พูดจบ! คุณแม่ของฉันท่านก็รีบกดวางสายโทรศัพท์มือถือ ที่ซึ่งมีการพูดคุยกันอย่าง
เคร่งเครียดเป็นเวลานานพอสมควร มารดาผู้ให้กำเนิดหันหน้ามาจ้องหน้าลูกสาวคนกลาง
ของท่าน คือฉัน.. ด้วยแววตาอันเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก,ความปรารถนาดี,ความห่วงใย
ที่ลึกซึ้งมากมาย.....
" นิมนิม.. ลูกหล่าของแม่! ถ้าแม่สิขออีหยังจั๊กอย่างกับเจ้า ๆ สิเฮ็ดให้แม่
ด้วยความเต็มอกเต็มใจได้ บ่.. ฮึ.. ลูกหล่าเอ๊ย? "
( แปลจากภาษาอีสาน : " นิมนิม.. ลูกรักของแม่! ถ้าแม่จะขออะไรบางอย่างกับเจ้า ๆ
จะทำให้แม่ด้วยความเต็มอกเต็มใจได้ไหม ฮึ! ลูกรักเอ๋ย? " )
" แม่จ๋า แม่อย่าเว้าจั่งซั่น! นางให้แม่ของนางได้เหมิดซุอย่างจ้า แม้แต่ชีวิตของนาง
ถ้าแม่นว่านางสามารถให้แม่ได้!! นางกะยินดีที่สิมอบให้แม่....จ้า เพราะว่าแม่คือแม่ของนาง แม่เป็นซุสิ่งซุอย่างของชีวิตนาง ขอแค่นางเฮ็ดให้แม่ได้ แม่บอกนางมาเลยจ้า "
( แปลจากภาษาอีสาน : " แม่จ๋า แม่อย่าได้พูดแบบนั้น! นางให้แม่ของนางได้หมดทุกสิ่งหมดทุกอย่างจ้า แม้แต่ชีวิตของนาง ถ้าหากว่านางสามารถให้แม่ได้!! นางก็ยินดีที่จะมอบ
ให้แม่....จ้า เพราะว่าแม่คือแม่ของนาง แม่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิตนาง ขอแค่นาง
ทำให้แม่ได้ แม่บอกนางมาได้เลยจ้า " )
ฉันรีบพูดตอบแม่ไปอย่างที่จิตใจทั้งหมดของตนเองรู้สึก!! เพราะฉันได้ยินเนื้อความแล้ว
จับประเด็นปัญหาใหญ่เร่งด่วนที่กำลังเกิดขึ้นกับแม่สุดที่รักสุดชีวิตของฉัน!! สิ่งที่แม่
สนทนาผ่านโทรศัพท์มือถือกับคนที่แม่เรียกเขาว่า *เสี่ย* แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าบุคคลๆนั้น
....คือใคร ?อีกทั้งยังไม่รู้แน่ชัดว่า.. เขาคนนั้นกำลังจะให้แม่ไปทำอะไร? ที่ไหน? อย่างไร ?
ฉันคิดเพียงสั้นๆ ตรงๆ ว่า : ไม่ว่าแม่จะให้ฉันทำอะไรกับท่านแม้ต้องลุยน้ำลุยไฟ!!
ฉันคนนี้ก็เต็มใจที่จะไปและทำ เพื่อมารดาผู้ให้ชีวิตแก่ฉันได้เกิดมาเป็นมนุษย์
ที่สมบูรณ์คนหนึ่งในโลก
" ลูกหล่าของแม่....เจ้ามาคือดีฮ๊ายแท๊! ลูกเอ๊ย!! เจ้า บ่ ทันได้ฮู้เลยว่าแม่สิขออีหยัง
จากเจ้า แต่เจ้ากะพร้อมที่สิให้แม่ ได้ซุอย่าง ฟังแม่ดีๆ เด้อลูก.. "
( แปลจากภาษาอีสาน : " ลูกรักของแม่....เจ้าทำไมเป็นคนดีมากขนาดนี้! ลูกเอ๊ย!!
เจ้ายังมิทันได้รู้เลยว่าแม่จะขออะไรจากเจ้า แต่เจ้าก็พร้อมที่จะให้แม่ ได้ทุกๆ อย่าง
ฟังแม่ดีๆ นะ ลูก.. " )
แม่โผกอดฉันเอาไว้ด้วยความรักความซาบซึ้งมากที่สุด แม่ลูบศีรษะและเรือนผมของฉัน
ด้วยความรักจากจิตใจมากมายสุดที่จะประมาณได้ของมนุษย์แม่ ซึ่งมีต่อสายโลหิตของท่าน
"ป๊ะลูกหล่า!! เฮาต้องฟ้าวไปแล้ว!! เสี่ยเพิ่นมีเมตตาสิซ่อยแม่แก้ปัญหาเรื่องเงินค่าก่อสร้างของวัดให้จบในมื้อนี้ แม่ต้องซ่อยหลวงพ่อฯของพวกเฮาใช้หนี้ใช้สินวัดให้มันเหมิด ต่อไปแม่ตั้งใจสิมาอยู่วัดถือศีลปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อฯ เอ๊า! โตฟ้าวขับรถพาแม่ไปหาเสี่ยเพิ่นอยู่รีสอร์ท ไวไวลูกหล่า ไปไวไว!! "
( แปลจากภาษาอีสาน : "ป๊ะลูกรัก!! เราต้องรีบไปแล้ว!! เสี่ยท่านมีเมตตาจะช่วยแม่แก้ปัญหาเรื่องเงินค่าก่อสร้างของวัดให้จบในวันนี้ แม่ต้องช่วยหลวงพ่อฯของพวกเราใช้หนี้ใช้สินวัดให้มันหมด ต่อไปแม่ตั้งใจจะมาอยู่วัดถือศีลปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อฯ เอ๊า! ลูกรีบๆ ขับรถพาแม่ไปหาเสี่ยท่านอยู่รีสอร์ท ไวไวลูกรัก ไปไวไว!! " )
แล้วแม่ก็จูงมือของฉันพากันเดินอย่างเร่งรีบไปตรงที่จอดรถ ขณะที่ฉันกำลังเป็นคนขับรถ
เพื่อพาคุณแม่เดินทางไปที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง เพื่อพบกับบุคคลสำคัญคนหนึ่งคนที่แม่เรียก
เขาอย่างสนิทสนมดูคุ้นเคยกันมาก ว่า *เสี่ย* แม่ได้อธิบายเพิ่มเติมแก่ฉันเพื่อให้เตรียม
ตัวเตรียมใจสำหรับการทำหน้าที่ช่วยแม่ให้ดีที่สุดให้จงได้ ในวันสำคัญวันนี้
แม่เล่าว่า : เสี่ยคือผู้ชายที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน เป็นนักธุรกิจที่ขยันทำมาหากินเขาทำงานหลายอย่างจนร่ำรวย แม่เคยรู้จักกับเขาเมื่อหลายปีก่อน เพราะเพื่อนของแม่ทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ร่วมกับเขา จากนั้นมาเขากับแม่ก็ได้พบกันอีกหลายครั้งจึงทำให้เขาได้ทราบว่า : แม่มีลูกสาวคนกลางซึ่งแต่งงานแล้วและทำงานใช้ชีวิตอยู่ที่ภาคเหนือ เขาเคยเห็นภาพถ่ายในชุดไทยจักรีเต็มยศของฉัน(ในตอนถ่ายภาพนั้นฉันมีอายุได้ 22 ปี)ซึ่งติดไว้ที่บ้านของคุณพ่อคุณแม่ที่ขอนแก่น แล้วเขาก็เกิดความรู้สึกตกหลุมรักเจ้าของภาพนั้นตลอดมา.....
ปัจจุบันนี้เสี่ยเป็นโสดและเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัว เมื่อแม่ไร้ที่พึ่งสำหรับการแก้ปัญหา
เรื่องเงินที่แม่เป็นประธานสร้างวัดและได้ปวารณาว่าจะหาเงินมาถวายหลวงพ่อฯ เพื่อ
จ่ายหนี้สงฆ์ในค่าสร้างอุโบสถให้แล้วเสร็จในการทอดกฐินวันนี้!! ทว่า! ปัญหาที่ไม่คาดคิดกลับเกิดขึ้นกับมารดาผู้มีใจใฝ่บุญกุศลอย่างมั่นคง เพราะลูกหนี้ของแม่ที่ได้นัดหมายกัน
ว่าจะนำเงินจำนวนนั้นมาคืนแม่ที่วัด ก่อนเวลาถวายกองกฐินทั้งหมด กลับปิดโทรศัพท์มือถือขาดการติดต่อกับแม่ไปเสียเฉยๆ ปัญหาทั้งหมดจึงกลุ้มรุมอยู่ที่มารดาของฉันเพียงผู้เดียว!!
หากแต่มารดาของฉันนี้ ท่านเป็นผู้หญฺิงสู้ชีวิต! ท่านไม่เคยยอมจำนนต่อปัญหาใดง่ายๆ
ท่านจึงพยายามโทรศัพท์หาเพื่อนฝูงคนรู้จักหลายคนที่มีฐานะดีพอที่ท่านจะขอยืมเงิน
จำนวนนี้มาถวายวัดให้เสร็จไปก่อน ตามเจตนาแห่งการสร้างมหากุศลที่ท่านได้ตั้งใจ
ปวารณาเอาไว้ จนในที่สุดก็มีบุคคลหนึ่ง! ที่เอ่ยปากว่า : เขาเต็มใจช่วยท่านและจะ
เตรียมเงินจำนวนดังกล่าวเอาไว้มอบให้ท่านไปเลย(ไม่ต้องยืมหรือติดค้างกัน)
โดยมีเงื่อนไขเพียงข้อเดียวนั่นคือ
***..แม่จะต้องยกตัวของฉัน มอบให้เป็นภรรยาของเขาตลอดไป..***
ฉันขับรถด้วยความเร็วสูง!! เพื่อแข่งกับเวลาที่กำลังผ่านพ้นไป หูของฉันรับฟัง
ทุกสิ่งที่แม่กำลังเล่าให้ฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ ในสมองของฉันขณะนี้ไม่มีสิ่งใด
สำคัญมากไปกว่า
" การช่วยแม่ให้สำเร็จ แม่จะต้องได้ถวายปัจจัยเพื่อชำระหนี้สงฆ์ให้กับหลวงพ่อฯ
เพื่อปิดบัญชีหนี้สงฆ์ที่เกิดจากการก่อสร้างวัดและอุโบสถในวัดจนแล้วเสร็จสมบูรณ์ "
" นิมนิมเอ๊ย! ลูกหล่า.... แม่ขอให้เจ้าฟังแม่ให้ดีๆ แม่อยากให้เจ้าคิดให้ดีๆ ก่อนว่า..
เจ้าสิเต็มอกเต็มใจเป็นเมียของเสี่ยเพิ่นมื้อนี้ บ่ ? ถ้าลูก บ่ เต็มใจแม่กะสิ บ่ พาลูก
ไปฮอดเสี่ยแม่สิพาลูกกลับ!! แล้วแม่กะสิไปหาทางอื่นแก้ปัญหาซ่อยหลวงพ่อฯ แทน "
( แปลจากภาษาอีสาน : " นิมนิมเอ๊ย! ลูกรัก.... แม่ขอให้เจ้าฟังแม่ให้ดีๆ แม่อยากให้
เจ้าคิดให้ดีๆ ก่อนว่า.. เจ้าจะเต็มอกเต็มใจเป็นเมียของเสี่ยท่าน วันนี้ ไหม ? ถ้าลูก
ไม่เต็มใจแม่ก็จะไม่พาลูกไปถึงเสี่ย แม่จะพาลูกกลับ!! แล้วแม่ก็จะไปหาทางอื่น
แก้ปัญหาช่วยหลวงพ่อฯ แทน " )
เมื่อมารดาบังเกิดเกล้าได้พูดจบลงด้วยกระแสเสียงที่เป็นกังวลด้วยความห่วงใย
ต่อความรู้สึกและจิตใจของลูก ..คือฉัน.. ฉันหันไปมองแม่ ซึ่งเป็นสุภาพสตรี
เพียงหนึ่งเดียวบนโลกใบนี้ที่ฉันรักมากที่สุดและยอมมากที่สุด!!!! ฉันจ้องสบตา
ของฉันกับดวงตาคู่สวยคมซึ้งแต่ดูเศร้าและวิตกกังวลเป็นอย่างมากของมารดา
ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นอย่างชัดเจนว่า.....
" แม่จ๋า นางยินดีและเต็มใจที่สุดจ้า แม่ บ่ ต้องห่วงนางเด้อจ้า นางดีใจที่สิได้ซ่อยแม่
แก้ไขปัญหาเพื่อหลวงพ่อฯ และเพื่อวัดที่แม่ปวารณาเอาไว้ สิได้สำเร็จคือดังปรารถนา
ของแม่ในชาตินี้จ้า นางเป็นลูกของแม่นางฮักแม่หลายที่สุดนางเฮ็ดเพื่อแม่ได้อีหลีจ้า "
( แปลจากภาษาอีสาน : " แม่จ๋า นางยินดีและเต็มใจที่สุดจ้า แม่ ไม่ต้องห่วงนาง
ดอกจ้า นางดีใจที่จะได้ช่วยแม่แก้ไขปัญหาเพื่อหลวงพ่อฯ และเพื่อวัดที่แม่
ปวารณาเอาไว้ จะได้สำเร็จคือดังปรารถนาของแม่ในชาตินี้จ้า นางเป็นลูกของแม่
นางรักแม่มากที่สุด นางทำเพื่อแม่ได้จริงๆ จ้า " )
แล้วรถเก๋งที่ฉันขับก็ได้เลี้ยวเข้าไปในบริเวณรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ฉันวนรถเข้าไปจอดตรงซุ้มกันแดดที่ทำเอาไว้สำหรับจอดรถของลูกค้า ฉันรีบหยุดรถปิดกุญแจแล้วเปิดประตูรถด้านคนขับ ก่อนที่จะรีบเดินแกมวิ่งอ้อมไปจูงมือคุณแม่ผู้ที่ก้าวลงมาจากรถเก๋งเรียบร้อยแล้ว
เราสองคนแม่ลูกเดินจูงมือกันเข้าไปตรงบริเวณอาคารทรงไทยด้านหน้าซึ่งสร้างจากไม้สักทองทั้งหลัง มองดูจากด้านหน้าแล้วช่างสูงใหญ๋โอ่โถง บ่งบอกถึงงบประมาณจำนวนมาก
ในการก่อสร้างและดำเนินธุรกิจนี้