webnovel

คำสัญญา

กว่าพ่อจะกลับมาถึงบ้านก็เกือบทุ่ม! ก็ดี ผมเลยได้นั่งเคลียร์เกมไปหลายเลเวลระหว่างรอพ่อ แถมน้าพลอยก็ไม่ได้มาด้วย ทั้งๆที่น้าพลอยอุตส่าห์นั่งรอพ่อที่ทำงานเพราะจะกลับมาพร้อมกับพ่อ แต่พ่อดันไปบอกน้าพลอยในวินาทีสุดท้ายว่าวันนี้พ่อปวดท้อง เราคงจะไม่ได้ออกมากินข้าวนอกบ้านกัน น้าพลอยคงกลับบ้านไปด้วยความเสียใจ ผมรู้ว่าน้าพลอยอยากจะมีส่วนร่วมกับพวกเรา

ผมไม่รู้ว่าพ่อปวดท้องจริงหรือเปล่า แต่… ในที่สุดเราก็ออกมากินซูชิกันแค่สี่คน

ร้านซูชิที่เราไปกินกันเป็นร้านไม้ๆ กั้นเป็นห้องๆเป็นแถวๆสไตล์ญี่ปุ่นจ๋า เป็นโต๊ะแบบนั่งกินกับพื้น ปู่เขาคงชอบอะไรแบบนี้ แต่ผมนั่งแล้วเมื่อย

"พ่อว่า เรนน่าจะไปตัดผมให้สั้นๆดีไหม"

พ่อวุ่นวายกับการพยายามคีบข้าวปั้นหน้าปลามากุโร่ไม่พอ ยังมาวุ่นวายกับหัวผมอีก

"ตัดให้สั้นเหมือนพ่อเหรอ ไม่เอาหรอก" ผมไม่สนใจอะ

"หรือเราย้ายเค้าไปเรียนโรงเรียนเทศบาลดีครับคุณราเชนทร์ จะได้รู้รสของการหัวเกรียน" พ่อผมหันไปยุยงปู่อีก นี่พ่อเขาโกรธแค้นอะไรในทรงผมเท่ๆของผม

"มีโรงเรียนอุบาทว์อย่างนั้นด้วยเหรอพ่อ ที่บังคับให้เด็กตัดผมเกรียนน่ะ"

ความจริงผมก็รู้แหละ ว่าเด็กโรงเรียนอื่นเค้าต้องตัดผมสั้น เวลาไปเดินที่เซนทรัลลาดพร้าวก็เห็นอยู่ แต่ผมต้องไม่ยอมพ่อ

"คุณเรนครับ นี่คุณโลกสวยจนเคยตัวสินะครับ ไม่เคยรับรู้ว่าเด็กๆคนอื่นๆน่ะเค้าไม่ได้ทำอะไรตามใจเหมือนที่คุณทำได้นะครับ" พ่อชอบบอกว่าผมเอาแต่ใจตัวเอง

"ช่วยไม่ได้หรือเปล่า ก็อยากยอมรับกฎบ้าบอคอแตกนั่นกันเอง ผมสั้นมันทำให้เรียนเก่งขึ้นด้วยเหรอ" ผมยังงงๆที่เด็กคนอื่นเขายอมกันได้ยังไง

"แหม คุณเรนครับ พ่อแม่คนอื่นเค้าไม่มีตังค์ส่งลูกเรียนนานาชาติกันทุกคนนะครับ ขอวาซาบิเพิ่มด้วยครับ" พ่อขอวาซาบิเพิ่มเป็นรอบที่สามแล้ว

"งั้นก็ต้องรวมตัวกันคุยกับครูว่าเราจะไม่ยอมตัดผมสั้น" ผมยักไหล่ ผมก็คุยกับครูทุกทีเรื่องนี้ตอนอยู่โรงเรียนเก่า

"แล้วก็รวมตัวกันประท้วง จนโรงเรียนเชิญออกใช่ไหมครับ" พ่อผมดูเหมือนจะไม่ยอมเลิกราจากเรื่องหัวของผม

"นี่พ่อเป็นอะไรกับหัวของผมอ่ะ"

"ก็รำคาญไง"

"ก็พ่อก็อย่ามองดิ ก็มองจานเทมปุระไปก็ได้" ผมเลื่อนจานเทมปุระไปข้างหน้าพ่อ

"ไอ้เรน!" พ่อเริ่มขึ้นเสียง

"เอ้อ พ่อลูกคู่นี้ จะคุยกันดีๆบ้างไม่ได้หรือไงวะ" เสียงปู่เหมือนจะดุพวกเรา แต่ผมรู้ว่าปู่กำลังมองผมอย่างเอ็นดู

นั่นไง จริงด้วย ปู่มองผมด้วยความรักไม่พอ ปู่ยังคีบชิ้นปลาทูน่ามาวางไว้ในจานผม แถมด้วยหัวไชเท้าฝอย

"วันนี้ผมกินเหล้าสาเกได้ใช่ไหมฮะปู่" ผมหันไปทางปู่ วันนี้เป็นวันพิเศษมากมาก เราจะฉลองกันด้วยเหล้าสาเก

"เดี๋ยว เดี๋ยว นี่คุณครับ คุณเพิ่งจะอายุสิบห้านะครับ กฎหมายเขาต้องสิบแปดถึงจะซื้อเหล้าได้" ว่าแล้วว่าคุณเซนเขาจะต้องรีบมีความเห็น พ่อผมเขาขัดผมทุกเรื่อง

"ก็ผมไม่ได้เป็นคนซื้อ ปู่ซื้อ แล้วอีกอย่างมันต่างกันยังไงอ่ะ ทำไมสิบแปดกินเหล้าได้ แล้วสิบห้ากินเหล้าไม่ได้" ผมยักไหล่อีกรอบ เวลาพูดกับพ่อ ผมจะชอบยักไหล่ ผมรู้ว่ามันทำให้พ่ออารมณ์เสียทุกครั้งที่เห็น

"เอาสิ มะพร้าวเรียกคนเสิร์ฟมาหน่อย"

ปู่ซึ่งนั่งยิ้มเงียบๆมาโดยตลอด หันไปหาคุณมะพร้าวซึ่งก็นั่งยิ้มเงียบๆมาโดยตลอดเช่นกัน ผมว่าปู่กับคุณมะพร้าวเขาชอบฟังผมกับพ่อเถียงกัน

"นี่พ่อตามใจมันขนาดนี้เชียวหรือครับ จะให้เด็กมันกินเหล้าเหรอ นี่พ่อมีลูกอย่างผมคนเดียวไม่เข็ดใช่ไหมครับ" พ่อผมโวยวาย

"…" ปู่ผมไม่ตอบ

"คุณมะพร้าวครับ จะให้เจ้าเด็กน้อยนี่กินเหล้าหรือครับ" เมื่อปู่ไม่แยแส พ่อจึงหันไปมีความหวังที่คุณมะพร้าว

"คุณเรนแกขอมาหลายครั้งแล้วครับ เราก็ไม่เคยให้กินเลย แต่สัญญากันเอาไว้นานแล้วว่าจะให้ชิมวันนี้ น้อง น้อง สาเกสองจอกที่จองไว้ ถ้วยสี่ถ้วยจ๊ะ" คุณมะพร้าวเป็นผู้เฉลยสิ่งที่ผมกับปู่เคยคุยกันไว้ ก่อนจะเปิดบานเลื่อนประตูไปบอกพนักงานเสิร์ฟ

"ทำไมต้องเป็นวันนี้ มันสำคัญยังไงครับ" พ่อผมเขาถามคำถามที่ไม่น่าถามที่สุดในโลกขึ้นมา

"พ่อ! พ่อไม่รู้จริงๆหรือว่าวันนี้เป็นวันอะไร"

ผมไม่อยากจะเชื่อว่าพ่อเขาจำไม่ได้ หรือว่าพ่อเขาอำเล่น

"วันอะไร"

"พ่อนึกดีๆสิ" ผมยังพยายาม ทั้งๆที่น้ำตากำลังรื้นขึ้นมาแล้ว

"วันอะไรกันเล่า ก็บอกมาสิ แกนี่กวนจริงๆ" ท่าทางพ่อดูเหมือนจะไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าวันนี้มันสำคัญยังไง

"พ่อจำไม่ได้จริงๆเหรอ" อารมณ์น้อยใจพุ่งขึ้นมาเอ่อท้นเต็มสองตา ปกติผมไม่เคยร้องไห้ง่ายๆ โดนต่อยหน้าเบี้ยวแค่ไหนก็ไม่เคยร้องไห้

แต่วันนี้ผมกลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้ว

"จำอะไร" หน้าตาเขาเหมือนไม่เคยใส่ใจอะไรในโลกนี้

"พ่อจำวันเกิดผมไม่ได้ ผมไม่สน แต่พ่อจำวันเกิดปู่ไม่ได้ได้ยังไง" ผมตะโกนออกไป

"เรน!" ผมเห็นทั้งพ่อ ปู่ แล้วก็คุณมะพร้าวทำหน้าตกใจ

"ผมยังจำวันเกิดของพ่อได้เลย พ่อเกิดวันที่ 11 กุมภา เป็นวันชาติญี่ปุ่น ปู่เลยตั้งชื่อพ่อว่าเซน เพราะมันเป็นหลักปรัชญาของคนญี่ปุ่น"

ผมพรั่งพรูสิ่งที่จำได้ทั้งน้ำตา ผมชอบเวลาที่ปู่เล่าเรื่องของพ่อให้ฟัง แม้พ่อจะไม่ได้อยู่กับผมเหมือนพ่อคนอื่น แต่ผมไม่เคยโกรธพ่อ ปู่บอกว่าพ่อเขาต้องสร้างอนาคตที่ดีเพื่อพวกเรา เราต้องรอเขาได้ ผมก็เชื่อปู่

"เราสามคนเกิดเดือนเดียวกัน จำง่ายขนาดนี้ พ่อก็ยังจำไม่ได้อีก" ผมตะเบ็งเสียง พลางยกมือป้ายน้ำตา

"วันนี้เป็นวันเกิดของผมกับปู่ไง พ่อไม่เคยจำได้ ไม่เคยสนใจอะไรเลย วันนี้ถ้าปู่ไม่บังคับพ่อมา พ่อก็คงจะไม่มาแล้ว" ผมเห็นทุกคนนั่งอึ้งไป แต่ผมไม่สนแล้ว

"พ่อเป็นคนยังงี้ได้ยังไง พ่อไม่รักผม ผมไม่เคยแคร์ แต่พ่อไม่รักปู่ได้ยังไง ถ้าพ่อรักปู่ พ่อต้องจำวันเกิดปู่ได้สิ"

"เรน… พ่อ… ขอโทษ…" พ่อค่อยๆเอ่ยขึ้นมาอย่างตะกุกตะกัก หน้าตารู้สึกผิด

แต่ผมแม่งโคตรไม่อยากเห็นหน้าพ่อแล้ว พ่ออะไรวะ

ผมลุกขึ้นไปเปิดประตูบานเลื่อนไม้ ใส่รองเท้าแล้วเดินออกไปทางหน้าร้านอย่างรวดเร็ว

โคตรเสียใจเลย โคตรน้อยใจด้วย พ่อแม่งเคยรักผม เคยรักปู่บ้างไหม มีแต่ทำให้ปู่เดือดร้อน พ่อแม่ง… ฮือ ฮือ ฮือ ผมเรียกแท็กซี่กลับบ้านเองก็ได้ ไม่กลับบ้านกับพ่อแล้ว ฮือ ฮือ ฮือ

ผมเดินไปร้องไห้สะอึกสะอื้นไป และขณะที่ผมกำลังเดินผ่านลานจอดรถจะออกไปที่ถนนนั้น ก็มีวงแขนมาคว้าตัวผมทั้งตัวจากทางด้านหลังเอาไว้

"เรน จะไปไหน" เสียงพ่อพูดมานิ่งๆ

"พ่อไม่ต้องมายุ่งกับผม!" ผมพยายามสะบัดตัวออกจากความแข็งแรงของพ่อ ทำไมพ่อแม่งแรงเยอะนักวะ เห็นตัวสูงๆเพรียวๆ ทำท่าหล่อๆผมตั้งๆไปวันๆ ไม่นึกว่าจะมีแรงห้าวขนาดนี้

"ฟังพ่อก่อน"

พ่อจับไหล่ผมให้หันหน้ามาเผชิญหน้ากับพ่อ ผมเห็นพ่อทำหน้ายิ้มๆ ผมโคตรเกลียดแววตายิ้มเยาะๆนั่นจริงๆเลย

"ไม่ฟัง ขี้เกียจฟัง เบื่อฟังแล้ว"

ผมตะโกนใส่พ่อ พยายามจะเอามือไปแกะมือทั้งสองของพ่อที่จับไหล่ผมแน่นอยู่ แต่ทำไมมือของพ่อแข็งแกร่งอย่างนี้วะ

"จะบอกว่าเหล้าสาเกมาเสิร์ฟแล้ว จะกินหรือเปล่า คุณมะพร้าวเขาสั่งแบบร้อนมา มันต้องกินตอนนี้เลย เดี๋ยวจะเสียรสชาติ" พ่อตะโกนใส่ผมบ้าง

ผมชะงักไป เอาไงดี ผมรอคอยมาตลอดทั้งชีวิตที่จะได้ลิ้มรสสาเกในวันนี้

แต่ถ้ายอมกลับไปกะพ่อดีๆ ก็ไม่เท่อ่ะดิ

"คุณปู่บอกว่าอนุญาตให้กินวันนี้วันเดียวสองถ้วยเลย โปรโมชั่นเฉพาะวันนี้เท่านั้น" พ่อพูดต่อไปเรื่อยๆ

วันนี้วันเดียวสองถ้วยเลยเหรอ? ทีแรกผมนึกว่าปู่จะให้ชิมแค่ถ้วยเดียวเสียอีก

"สองจอกแรกที่คุณมะพร้าวสั่งมาเป็นสาเกจุนไมเฉยๆ แต่คุณปู่จะสั่งอีกสองจอกเป็นจุนไม ไดกินโจ้วด้วย นี่มันสาเกระดับซูเปอร์พรีเมี่ยมนะเว้ยเฮ้ย ขนาดอยู่ญี่ปุ่นพ่อยังหากินยากเลย มันแพงมากกกก" คราวนี้พ่อผมพูดหน้าตาจริงจังมาก

"หา จริงเหรอพ่อ" ผมเคยได้ยินชื่อสาเกตัวนี้มาก่อนว่ามันแพงที่สุดแล้ว ปู่เคยเล่าให้ฟัง

"เรนจะโกรธพ่อ พ่อไม่ว่า แต่เราจะพลาดสาเกของวันนี้ไม่ได้ ไม่งั้นเราอาจจะอดกินสาเกชนิดนี้กันทั้งชีวิต เพราะพ่อไม่ค่อยมีตังค์" แววตาของพ่อดูซีเรียสกว่าปกติ

จริงดิ มันแพงขนาดนั้นเลยเหรอ

"งั้นรีบไปกันเถอะฮะพ่อ เดี๋ยวปู่เปลี่ยนใจ" ผมรีบจูงมือพ่อออกเดินอย่างรวดเร็วกลับเข้าไปในร้าน

"เช็ดน้ำตาด้วย เดี๋ยวมันจะหยดลงในถ้วยสาเก แล้วเราจะอดชิมรสชาติดั้งเดิม" พ่อหันมาบอกผมยิ้มๆก่อนที่เราจะเปิดประตูบานเลื่อนเข้าไปหาปู่ที่กำลังนั่งรออยู่กะคุณมะพร้าว

ผมรีบเอาแขนเสื้อเช็ดน้ำตาให้แห้ง ผมกลัวสาเกแพงๆจะไม่อร่อย

เดี๋ยวตอนก่อนจะยกถ้วยสาเกขึ้นจิบ ผมจะต้องให้คุณมะพร้าวถ่ายคลิปเอาไว้ แล้วจะได้ส่งไปให้ไอ้ไอซ์กับไอ้คิวมันดู พวกมันจะต้องอิจฉาผมแน่ๆ พวกเราอยากกินเหล้ากันมานานแล้ว แต่ปู่บอกว่า การจะกินเหล้าให้ได้รสชาตินั้นต้องรอให้ถึงเวลาพิเศษมากๆก่อน แล้ววันนี้ก็ถึงเวลานั้นเสียที ปู่สัญญาเอาไว้ว่าจะให้ผมชิมเหล้าสาเกเมื่อครอบครัวของเราได้ฉลองวันเกิดของผมพร้อมหน้ากัน และปีนี้ก็เป็นปีแรกที่มีพ่ออยู่ด้วยในวันเกิดของผม

วันนี้เป็นวันที่ 29 กุมภา โอกาสอย่างนี้สี่ปีมีครั้ง แล้วถ้าครั้งหน้าเวียนมาอีกรอบ ผมไม่แน่ใจว่าเราจะได้ฉลองกันพร้อมหน้าอย่างนี้อีกหรือเปล่า วันนี้จึงเป็นวันสำคัญมากๆสำหรับผม

ปู่ให้ผมทุกอย่างที่ผมขอ เพียงแต่ปู่จะให้เมื่อถึงเวลา ซึ่งผมก็รอได้ เพราะทุกเรื่องที่ปู่สัญญากับผมไว้ ปู่ทำตามสัญญาเสมอ…