webnovel

1227 สำนักซานไห่

ตอนที่ 1227 สำนักซานไห่

แผ่นดินไหว

เสียงคำราม

เสียงกรีดร้องของแมลง

แรงสั่นสะเทือน

แรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

แม้กระทั่งในห้องลับ ด้วยพลังของชั้นวิชาก็เป็นไปไม่ได้ที่จะแยกการเคลื่อนไหวเหล่านี้ออกได้อย่างสมบูรณ์

มันอาจจะไม่มีทางแยกได้ตั้งแต่แรกแล้วก็ได้

กู่ฉิงซานพิงเก้าอี้ขณะชำเลืองมองคนอื่น

พวกวัยรุ่นหดตัว สีหน้าเผยความหวาดกลัวขณะฟังเสียงการเคลื่อนไหวข้างนอก

นี่จะเป็นบทเรียนแรกของพวกเขาเพื่อทำให้เข้าใจโลกที่อาศัยอยู่ได้มากยิ่งขึ้น

กู่ฉิงซานถอนหายใจ ความคิดของเขาขยับ

เขาคิดว่าจะได้ไปโลกวิญญาณชั่วร้าย แต่กลายเป็นว่าได้มาถ้ำหมื่นอสูรแทน

เขาคิดว่าถ้ำหมื่นอสูรจะเหมือนกับโลกวิญญาณชั่วร้าย ใครจะนึกล่ะว่าการตอบรับและการเหนี่ยวนำจะทำให้เขาได้เห็นวันสิ้นโลกเช่นนั้น

รวมถึงตัวตนหนึ่งที่ถูกวันสิ้นโลกกักขังเอาไว้

เทียบกับโลกวิญญาณชั่วร้ายแล้ว โลกนี้มีความลับที่ลึกล้ำยิ่งกว่า

ไม่เพียงแค่นั้น

ไม่มีวิญญาณชั่วร้ายทรงพลังที่แท้จริงอยู่ในโลกวิญญาณชั่วร้าย

ไม่มีหกสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ในถ้ำหมื่นอสูร

ผู้ที่ควบคุมสองโลกนี้ล้วนเป็นมนุษย์ เผ่าพันธุ์มนุษย์

นี่คือสิ่งที่แปลกประหลาดนัก

กู่ฉิงซานกำหมัดขณะเปลี่ยนความคิด

ในอนาคต สถานการณ์มากมายจะยิ่งมายิ่งร้ายแรง พละกำลังของเขาจะต้องพัฒนาต่อไป

ก่อนหน้านี้ เขายุ่งอยู่กับการต่อสู้กับวิญญาณกรีดร้อง ตอนนี้การต่อสู้ดุเดือดนั่นได้ผ่านไปแล้ว คาดว่าจะทำให้มีเวลาฝึกฝนมากยิ่งขึ้น

ปราชญ์ดาราจักร…

นี่คือขั้นต่อไปของจ้าวขุนเขาเซียวหมี ตามความรู้ที่เขาได้รับมาจากเจตจำนงของโลกอดีต มันคือการก้าวกระโดดจากช่องว่างระหว่างจ้าวขุนเขาเซียวหมีไปปราชญ์ดาราจักร

ถ้าอยากกลายเป็นปราชญ์ดาราจักร ต้องเริ่มจากเปิดใช้งานกฎเกณฑ์แห่งสวรรค์และปฐพีก่อน จากนั้นจึงค่อยหล่อหลอมหนังสือแห่งวิญญาณกับหนังสือแห่งคุณงามความดีเข้าสู่ร่างกาย

หนังสือแห่งวิญญาณต้องการให้ผู้ฝึกยุทธ์เชี่ยวชาญความรู้เกี่ยวกับลัทธิเต๋ามากเกินพอ ส่วนหนังสือแห่งคุณงามความดีต้องการให้ผู้ฝึกยุทธ์สั่งสมความดีมากเกินพอ

เมื่อบรรลุทั้งลัทธิเต๋าและความดีมากเกินพอแล้ว ผู้ฝึกยุทธ์สามารถทะลวงเข้าสู่อาณาจักรปราชญ์ดาราจักร

ทว่า การหล่อหลอมหนังสือแห่งวิญญาณกับหนังสือแห่งคุณงามความดีต้องการสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยยิ่ง ในห้องลับมีผู้คนมากเกินไป ยังไงก็ไม่เหมาะสม

เมื่อเรื่องนี้จบลง เขาจะเริ่มทำการฝึกฝน

ขณะกู่ฉิงซานครุ่นคิด เขามองพวกวัยรุ่นในห้องลับ

ทันใดนั้น เขาเห็นนายน้อยจางกับผู้หญิง ทั้งสองสนทนาบางอย่างก่อนที่นายน้อยจางจะเดินมาหาเขา

“ไง หลี่ซาน”

กู่ฉิงซานได้สติก่อนยิ้มออกมาแล้วประสานมือ “นายน้อย”

“อื้ม”

นายน้อยจางนั่งลงข้างเขาก่อนแบมือ

กู่ฉิงซานเข้าใจก่อนส่งคันธนูยาวล้ำค่านามว่า “อินทรีสู่จันทรา” ให้กับมือ

นายน้อยจางรับคันธนูยาวมา จากนั้นลดเสียงลง “เอาล่ะ บอกข้ามา ตอนเจ้าตอบรับชิ้นส่วนเกราะเกล็ดนั่น เจ้าเห็นอะไร”

กู่ฉิงซานบอกว่า “จ้าวบ้านห้ามไม่ให้ข้าพูด”

นายน้อยจางกล่าวว่า “ปกติทุกคนต้องเก็บเป็นความลับ มีเพียงนักรบผู้เชี่ยวชาญกระดูกและนักธนูเท่านั้นที่ทราบสิ่งต่างๆ ตามระดับพละกำลัง ครั้งนี้ มันไม่ง่ายเลยที่พวกเราจะได้ความลับมาโดยที่ตระกูลไม่อาจรับรู้ได้ เจ้าบอกข้ามาเถอะ”

“แบบนี้ไม่ดีเลย การขัดคำสั่งของจ้าวบ้านไม่ใช่เรื่องดีนัก” กู่ฉิงซานลังเล

สีหน้าของนายน้อยจางหมองหม่น

เขาหันหลังกลับไปหาผู้หญิง จากนั้นหันกลับมากล่าวอย่างหมองหม่นว่า

“หลี่ซาน ต่อให้เจ้าเข้าสำนักมาแล้ว ยังไงเสียเจ้าก็เป็นข้ารับใช้ของข้า เจ้ากล้าคำสั่งของนายน้อยคนนี้ได้ยังไง”

กู่ฉิงซานนิ่ง

ความปรารถนาในความลับของนายน้อยจางช่างลึกล้ำนัก

ความจริง นายน้อยจางทำการตอบรับจนได้พลังจิตมาแล้ว แต่เขายังไม่ได้เข้าสำนักอย่างเป็นทางการ ยังต้องฝึกฝนพื้นฐานการยิงธนูสักพัก

เขาไม่จำเป็นต้องกังวล

ดังนั้น…

กู่ฉิงซานมองผู้หญิงที่อยู่ไม่ไกลจากด้านหลังนายน้อยจางนัก

รูปลักษณ์ของผู้หญิงธรรมดา แต่นางมีกลิ่นอายที่สูงส่งนัก มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนที่ต้องเข้าเอาอกเอาใจเสมอ

ด้วยความทรงจำของนายน้อยจาง กู่ฉิงซานจำตัวตนของผู้หญิงคนนี้ได้

จากถ้ำทะเลตะวันตก ลูกหลานของสำนักขนาดใหญ่

ในบรรดาแปดถ้ำของโลก ถิ่นทุรกันดารตะวันออกอ่อนแอที่สุด ทะเลตะวันตกแข็งแกร่งกว่าถิ่นทุรกันดารตะวันออก เรียกว่าได้เป็นถ้ำที่แข็งแกร่งที่สุด ดังนั้น หลังจากผู้หญิงคนนี้มา นางได้รับการต้อนรับจากจ้าวเมืองและตระกูลอย่างใจกว้าง

กู่ฉิงซานรู้สึกเย็นเยือกขึ้นมา

นายน้อยจางคนนี้ เพื่อช่วยให้คนนอกได้ข้อมูล เขาถึงกับยอมทำขนาดนี้เชียวหรือ

รู้อะไรไหม ข้าเป็นคนช่วยชีวิตเจ้าเอาไว้และก็เป็นคนพาออกมาด้วย

ยิ่งกว่านั้น

หากมีข้อมูลที่สามารถแลกเปลี่ยนได้ ข้าก็สามารถบอกได้อยู่แล้ว แต่ในเมื่อเจ้ารู้ทุกสิ่งที่ข้ารู้ ทำไมข้าจะต้องบอกเจ้าซ้ำด้วยล่ะ

แต่เขาคือผู้ติดตามคนสนิท หากไม่พูดอะไรในสถานการณ์นี้คงได้มีปัญหาในภายหลังหากไปยั่วยุเข้า

กู่ฉิงซานไม่คิดอะไรอีก เขาเพียงมองหน้าต่างระบบเทพสงครามก่อนติดตั้งฉายาใหม่เข้าไป

“ผู้ชายมีเสน่ห์ที่สุด”

“นายน้อย ท่านมากับข้าหน่อย” กู่ฉิงซานยืนขึ้นแล้วกล่าวออกมา

นายน้อยจางตกตะลึง

เมื่อเห็นว่ากู่ฉิงซานเดินมาหาผู้หญิงแล้ว เขาไม่มีทางเลือกนอกจากรีบตามมา

กู่ฉิงซานพานายน้อยจางกลับมาหาผู้หญิงแล้วกล่าวกับทั้งสองคนว่า “เรื่องยี้อันตรายมาก ถ้าข้าพูดไป มันจะดึงแมลงให้มาอีก ดังนั้นข้าจึงไม่กล้าพูด”

“นายน้อยอย่าโกรธข้าเลย”

ทักษะฉายาทำงาน!

นายน้อยจางและผู้หญิงตกตะลึง

“สิ่งที่เขากล่าว… มีเหตุผล” นายน้อยจางพึมพำ

“ใช่ ถ้าเป็นแบบนี้ เช่นนั้นก็คงพูดไม่ได้จริงๆ หลังจากพายุผ่านพ้นไปแล้ว ไม่มีใครสามารถถามเขาได้” ผู้หญิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม

ทว่า สีหน้าของนางพลันมีชีวิต นางไม่แสดงความเฉยชาเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป

กู่ฉิงซานเผยรอยยิ้มออกมาก่อนพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ถูกต้อง”

ผู้หญิงครุ่นคิดสักพัก ราวกับตัดสินใจได้ นางพลันกล่าวว่า “เจ้าไปก่อน ข้ามีบางอย่างต้องบอกกับหลี่ซาน”

นายน้อยจางมองกู่ฉิงซาน จากนั้นมองผู้หญิง

“วางใจได้ ข้าสัญญากับเจ้าไว้แล้ว ไม่มีทางผิดสัญญาแน่นอน” ผู้หญิงกล่าว

จากนั้นนายน้อยจางหันหลังแล้วเดินไปที่อีกฝั่ง

ครั้งนี้เป็นตาของกู่ฉิงซานที่มองผู้หญิง จากนั้นมองนายน้อยจางที่เดินจากไปไกล

นี่มันหมายความว่าอย่างไร

เขาคลายความคิดของนายน้อยจางแต่ดันไปทำให้ผู้หญิงคนนี้คิดถึงบางอย่างขึ้นมาหรือ

เขาเห็นผู้หญิงโบกมือเพื่อสร้างเขตอาคมกันเสียงขึ้นมาแล้วกล่าวว่า “หลี่ซาน เจ้ายังไม่มีชื่อ ข้าจะเรียกเจ้าด้วยชื่อนี้ก็แล้วกัน”

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ได้ ข้าไม่รู้ว่าท่านมีชื่อว่าอะไร…”

“ข้ามาจากถ้ำทะเลตะวันตก จ้าวเฉียงจากสำนักซานไห่”

กู่ฉิงซานพยักหน้าขณะรอให้อีกฝ่ายพูดต่อ

จ้าวเฉียงกล่าวว่า “มีเจ็ดสิบสองเมืองในถ้ำร้างทิศตะวันออก เมืองที่พวกเราอยู่ตอนนี้คือเมืองที่แข็งแกร่งเป็นอันดับสองในบรรดาเจ็ดสิบสองเมือง”

“เจ็ดสิบสองเมืองของถ้ำร้างทิศตะวันออก ต่อให้รวมกันก็ไม่สามารถเทียบพละกำลังกับพวกข้าสำนักซานไห่ได้”

กู่ฉิงซานตกตะลึงเล็กน้อย

จ้าวเฉียงยิ้มแล้วกล่าวว่า “ข้าพูดเช่นนี้ก็เพื่อให้เจ้าเข้าใจตามสัญชาตญาณ อันที่จริง ในกระบวนการใช้พลังจิต มีหลายคนที่สามารถตอบรับกับวันสิ้นโลกได้ แต่น้อยคนนักที่สามารถทำให้วันสิ้นโลกมาเยือนได้”

กู่ฉิงซานยังไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้

แต่เขาพอจะจำได้แล้ว

ถ้ากล้าตกหลุมรักผู้หยิงคนนี้ นางย่อมสามารถใช้คำพูดเพื่อนำวันสิ้นโลกมาเยือนได้

ที่จริง เขาเพียงแค่ติดตั้ง “ผู้ชายมีเสน่ห์ที่สุด” และใช้งานทักษะฉายา “มีเหตุผล”

ด้วยเหตุนี้อีกฝ่ายจึงเชื่อว่าเป็นความจริง

แต่อีกฝ่ายกล่าวว่า “แต่น้อยคนนักที่สามารถทำให้วันสิ้นโลกมาเยือนได้”

น้อยคนนัก แสดงว่ามี

ทำไมถึงมีคนแบบนั้นได้ล่ะ

กู่ฉิงซานรู้สึกเย็นเยือกไปถึงหัวใจ

จ้าวเฉียงเห็นสีหน้าเคารพยำเกรงจึงกล่าวต่อว่า “หลี่ซาน ที่จริง เจ้าไม่รู้ว่าตัวเองมีความสามารถอะไร ถ้าเจ้าอยากใช้พลังนี้เพื่อควบคุมวันสิ้นโลกก็มีไม่กี่คนในถ้ำร้างทิศตะวันออกที่สามารถช่วยได้”

“หลี่ซาน เจ้าต้องการพลังของพวกข้าสำนักซานไห่”

“มาเข้าร่วมกับพวกข้า”

กู่ฉิงซานเผยสีหน้าลังเลแล้วกล่าวว่า “แต่ข้ากำลังจะเข้าสำนักเฟยอวี่นะ”

“เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอก ตั้งแต่ยุคโบราณ หลายคนในสำนักเฟยอวี่พยายามตอบรับเกราะเกล็ดนั่น แต่ไม่มีใครรอดกลับมา เจ้าเป็นคนแรกและมีพรสวรรค์พอที่จะทำการฝึกฝนได้”

จ้าวเฉียงกล่าวอย่างมีนัยว่า “เชื่อข้า อีกไม่ช้า เกราะเกล็ดนั่นจะออกจากสำนักเฟยอวี่”

“ท่านจะทำยังไงหรือ” กู่ฉิงซานถาม

“เอาตรงๆ ก็คือซื้อตัว ยังไงเสีย การจ่ายคือวิธีที่ง่ายที่สุด” จ้าวเฉียงกล่าวอย่างแผ่วเบา

กู่ฉิงซานลอบจิ๊ปาก

คนคนนี้มีภูมิหลังและพละกำลังที่ลึกล้ำนัก

ที่จริง ยิ่งสถานที่พัฒนาและทรงพลังมากเท่าไหร่ การได้รับข้อมูลกับพลังมากยิ่งสะดวกสบายมากเท่านั้น

ไม่อย่างนั้น จะอยู่ที่นี่เป็นเวลานานเพื่อกลายเป็นจ้าวเมืองเพื่ออะไร

ในบรรดาถ้ำหมื่นอสูร จ้าวเมืองในถ้ำร้างทิศตะวันออกไม่อาจเทียบคนอื่นๆ ได้

น่าเสียดายที่ไม่สามารถกระตุ้นวันสิ้นโลกได้จริงๆ

เดี๋ยวก่อนนะ

มันก็ไม่ได้แย่จริงๆ นี่นา…

ดวงตาของกู่ฉิงซานจับจ้องหน้าต่างระบบเทพสงครามขณะจ้องฉายาบางอย่าง

ดาราอัคคีเทพสงคราม

หลังจากคิดไปมา กู่ฉิงซานก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมา

เขาลังเล “แต่ข้าฝึกอยู่ในตระกูลมาหลายปีนะ”

จ้าวเฉียงขัดเขาแล้วกล่าวว่า “พลังงานและเงินที่พวกเขาใช้กับเจ้าไม่มีค่าอะไรเลย ข้าสามารถมอบรางวัลให้ได้มากกว่านับพันเท่า ข้าสัญญาเลยล่ะว่าจะทำให้พวกเขาต้องร้องไห้เพื่อขอร้องพาตัวเจ้าออกไป”

กู่ฉิงซานประหลาดใจ

ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาพลันคิดถึงลอร่า

แบบนี้

หรือว่าโชคจะหล่นลงมากองตรงหน้าเขาแล้ว

จ้าวเฉียงสังเกตสีหน้าของเขาก่อนกล่าวต่อว่า “ก่อนที่เจ้าจะตัดสินใจ ข้าสามารถตอบคำถามของเจ้าได้สองข้อ”

นางยิ้มแล้วกล่าวว่า “ยังไงเสีย ในโลกถ้ำลึกของพวกเรา ความลับคือสิ่งมีค่าที่สุด คนหนุ่มสาวเช่นเจ้ากระตือรือร้นที่จะรู้ความจริงของโลก”

“ดังนั้นเจ้าถามมาเลย ทุกสิ่งเกี่ยวกับโลกใบนี้ ไม่ว่าเจ้าจะถามอะไร ข้าสามารถตอบได้ นี่คือหนึ่งในของขวัญที่พวกเราได้พบกัน”

กู่ฉิงซานไม่ลังเลอีกต่อไป

เขาเชื่อสนิทใจว่าไม่ได้แสดงความคิดออกมาแม้แต่น้อยนิด รวมถึงไม่ได้แสดงความปรารถนาที่จะได้รับข้อมูลเช่นกัน

จ้าวเฉียงคนนี้กำลังตัดสินทุกสิ่งด้วยประสาทสัมผัสทั้งหกจากบทสนทนา

ช่างเป็นคนที่ทรงพลังจริงๆ

ทว่า กู่ฉิงซานก็ยินดีกับอะไรแบบนี้เหมือนกัน

วิญญาณชั่วร้ายได้หลอมรวมเศษเสี้ยวโลกวิญญาณชั่วร้ายได้ราวเจ็ดสิบส่วน

แล้วถ้ำหมื่นอสูรหลอมรวมไปถึงไหนแล้วล่ะ

ความคิดของกู่ฉิงซานเปลี่ยนไป

ไม่ คำถามนี้ข้องเกี่ยวกับความลับของการหลอมรวมโลก ไม่สามารถถามได้

หลี่ซานเป็นเพียงลูกชายในเมืองเล็กๆ ของประเทศแห่งหนึ่ง เขาจะมาถามอะไรแบบนี้ได้อย่างไร

หนึ่งอึดใจ สองอึดใจ กู่ฉิงซานรีบคิดถึงอีกอย่าง

เรื่องนี้สำคัญมาก ถ้าให้หลี่ซานเป็นคนถามอาจจะเหมาะก็ได้

กู่ฉิงซานเผยความสงสัยแล้วกล่าวว่า “พี่จ้าว ทุกคนบอกว่าพื้นดินอันตรายเกินไป ดังนั้นพวกเราต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกถ้ำลึก มีเพียงในความมืดที่ทำให้พวกเราสามารถเคลื่อนไหวไปมาได้ ข้าแค่อยากรู้น่ะว่าอะไรอยู่บนพื้นดิน”

จ้าวเฉียงเผยสีหน้าคาดไม่ถึงออกมา ไม่ช้าก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ใช่แล้ว นี่คือสิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญหน้าในถ้ำลึกของถ้ำหมื่นอสูร

หลี่ซานคนนี้ใจร้อนเช่นกัน ที่จริงเขาไม่รู้ว่าคำถามที่ตัวเองพูดมานั้นสำคัญมากแค่ไหน

จ้าวเฉียงลังเลสักพัก แต่ก็ยังตอบว่า “เหตุผลที่ทำไมพวกเราไม่สามารถไปยังพื้นดินได้ก็เพราะโลกบนพื้นดินคือสุสานยังไงล่ะ”

………………………………..