่อยากให้สัมภาษณ์อีกต่อไปแล้ว ไปสิ!”

“ฮึ่ม” นักข่าวหญิงส่งเสียงไม่พอใจอย่างเยือกเย็น เธอดูหมิ่นโม่อวี่โหรว “คุณโม่คะ แม้ว่าพวกเราทุกคนจะเคยอยู่ในวงการบันเทิง แต่ฉันก็ยังอยากจะบอกสิ่งนี้กับคุณ พระเจ้าจะลงโทษคนที่มีเจตนาไม่ดี เพราะมันมีความถูกต้องอยู่ในโลกนี้บ้านเมืองยังมีขื่อมีแป เพียงแค่การกระทำของถังหนิงถึงขนาดที่ออกมาแสดงตัวและยอมรับผิดทั้งหมด จากนี้ไปฉันจะไม่เขียนข่าวแย่ๆ เกี่ยวกับเธออีก”

โม่อวี่โหรวตัวสั่นด้วยความกลัว ทันทีที่นักข่าวออกไป เธอก็โทรศัพท์หาหันอวี่ฝาน

“อวี่ฝาน คุณเห็นรูปภาพพวกนั้นหรือยัง เราจะทำอย่างไรกันดี”

“มันก็แค่รูปภาพน่า คุณจะไปตื่นตระหนกทำไมกัน ตอนนี้บริษัทกำลังหาทางแก้ไขอยู่…” หันอวี่ฝานตอบอย่างใจเย็น แต่…ข้างในเขาไม่ได้สงบอย่างที่เห็นเลย การเปิดเผยทุกอย่างออกไป ไม่เพียงแค่จะกระทบอนาคตของโม่อวี่โหรวและเทียนอี้เท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้เขาสูญเสียถังหนิงไปตลอดกาลด้วย

อย่างไรก็ตาม เขากำราบและหลอกลวงเธอไปแล้ว

“ถังหนิงจะต้องอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้แน่”

“ถ้าคุณไม่หาเรื่องเธอ คุณคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี่จะเกิดขึ้นเหรอ” หลังจากพูดจบ หันอวี่ฝานก็วางสายด้วยความโกรธ และหลังจากที่หาเบอร์โทรศัพท์ของถังหนิงเจอแล้ว เขาก็โทรหาเธอ “เห็นได้ชัดว่ามันดังก็โทรติดอยู่นี่ ถังหนิงรับโทรศัพท์สิ”

ในความเป็นจริง ถังหนิงกำลังถือโทรศัพท์อยู่ในมือ เธอจินตนาการว่าตอนนี้หันอวี่ฝานจะรู้สึกกังวลแค่ไหน ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจไม่รับ

หลังวิ่งออกมาจากห้องของโม่อวี่โหรว ถังหนิงก็หาที่ซ่อนอย่างเงียบๆ ขณะที่รอโม่ถิงส่งคนมารับเธอ แต่เธอก็ต้องประหลาดใจเมื่อโม่ถิงตัดสินใจมารับด้วยตนเอง

“ถังหนิง ขึ้นรถ”

เมื่อหลังได้ยินเสียงทุ้มของชายหนุ่มเขา ความกังวลใจทั้งหมดก็หายไป โทรศัพท์ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง แต่เธอโยนมันไปไว้ที่เบาะหลังรถ

“คุณจะไม่รับหรือ” โม่ถิงถามเผยให้เห็นด้านหนึ่งของใบหน้าที่หล่อเหลา

“คุณเองก็รู้คำตอบอยู่แล้ว” ถังหนิงแสร้งยิ้ม เป้าหมายของเธอคือการทำให้หันอวี่ฝานตามหาเธอทั้งคืน และสัมผัสความรู้สึกของการที่ต้องทุกข์ทรมาน