webnovel

ระบบตกหนอนหนังสือไปเปิดไฟท์ที่ต่างโลก

ตอนที่ 9

ยูเกรนมองๆ สมบัติของมังกรที่เกลื่อนพื้นครู่หนึ่งแล้วทิ้งเหรียญที่กอบมาเมื่อครู่ลงไปรวมด้วย เจ้าตัวก็ดูไม่ต้องการของชิ้นไหนของมังกรเช่นกัน นั่นยิ่งทำให้เจ้ามังกรแดงเฉาลงไปอีกระดับก่อนจะฟูมฟายงอแงเป็นที่น่าเท้ากระตุกมากมาย

"สมบัติของข้าไม่ได้ด้อยค่าไร้ราคาขนาดนั้นนะเว้ย เจ้าสองคนมาทำแบบนี้ได้ยังไง!" ลงไปดิ้นพล่านๆ ที่พื้นเป็นที่อนาถสายตายิ่งนัก

"ต่อหน้าคนที่ไม่ต้องการอะไรก็ไม่มีค่าหรอก เจ้าเข้าใจหน่อยเถอะนะ" ลูอิซลูบหัวปลอบใจนั่นทำเจ้ามังกรฉวยโอกาสอ้อนขอความเห็นใจทันที

"ข้าเสียใจเหลือเกิน สมบัติที่ข้าสะสมมาแทบทั้งชีวิตถูกมองอย่างไร้ค่าแบบนั้น จิตใจข้าเจ็บปวดนะ" การฟูมฟายนี้ทำจินตกชมือขยับแบบเตรียมขอดเกล็ดมังกรสักสิบยี่สิบชิ้นมาขายทอดตลาด สัญญาณอันตรายนี้ทำเจ้ามังกรผวาเฮือก

"ถ้าเจ้าไม่อยากถูกมองด้อยค่าเท่าไอ้ที่กองๆ อยู่นั่นก็คิดดูสิว่าพอมีข้อมูลแพรร์สโตนบ้างไหม" ที่ระบบบอกคือต้องหาแพรร์สโตนชิ้นแรกให้เจอก่อนแล้วใช้มันนำทางไปชิ้นต่อไป แต่นี่ชิ้นแรกสิบกว่าปีแล้วยังหาไม่เจอข่าวความน่าจะเป็นสักนิดก็ไม่มี

"ของที่เจ้าว่ามานั่นมันมีรูปแบบไหนล่ะ บางทีเจ้ากับข้าอาจเรียกคนละอย่างก็ได้" มังกรแดงพูดเสียงเป็นการเป็นงาน จินตกชยื่นมือมาแบด้านหน้า

รูปผลึกทรงกลมโปร่งใสบนผิวพื้นมีลวดลายคล้ายแผนที่ลอยเด่นอยู่กลางฝ่ามือบิสท์ขี้ริ้ว แสงสว่างจากนอกถ้ำส่องมากระทบบางเบาทำให้เกิดประกายสีรุ้งระยิบระยับ ทำทั้งคนทั้งมังกรมองตาค้างไปเลย

เจ้ามังกรยื่นหน้ามาจ้องระยะประชิด "สวยอย่างน่าประหลาดเลยนะนี่แต่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลยแฮะ" เจ้ามังกรยกเท้าหน้าแตะคางท่าทางครุ่นคิด "เอาเถอะข้าแนะนำให้เจ้าไปถามคนผู้หนึ่งได้ เขารอบรู้เกี่ยวกับโลกนี้เกือบทุกเรื่อง คงช่วยเจ้าได้บ้างนั่นแหละ"

"ใครที่เจ้าว่า แล้วอยู่ที่ไหน?" ดวงตาจินตกชเป็นประกาย ยี่สิบกว่าปีเขาแทบรู้จักโบราณสถานทั้งโลกแล้วกระมัง บุกหาจนขึ้นบัญชีดำทว่ายังหาข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าผลึกนี้ไม่เจอสักนิด

"คนคนนั้นอยู่ในโบราณสถานอันตรายร้ายแรงแบบมังกรยังไม่อยากเฉียดเข้าไปใกล้ มอนสเตอร์ที่อาศัยในโบราณสถานแห่งนั้นมีสายเลือดสัตว์ในตำนานทั้งนั้น คาดว่านักผจญภัยอย่างพวกเจ้าน่าจะรู้จักดีอยู่แล้วด้วย"

ในหมู่นักผจญภัยมีรายชื่อโบราณสถานห้ามเฉียดกายเข้าไปสามแห่งนั่นคือ กิลเมดัชแห่งทะเลทรายน้ำเงิน มามาทัวร์ลันแห่งไอซ์เอจ เยินโลปัวร์แห่งทุ่งหญ้า และตอนนี้เพิ่มอัลฮาซานขึ้นมาเป็นสี่แห่งแล้ว แน่นอนว่าอัลฮาซานตัดออกได้เลย

"ที่ไหน?"

"กิลเมดัช" เจ้ามังกรใช้น้ำเสียงหลอกหลอนตอบกลับมา

นักผจญภัยทั้งหมดตรงนั้นแทบยกเท้าก่ายหน้าผาก ลูอิซ นาธาน พินเดอร์ต่างเหลียวไปมองจินตกชเป็นตาเดียวกัน คาดหวังว่าเจ้าบีสท์ขึ้ริ้วจะไม่ขอให้พวกตนร่วมทางไปด้วย

"ทะเลทรายน้ำเงินรังของพวกเวิร์มดรากอนพิษ แล้วยังมีไฮยีน่าดำตัวใหญ่เท่ารถม้ากระจายตัวหากินทั่วทะเลทรายด้วย รอบโบราณสถานแห่งนั้นมีพืชพิษขึ้นเป็นกำแพงสูงมีแมลงพิษทำรังอยู่เป็นร้อยชนิด แล้วยังมีกับดักเวทสังหารหลายชั้นคลุมโบราณสถานอยู่ด้วย ไม่น่าเฉียดเข้าใกล้จริงๆ" จินตกชพึมพำแววตาเคร่งเครียด

"พูดเสียอย่างกับเจ้าเคยไปแถวนั้นมาแล้วเช่นนั้นแหละ" มังกรแดงไม่รู้รายละเอียดขนาดนั้นมันรู้แค่ว่าเป็นสถานที่อันตรายแบบมังกรไม่เข้าใกล้เท่านั้นเอง

"อา ไปมาครั้งหนึ่งน่ะ ไม่ได้ตั้งใจแค่ผ่านไปเจอเท่านั้นไม่ได้เข้าใกล้เกินไปด้วย" จินตกชรีบอธิบายเมื่อเห็นสีหน้าสี่คนหนึ่งตัวตื่นตกใจ คงคิดว่าเจ้าบีสท์นี่บ้าถึงขนาดบุกหนึ่งในโบราณสถานอันตรายนั้นเลยเหรอ "ถึงฉันบุกไปทั่วแต่ก็รู้น่าว่าได้แค่ไหน ไม่ทำอะไรเกินตัวหรอก" ทนอยู่มายี่สิบกว่าปียังไม่ได้ข่าวใดเลยเรื่องอะไรจะหาเรื่องตายง่ายๆ เล่า แต่ตอนนี้คงต้องเสี่ยงตายกันหน่อยแล้ว

"มันอันตรายมากเลยนะ โบราณสถานแห่งนั้นไร้คนเหยียบย่างเข้าไปสักหกสิบปีแล้ว กลุ่มล่าสุดหกสิบปีก่อนเข้าไปแล้วสาบสูญไปเลย" พินเดอร์ยังคงตามข่าวนักผจญภัยอยู่ต่อให้วางมือแล้วก็ตาม "นายคงไม่ไปเพราะแค่มังกรตัวนี้คาดเดาหรอกใช่ไหม?" สีหน้าลุงแกเป็นกังวลจริงๆ

จินตกชขยับไปตรงหน้ายูเกรน "ฉันจำเป็นต้องได้แพรร์สโตนมาฉะนั้นช่วยลดตัวลงมาร่วมปาร์ตี้บุกกิลเมดัชกับฉันหน่อยได้ไหม?" ยกสองมือกุมตรงหน้าแบบที่คนเขาใช้ขอร้องกัน แล้วยังช้อนสายตาอ้อนวอนซึ่งไม่รู้ว่าพลังทำร้ายสายตานั้นจะทำยูเกรนน็อกไปเลยหรือเปล่า

ยูเกรนอึ้งไปชั่วขณะไม่คิดว่าบีสท์คนนี้จะขอร้องใครง่ายๆ แบบนี้ เขาถอนใจเฮือก "นายจะเอาอะไรมาจ้างผมล่ะ บุกโบราณสถานอันตรายร้ายแรงระดับยูนิตราคาไม่ถูกนะครับ"

"นายอยากได้อะไรล่ะ ฉันเป็นเบ๊ไปล่าให้ได้ทุกอย่างเลยนา" นี่ก็ไม่เคยใส่ใจว่าระดับตนไปเป็นเบ๊นั่นมากไป แต่จินตกชไม่สนหรอก ขอแค่เกาะขาพระเอกได้ตอนนี้ยอมทั้งนั้น

"หมายความว่าหลังจากได้ข่าวที่คุณต้องการแล้วคุณจะยังร่วมปาร์ตี้กับผม" ยูเกรนถามเสียงหนักราวไม่ให้อีกฝ่ายปฏิเสธได้

ร่วมตี้กับพระเอกหรือ ถ้าได้แพรร์สโตนมาฉันก็ตั้งใจชิ่งจากเรื่องนี้แต่... ไหนๆ อยู่มายี่สิบกว่าปีแล้วต่ออีกพักก็ได้ อย่างไรเวลาทางนั้นก็ไม่เดินนี่นา

"ได้เลย" ยื่นมือให้พร้อมรอยยิ้มทำลายล้างสายตาเพิ่มระดับ ให้เจ้ามังกรกระอักลงไปพ่นเลือดที่พื้น

"เจ้า... ถ้าเป็นไปไห้อย่ายิ้มเลย ข้าจะตาย"

"แค่จะเองหรือนึกว่าตายเลยเสียอีกฉันจะได้ยึดทรัพย์ให้หมด" ว่าพลางหัวเราะที่เล่นทีจริงทำเจ้ามังกรเด้งตัวจากพื้นขึ้นมากอดกองสมบัติอย่างหวงแหนทันที

"ไม่ให้แล้ว ใครจะตายง่ายๆ แบบนั้นกัน" ส่งเสียงโห่ใส่แบบไม่ยอมให้บีสท์ขี้ริ้วมีส่วนแบ่งสมบัติของมันเด็ดขาด ซึ่งแบบนั้นทำจินตกชหัวเราะมากขึ้นไปอีก

มันเป็นสิ่งประหลาด พอบีสท์ขี้ริ้วหัวเราะออกมาจากใจจริงเขาจะมองดูราวเป็นอีกคน ที่ดูดีและมีความน่าสนใจจนละสายตาไปไม่ได้ นั่นเป็นสิ่งที่ลูอิซรู้สึกมาตลอดตั้งแต่ร่วมปาร์ตี้กัน แต่เธอไม่รู้ว่าความต่างนี้มาจากสิ่งใดในตัวบีสท์คนนี้ ยูเกรนผู้อ่านความรู้สึกได้รู้สึกคุ้นรอยยิ้มกับความรู้สึกแปลกราวเป็นอีกคนแบบนี้มาก่อน เขามั่นใจว่าเคยเจอบีสท์คนนี้ในสภาพคนอื่นมาก่อนแน่นอน

"ก่อนหน้านั้นต้องเอาใบภารกิจไปแจ้งว่าเรียบร้อยแล้วที่สาขาโทแพซ ไม่งั้นมันจะค้างคา เอ้า! ประทับตราว่างานเรียบร้อยแล้วด้วย" ส่งกระดาษคำร้องให้เจ้ามังกร และเหมือนรอเวลานี้มานาน เท้าใหญ่โตฟาดตูมลงมากะเอาคนถือแผ่นกระดาษแบนเป็นแผ่นด้วย ทว่าน่าเสียดายที่ตอนนี้จินตกชกระโดดขึ้นมาลอยตัวอยู่ตรงหน้ามังกรแดง

"ซบพื้นไป" สั้นๆ เปรี้ยงเดียวส่งลงไปนอนน้ำตานองที่พื้นเลย ก่อนจะจับขาใหญ่โตแปะลงบนแผ่นกระดาษ ตรงช่องรายเซ็นปรากฏชื่อเจ้ามังกรแดงในภาษามังกรซึ่งแต่ละคนอ่านไม่ออกนอกจากบีสท์ขี้ริ้ว

"ลังซีควาซ... ชื่อพิลึกชะมัด"

"เจ้านี่มันยังไงอ่านภาษามังกรออกด้วย!" ตาเจ้ามังกรแทบถลนออกจากเบ้า บนโลกหามนุษย์อ่านภาษามังกรออกแล้วยังออกเสียงได้แบบนับได้ด้วยนิ้วมือ เผ่าบีสท์คนนี้เหนือความคาดเดาเกินไปแล้ว

ความเข้าใจทางภาษาทุกภาษาในนิยายทุกเรื่องคือความสามารถจำเป็นอัตโนมัติที่ระบบให้มา มันจึงไม่แปลกเลยที่จินตกชรู้ทุกภาษาในนิยายเรื่องนั้นๆ ผู้เดินเล่นคนอื่นก็เช่นกัน

บีสท์ขี้ริ้วไหวไหล่แล้วตอบแบบไม่สนใจนัก "รู้พอเอาตัวรอดได้ละกัน เอาละกลับเข้าหมู่บ้านเถอะปล่อยเจ้านี่จัดบ้านไป" จินตกชชวนทุกคนกลับหมู่บ้านไปเตรียมของสำหรับเดินทางไปบุกโบราณสถานกิลเมดัชรวมทั้งกลับไปส่งใบคำร้อง

สมาคมนักผจญภัยสาขาย่อยโทแพซยังคงมีคนเดินเข้าออกมากหน้าหลายตาตลอดเวลา อีกฝั่งถนนตรงข้ามสมาคมมีร้านอาหารขนาดใหญ่พร้อมที่พักแรมให้ผู้เดินทางทั้งหลายเข้าพักได้ตลอดทั้งปี ยามนี้บนชั้นสองของร้านสาวน้อยผมทองคนหนึ่งเหมาโต๊ะตรงระเบียงหนึ่งตัวมาสี่วันแล้ว สายตาเจ้าหล่อนจับจ้องไปยังประตูหน้าสมาคมซึ่งยังคงไม่เห็นเงาคนที่ต้องการ

เสียงถอนหายใจจากโต๊ะใกล้ๆ ดังหลายครั้งแล้วตลอดสี่วันนี้รวมกันน่าจะเกินพันครั้งแล้วกระมัง

"เบื่อขนาดนั้นก็กลับเคฟทาวีคไปสิเราไม่ได้ล่ามพวกเจ้าไว้สักหน่อย" สายน้อยผมทองพูดโดยไม่หันมามองเจ้าของเสียงถอนหายใจเมื่อครู่

"เจ้าหญิงขอรับ มังกรในโลกมีมากมายทำไมต้องเจาะจงมังกรตัวนั้นด้วยเล่า ถ้าทำให้นักดาบคนนั้นไม่พอใจขึ้นมาจริงๆ อาจไม่แค่เจ้าหญิงนะขอรับที่จะหายไปจากโลกนี้ บางทีเคฟทาวีคอาจหายไปจากแผนที่ด้วย" หัวหน้าอัศวินแอบหลั่งน้ำตาเงียบๆ ในใจ

แน่นอนว่าการหาเรื่องพระเอกคงทำให้ได้รับผลดั่งที่ว่า ทว่าเป้าหมายของเธอไม่ใช่พระเอกนี่นา บิสท์คนนั้นต่างหากที่ติดใจอยู่ ที่จริงเธออยากแอบมาคนเดียวแต่ถ้ากลับเข้าวังไปให้เห็นหน้าก่อนกว่าจะแอบบออกมาได้อีกคงยาก แม้เธอเป็นนักรบเวทมนต์แต่ก็ไม่ได้ทรงฝีมือเท่าพี่สาวคนโตซึ่งอยู่ในระดับแพลทินั่มมาสเตอร์

'พี่จินต์คงอยู่ระดับยูนิตแม้เป็นเพียงนักดาบ แต่ทำไมพระเอกถึงเปลี่ยนจากจอมเวทแห่งยุคกลายเป็นนักดาบแห่งยุคแทนได้นะ?'

อิลิเลียคิดเรื่อยเปื่อยสายตาเหม่อไปไกล ห้าปีที่เธอมาอยู่นิยายเรื่องนี้ไม่เคยสนใจนักดาบคนไหนมาก่อนจึงไม่รู้เรื่องบีสท์ที่ชื่อซีวิลล์ ครั้นยามนี้สืบหาข่าวทั้งหมดแล้วตะลึงลูกตาแทบเด้งออกจากเบ้า ยิ่งเมื่อวานได้รับข้อมูลว่าก่อนมาใช้ดาบผลึกแดงเขาใช้มือเปล่าสร้างคมดาบแล้วยังลุยกับโกเลมในโบราณสถานอัลฮาซานจนได้ผลึกมานาที่ประเมินค่าไม่ได้มาด้วยนั่นทำให้อิลิเลียอยากชกหน้าตนเองสักร้อยครั้ง

"ทำไมฉันถึงลืมไปได้นะว่าพี่จินต์ใช้คมสุญญากาศ ซึ่งแบบนั้นหมายความเป็นนักดาบ ถ้าสนใจข่าวพวกนักดาบเก่งๆ แล้วโผล่ไปดูบ้างคงไม่พลาดแบบนี้" ซบหน้าลงครางหงุงหงิงที่โต๊ะท่าทางราวลูกหมาตัวน้อยถูกเจ้านายสั่งงดอาหารหนึ่งวัน

จินตกชเองก็นั่งเซ็งอยู่บนหลังคาอาคารสมาคมนักผจญภัยมาครู่ใหญ่แล้วเช่นกัน ครั้นเห็นอิลิเลียซบหน้ากับโต๊ะเจ้าตัวรีบใช้โอกาสนี้เผ่นลงพื้นแล้วพุ่งเข้าประตูสมาคารวดเร็วแบบคนธรรมดามองตามไม่ทันตามหลังมาด้วยพระเอกของเรื่อง การที่ทั้งสองคนอยู่ๆ ปรากฏตัวขึ้นทำเอาคนในอาคารหลุดเสียงตกใจ

"อะไรเล่ายังไม่ชินหน้าตาฉันอีกหรือไง" จินตกชเดินไปยืนหน้าพนักงานที่ส่งภารกิจนี้ให้เขา

"คนเขาตกใจเพราะพวกนายเข้ามาเหมือนผีต่างหากเว้ย" รับกระดาษมาตรวจทานพลางบ่นเสียงดังฟังชัด พนักงานคนอื่นๆ พยักหน้าแบบใช่เลยทำเจ้าบีสท์หัวเราะกบเกลื่อน

"ว่าแต่มีข่าวอะไรเจ๋งๆบ้างหรือเปล่าช่วงนี้" รับบัตรประจำตัวกลับมาหลังลงบันทึกผลงานล่าสุดเรียบร้อย

"เอาแบบกรองแล้วหรือเอาแค่ลือ" พูดพลางคลี่กระดาษงานหนึ่งบึกในมือเป็นรูปพัด เหมือนต้องการให้เจ้าบีสท์ขี้ริ้วเลือกสักงาน

"เอาทั้งสองข่าว อ้อ ช่วงนี้ไม่รับงานนะ จะไปทัวร์โบราณสถานสักที่น่ะ" พนักงานสมาคมทุกคนส่งสีหน้าอ่านได้ว่าอีกแล้วหรือ "และก็ตอนนี้มีปาร์ตี้ด้วย" ชี้หัวแม่มือไปด้านหลัง

"กลุ่มสามคนงั้นหรือ?" สีหน้าประหลาดใจยังไม่ทำให้หัวคิ้วจินตกชขมวดได้เท่าที่ได้ยินจำนวนคน เจ้าตัวหันขวับไปด้านหลังแล้วแทบกระโดด

สาวน้อยผมทองกำลังจ้องมาที่ตนจากหลังโต๊ะที่เข้าไปแอบ แสดงออกว่าไม่กล้าเข้ามาใกล้เนื่องด้วยโดนยูเกรนเขม็งใส่แต่ยังไม่วายชูมือข้างหนึ่งขึ้นจนสุด ประกาศให้รู้ว่าฉันอยู่ในปาร์ตี้นั้นด้วย

เผ่นเข้ามาไวขนาดนั้นยังมองทันอีกหรือ พัฒนาทักษะถึงขั้นไหนแล้วฟะ

ตามจริงแล้วอิลิเลียไม่เห็นทั้งสองหรอก แต่ที่แอบเข้ามาเพราะได้ยินเสียงโวยวายจากความตกใจของพวกพนักงานนั่นแหละ อยากรู้ว่ามีเรื่องอะไรถึงมาเจอพอดี

จินตกชกลอกตามองบนเสียครั้ง "ยายนั่นไม่เกี่ยวแค่ฉันกับยูเกรน"

"ยูเกรน!"

แตกฮือทั้งสมาคมเลยทั้งพนักงานและนักผจญภัยที่แอบด่อมๆ มองๆ อยู่ตลอดเวลา

"คนที่คว่ำไจร่าได้งั้นหรือ... หล่อเป็นบ้า"

"หล่ออย่างกับไม่ใช่มนุษย์"

"นักดาบ... ทำฉันอยากเปลี่ยนสายอาชีพเลยแฮะ"

ตรงนี้มีแต่คนมองยูเกรนอย่างชื่นชม ไม่มีใครดูถูกนักดาบสักคน เนื่องด้วยสาขานี้เห็นเผ่าบีสท์หน้าตาขี้ริ้วคนนั่นมาเป็นสิบปีย่อมรู้ดีว่าฝีมือดาบของจินตกชเทพขนาดไหน จึงไม่มีใครกล้าดูถูกนักดาบในภาคส่วนนี้อีกเลย

"แล้วใครเป็นหัวหน้าปาร์ตี้?"

"ฉันไง" จินตกชชี้ตนเอง พนักงานสมาคมมองเลยไปยังหนุ่มผมขาว เห็นเจ้าตัวพยักหน้า จึงบันทึกลงไป

พอเป็นปาร์ตี้แล้วล่าอะไรได้หรือรับภารกิจแล้วค่าจ้างจะต้องหารตามจำนวนคนในปาร์ตี้ คนเป็นหัวหน้าจะได้มากสุด

"ว่าแต่เมื่อกี้บอกว่ามีข่าวไม่ใช่หรือ ว่าไง?" จินตกชถามขณะไล่สายตาบนใบแจ้งภารกิจที่คลี่เป็นพัดอยู่ตรงหน้า ว่ามีงานไหนสามารถรับได้ระหว่างเดินทางไปโบราณสถานกิลเมดัช

"ข่าวแรกแค่ลือ ไจร่ารวบรวมคนตามล่านักดาบที่หักหน้าตนเพื่อเอาคืนให้สาสม" บุ้ยใบ้ไปยังนักดาบผมขาว "ข่าวกรองแล้ว กิลล์แสงสุริยากับก๊อดเดสของไจร่ารวมกำลังกันจะบุกโบราณสถานอัลฮาซาน"

"สองกิลล์ใหญ่จะบุกอัลฮาซาน... ฉันจะไว้อาลัยให้" แค่นึกถึงที่ไปวิ่งตับแสบมาจินตกชขอละไว้ในฐานที่เข้าใจว่าก่อนออกจากนิยายเรื่องนี่จะเอาแผ่นโลหะไปคืน แบบว่านั่นคือการยอมเดี้ยงนั่นแหละ

"ที่นั่นมียามเฝ้าเป็นโกเลมทั้งนั้นนี่นา ถ้าเป็นคนพวกนั้นก็น่าเคลียร์ได้นะ" ยูเกรนคือคนที่รู้จักพลังเวทของไจร่าดีที่สุด แค่คนเดียวคงไม่ไหวแต่ถ้าทั้งกิลล์คงไม่ยาก

จินตกชยกมือขึ้นมาโบกผ่านไปมาตรงหน้ารัวๆ "ไม่มีทาง ฉันยังวิ่งลืมตายมาแล้ว บอกได้เลยว่าที่นั่นล้ำยุคเกินกว่ารับมือได้" โกเลมยิงแสงเลเซอร์เลยนะเว้ย อาวุธล้ำๆ ขนาดนั้นมาอยู่ในยุคแบบนี้ได้ไงฉันยังงงใจคนเขียนอยู่เลย

"นั่นมันเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนไม่ใช่หรือที่นายไปบุกมา เวทสำหรับรับมือโกเลมพวกนั้นมีเพิ่มขึ้นมาอีกหลายบทแล้ว นายไม่กลับไปลองบุกอีกครั้งหรือไง"

จินตกชส่ายหน้ารัวเร็ว "เอาไว้ฉันอยากตายเมื่อไหร่แล้วจะไปละกัน"

"ขนาดนั้นเลยเหรอ" ถึงขนาดเจ้าบีสท์นักบุกโบราณสถานพูดแบบนี้น่ากลัวว่าอัลฮาซานคงอันตรายกว่าอีกสามแห่งในตำนานเสียกระมัง "แล้วนี่จะไปภารกิจไหนต่อล่ะ" เห็นเลือกแล้วเลือกอีกก็ยังไม่ตัดสินใจเสียที

"อันไหนอยู่ในทางผ่านไปเมืองโลเลซบ้างล่ะ" อ่านรายละเอียดแล้วห่างจากทางไปโบราณสถานกิลเมดัชทั้งนั้น

"ไม่มีหรอก นายก็รู้แถวนั้นนักเวทแข็งแกร่งเยอะ รับทำงานเองหมดแล้ว อยากไปเดินเล่นที่ทะเลทรายบ้างหรือไง"

"อือ เปลี่ยนบรรยากาศสักหน่อยน่ะ" ไม่กล้าบอกว่าจะไปบุกกิลเมดัช เดี๋ยวแตกตื่นอีก

"งั้นไปเที่ยวเล่นเฉยๆ บ้างก็ดีนา แบบว่าเฉียดไปดูโบราณสถานชื่อดังสักนิดอะไรแบบนั้น" กลายเป็นว่าพนักงานสมาคมแนะนำให้ไปดูโบราณสถานนั้นเสียนี่

จินตกชพยักหน้าแล้วออกจากสมาคมพร้อมยูเกรนและมีอิลิเลียแอบซุ่มตามแบบมองอย่างไรก็เห็น ก็แม่คุณพุ่งไปหลบตามสิ่งของข้างทางไม่ว่ากองฟาง รถม้า หัวมุม พุ่มไม้ซ้ำมีใต้กระโปรงชาวบ้านอีกต่างหาก

แม่คุณเอ๊ย เสื่อมหมดแล้ว

ยูเกรนปรายตามองอิลิเลียสองสามครั้ง "ให้ตามมาแบบนั้นหรือตัดทิ้ง"

คำถามแสนง่ายทว่าความหมายหนาวสันหลังยิ่ง "อย่าพูดจาโหดเหี้ยมแบบนั้นด้วยหน้าเรียบเฉยได้ไหม มันเพิ่มความน่ากลัวขึ้นมาอีกร้อยเท่าเลยนะ" จินตกชสยองแทนแม่คุณที่กำลังลอบตามมาด้วยคะแนนติดลบ "ปล่อยไปเถอะ อยากตามก็ให้ตามมาเดี๋ยวก็รู้ว่าจะเจออะไรรออยู่"

หลังจากพายูเกรนไปกินมื้อกลางวันที่ร้านเจ้าประจำเรียบร้อยแล้วก็ไปต่อที่บริการเดินทางด้วยทางเวทเพื่อย่นระยะทาง แค่บอกจุดหมายก็ทำพนักงานทางเวทหน้าเหวอ

"เอาจริงเหรอนี่ไปแค่ดูหรือลงเรด?"

จินตกชยักไหล่ "นั่นสิยังไงดีนะ" ตบด้วยรอยยิ้มน่าสยองให้พนักงานทางเวทหุบปากอย่างไว

แสงสว่างทางเวทดับลงพร้อมเงาร่างผู้เดินทางทั้งสองจางหายไป อิลิเลียถึงออกมาจากที่แอบตามแล้วจ่ายหนักง้างปากพนักงานพร้อมให้ส่งเธอตามทั้งสองไปโดยไม่ให้บอกพวกอัศวินที่กำลังตามหาเธอว่าส่งเธอไปที่ไหน