ตอนบทที่ 8 รูปภาพและวิดีโอ
โดยไม่ได้คำนึงถึงสิ่งอื่นไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามแต่ การที่ความจริงที่ถังหนิงก้าวออกมายอมรับว่าเป็นคนสร้างความวุ่นวายแบบนี้ ทำให้ชื่อเสียงของเทียนอี้สะอาดอย่างหมดจด การเจรจากับอัชแอ็ฟประสบความสำเร็จ พวกเขารับคำขอโทษของ
หันอวี่ฝาน และคืนตำแหน่งพรีเซ็นเตอร์ให้กับโม่อวี่โหรวอย่างที่ตั้งใจไว้ตอนแรก และเพราะเธอเองก็เป็นเหยื่อเช่นเดียวกัน จึงทำให้หลังจบเหตุการณ์นี้ ความนิยมของเธอพุ่งขึ้นอย่างฉับพลัน
เทียนอี้เอ็นเตอร์เทนเมนต์และโม่อวี่โหรวฟื้นตัวจากเหตุการณ์ได้อย่างสมบูรณ์และไม่ได้รับความเสียหายใดๆ ขณะที่ถังหนิงถูกทำลายอย่างสมบูรณ์เช่นเดียวกัน
ในเวลาอันรวดเร็ว คำค้นหาอย่าง ‘ตัวแม่ในการสร้างข่าวลือกระแส’ ‘นางแบบจอมวางแผน’ ‘ถังหนิง ยัยผู้หญิงแพศยาชาเขียว’[footnoteRef:1]* รวมถึงคำอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกันก็เริ่มปรากฏในอันดับการค้นหา และผลลัพธ์ทั้งหมดก็นำไปสู่การสนทนาที่เต็มไปด้วยภาษาที่รุนแรง [1: แพศยาชาเขียว (绿茶婊) คำสแลงอินเทอร์เน็ตของเมืองจีน ใช้อธิบายผู้หญิงที่พยายามเสแสร้งว่าไร้เดียงสา แท้จริงไม่เป็นอย่างนั้น]
ถังหนิงนั่งดูข่าวอยู่ในห้อง และพยายามใจเย็นอย่างถึงที่สุดแล้ว เพราะเธอรู้ว่าทุกอย่างที่เธอกำลังอดทนอยู่ตอนนี้จะส่งผลในอีกไม่ช้า…
…หันอวี่ฝานและโม่อวี่โหรวจะต้องทุกข์ทรมานมากกว่าที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้สิบเท่า!
อย่างไรก็ตาม ภาพลักษณ์ของเธอในสายตาของสาธารณชนตอนนี้พังทลายอย่างไม่มีชิ้นดี แม้แต่พนักงานคนทำความสะอาดก็ยังอดไม่ได้ที่จะแสดงทัศนคติเช่นนั้นกับเธอ “คุณถังคะ กรุณาขยับขาที่มีค่าของคุณหน่อยได้ไหมคะ คุณไม่เห็นเหรอว่าอิฉันกำลังพยายามทำความสะอาดที่นี่อยู่”
“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่มีงานที่ต้องไปเข้าร่วมนี่ แต่คุณก็ยังเข้ามาที่นี่ทุกวัน หลังฉันปวดไปหมดแล้วที่ต้องทำความสะอาดหลังจากคุณออกไปให้คุณแบบนี้”
สีหน้าของถังหนิงเปลี่ยนเป็นเย็นชา ถึงแม้ว่าเธอจะร่วงลงสู่จุดต่ำสุดในอาชีพ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมให้ใครมาระรานได้ เธอหยิบโทรศัพท์และต่อสายไปหาหันอวี่ฝาน ไม่ลืมที่จะกดเปิดลำโพงเพื่อให้พนักงานทำความสะอาดได้ยินบทสนทนาของพวกเขาด้วย “อวี่ฝาน สถานะของฉันในบริษัทนี้ตกต่ำมากขนาดที่สมควรแม่บ้านทำความสะอาดก็โดนพูดจาดูถูกได้เชียวหรือแม้กระทั่งพนักงานทำความสะอาดเหรอ”
“เอาถามชื่อเธอมาแล้วะโทรหาฝ่ายบุคคลให้ไล่เธอหล่อนออก” หันอวี่ฝานตอบอย่างไม่ลังเล
ถังหนิงวางสายและมองพนักงานทำความสะอาดด้วยสายตาเย็นชา “การที่ฉันเป็นคนง่ายๆ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะมาพูดจาปกติเล่นหัวกับฉันได้นะ การที่ฉันไม่ได้เป็นนางแบบก็ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่ได้เป็นสมาชิกในครอบครัวตระกูลถัง ฉันถ้าฉันต้องการ ฉันสามารถทำให้พนักงานทำความสะอาดธรรมดาๆ อย่างคุณตกงานไปตลอดชีวิตได้โดยที่ไม่ต้องลงมืออะไรเลย…”
ใบหน้าของพนักงานทำความสะอาดแม่บ้านคนนั้นซีดเผือด ดขณะที่เหงื่อเริ่มตก เธอไม่เคยรู้เลยว่าถังหนิงจะน่าขู่ให้กลัวได้ขนาดนี้ หล่อนเธอรีบโค้งขอโทษของโพยอย่างรวดเร็ว “ขอโทษค่ะ…คุณถัง ฉันจะไม่ทำแบบนี้อีก”
“ถึงแม้ว่าคุณจะอยู่เหนือคนอื่น คุณก็ควรปฏิบัติกับเขาอย่างเท่าเทียมกัน ฉันไม่ได้จะบอกว่าความจริงแล้วคุณอยู่ต่ำกว่าคนอื่นหรอกนะ” ถังหนิงไม่ได้อยากสร้างความยุ่งยากให้พนักงาน แต่เธอต้องสอนให้พวกเขาได้รับบทเรียนเสียบ้าง พูดจบเธอก็ลุกขึ้น หลังจากพูดจบพอดีกับที่ และทันใดนั้นเองก็ได้รับข้อความจากหันอวี่ฝานให้ไปหาเขาที่ออฟฟิศ
“ถังหนิง ภาพลักษณ์ของคุณตอนนี้ตกต่ำอย่างถึงที่สุดแล้ว ดังนั้น…ผมก็เลยจัดการให้คุณมีส่วนร่วมในกิจกรรมบางอย่าง หวังว่าคุณจะกู้ชื่อเสียงคืนจากสาธารณชนได้นะ โม่อวี่โหรวกำลังบาดเจ็บอยู่ไม่ใช่หรือ ทำไมคุณไม่ไปเยี่ยมและดูแลเธอเพื่อแสดงว่าคุณเองก็เสียใจ…บางทีคุณอาจจะเรียกคะแนนความสงสารได้”
ถังหนิงสำรวจใบหน้าของหันอวี่ฝานและสงสัยว่าทำไมเธอถึงไม่เคยสังเกตเลยว่าเขาช่างน่าอัปยศขนาดนี้
โม่อวี่โหรวกำลังใช้โอกาสนี้เพื่อทำให้เธอรู้สึกขายหน้าชัดๆ แต่หันอวี่ฝานกลับแนะนำให้ถังหนิงไปดูแลเธอ
“คุณเพียงแค่แกล้งแสดงต่อหน้ากล้องสักสองสามนาทีเมื่อมีการแพร่ภาพสด…”
หันอวี่ฝานคิดไว้แล้วว่าถังหนิงต้องปฏิเสธ โม่อวี่โหรวใช้ความเป็นเด็กของเธอในการทำให้หันอวี่ฝานยอมจำนน และขอให้ถังหนิงทำตามคำเรียกร้องที่ช่างไร้เหตุผลเหลือเกิน แต่เธอก็พยักหน้าตกลงอย่างที่เขาเองก็ไม่คาดคิด
“ตกลง”
“คุณเต็มใจจะทำมันเหรอ?”
“ตั้งแต่โม่อวี่โหรวได้รับบาดเจ็บ ฉันก็ไม่มีโอกาสไปเยี่ยมเธอเลย และนี่ก็เป็นโอกาสที่ดีมาก” ถังหนิงตอบด้วยท่าทางที่สงบเยือกเย็น
“ถ้าอย่างนั้น ผมจะให้ะหาคนมาปกป้องและพาคุณออกไปจากที่นี่… เพราะข้างนอกนักข่าวมากันเยอะมาก”
ถังหนิงยังคงเงียบสงบและเก็บอารมณ์ได้ ถึงแม้ว่าเธอจะรู้แผนการของโม่อวี่โหรวที่ต้องการทำให้เธอเจ็บปวด เธอรู้…ยิ่งโม่อวี่โหรวรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองอยู่สูงและมีอำนาจมากเท่าไร…ก็ยิ่งตกต่ำได้มากเท่านั้น
คนที่จะได้หัวเราะเป็นคนสุดท้าย…
…ก็ยังไม่ได้ถูกกำหนดไว้อยู่ดี
ไม่นานหลังจากนั้น ถังหนิงก็ขึ้นรถผู้ช่วยของหันอวี่ฝานและตรงไปยังโรงพยาบาลเทียนเหอ ระหว่างทางเธอส่งข้อความหาโม่ถิง “คุณสามี อย่ากังวลกับข่าวอะไรก็ตามที่คุณเห็นเกี่ยวกับฉันเลย ฉันมีแผนแล้ว และฉันก็อยากกลับไปที่บ้านคืนนี้ คุณช่วยส่งคนมารับฉันที่โรงพยาบาลเทียนเหอหน่อยได้ไหม ฉันไม่รู้ว่าบ้านใหม่ของเราอยู่ที่ไหน…”
ในระหว่างการประชุม โม่ถิงได้รับข้อความจากถังหนิง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เขาหยุดสิ่งที่กำลังกระทำอยู่ ทำให้ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ ต้องเป็นคนที่เหมือนพระเจ้าขนาดไหนถึงได้มีอิทธิพลมากขนาดนี้
โม่ถิงไม่สนใจปฏิกิริยาของคนรอบข้าง สิ่งเดียวที่เขาสามารถให้ความสนใจได้คือน้ำเสียงที่น่าสงสารของถังหนิง เขาตอบกลับข้อความของเธออย่างรวดเร็ว “เด็กดี ผมจะไปรับคุณเอง”
หลังได้รับข้อความจากโม่ถิง ถังหนิงอดไม่ได้ที่จะนึกถึงสีหน้าของโม่ถิงตอนเรียกเธอว่า ‘เด็กดี’ รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นบนหน้าเธอ ดวงตาของเธอโค้งราวกับพระจันทร์เสี้ยวสองดวง ในขณะนั้นเอง ผู้ช่วยของหันอวี่ฝานมองถังหนิงจากกระจกมองหลัง ตอนนี้ยิ้มได้ก็ยิ้มไปคุณยังยิ้มได้อยู่ แต่เดี๋ยวรอดูเถอะว่าต่อไปอะไรจะเกิดขึ้นกับคุณ
ถังหนิงรู้ว่าโลกทั้งโลกกำลังเป็นปรปักษ์กับเธอ แต่เธอก็บังคับตัวเองไม่ให้สนใจความคิดของคนอื่น หลังจากติดต่อกับโม่ถิง เธอก็ส่งข้อความหาผู้จัดการของเธอ
“หลงเจี่ย หันอวี่ฝานจัดการให้ฉันไปดูแลโม่อวี่โหรวที่โรงพยาบาล ฉันเกือบจะถึงที่นั่นแล้ว คุณพร้อมหรือยัง”
“ใครที่ฉลาดมากพอก็จะรับรู้ได้ว่าภรรยาน้อยคนนั้นกำลังใช้โอกาสนี้ในการทำให้คุณเสียหน้า นี่เธอคิดจริงๆ หรือว่าสามารถจะทำสิ่งนั้นได้ ฉันพร้อมมานานมากแล้ว และฉันมั่นใจว่าผู้คนจะต้องสนุกแน่นอน…ฉันมีทั้งรูปภาพและวิดีโอ”
“คุณปล่อยรูปภาพได้…แต่เก็บวิดีโอไว้ก่อนนะ ฉันอยากให้หันอวี่ฝานและโม่อวี่โหรวมีเวลาในการโต้กลับ”
“ฉันเข้าใจแล้ว เราควรรอเวลาที่เหมาะสมสินะ เมื่อไรที่พวกเขาย่ำแย่มากที่สุด ฉันจะปล่อยวิดีโอและประกาศชัยชนะ!” หลงเจี่ยตื่นเต้นจนผิดปกติ “ฉันอยากให้โม่อวี่โหรวล้มลงตอนที่เธออยู่ในจุดสูงสุด ถังหนิง ถึงแม้ว่าจะมีใครหลายคนดูหมิ่นคุณ แต่ฉันก็รู้สึกได้ว่ายังคงมีคนบางกลุ่มที่สนับสนุนคุณอยู่ ฉันคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ดีจากเหตุการณ์ทั้งหมดนี่…”
“หลงเจี่ย ระวังตัวเองด้วยนะ”
หลังส่งข้อความกับผู้จัดการเสร็จ ถังหนิงก็ลบบทสนทนาทั้งหมดทิ้งทันทีพร้อมยกมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กน้อยๆ
…
ภายในห้องพิเศษของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง โม่อวี่โหรวกำลังนั่งอย่างอ่อนแรงอยู่บนเตียง แค่คิดภาพว่าเธอสามารถทำให้ถังหนิงเสียหน้าได้ แค่ขณะหนึ่งก็ทำให้ดวงตาของเธอเป็นประกาย
เธอไม่เคยคิดฝันเลยว่าถังหนิงจะโง่เขลาขนาดที่ยอมรับผิดเองทั้งหมด ไม่เพียงแค่ทำให้คุณค่าของ
โม่อวี่โหรวเพิ่มขึ้น แต่ยังทำให้เธอได้ตำแหน่งพรีเซ็นเตอร์ของอัชแอ็ฟด้วย
“อวี่โหรว ถังหนิงเกือบจะถึงแล้ว เมื่อเธอมาถึง กล้องก็จะทำงานและคุณจะเผยแพร่ภาพสดเป็นเวลาสามนาที ในช่วงเวลานั้นฉันจะเรียกให้หมอเข้ามาเปลี่ยนผ้าพันแผลของคุณ และในขณะเดียวกันฉันจะทำให้ถังหนิงล้างเท้าให้คุณ…”
“ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง…” โม่อวี่โหรวอุทาน เธออยู่ใต้เงาของถังหนิงมาเป็นเวลานาน นับตั้งแต่วันนี้ เธอสาบานว่าจะปีนให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ เธอกำลังจะก้าวข้ามถังหนิง แย่งหันอวี่ฝานมาและกลายเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งของเทียนอี้
“ต่อจากนี้สิ่งต่างๆ จะยิ่งดีขึ้นสำหรับคุณ และงานประกาศรางวัลท็อปเทนโมเดลประจำปีก็กำลังจะทำการคัดเลือก ฉันมั่นใจว่าคุณจะได้รับการคัดเลือก ในเมื่อถึงตอนนั้น…คุณก็จะเข้าใกล้การเป็นนางแบบระดับแนวหน้าไปอีกขั้น”
โม่อวี่โหรวค่อยๆ เผยรอยยิ้มออกมา นี่มันดียิ่งกว่าสิ่งที่เคยวาดฝันไว้เสียอีก และเพราะทุกอย่างกำลังเข้าทางเธอ จึงทำให้ความเย่อหยิ่งที่มีจึงของเธอเริ่มสูงขึ้น…
…
*คำสแลงอินเทอร์เน็ตของเมืองจีน “ผู้หญิงแพศยาชาเขียว (绿茶婊)” ใช้อธิบายผู้หญิงที่มีความพยายามในการเสแสร้งว่าไร้เดียงสา แท้จริงไม่เป็นอย่างนั้น