ตอนที่ 1199 มาถึงก่อน
ท่าเรือ
วิญญาณกรีดร้องและผู้บำเพ็ญเพลิงยืนอยู่ในความมืด
“เป็นยังไงบ้าง เจ้ารู้สึกถึงอีกฝ่ายหรือเปล่า” ผู้บำเพ็ญเพลิงถาม
วิญญาณกรีดร้องลืมตาขึ้นแล้วตอบว่า “อีกฝั่งของทะเลมีพลังความโกลาหลอยู่ น่าจะเป็นเทพที่ยังไม่ตื่นขึ้นมา ข้ารู้สึกได้อย่างเลือนราง ต้องเข้าไปใกล้อีกหน่อยถึงจะระบุตำแหน่งได้แม่นยำขึ้น”
ผู้บำเพ็ญเพลิงครุ่นคิด “อีกฝ่ายไปถึงก่อนพวกเรา เมื่อหาเทพเจอแล้ว พวกมันก็คงอยู่ไม่ไกลจากพวกเรา”
วิญญาณกรีดร้องกำหมัดแล้วกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการฆ่าพวกมัน จากนั้นก็แย่งเทพไป แบบนั้นจะเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว”
“เช่นนั้นพวกเราก็ต้องข้ามทะเลก่อน!” ผู้บำเพ็ญเพลิงกล่าว
“ใช่ ข้าคำนวณระยะทางแล้ว ใช้เวลาเพียงครึ่งวันเท่านั้นในการว่ายน้ำ”
สัตว์ประหลาดสองตัวมองทะเลกว้างใหญ่พร้อมกัน
ตูม!
ปลาทะเลขนาดเท่าเรือสำราญทะยานขึ้นจากน้ำจนบดบังหมู่เมฆและจันทราในท้องนภา
มันกำลังดิ้นรนและหลบหนี
ทว่า โลหิตที่พุ่งออกมาตัวปลาด้วยปริมาณที่มากกว่าทะยานขึ้นสู่ท้องนภาขณะกัดปลาทะเลแล้วลากกลับเข้าทะเลลึก
คลื่นทะเลปั่นป่วน โลหิตและน้ำยังคงเดือดพล่าน
การต่อสู้ระหว่างสัตว์ประหลาดทะเลสองตัวทำให้เกิดเกลียวคลื่นสูงมากกว่าสามเมตรก่อนซัดเข้าฝั่งอย่างรุนแรง
ซู่… ซ่า!
วิญญาณกรีดร้องและผู้บำเพ็ญเพลิงถูกซัดทั้งตัว
พวกมันเปียกโชกด้วยน้ำทะเลขณะยืนนิ่งอยู่สักพัก
“บัดซบ แม้แต่ทะเลก็ยังมีพวกกลายพันธุ์”
“อืม”
“พละกำลังของพวกเราถูกผนึกเอาไว้ หากจะว่ายไปตรงๆ อาจจะ…”
“อืม…”
สองวันต่อมา
อีกฝั่งของทะเล
“นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่พวกมันจะฆ่าพวกเราและเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่พวกเราจะฆ่าพวกมันด้วย” กู่ฉิงซานกล่าว
เขาอยู่ในอุโมงค์ใต้ดินขณะจัดการสายที่ขาดจำนวนมากอย่างระวัง
เย่เฟยหลีผลักอุโมงค์ที่ถล่มออกไปก่อนถามว่า “พวกมันจะมาเมื่อไหร่”
“ตอบยาก ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเจอใครก่อน”
“แล้วมันแตกต่างกันยังไงล่ะ”
“ถ้าพวกมันเจอพวกเรา พวกมันจะสามารถเปิดฉากซุ่มโจมตีใส่พวกเราได้; แต่ถ้าพวกเราเจอพวกมัน พวกเราสามารถออกแบบการลอบสังหารเพื่อฆ่าพวกมันได้”
กู่ฉิงซานเชื่อมสายทั้งสองเข้าด้วยกันอย่างระวังขณะตอบช้าๆ
เย่เฟยหลีครุ่นคิดสักพักก่อนกล่าวกับตัวเองว่า “ในฐานะฆาตกร ข้าไม่เคยฆ่าเทพมาก่อน… ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าต้องใช้พลังขนาดไหนถึงจะสามารถฆ่าเทพได้”
ตอนนี้ เสียงของจางหยิงห่าวมาจากอินเตอร์คอม
“สายทางฝั่งข้าเรียบร้อยแล้ว”
“รับทราบ”
กู่ฉิงซานเปลี่ยนชิ้นส่วนท่อโลหะ ใส่สายเข้าไปแล้วปิดมัน
ทั้งสองกลับมาที่ห้องเก็บอุปกรณ์
“ข้าจะดึงเบรคให้ กระแสไฟฟ้าและเครือข่ายจะเริ่มทำงานพร้อมกัน ระบบตรวจจับมนุษย์ทั้งหมดจะตรวจพบการเคลื่อนไหวที่นี่ เจ้าแน่ใจหรือ” เย่หรูซีถาม
“อืม” กู่ฉิงซานตอบ
เย่หรูซีดึงเบรคอย่างแรง
แสงติดขึ้นแห่งแล้วแห่งเล่า
กลุ่มข้อความทดสอบตัวเองปรากฏขึ้นบนจอของคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่
กู่ฉิงซานยืนอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ขณะใช้มือสองข้างกดบนคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็ว
ระหว่างที่เขาลงมือ คำสั่งถูกส่งออกไปชุดแล้วชุดเล่าเพื่อเริ่มติดต่อสื่อสาร คำนวณและโต้ตอบกับเครือข่ายมนุษย์ทั้งหมด
เสียงเคาะคีย์บอร์ดทั้งดังและหนักหน่วง
ผ่านไปสักพัก กู่ฉิงซานหยุดนิ่ง
“เอาล่ะ ตอนนี้พวกเขาก็หาพวกเราไม่เจอแล้ว ต่อไป ข้าจะควบคุมดาวเทียมทั้งหมด” เขากล่าวกับตัวเอง
“แต่สิ่งนี้กินแรงมากเพราะพลังงานมนุษย์ด้อยกว่าเสมอ เช่นนั้น…”
เสียงเคาะคีย์บอร์ดดังขึ้นอีกครั้ง
จางหยิงห่าวมองจากด้านข้างสักพักก่อนถามว่า “ปัญญาประดิษฐ์หรือ”
“ใช่ การสร้างปัญญาประดิษฐ์พื้นฐานบางส่วนจะช่วยให้ข้าประหยัดเวลาทำงานได้มาก” กู่ฉิงซานตอบ
จางหยิงห่าวครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวว่า “ข้าอยากจะถามมาตลอด เจ้าทำอะไรตอนเทพธิดาแห่งความยุติธรรมตื่นขึ้นมา”
กู่ฉิงซานยิ้มแล้วตอบว่า “ข้าแค่ผลักนางไปข้างหน้านิดหน่อย ที่จริง นางเป็นตัวตนที่เหลือเชื่อมาก”
กู่ฉิงซานเปิดคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็วก่อนรีบเดินเครื่องกลุ่มดาวเทียมเพื่อถ่ายภาพทุกสถานที่รอบเมือง
“ทุกๆ สิบนาที ทุกครั้งที่พวกเราพบสิ่งผิดปกติบนแผนที่ พวกเราจะอพยพทันที” กู่ฉิงซานกล่าว
ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนจากเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ดังขึ้น เป็นสัญญาณว่าได้รับคำสั่งแล้ว
“นี่คือปัญหาด้านความปลอดภัยครั้งแรก จากนั้นในครั้งต่อไป พวกเราต้องดูว่ากลุ่มพันธมิตรโลกมนุษย์ซ่อนของดีอะไรบ้างนอกเหนือจากระเบิดนิวเคลียร์”
กู่ฉิงซานเปิดจอขณะยังคงพิมพ์ชุดอักษรต่อไป
หลังจากนั้น ภาพปรากฏขึ้นบนจออย่างต่อเนื่อง
คลังเก็บอาวุธ ศูนย์วิจัยและพัฒนา สนามบิน พื้นที่รวบรวมกำลังทหาร กลุ่มเรดาร์ป้องกันอากาศยานและศูนย์ประชุมระดับสูงยังคงปรากฏขึ้นบนจอ
กู่ฉิงซานกดปุ่มต่อไป
ภาพแช่ค้าง
ภาพการประชุมระดับสูงของมนุษย์ถูกฉายขึ้นมา
“ด้วยระเบิดนิวเคลียร์หกลูก ไม่มีใครสามารถรอดจากแรงระเบิดขนาดนั้นได้หรอก ข้าคิดว่าพวกเราควรจดจ่อกับ…” มนุษยชนชั้นสูงคนหนึ่งกล่าว
กู่ฉิงซานเคาะปุ่มต่อไป
ภาพยังคงขยับต่อไป
หลังจากผ่านไปหลายอึดใจ กู่ฉิงซานกระแทกปุ่มสุดท้าย
ภาพหยุดลงอีกครั้ง
เขาเห็นว่าลึกลงไปสามสิบเมตรในสิ่งปลูกสร้างเหล็กกล้า มีหลายคนกำลังวิจัยอยู่หน้าต้นแบบจักรกลขนาดใหญ่
“นี่คือจักรกลของโลกเจ้าหรือ” จางหยิงห่าวถามเย่หรูซีด้วยความสนใจ
เย่หรูซีมองจักรกลยักษ์บนจอ จากนั้นมองกู่ฉิงซานจนอดที่จะกล่าวไม่ได้ว่า “ระดับของข้าไม่มากพอ ข้าไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อน”
กู่ฉิงซานมองจักรกลยักษ์แล้วกล่าวว่า “ไม่มีปัญหาเรื่องโครงสร้างจักรกล แต่ยังโบราณเกินไป ไม่ควรสร้างสิ่งที่มีขนาดใหญ่แบบนั้นออกมาเลย”
เขาครุ่นคิดสักพัก จากนั้นมือของเขาเริ่มแตะบนหน้าต่างระบบ
“ก่อนข้าจะสามารถสร้างจักรกลได้ ข้าต้องสร้างอีกสิ่งหนึ่งก่อน”
แขนหุ่นยนต์ปรากฏขึ้นบนจอ
นี่คือแขนหุ่นยนต์ที่เขาสร้างเมื่อวาน
“วัสดุทั้งหมดพร้อมแล้ว”
“ทำการป้อนสูตรการผลิต”
“เริ่มทำการสร้าง”
แขนหุ่นยนต์ขยับ
มันเร็วมาก ส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์และวัสดุจำนวนมากประกอบขึ้นเป็นของชิ้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว
“เจ้ากำลังทำอะไรน่ะ” เย่เฟยหลีถาม
“จัมเปอร์รุ่นพื้นฐานน่ะ” กู่ฉิงซานตอบ
ไม่ช้า จัมเปอร์เสร็จสมบูรณ์
“ข้าสร้างขึ้นมาหลายชิ้น บางชิ้น ใช้กับดาวเทียม บางชิ้นส่งไปพื้นที่ไกลลิบจำนวนมากบนดินแดนหลักผ่านเครื่องบินและอุปกรณ์อื่น” กู่ฉิงซานอธิบาย
“จัมเปอร์คืออะไร” เย่หรูซีถาม
“อุปกรณ์ขนส่งทางฝั่งเทคโนโลยีน่ะ” เย่เฟยหลีตอบ
ติ๊ง!
เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ส่งเสียงแจ้งเตือน จอปรากฏขึ้นบนจอ
วิญญาณกรีดร้องและผู้บำเพ็ญเพลิงปรากฏขึ้นที่นอกเมือง
ข้างพวกมันคือรถบรรทุกขนาดใหญ่พิเศษ คนที่รับผิดชอบในการขับรถบรรทุกถูกสังหารโดยพวกมัน ซากศพถูกโยนไปบนดินแดนรกร้างอย่างไม่ใส่ใจ
ดูจากสภาพของสัตว์ประหลาดสองตัวที่เต็มไปด้วยฝุ่น ดูท่าพวกมันจะผ่านอะไรมามากพอสมควร
“เวลาสำหรับการต่อสู้ดุเดือดมาถึงแล้ว” จางหยิงห่าวหยิบสไนเปอร์ไรเฟิลออกมาแล้วเริ่มบรรจุกระสุน
“สายเกินกว่าจะมาวางแผนแล้ว ดูจากสภาพพวกมันแล้วน่าจะหาที่นี่เจอได้ในไม่ช้า” ร่างของเย่เฟยหลีกลายเป็นสีแดง
“พวกมันมาเร็วกว่าที่คิดไว้ ข้ายังไม่ได้จัดการกับสัตว์ประหลาดวันสิ้นโลกเลย ถ้ามาช้าหน่อยคงจะดีกว่านี้แท้ๆ ” กู่ฉิงซานขมวดคิ้ว
เขาเริ่มการทำงานบนจอคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว
มีคำสั่งหนึ่งโผล่ขึ้นมา
ไม่ช้า ดาวเทียมอากาศยานเหนือเมืองเปิดประตูก่อนเริ่มทำการจัดส่งตำแหน่งคงที่มาให้
เมื่ออุปกรณ์กลไกบริสุทธิ์เริ่มตกลงมา วิญญาณกรีดร้องและผู้บำเพ็ญเพลิงสัมผัสได้ทันที
“ของมนุษย์หรือ” ผู้บำเพ็ญเพลิงเงยหน้าขึ้นขณะมองร่มชูชีพบนท้องนภา
“ข้าไม่รู้ จะยังไงก็ช่าง โลกนี้เป็นโลกเทคโนโลยีที่ล้าหลังมาก วิธีของพวกมันทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอก” วิญญาณกรีดร้องเงยหน้าขึ้นขณะกล่าวเช่นนั้น
ร่มชูชีพค่อยๆ เคลื่อนลงมา ขณะที่ตกลงมา เสียงสังเคราะห์ดังขึ้น “ขอต้อนรับสู่เมืองซากปรักหักพัง ข้าคือผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนด้านเทคนิคของค่ายโกลาหล มีอะไรให้ข้าช่วยพวกท่านหรือเปล่า”
มันยังคงส่งประโยคนี้ออกมา แต่อย่างน้อยก็ประสบความสำเร็จในการไม่ให้สัตว์ประหลาดสองตัวลงมือก่อนได้สำเร็จ
ร่มชูชีพลงจอดตรงหน้าสัตว์ประหลาดโกลาหลสองตัว
กล่องเหล็กกล้าเปิดออกช้าๆ เสียงสังเคราะห์เปลี่ยนไปในที่สุด
“พวกท่านทั้งสองต้องการอะไร ไม่ว่าจะฆ่าหรือทำลาย โปรดบอกข้ามาได้เลย”
ผู้บำเพ็ญเพลิงมองโครงสร้างจักรกลดังกล่าวก่อนออกความเห็นว่า “รูปแบบของเจ้านี่เหมือนกับผลิตภัณฑ์ของนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องในยุคโกลาหลเลย”
“พวกข้ากำลังหาคนอยู่ เจ้าทำได้หรือเปล่า” มันถาม
“ได้ การค้นหาเรียบร้อย ตำแหน่งถูกกำหนดแล้ว เริ่มทำงาน” เสียงสังเคราะห์กล่าว
วิญญาณกรีดร้องและผู้บำเพ็ญเพลิงมองหน้ากัน
ถ้าเป็นกับดักก็ไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เทคโนโลยีจะมาทำร้ายพวกมันได้
วิญญาณกรีดร้องกล่าวว่า “เดี๋ยวก่อน ข้ายังไม่ได้บอกเลยว่าจะตามหาใคร…”
เพียงพริบตา จัมเปอร์ทำงาน
ความว่างเปล่าบิดเบือนก่อนพังทลายทันทีขณะดูดวิญญาณกรีดร้องและผู้บำเพ็ญเพลิงกลับไปที่ที่เคยอยู่
…
ท่าเรือ
วิญญาณกรีดร้องและผู้บำเพ็ญเพลิงยืนอยู่บนชายหาด
สัตว์ประหลาดสองตัวมองทะเลกว้างใหญ่พร้อมกัน
ตูม!
ปลาทะเลขนาดเท่าเรือสำราญทะยานขึ้นจากน้ำจนบดบังหมู่เมฆและจันทราในท้องนภา
มันกำลังดิ้นรนและหลบหนี
ทว่า โลหิตที่พุ่งออกมาตัวปลาด้วยปริมาณที่มากกว่าทะยานขึ้นสู่ท้องนภาขณะกัดปลาทะเลแล้วลากกลับเข้าทะเลลึก
คลื่นทะเลปั่นป่วน โลหิตและน้ำยังคงเดือดพล่าน
การต่อสู้ระหว่างสัตว์ประหลาดทะเลสองตัวทำให้เกิดเกลียวคลื่นสูงมากกว่าสามเมตรก่อนซัดเข้าฝั่งอย่างรุนแรง
ซู่… ซ่า!
วิญญาณกรีดร้องและผู้บำเพ็ญเพลิงถูกซัดทั้งตัว
พวกมันเปียกโชกด้วยน้ำทะเลขณะยืนนิ่งอยู่สักพัก
“บัดซบ ทำไมพวกเรากลับมาที่เดิมเนี่ย!”
………………………………..