webnovel

Chapter 3.2

[ควินซ์]

ผมว่าวันนี้นับหนึ่งทำตัวแปลกมาก

แปลกไปจากทุกวัน

ตอนแรกก็ยังพอไม่สนใจได้บ้าง

แต่ว่า...

"ควินซ์ ดูหนังกัน"

ฮะ ใครชวนใครดูหนังนะ

ยอมรับเลยว่าตกใจมากถึงมากที่สุดแต่สีหน้าของผมกลับเรียบเฉยไม่ได้แสดงอาการตกใจออกไป ผมบอกปฏิเสธไปและไล่ให้มันไปอาบน้ำแล้วก็นอน

"แต่กูยังไม่ง่วง" นับหนึ่งไม่ยอมง่ายๆ และพูดอย่างเอาแต่ใจ"ไปดูหนังกับกู"

แต่กูง่วงครับเพื่อน

ในเมื่อมันอยากดูหนังนัก ผมก็เสนอหนังผีที่มันไม่กล้าดู ผมคิดว่ามันต้องรีบกลับห้องไปพักผ่อนและไม่ดูหนังแน่ๆ แต่นับหนึ่งกลับบอกจะดู ซึ่งผิดคาดไปมาก

และถ้าเพื่อนอยากดู ผมก็ไม่ขัด อืม อยากเห็นคนกรี๊ดแตกอยู่เหมือนกัน ผมน่าจะนอนหลับฝันดีแน่ๆ

หลังจากตกลงกันเรียบร้อยแล้วก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำห้องใครห้องมัน ผมใช้เวลาอาบน้ำไม่นานนักก็เสร็จแล้ว ออกมาแต่งตัวใส่เสื้อผ้าแล้วก็เดินไปห้องครัวเพื่อหาขนมมากินระหว่างดูหนัง

ผมเปิดตู้หาป๊อปคอร์น ป๊อบ ซีเคร็ตที่เคยซื้อมาแล้วเอาไปใส่ไมโครเวฟ จากนั้นก็เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบไส้กรอกกับนักเก็ตไก่ออกมาทอด

คนกินก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ผมเองนี่แหละ ผมเป็นพวกดูหนังและกินขนมไปด้วย...

ติ้ง...

เอาของออกจากตู้เย็นเสร็จก็เป็นเวลาเดียวกันที่ป๊อปคอร์นเวฟเสร็จพอดี ผมละมือจากพวกไส้กรอกแล้วไปเดินดูป๊อปคอร์น เห็นว่ามันพองตัวแตกตัวดีแล้วก็เอาไปเทใส่ชาร์ม

แล้วก็เดินกลับมาเปิดกระทะ...

กำลังยืนทอดไส้กรอกเพลินก็มีคนเดินเข้ามาในห้องครัว นับหนึ่งคงเดินหาผมล่ะมั้ง หรือไม่ก็มาหาน้ำกิน ผมตั้งหน้าตั้งตาทอดของกินไปโดยไม่ทันได้รู้สึกตัวว่ามีคนเดินมาซ้อนหลัง

"ทำอะไรกินน่ะ" เสียงทุ้มต่ำแหบแห้งนิดๆ เอ่ยถามใกล้ๆ กับใบหูของผม ลมหายใจกระทบผิวเนื้อผมจนทำให้ขนลุกซู่

ผมสะดุ้งสุดตัวแล้วก็เริ่มรู้สึกว่าท่าทางของพวกเราในตอนนี้มันพิกลน่าดู นับหนึ่งกับยืนซ้อนหลังผมในระยะที่แผงอกเขาชนกับแผ่นหลังของผมและเอามือจับเอวผมแล้วชะโงกหน้าข้ามไหล่มาดูของในกระทะ

นี่มันอะไร

"อะไรควินซ์" นับหนึ่งทำหน้างงๆ

ผมหยุดสนใจของในกระทะแล้วหันมาดูเพื่อนตัวเองที่...

"แล้วเสื้อมึงไปไหน"

ร้อยวันพันปีไม่เคยจะเดินเปลือยให้ผมเห็น

แต่วันนี้มันเดินโชว์เปลือยท่อนบนให้ผมสองรอบแล้วนะ

คิดจะทำอะไร

หรือแค่อยากอวดซิกซ์แพ็ก์

ถุย ตอนนี้ไม่ลงพุงก็บุญแล้วเถอะ

หุ่นก็งั้นๆ ยังจะมาโชว์อีก

-----

"อยู่ในตู้" นับหนึ่งตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ "มันร้อน เดี๋ยวค่อยใส่ก็ได้"

"เออ แล้วแต่มึงเลย" ห้องมัน ตัวมัน อยากจะใส่ตอนไหนก็แล้วแต่มัน แต่ทว่า... "แล้วมือมึงเนี่ย อะไร"

ไล่สายตาลงมาที่เอวของตัวเอง ในเวลานี้มีมือคู่ใหญ่จับไว้หลวมๆ นับหนึ่งมองตามสายตาผมแล้วหลุบตามองมือตัวเองอย่างแปลกใจแล้วค่อยๆ ดึงออกอย่างไม่รีบร้อน

"เผลอไปหน่อย"

ผมขมวดคิ้ว "ถอยไปห่างๆ"

มายืนชิดอะไรขนาดนี้ จะสิงร่างกันรึไง

นับหนึ่งขยับถอยไปอย่างว่าง่าย เปลี่ยนมายืนกอดอกพิงสะโพกกับขอบโต๊ะมองดูของทอดในกระทะ "อะไรกัน ยังไม่อิ่มอีกเหรอ"

"อิ่มแต่ก็อยากกินขนมเวลาดูหนัง" ผมตอบพลางใช้ตะหลิวผัดพลิกทอดไส้กรอกกลับด้าน "ไปเตรียมน้ำสิ"

"แค่จะดูหนังต้องเตรียมอะไรขนาดนี้เลยเหรอ"

"ดูหนังแบบไม่มีอะไรกินเลย มันก็หยาบกระด้างเกินไปมั้ง" ควินซ์หันมาสั่ง "ไปหยิบจานมาให้ด้วย" เมื่อกี้ดูเหมือนผมจะลืมหยิบมา

"สรุปจะให้ทำอะไรกันแน่" นับหนึ่งขมวดคิ้ว "จะให้ไปเตรียมน้ำหรือหยิบจาน"

"หยิบจานมันยากจนต้องใช้เวลาเป็นสิบนาทีเลยรึไง" มันถามอะไรโง่ๆ อีกเนี่ย "ไปหยิบจานมาก่อนแล้วก็ไปเตรียมน้ำ"

ต้องให้บอกทุกขั้นตอนเลยมั้ย เดินไปสามก้าว เปิดลิ้นชักที่สามนับจากทางซ้ายแล้วหยิบจานใบสีเขียวมิ้นท์ออกมาหนึ่งใบ ต้องให้ผมพูดแบบนี้มั้ย เฮอะๆ

"มึงก็รู้ว่ากูไม่รู้ว่าของมันอยู่ตรงไหน" นับหนึ่งบ่นอุบอิบแล้วเดินไล่เปิดลิ้นชักเปิดตู้แทบทุกอันที่มีในห้องครัวเพื่อหาจานให้ผม

ก็จริง ข้าวของในคอนโดนี้ส่วนใหญ่ ผมก็เป็นคนจัดให้มัน ออกแบบห้องและบิวท์อินก็เป็นผมอีกนั่นแหละที่จัดการ ตอนนับหนึ่งซื้อห้องที่นี่ก็สุ่มๆ เลือก ให้ผมจัดการต่อเอาเอง

ตอนย้ายมาอยู่คอนโดนี้ ผมก็เป็นคนจัดการดูแลย้ายของจัดของให้อีก ไม่แปลกที่ไอ้เพื่อนตัวดีเจ้าของห้องจะไม่ค่อยรู้ว่าของอะไรอยู่ตรงไหน ยิ่งห้องครัวนี่ยิ่งไม่เคยเข้า

คุณชายของแท้เลยจริงๆ

"ลิ้นชักทางซ้ายของมือมึง" สุดท้ายก็ทนไม่ไหวบอกออกไปหลังจากที่มันหาจานไม่เจอสักที

นับหนึ่งเปิดตามที่ผมบอกแล้วหยิบจานออกมาหนึ่งใบส่งให้ผม "เอ้า จาน"

เมื่อส่งจานให้ผมเสร็จแล้ว คุณเพื่อนเจ้าของห้องก็เดินไปเปิดตู้เย็นนหาเครื่องดื่ม

"ควินซ์ น้ำแข็งไม่มี"

"เอาแค่น้ำอัดลมก็ได้" ผมจำได้ว่าตัวเองซื้อพวกน้ำอัดลมกระป๋องมานะ และมันน่าจะยังเหลืออยู่

นับหนึ่งรับคำแล้วหยิบโค้กออกมาสองกระป๋อง ผมปิดเตาแก๊สแล้วตักไส้กรอดทอดใส่จาน ตอนแรกว่าจะทอดนักเก็ตไก่แต่คิดว่าแค่ไส้กรอกก็น่าจะพอ

เดินไปหยิบถ้วยเล็กมาใส่ซอสแล้ววางไว้บนจานไส้กรอกก่อนจะหันมาเก็บของใส่ตู้เย็นดังเดิม

"เสร็จแล้วใช่มั้ย" นับหนึ่งมองจานใส้กรอกกับชามป๊อปคอร์นเล็กน้อย

"ดูมึงอยากดูหนังเหลือเกินนะ" ผมว่าแล้วก้าวเดินไปห้องดูหนัง

"เปล่า" มันตอบแต่สายตาดูหลุกหลิกชอบกล "แค่ยังไม่ง่วงเลยต้องหาหนังดูเผื่อจะง่วง"

ผมเลิกคิ้ว "คิดว่าหนังผีมันจะทำให้มึงง่วงมั้ย"

"..." นับหนึ่งเม้มปากไม่ตอบ "ก็อาจจะง่วงก็ได้"

ระหว่างมันหลับระหว่างดูหนังผีกับกรี๊ดแตกตอนดูหนังผี แน่นอนว่าต้องเป็นอย่างหลังแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมส่ายหัวแล้วเอาจานไส้กรอกกับป๊อปคอร์นวางบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟาตัวยาวที่สามารถปรับให้เป็นเตียงได้ และมันก็นั่งๆ นอนๆ ได้ถึงสามสี่คน

"แน่ใจนะว่าจะดูหนังผี" ผมหันไปถามย้ำกับคนกลัวผีอีกรอบในตอนที่กำลังจะเดินมาเปิดโปรเจกเตอร์และเปิดโน้ตบุ๊คเพื่อเชื่อมต่อระบบและเปิดหนัง

นับหนึ่งนอนพิงโซฟาเหยียดขายาว "เออ เปิดมาเลย กูไม่กลัวหรอก"

"เหอะๆ ให้มันจริง" ผมกลั้วหัวเราะแล้วพรมนิ้วลงบนแป้นพิมพ์กรอกชื่อหนังผีสุดสยองขวัญของไทยอย่างชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ อืม เรื่องนี้ผมเองก็ยังไม่ได้ดู เป็นหนังที่นานมากแล้วแต่ค่อนข้างโด่งดังในเรื่องความสยองขวัญเลย

หลังจากเปิดเชื่อมต่อหนังขึ้นโปรเจกเตอร์ได้แล้วผมก็เดินไปปิดไฟและใช้แค่ไฟหรี่เท่านั้น

"ปิดไฟทำไม!" นับหนึ่งสะดุ้งโหยงว่าหน้าตาตื่น

"ดูหนังใครเขาเปิดไฟ" ผมหยิบรีโมทสำหรับเล่นหนังมาถือแล้วเดินมาใกล้นับหนึ่งเพื่อนั่งโซฟาบ้าง "อะไรกัน ยังไม่ทันได้เริ่มก็ตกใจแล้วเหรอวะ"

"ไม่ใช่สักหน่อย"

"หวังว่าคงไม่ตกใจแล้วกอดกูนะ" ผมว่าขำๆ แล้วก็ยื่นมือไปตบแก้มเพื่อนสนิทอย่างหยอกๆ "หรือกูให้กอดดีนะ แต่คิดค่ากอดแล้วกัน กอดครั้งละพันดีมั้ย"

จำได้ว่าตอนสมัยมัธยม พวกเราดูหนังกันเป็นกลุ่มใหญ่ ไอ้หนึ่งนี่กอดผมกลมดิ๊กไม่ปล่อยตลอดทั้งเรื่องเลย มันไม่อยากให้เพื่อนคนอื่นรู้ว่ากลัวผีขึ้นสมองก็เลยกอดผมไว้ซุกหน้าอยู่กับหลังผม

"กอดครั้งละพัน?" นับหนึ่งทวนคำพูดผม

"ล้อเล่นหน่า" ผมโบกมือยิ้มน้อยๆ แล้วเดินผ่านมันเพื่อไปนั่งแต่วืดครับ ผมเหวอเมื่อข้อมือถูกฉุดกระตุกอย่างแรงจนเซไปด้านหลังและล้มลงไปนั่งทับตัวนับหนึ่ง

พอจะลุกขึ้นก็ถูกกอดเอวแน่นจนผมย่นคิ้ว

"กอดกูทำไมเนี่ย" ผมทำหน้าไม่เข้าใจ

นับหนึ่งว่าหน้านิ่ง "ก็มึงบอกกอดได้"

มึงก็เลยกอดเนี่ยนะ กวนตีนแล้ว ไอ้ห่า

"อ่ะ งั้นถือว่ามึงกอดกูหนึ่งครั้งแล้ว จ่ายมาเลยพันหนึ่ง" เออ งั้นผมคงไม่ผิดที่เก็บตังค์มันนะ กวนตีนมาก็กวนตีนกลับแล้วกัน เหอะๆ

"กูเหมาจ่ายแล้วกัน" มันว่าหน้าตายสนิทแล้วจับผมให้นั่งนิ่งๆ และวางคางบนไหล่ของผม

หา

"กอดทั้งเรื่อง ห้าแสน"

"...!"

"โอเคนะ"

อะไรของมึงเนี่ย ไอ้ป๋า!