webnovel

ตอนที่ 16 แสงสว่างรำไร

พอถึงวันจันทร์ที่ได้นัดหมายกันไว้กับสารวัตรพล สารวัตรก็พาตำรวจพม่าขึ้นมาบนดอยมอมแมม 2 นาย โดยคนหนึ่งดูแล้วอายุเข้าวัยเกษียณและอีกคนดูยังหนุ่มน้อยเหมือนพึ่งจบจากโรงเรียนนายร้อยใหม่ๆ ซึ่งทั้ง 2 คนพูดภาษาไทย ภาษาพม่าและภาษาปกาเกอญอได้ ทำให้ทำงานได้ง่ายขึ้นในพื้นที่ดอยมอมแมม

"สวัสดีครับ คุณหมอคนสวยของผม" สารวัตรกล่าวทักทายหมอนิลลี่

"สวัสดีค่ะ สารวัตร"

"เห้ยไอ้พล แกมาแล้วหรือ"

"สวัสดีครับนาย" รวยกล่าวทักทายเช่นกัน

"นี่ตำรวจพม่าที่ผมบอกไว้ครับ นี่อาชิน กับ โบ"

"สวัสดีครับ" ทั้ง 2 คนกล่าวพร้อมกัน และพูดเป็นภาษาไทยได้อย่างชัดเจนเลย อาชินคือคนที่มีอายุมากกว่า ส่วนโบนั้นคือหนุ่มน้อย

"ตามที่ได้เคยบอกกับคุณหมอไว้ ว่าคงมาเป็นสายสืบ โดยให้มีอาการป่วยและนอนโรงพยาบาล ส่วนผมก็คงอยู่ที่นี่ประสานงานกันจนกว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการทำอะไรได้ต่อไป คุณหมอว่าอย่างไรบ้างครับ" สารวัตรพลเริ่มเกริ่นการทำงาน

"ดีที่ส่งคนมาวัยต่างกัน เอาอย่างงี้นะคะ คุณอาชินเป็นคนป่วย คนป่วยที่ต้องรักษาตัวนานๆ อยู่โรงพยาบาลเอาโรคง่ายๆ เป็นเบาหวานที่มีแผลติดเชื้อที่ขาและแผลกดทับ ต้องรักษาแผลและคุมน้ำตาลดีไหมค่ะ อันนี้ส่วนใหญ่นอนนานเป็นเดือนๆ อยู่แล้ว ส่วนแผลก็ใช้เทคนิคการแต่งแผลแบบการถ่ายหนัง"

"ก็ดีเหมือนกันครับ"

"แล้วโรคเบาหวานมันมีภาวะแทรกซ้อนได้หลายอย่างด้วยสามารถเล่นต่อดึงเวลาให้นอนนานเท่าไหร่ก็ได้ แล้วให้โบเป็นลูกชายไปๆ มาๆ ระหว่างพม่ากับไทย เพราะต้องกลับไปบ้านเป็นพักๆ สารวัตรก็เป็นญาติที่ผลัดกันมาเยี่ยม จะได้ไม่มีใครสงสัย โบกับสารวัตรจะได้เดินเข้าออกได้ ไปสืบดูอะไรได้ด้วย พร้อมอยู่ที่นี่นั่งดูข้อมูลจากระบบคอมพิวเตอร์ และหุ่นยนต์เก็บหลักฐานได้ด้วย"

"โห คุณหมอนี่สุดยอดเลยครับ" สารวัตรกล่าวชม

"จะเริ่มงานกันเลยหรือว่าจะพักกันก่อนดีคะ สารวัตร"

"เริ่มงานกันเลยก็ได้ครับ ผมก็ใจร้อนอยากจับคนร้ายให้ได้เร็วๆ เหมือนกัน"

"งั้น ตามหมอมานะคะ จะพาไปที่ห้องพักที่จะจัดฉากให้เป็นห้องคนไข้ค่ะ"

พูดจบหมอนิลลี่กับมูมู่ก็เดินนำไปที่ห้องสังเกตอาการคนไข้ แล้วชี้ไปที่เตียงที่จะจัดฉากเป็นเตียงคนไข้

"ส่วนสารวัตรจะนอนที่ห้องพักแขกก็ได้นะคะ เวลาอยู่ในนี้ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมีคนไข้อยู่แล้วตั้งแต่หมอโดนขับออกจากหมู่บ้าน มีชาวบ้านมารักษาเฉพาะคนไข้หนักที่ยังเชื่อมั่นในการรักษาของหมอแผนปัจจุบัน"

"ก็ดีเหมือนกันครับ งั้นเริ่มงานกันเลย อาชินไปเปลี่ยนชุดคนไข้เลยก็ได้ครับ"

"มูมู่ช่วยแต่งแผลที่เท้าซ้ายให้อาชิน กับแผลกดทับที่ก้นแล้วเอาชุดคนไข้มาเปลี่ยนให้ด้วยนะ"

มูมู่ก็เข้าไปเปลี่ยนชุดคนไข้ แต่งแผลตามคำสั่งให้กับอาชิน เมื่อเสร็จแล้วก็ให้ทุกคนได้ดูกัน

"โห เหมือนแผลจริงๆ เลยครับ งั้นตามนี้เลยครับ" สารวัตรพูด

"แล้วทางนี้เป็นอย่างไรบ้างครับมีอะไรคืบหน้าบ้างไหม" หันมาถามทางรวยและณัฐ

"ทางนี้ไม่มีอะไรเพิ่มเติมเลย ข้ากับไอ้รวยก็ยังไม่ค่อยได้ไปที่เพิงเท่าไหร่ เอ็งมาเดี๋ยวก็ช่วยกันทำงานกัน"

"ดีดี จะได้รู้สักทีว่าคนร้ายเป็นกลุ่มไหน เย็นนี้เดี๋ยวหุ่นยนต์เก็บหลักฐานกลับมาเรามานั่งดูข้อมูลร่วมกันกับ อาชินและโบดู"

"ได้ค่ะ"

"งั้น เอางี้ข้ากับไอ้รวยจะเข้าไปที่เพิงพี่ก๊อกแก๊กหาข้อมูลเพิ่ม ส่วนเอ็งก็พักสักหน่อยดูท่าทางเหมือนคนอดหลับอดนอนมา"

"จริงตั้งแต่ลงไปเอาข้อมูลให้นายดู ก็เข้ากรุงเทพต่อแล้วก็ประชุมกับประชุมการทำงาน เพราะเท่าที่คุยมาแนวโน้มว่าจะเป็นแก๊งต่างชาติที่เป็นขบวนการใหญ่ มีอิทธิพลมากด้วย น่าจะคนใหญ่โตของหลายประเทศ งานโหดทีเดียว"

"ไม่คิดว่าจะเป็นงานระดับประเทศไปได้เลย งานนี้โหดน่าดูเลย" ณัฐตอบกลับ

"แล้วพอได้ข้อมูลว่าเป็นใครอย่างไร ต้องกลับไปวางแผนต่อที่กรุงเทพ เพื่อให้รัดกุมพอที่จะรวบได้ถึงหัวหน้าใหญ่เลย" สารวัตรบอกกับทุกคน

"งานนี้งานช้างครับ ผมกับอาชิน ก็ต้องกลับไปรายงานนายที่พม่าด้วย เพื่อร่วมกันวางแผนกันต่อไป" โบบอก

"อ้าว ไปพักกันก่อน ทางนี้เดี๋ยวผมกับรวยจะไปดูเพิ่มเติมให้" ณัฐกล่าว

แล้วทุกคนก็กระจายบ้างไปพักบ้างไปหาข้อมูล ส่วนหมอนิลลี่ก็กับมูมู่ก็ไปนั่งเฝ้าที่เคาน์เตอร์เผื่อมีคนไข้เข้ามารักษา

พอตกเย็น ตุ๊ดตู่กลับมาจากโรงเรียนก็เข้ามาสมทบด้วย เมื่อเข้ามาถึงเห็นอาชินนอนอยู่ที่เตียงคนไข้ ก็เข้าใจว่าเป็นคนไข้จริง ก็เลยถามหมอนิลลี่

"วันนี้มีคนไข้ ขาเป็นแผลเน่ามานอนที่บ้านริมน้ำหรือครับ พี่หมอ มีอะไรให้ผมช่วยไหม แล้วเขาเป็นโรคอะไรครับ"

"นี่ขนาดเราวิ่งเข้าวิ่งออกที่บ้านริมน้ำนี่เป็นประจำเห็นแผลมาก็เยอะ ยังแยกไม่ออกหรือว่าเป็นแผลปลอม มูมู่นี่เก่งจริงๆเลย"

"แผลปลอม" ตุ๊ตตู่ทำหน้างง ว่าเกิดอะไรขึ้น

"ใช่แผลปลอม ตำรวจสายสืบจากพม่าไง เขาปลอมเป็นคนไข้แผลเบาหวานที่ขาและแผลกดทับที่ก้น แผลนี่ฝีมือมูมู่เป็นคนทำให้ สวยไหม"

"โห ฝีมือมูมู่หรือครับ เหมือนมากๆ"

"ใช่จ้า อืมเดี๋ยวแนะนำตัวให้รู้จักกันก่อน นี่อาชิน คนที่นอนบนเตียง และโบคนที่เป็นญาติเฝ้าไข้"

"สวัสดีครับคุณลุงอาชินกับพี่โบ"

"ส่วนนี่ตุ๊ดตู่เป็นเด็กลูกมือของที่นี่ค่ะ แกสอดรู้สอดเห็นทุกเรื่อง"

"หวัดดีไอ้หนูท่าทางใช่ย่อยนะเรา" อาชินพูด

"จริงท่าทางน่าจะซนใช่ย่อย" โบบอกเช่นกัน

"งั้นวันนี้ไม่มีคนไข้ แต่มีประชุมทำอะไรกันสนุกๆ อีกแล้วแน่ๆ เลย ผมอยู่ด้วยนะครับ" ตุ๊ดตู่รีบขอก่อนที่จะโดนไล่กลับบ้าน

"พี่หมอบอกไม่ได้ ต้องไปขอพี่สารวัตรดู ว่าพี่เขายอมไหม เพราะวันนี้เป็นเรื่องซับซ้อนมาก"

แล้วก็วิ่งนำหน้าทุกคนไปที่ห้องประชุม เมื่อมาถึงก็รีบแจ้นเข้าไปพูดว่า

"หวัดดีครับ ศิษย์น้องทั้ง 2 วันนี้ผมขออยู่วางแผนด้วยได้ไหมครับ"

"ศิษย์พี่วันนี้มันเป็นเรื่องสำคัญ แต่ถึงห้ามศิษย์พี่ก็ไม่เคยฟังตามเคย ก็ตามนั้นนั่งเฉยๆ อยู่กับมูมู่แล้วกัน" เสียงสารวัตรอนุญาต

"ครับผม"

แล้วหมอนิลลี่ มูมู่ อาชินกับโบก็เดินมาถึงห้องประชุมพอดี

"พร้อมกันทุกคนแล้วนะครับ งั้นเริ่มกันเลย ว่าแต่หุ่นยนต์เก็บหลักฐานกลับมาหรือยังนะครับ คุณหมอ" สารวัตรถามหมอนิลลี่

"กลับมาแล้วค่ะ เดี๋ยวขออนุญาตเอาข้อมูลเข้าที่คอมพิวเตอร์ก่อน แล้วเดี๋ยวมาดูกันค่ะ"

พูดเสร็จหมอนิลลี่กับมูมู่ก็เข้าไปทำการรวบรวมข้อมูลเข้าคอมพิวเตอร์ แล้วสักพักก็เปิดข้อมูลฉายที่จอโปรเจคเตอร์

"เอาข้อมูลใบหน้าของคนในแก๊ง ให้อาชินกับโบดูก่อนแล้วกัน เผื่อมีใครที่เป็นที่หมายหัวอยู่ก่อนแล้ว"

"เอาคนสำคัญก่อนไหมค่ะ เอกกับมิ่ง ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของคนที่ทำงานในไร่ฝิ่น"

"ว่าไง สองคนนี้พอรู้จักไหม" สารวัตรถามมาที่ตำรวจพม่าทั้งสอง

"คุ้นๆ แค่คนเดียว คือคนที่ใช้ชื่อว่าเอก พวกพม่าเรียกว่า ตีฮะ เหมือนว่าจะเคยโดนจับคดีค้ายาอยู่ก่อนแล้ว" อาชินบอก

"ผมก็คุ้นคนนี้ครับ ขอดูหน้าทั้งแก๊งได้เลยก็ได้ครับ" โบบอก

"คุณหมอช่วยเอาข้อมูลคนทั้งแก๊งที่รวบรวมได้แสดงออกมาหน่อยครับ" พลบอก

เมื่อนั่งดูรูปกันสักพัก

"คุ้นแค่คนเดียวจริงๆ คนอื่นเดี๋ยวคืนนี้พวกผม สองคนของเข้าระบบของทางการพม่า นั่งทำแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้น่าจะได้ข้อมูลมากกว่านี้ครับ หน้าตาไปทางชนกลุ่มน้อยพม่า ซึ่งเราเองก็มีข้อมูลอยู่ไม่น้อย"

"ได้ค่ะ เดี๋ยวคุณทั้งสองใช้เครื่องคอมพิวเตอร์อีกเครื่อง หมอได้เตรียมสำรองไว้ให้แล้วค่ะ เครื่องนี้หมอต้องใช้ในการทำงานหลายอย่าง ต้องขอโทษด้วยนะคะ"

"ได้ครับ ไม่เป็นไรใช้เครื่องไหนก็ได้ครับ แค่ขอรูปของคนร้ายกับเน็ตก็พอแล้ว"

"แล้วทางรวยกับณัฐหล่ะ มีข้อมูลอะไรไหม"

"เหมือนตั้งแต่ไอ้มิ่งไม่สบายแล้วกลับไปที่ไร่ฝิ่น ก็ดูเงียบๆ เหมือนจะระวังตัวมากขึ้นเพราะเรารู้รังของมันมากขึ้น แล้วก็นายที่ว่าก็เหมือนจะกลับไปแล้วยังไม่มาอีกเลย คงต้องสังเกตการณ์กันต่อไป"

"แนวโน้มเหมือนจะระวังตัวกันมากขึ้น เราเองก็จะหาข้อมูลยากขึ้นเกี่ยวกับนายใหญ่ของพวกมัน แต่ไปเป็นไรเผื่อข้อมูลทางนี้ได้อะไรมากขึ้นอาจจะมีเบาะแสว่าเป็นแก๊งไหนของพม่า" สารวัตรกล่าว

"ต้องขอเวลาพวกเราดูข้อมูลคืนนี้ก่อนครับ ถึงจะบอกอะไรได้มากขึ้น"

"เอา พวกเราไม่กวนทั้ง 2 คน ทำงานกันตามสบายนะ แล้วทางพวกเราจะเอาไงต่อแยกย้ายดีไหมจะได้ไปพักกันด้วย ก่อนที่จะมีเรื่องยุ่งๆ"

"ดีเหมือนกันค่ะ"

"อ้าววันนี้แยกย้ายแล้วหรือครับ ยังไม่หัวค่ำเลย" เสียงตุ๊ดตู่ บ่นยังอยากจะเล่นต่อที่บ้านริมน้ำ

"เอางี้ถ้ายังไม่อยากกลับ มาเรียนเรื่องโรคเบาหวานกับภาวะแทรกซ้อนกับพี่ไหม"

"ดีครับ ศิษย์น้องทั้งสองมาเรียนด้วยกันไหม"

"เอาไงดีว่ะ ไอ้พล" สารวัตรหันมาถามเพื่อน

"ข้าเรียนด้วยก็ได้ ยังไงข้าก็ต้องเป็นพ่อหลวงในอนาคต รู้เรื่องพวกนี้ไว้ก็ไม่เสียหาย เอาไว้ดูแลลูกบ้านเบื้องต้นได้"

"อืม งั้นข้าไปเรียนด้วย ไอ้รวยไปเรียนด้วยกัน"

แล้วคุณครูหมอนิลลี่กับลูกศิษย์ทั้งสี่พร้อมมูมู่ก็เดินออกไปที่ห้องทำงานของหมอนิลลี่เพื่อทำการสอนเหล่าลูกศิษย์

"เริ่มหล่ะนะ คิดว่าทุกคนรู้จักโรคเบาหวานกันบ้างแล้ว คำถามแรกโรคเบาหวานคืออะไร ตุ๊ดตู่ตอบได้ไหม"

"เบาหวานหรือครับ คือคนที่มีน้ำตาลในเลือดสูงครับ"

"แล้วเวลารักษาหมอเขาจะตรวจเลือดติดตามยังไงบ้าง คุณณัฐตอบค่ะ"

"ตรวจน้ำตาลครับ"

"ใช่ โรคเบาหวานเป็นโรคที่คนไข้มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 126 จำค่านี้ไว้นะ แล้วเวลารักษาก็จะให้ยาไปลดระดับน้ำตาล ส่วนใหญ่ถ้าหมอก็อยากจะให้ต่ำกว่า 100 หรือบางคนอยากให้ต่ำกว่า 126 ค่ะ โดยจะตรวจเลือดดูระดับน้ำตาลในเลือดเป็นระยะ ร่วมกับดูค่าฮีโมโกลบินเอวันซี คือค่าระดับน้ำตาลที่ไปจับกับเม็ดเลือดแดง ซึ่งบอกภาวะระดับน้ำตาลคนไข้สะสมในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งบอกได้ดีกว่าระดับน้ำตาลในเลือดอย่างเดียวค่ะ แล้วภาวะแทรกซ้อนของคนที่เป็นโรคเบาหวานนานๆ มีอะไรบ้างค่ะ สารวัตรกับรวยช่วยกันตอบค่ะ"

"เป็นแผลที่เท้ากับแผลที่ก้นครับ เหมือนที่หมอให้อาชินเป็น" รวยตอบ

"ไตเสื่อมและตาบอดครับ" สารวัตรบอก

"ถูกต้องค่ะ คือถ้าคนไข้ควบคุมน้ำตาลได้ไม่ดีจะทำให้เส้นเลือดในร่างกายแย่ลง ทำให้เกิดผลคือเป็นแผลที่เท้าเกิดจากเส้นเลือดและเส้นประสาทไม่ดี ชาแล้วเป็นแผล นอกจากนั้นเป็นแผลกดทับได้ เส้นเลือดที่ตาและไตไม่ดีก็มีปัญหาโรคตาและไต นอกจากนั้นก็เป็นโรคหัวใจด้วย ดังนั้นการรักษาจึงจำเป็นที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลคนไข้ให้ปกติที่สุดค่ะ เข้าใจกันใช่ไหมคะ"

"เข้าใจครับ พี่หมอ"

"เข้าใจครับแม่หมอ"

"เข้าใจครับคุณหมอคนสวย"

"เข้าใจครับ"

"วันนี้เรียนแค่นี้พอเนอะ พอใจแล้วนะตุ๊ดตู่"

"ครับ"

"งั้นเลิกเรียนแยกย้ายกันพักผ่อนค่ะ พรุ่งนี้เย็นค่อยมาดูผลกันจากตำรวจพม่าทั้งสองว่าจะเป็นอย่างไรดีไหมค่ะ"

"ก็ดีเหมือนกันครับ ไอ้ณัฐแกพาข้าไปทำความรู้จักกับคนที่เพิงสักหน่อยสิ" สารวัตรบอก

"วันนี้เลยหรือ"

"ใช่ ไปกัน"

"ผมไปด้วย ศิษย์น้อง" ตุ๊ดตู่ขอ

"เอ็งนี้นะ ตามทุกเรื่อง ไปก็ไป" สารวัตรบอก

นิลลี่กับมูมู่เดินเข้าไปพัก ส่วนสารวัตร ณัฐ รวยและตุ๊ดตู่ก็เดินทางไปที่เพิงของพี่ก๊อกแก๊ก พอเดินมาถึงที่เพิง วันนี้แปลกไม่เห็นกองไฟทำอาหารไม่เห็นไฟตะเกียง

"พี่ก๊อกแก๊ก พี่นิ่มอยู่ไหม ผมณัฐเองครับ" ณัฐตะโกนเรียก

เงียบไม่มีเสียงตอบจากในเพิงเลย ทั้งสี่คนเลยเดินเข้าไปดู ไม่มีใครอยู่จริงด้วย

"หรือว่าวันนี้นายใหญ่จะมา ถึงไม่อยู่ทั้งสองคนเลย เอาไงดีว่ะ ไอ้พล" ณัฐหันมาถาม

"เข้าไปดูที่ไร่ฝิ่นกันไหม" สารวัตรบอก

"ดีครับ ศิษย์น้อง" ตุ๊ดตู่รีบตอบ

"เองไปด้วยไม่ได้ คราวนี้ขอสั่งห้ามเด็ดขาด คราวที่แล้วก็ทีแล้ว" ณัฐบอก

"เอางี้ข้าไปกับไอ้รวยพอ เอ็งเอาไอ้ศิษย์พี่ไปส่งแล้วนั่งเฝ้ามันไว้ จะได้ไม่ตามไปกวน" พลหันมาบอกเพื่อนซี้

"ก็ได้ แต่แกแค่ตามไปดูเก็บข้อมูลเฉยๆ พอนะ มีหุ่นยนต์ของแม่หมอเก็บข้อมูลอยู่ด้วย อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่นหล่ะ" ณัฐหันมาสั่งบ้าง

"เออ มีมาสั่งตำรวจด้วยเว้ย"

แล้วทั้งสี่ก็แยกกันสองทาง ณัฐเอาตุ๊ดตู่ไปส่งบ้านและนั่งเฝ้าไว้ สารวัตรพลกับรวยเดินไปทางไร่ฝิ่น

พอเห็นว่าดึกพอแล้วและตุ๊ดตู่ก็เข้าไปนอนแล้วณัฐก็เดินกลับมาที่เพิงหน้าบ้านริมน้ำ ซึ่งประจวบกับทางสารวัตรกับรวยเดินกลับมาพอดี

"อ้าวไอ้สารวัตร ได้อะไรไหม"

"โชคดีจริงๆ หว่ะ ได้สิวะ นายใหญ่มันมาจริงๆ แต่แค่ไปดูลาดเลาเฉยๆ แล้วก็รีบกลับมา ข้อมูลต้องรอหุ่นยนต์เก็บข้อมูลของคุณหมอพรุ่งนี้กลับมาก่อน"

"ก็คงต้องรอข้อมูลพรุ่งนี้ ร่วมกับข้อมูลของทางตำรวจพม่าที่วิเคราะห์คืนนี้ด้วย"

"ดูกันว่าจะหมู่หรือจ่า วันนี้นอนหลับพักผ่อนกันได้"

แล้วก็เข้าเพิงไปพักผ่อนกันเพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาดูพรุ่งนี้เย็น ส่วนหมอนิลลี่กับมูมู่ก็พักผ่อนอยู่ในบ้านริมน้ำเรียบร้อยเช่นกัน

การสร้างสรรค์งานเป็นเรื่องยาก ส่งกําลังใจให้กันด้วยนะ!

การสร้างสรรค์งานเป็นเรื่องยาก ส่งกําลังใจให้กันด้วยนะ!

DrNillycreators' thoughts