ตอนที่ 905 ดาบแห่งชะตากรรม
รอบข้างมืดสนิท
กู่ฉิงซานเงยหน้าขึ้นอย่างเดือดดาล
ฝาหีบใบใหญ่ถูกเขาเปิดออก
มีหีบว่างเปล่าจำนวนมากอยู่ในห้อง ไม่มีอย่างอื่นอยู่ในนั้น
นี่คือห้องลับของดาวคนคู่
กู่ฉิงซานกลับมาจากโลกวิญญาณธาตุแล้ว
เขาพลันรู้สึกว่ามีบางสิ่งกำลังดิ้นรนอยู่ในมือของเขา
เมื่อก้มมองดู เขาเห็นว่ามันเป็นขาของตุ๊กตาหุ่นเชิด
ทันทีที่ปล่อย ขาของตุ๊กตาหุ่นเชิดหลุดออกจากมือเข้าไปในหีบก่อนถูกแทนที่โดยตุ๊กตาหุ่นเชิดที่รออยู่ที่นี่
“ข้าเหนื่อยเหลือเกิน คงต้องกลับไปพักสักหน่อย ถ้าเจ้าอยากไปโลกนั้นอีก เจ้าสามารถไปบ้านอิฐแดงเพื่อเรียกข้าได้” ตุ๊กตาหุ่นเชิดกล่าวอย่างเหนื่อยล้า
กู่ฉิงซานย่อตัวลง ประสานมือแล้วกล่าวว่า “คงลำบากไม่น้อย ข้าไม่รู้ว่าจะขอบคุณเจ้ายังไง”
ตุ๊กตาหุ่นเชิดกำลังจะไป ดังนั้นเขาจึงลังเลหลังจากได้ยินประโยคนี้
“เจ้าคือผู้ฝึกยุทธใช่หรือไม่” มันถาม
“ใช่” กู่ฉิงซานตอบ
“เจ้ามีหินวิญญาณหรือเปล่า แค่เอามาให้ข้าดู เพราะข้าเก็บรวบรวมหินมาเยอะมาก แต่กลับไม่เคยเห็นหินวิญญาณมาก่อน” ตุ๊กตาหุ่นเชิดกล่าวอย่างวิตก
กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพัก หยิบหินวิญญาณออกมาหนึ่งก้อนแล้ววางตรงหน้าตุ๊กตาหุ่นเชิด
เขาจงใจหยิบหินวิญญาณคุณภาพสูงและมีสีสันที่สวยที่สุดออกมา มันดูใสราวกับคริสทัล
ทันทีที่หินวิญญาณระดับสูงก้อนนี้ถูกนำออกมา มันแผ่หมอกสีขาวเลือนรางขณะลอยขึ้นรอบหินวิญญาณอย่างไม่มีสิ้นสุด
หมอกสีขาวเหล่านี้คือกลิ่นอายของหินวิญญาณ คนธรรมดาเพียงดมมันเล็กน้อยก็จะรู้สึกสดชื่นไปทั่วร่าง
“นี่คือหินวิญญาณสินะ ช่างงดงามนัก” ตุ๊กตาหุ่นเชิดสัมผัสหินวิญญาณอย่างแผ่วเบาขณะกล่าวอย่างมีความสุข
“ข้าให้เจ้าละกัน” กู่ฉิงซานกล่าว
“ให้ข้าหรือ ให้จริงๆ หรือ” ตุ๊กตาหุ่นเชิดเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยแววตาถวิลหา
กู่ฉิงซานตอบตามตรงว่า “แน่นอน ข้ามีหินวิญญาณมากมาย การให้หินวิญญาณสักก้อนไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับข้า โปรดรับไว้ด้วย นี่คือตัวแทนความจริงใจของข้า”
ตุ๊กตาหุ่นเชิดมีความสุขมากก่อนส่งเสียงเริงร่า “เยี่ยมเลย มีหินอีกก้อนมาให้ข้าสะสมแล้ว อีกหนึ่งก้าวสู่การจัดนิทรรศการ”
มันพยักหน้าให้กู่ฉิงซาน ถือหินวิญญาณเอาไว้ก่อนหายไปในความว่างเปล่า
กู่ฉิงซานพลอยได้รับผลจากความสุขของตุ๊กตาหุ่นเชิดจนยิ้มออกมา
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงสั่นที่ยากจะอธิบายขึ้น
ร่างกายของกู่ฉิงซานสั่นโดยไม่ตั้งใจ
“นายท่าน” เสียงวิตกของฉานนู่ดังขึ้น
กู่ฉิงซานสูดหายใจเข้า กลับมามีสติแล้วกล่าวว่า “ไม่มีอะไร มหาภัยพิบัติอาจจะกำลังมาถึงในไม่ช้าก็ได้”
หลังจัดวางทุกสิ่งไว้ในโลกดิน ซ่อนอยู่ใต้ทะเลทรายมานานและทำการฝึกฝนอย่างมั่นคง ในที่สุดเวลาเก็บเกี่ยวก็มาถึงแล้ว
มหาภัยพิบัติจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่วัน
กู่ฉิงซานเงียบ
ความคิดหนึ่งวูบไหวในใจของเขา
“หืม?”
เมื่อครู่เขาคล้ายกับนึกบางสิ่งออก
กู่ฉิงซานครุ่นคิดไปมา พยายามจะดึงความคิดนั้นกลับมาอย่างรวดเร็ว
“นายท่าน ตอนนี้ยังมีเวลาอยู่ พวกเราต้องรีบจัดการเรื่องผู้ถักทอชีวิตหุบเหว” เสียงของฉานนู่ดังขึ้น
ความคิดของฉานนู่ถูกขัด เขาตอบว่า “แต่อีกฝ่ายคือตัวตนนิรันดร์ พวกเราต้องคิดหาทางคุยดู”
หลังจากกล่าวเช่นนี้ ความคิดเมื่อครู่หายไปนานแล้ว เขาไม่สามารถจดจำมันได้สักพัก
กู่ฉิงซานลุกขึ้นจากหีบก่อนเดินออกจากห้องลับมายังก้นบ่อน้ำโบราณ
ใช่แล้ว อย่างที่ฉานนู่พูด ถึงเวลาเผชิญหน้ากับผู้ถักทอชีวิตหุบเหวอีกครั้งแล้ว
แต่ความคิดเมื่อครู่นั้นคล้ายกับสำคัญมาก
เขาครุ่นคิด ทันใดนั้นก็ถูกอีกสิ่งดึงดูด
นี่คือปัญหาใหญ่หลวง
ถึงแม้บ่อน้ำโบราณจะไม่สูงมากนัก แต่กำแพงกลับลื่นจนไม่มีที่ให้ยึดจับ
บนดาวคนคู่ พลังของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดอยู่ในสภาพถูกผนึก ในฐานะคนธรรมดา กู่ฉิงซานในตอนนี้ไม่สามารถปีนได้
ดังนั้นเขาตัดใจจากความคิดก่อนหน้านี้ก่อนจะหาทางคลี่คลายเรื่องตรงหน้าก่อน
เขาอยากปีนขึ้นไป แต่มันไม่มีหนทาง เท่าที่คิดทั้งหมดแล้ว เขาทำได้เพียง…
“ฉานนู่”
“นายท่าน ข้าอยู่นี่แล้ว”
ฉานนู่พลันปรากฏตัวขึ้น
“ไอ้นั่น”
“นายท่าน ไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็นไร”
ฉานนู่ยกกู่ฉิงซานขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มให้ จากนั้นกอดเขาไว้ในอ้อมแขนก่อนเหาะขึ้นไป
ตอนนี้ บนดาวคนคู่ ราตรีผันผ่าน อาทิตย์ยามเช้าลอยขึ้นมา แสงอาทิตย์สาดส่องผ่านหมู่เมฆจนตกกระทบมายังปฐพีและลำธาร ทำให้โลกทั้งใบกลายเป็นโทนอบอุ่นอันมืดมัว
ท่ามกลางแสงเจิดจ้า หญิงสาวบอบบางกอดชายหนุ่มเอาไว้ พวกเขาเหาะออกจากบ่อน้ำแห้งก่อนลงสู่พื้นอย่างมั่นคง
“อา ดาวเคราะห์ดวงนี้ อา ผนึกนี่ เออ ข้าไม่ชอบมันเท่าไหร่เลย”
กู่ฉิงซานไอขณะกล่าวอย่างไม่พอใจ
เขาออกจากอ้อมแขนของฉานนู่อย่างรวดเร็วก่อนยืนขึ้นอีกครั้ง
ฉานนู่ยิ้ม ดวงตาของนางราวกับจันทร์เสี้ยวขณะยืนอยู่อีกฝั่งโดยไม่ตอบอะไร
กู่ฉิงซานพูดกับตัวเองว่า “ตอนนี้พวกเราต้องรีบแล้ว ดูก่อนว่าผู้ถักทอชีวิตหุบเหวอยู่ที่ไหน”
ฉานนู่ปล่อยจิตเทพเพื่อตรวจสอบดาวเคราะห์ทั้งดวง
“นางอยู่ปลายลำธาร กำลังตามหาร่องรอยของชายชรานำทาง”
“ดีมาก พวกเราจะไปพบนางอีกครั้งแล้วดูว่านางยังมีความลับอะไรอีก”
“พวกเราจะทำอะไรล่ะ”
“เริ่มจาก…”
…
ปลายลำธาร
หญิงสาวร่างสูงหลับตาลงขณะยืนอยู่บนหินก้อนใหญ่ไม่ขยับไปไหน
ตั้งแต่เช้า นางค้นหาตามลำธารอยู่สองรอบ แต่กลับไม่พบร่องรอยชายชรานำทางเลย
ชายชราลึกลับเกินกว่าจะรู้ได้ว่าเขาอยู่ที่ไหน
หรือเขาจะเป็นผู้ปกครองดาวคนคู่
ตอนนี้ นางพึ่งประสาทสัมผัสการดมกลิ่นอันดีเยี่ยมเพื่อรับรู้ถึงลมหายใจ
ครั้งที่แล้วที่นางพบชายชรานำทางเป็นเพราะกลิ่นก๋วยเตี๋ยวลอยมาตามลมจนทำให้ได้พบกัน
ความเร็วของนางไวกว่ากู่ฉิงซาน ทันทีที่ชายชรานำทางพบใครบางคนและเริ่มปรุงก๋วยเตี๋ยว นางจะต้องได้กลิ่นก๋วยเตี๋ยวอย่างแน่นอน
นางทำได้เพียงภาวนาว่าอย่าให้กู่ฉิงซานเป็นคนแรกที่ได้พบชายชรานำทางในวันนี้
เวลาผ่านไปอย่างเงียบงัน
สายลมพัดหวีดหวิว
หญิงสาวร่างสูงยังคงไม่ขยับ
ทันใดนั้น กลิ่นหอมอ่อนๆ ของซุปก๋วยเตี๋ยวลอยมา
หญิงสาวร่างสูงพลันลืมตาขึ้น ทั่วร่างกลายเป็นภาพติดตาก่อนเหาะไปทิศทางหนึ่งอย่างแน่วแน่
นางวิ่งผ่านลำธารด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มีขณะเร่งความเร็วอย่างต่อเนื่อง
“เร็ว!”
“เร็วกว่านี้!”
นางรีบตอบก่อนที่กู่ฉิงซานจะได้กินซุปก๋วยเตี๋ยวจากชายชรานำทาง
หญิงสาวร่างสูงอยู่ตรงกึ่งกลางลำธาร เลี้ยวโค้งตามลำธารอันคดเคี้ยว ฉากหนึ่งพลันปรากฏตรงหน้านาง
กู่ฉิงซานกำลังรับชามซุปขนาดใหญ่จากชายชรานำทาง
หัวใจของหญิงสาวร่างสูงดิ่งวูบ
บัดซบ นางช้าไปหนึ่งก้าว
แต่ยังไม่แน่หรอกว่าตอนท้ายใครจะชนะ!
หญิงสาวร่างสูงโน้มตัวอย่างรวดเร็วก่อนคว้าหินสองสามก้อนขึ้นมา
“ฮ่า!”
นางแผดเสียงคำรามขณะโยนก้อนหินออกไปก้อนแล้วก้อนเล่า
หินเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่ มันพุ่งเข้าหากู่ฉิงซานพร้อมกับสายลมแรงกล้า แต่ทันใดนั้นมันถูกหยุดอยู่กลางอากาศ
ชายชรานำทางจ้องตานางแล้วกล่าวว่า “แม่นาง เจ้าจะทำอะไรน่ะ อย่ารบกวนเวลาอีกฝ่ายลิ้มรสก๋วยเตี๋ยวที่ข้าปรุงสิ”
ขณะพูด กู่ฉิงซานรับชามก่อนเริ่มกัดก๋วยเตี๋ยวคำแรกเข้าไปแล้ว
“อร่อย!”
เขาชมขณะชำเลืองมองหญิงสาวร่างสูงอย่างมีชัย
หญิงสาวร่างสูงรู้สึกเย็นเยือกก่อนเต็มไปด้วยความโกรธทันที
ไม่จริง ข้าต้องคิดหาทาง จะมายอมตัดใจเร็วแบบนี้ไม่ได้!
นางหักห้ามจิตสังหารในใจเอาไว้ขณะเดินไปหาชายชรานำทาง
“ท่านผู้เฒ่า ข้าเองก็อยากกินก๋วยเตี๋ยวสักชามเช่นกัน” นางกล่าวอย่างสุภาพ
ความโกรธบนใบหน้าของชายชรานำทางพลันหายไป เขายังคงกล่าวว่า “โอ้ แบบนี้ก็ดี เจ้ารอสักเดี๋ยวนะ”
ผ่านไปสักพัก
ชามก๋วยเตี๋ยวพร้อมไออุ่นเสร็จสิ้น
หญิงสาวร่างสูงชำเลืองมองกู่ฉิงซาน
เขาเพิ่งกินไปได้ครึ่งเดียวเท่านั้น
หากนางกินหมดก่อนเขาก็จะสามารถกินก๋วยเตี๋ยวชามต่อไปได้ทันที
จำนวนก๋วยเตี๋ยวที่ชายชราทำทุกวันมีจำกัด ขอแค่นางกินมากกว่ากู่ฉิงซาน ชายชราก็จะปกป้องอีกฝ่ายไม่ได้อีกต่อไป
หญิงสาวร่างสูงคิดได้ดังนี้ก็หยิบตะเกียบขึ้นมาก่อนเริ่มกลืนก๋วยเตี๋ยวทันที
กู่ฉิงซานชำเลืองมองนางเช่นกัน
“แหม กินไวแบบนั้น ระวังจะติดคอเอาล่ะ” เขาเตือน
หญิงสาวร่างสูงชำเลืองมองเขา ตะเกียบคู่นั้นขยับในชามก๋วยเตี๋ยวอย่างรวดเร็ว
นางกินเสร็จแล้ว!
นางซดซุปในชามจนหมดเกลี้ยง!
นางถือชามด้วยมือทั้งสองข้างก่อนนำมาให้ตรงหน้าชายชรานำทางเพื่อขอบคุณ “อาหารอร่อยมาก ได้โปรดทำให้ข้าอีกชามด้วย ขอบพระคุณล่วงหน้า”
“ดีๆ ถ้าเจ้าอยากกิน ข้าจะทำก๋วยเตี๋ยวให้อีกชามเพื่อเจ้า” ชายชรานำทางกล่าวอย่างมีความสุข
ชายชราเริ่มปรุงก๋วยเตี๋ยวอีกครั้ง
หลังจากทิ้งห่างได้แล้ว หญิงสาวร่างสูงมองกู่ฉิงซาน
ทั้งสองมองหน้ากัน
“เมื่อวานข้าพูดไม่ดีเอง ต้องขอโทษเจ้าด้วย” กู่ฉิงซานกล่าวจากใจจริง
หญิงสาวร่างสูงเบือนหน้าหนีเพื่อเมินเขา
กู่ฉิงซานเกาศีรษะขณะชำเลืองมองชายชรานำทาง
ในเมื่อความโกรธของนางไม่ทุเลาลง สู้ถามนางเสียแต่ตอนนี้ไปเลยไม่ดีกว่าหรือ
เมื่อเห็นการขยิบตาของกู่ฉิงซาน ชายชรานำทางไอเล็กน้อยก่อนถามหญิงสาวร่างสูงว่า “ทำไมเจ้าถึงต้องการดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพกันล่ะ”
ทักษะลึกลับ: ได้พบกันอีกครั้ง ทำงาน!
หญิงสาวร่างสูงพลันตกอยู่ในสภาพสับสนราวกับเข้าสู่ห้วงภาพมายา
ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความทรงจำขณะกล่าวว่า “ข้าอยากล่าพวกที่มันทรยศข้าและอยากเห็นว่าอะไรกันที่อยู่เบื้องหลังประตูโลก”
“น่าเสียดาย ประตูโลกถูกแยกออกด้วยพลังทำลายล้าง แม้แต่สัตว์ประหลาดหุบเหวที่มีชีวิตนิรันดร์ก็จะดับดิ้นเมื่อเข้าใกล้ประตูโลก”
“มีคำกล่าวในหุบเหวว่าที่สัตว์ประหลาดหุบเหวเหล่านั้นดับดิ้นเป็นเพราะถูกกัดกร่อนโดยชะตากรรมจนทำให้เกิดผลเช่นนั้น”
“ข้าไม่เข้าใจคำพูดแปลกประหลาดนี้เลย แต่สัตว์ประหลาดน่าสะพรึงจำนวนมากก็ได้ยืนยันคำพูดนี้มาแล้ว”
“ในหุบเหว มีอาวุธเพียงชิ้นเดียวที่มีความสามารถขัดขืนการกัดกร่อนของโชคชะตา นั่นก็คือดาบแห่งชะตากรรม ทหารปราบมารที่อยู่ก้นหุบเหวไร้ที่สิ้นสุดและดาบสวรรค์กับดาบปฐพีของผู้พิทักษ์การสูญพันธุ์”
………………………..