ตอนที่ 551 ความโศกเศร้า
กู่ฉิงซานหันไปขยิบตาให้ลอร่า ส่งสัญญาณว่าให้เธอรอก่อน
เขาตะโกนไปทางฝูงชนที่กำลังวุ่นวายว่า “ทุกคนเงียบก่อน”
“ฉันได้รับความไว้วางใจจากทางราชวงศ์หนาม ให้มาจัดการเรื่องนี้”
“ดังนั้นอันดับแรก ทุกคนรู้ไหมว่า ทำไมระบบที่ดาวน์โหลดมา มันถึงสั่งให้ฆ่าฉัน?”
“ไม่รู้เหมือนกัน” หลายคนตอบเสียงดังฟังชัดกลับมา
“นั่นก็เพราะตัวฉันเองก็เคยใช้เกมหมื่นสวรรค์สิ้นโลกาต้นกำเนิด ที่เป็นของปลอมนี้มาก่อนนั่นเอง ฉันเลยรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมันไง”
“และเนื่องจากประสบการณ์ที่ฉันมี ดังนั้นหลังจากที่ชั่งน้ำหนักในจิตใจดูแล้ว บุคคลภายนอกจึงตัดสินใจส่งฉันมา ให้เป็นผู้รับผิดชอบและอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้”
กู่ฉิงซานกล่าว
ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ
เมื่อกี้…เขาบอกว่าตัวเองเคยใช้ต้นกำเนิดของปลอมมาก่อนเหรอ?
ในหัวใจของทุกคนอดไม่ได้ที่จะเกิดข้อสงสัยใหม่ขึ้น
แต่เดิมตั้งแต่ที่เจ้าเด็กจากสมาคมคนนี้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเจ้าหญิงหนาม ทุกคนก็เกิดความสงสัยมากพออยู่แล้ว
แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาพูดมา มันมีเหตุผลและข้อรองรับมากเหลือเกิน
แถมตอนนี้ เขายังเอ่ยปากออกมาว่าตนเคยได้ใช้ระบบปลอมนี้มาก่อนอีก
“ใช่แล้วล่ะ ถ้าพวกนายสงสัยอะไรเกี่ยวกับเจ้าสิ่งหลอกลวงนี้ล่ะก็ สามารถลองถามฉันได้เลยโดยตรง”
เห็นแค่เพียงกู่ฉิงซานที่ยกนิ้วโป้งชี้มาที่ตัวเองและกล่าวต่อ “อันที่จริงทุกคนกก็น่าจะคิดได้กันแล้วนะ ว่าเหตุผลที่ฉันต้องตกเป็นเป้าหมายในการกำจัดของมัน นั่นเป็นเพราะว่าฉันสามารถถอนการติดตั้ง
…หลุดพ้นจากมันได้สำเร็จแล้วนั่นเอง”
ถอนการติดตั้งเหรอ!
ทุกคนตะลึงงันอีกครั้ง
เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ ภายในจิตใจของทุกคนก็ยิ่งเกิดความสับสนมากขึ้น
“นี่เจ้ารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมันจริงๆ น่ะหรอ” นักรบศักดิ์สิทธิ์ถามเสียงทุ้มลึก
“ใช่แล้วล่ะ ตัวอย่างก็เช่นมันจะสัญญากับพวกนายว่า ตราบใดที่ฆ่าฉันได้ พวกนายจะได้รับรางวัลมากมาย , สามารถหลบเลี่ยงการไล่ล่า และสามารถกลับไปยังสถานที่ปลอดภัยได้”
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะมองไปยังหน้าต่างต้นกำเนิดของพวกเขา
“อีกตัวอย่างหนึ่งก็คงจะเป็น ตอนนี้มันคงจะแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเอง โดยการซ่อนจำนวนค่าประสบการณ์ไปแล้ว โดยบอกมาว่าหน้าต่างข้อมูลในส่วนนั้นกำลังปรับปรุง และอัพเดตอยู่” กู่ฉิงซานกล่าวต่อ
สายตาของฝูงชนยังคงจดจ่ออยู่กับหน้าต่างระบบ กวาดอ่านไปยังบรรทัดตัวอักษรที่เพิ่งโผล่ขึ้นมาด้านบน
มันเป็นไปได้อย่างไร!?
เขารู้จริงๆ อย่างนั้นหรือนี่!
แท้จริงแล้ว นับตั้งแต่ที่เรื่องนี้ถูกแฉออกมา พวกเขาจะไม่สามารถตรวจสอบถึงค่าประสบการณ์ที่จำเป็นสำหรับการยกระดับในแต่ละครั้งได้อีกต่อไป
กู่ฉิงซานเห็นสีหน้าของผู้คน ในหัวใจของเขาก็บรรเทาความตึงเครียดลงไปได้อีกเล็กน้อย
อันที่จริงแล้ว ระบบราชามารที่เรียกกันว่าเกมหมื่นสวรรค์สิ้นโลกาออนไลน์นี้ มันเต็มไปด้วยภูมิปัญญา และหลักแหลมไม่เบาเลย
ในความเป็นจริง ช่วงชีวิตก่อนหน้าของเขา เมื่อเกมหมื่นสวรรค์สิ้นโลกาออนไลน์มาเยือน ข้อมูลทั้งหมดของมันก็เปิดกว้างให้ทุกผู้คนได้รับชมเช่นกัน
แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันก็จะค่อยๆ เริ่มปกปิดข้อมูลบางส่วนทีละน้อย ทีละน้อย
ซึ่งนี่หมายความว่ามันสามารถเรียนรู้ , พัฒนา และกลบจุดอ่อนของตนเองได้!
ซึ่งความคิดอ่านนี้ สำหรับอารยธรรมทั้งหลายแล้ว นับว่าเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวยิ่ง!
เมื่อวันเวลาผ่านไป มันก็จะกลายเป็นเกมหมื่นสวรรค์สิ้นโลกาออนไลน์ รู้จักเรียนรู้และปรับปรุงตัวเองเพื่อที่จะติดต่อกับมนุษย์ และแฝงตัวเข้าไปอยู่ด้วยกันกับเป้าหมาย
นอกจากนี้ มันยังรู้จักการใช้ประโยชน์จากอารมณ์ความรู้สึกอยากได้อยากมีตามธรรมชาติของมนุษย์ ในการหลอกล่อให้ดาวน์โหลดและทำตามที่มันต้องการได้อีก
แม้กระทั่งในชีวิตนี้ มันก็ยังแสร้งปลอมตัวเองเป็นเชื้อไฟที่จำต้องใช้แต้มพลังวิญญาณในการแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆ เพื่อพยายามที่จะหลอกลวงกู่ฉิงซานอีกด้วย
กู่ฉิงซานกล่าวต่อว่า “และมันจะต้องบอกพวกนายอย่างแน่นอนว่า ไม่ต้องกังวลอะไรเกี่ยวกับค่าประสบการณ์”
“ซึ่งฉันคิดว่าคำเดิมที่มันบอกก็คงจะเป็น”
กู่ฉิงซานสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยายามย้อนนึกไปถึงทุกเรื่องราวในชีวิตก่อนหน้า
แล้วก็พบกับสองประโยคสั้นๆ ที่ตราตรึงอยู่ในท่ามกลางวันเวลาเหล่านั้น
“เมื่อคุณสามารถไปถึงระดับที่สูงขึ้น คุณจะสามารถเดินทางไปยังโลกนับล้านๆ ที่ซึ่งมีเป้าหมายให้เฟ้นหาอย่างไร้ที่สิ้นสุด”
“คุณจะได้เริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหม่กับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าเดิม และจะได้รับค่าประสบการณ์มากมาย ดังนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องการยกระดับไป”
ฝูงชนถึงขั้นกลั้นหายใจ
เพราะบนหน้าต่างของต้นกำเนิด ในทุกๆ บรรทัดตัวอักษร มันขีดเขียนไว้ไม่แตกต่างไปจากคำพูดของกู่ฉิงซานเลย!
กู่ฉิงซานเริ่มพูดอย่างรวดเร็ว และทุกๆ คำที่เขาพูด มันก็ได้นำหน้าตัวอักษรของหน้าต่างต้นกำเนิดไปราวๆ หนึ่งหรือสองวินาที ที่กำลังปล่อยข้อมูลดังกล่าวออกมา
และผลที่ตามมาก็คือแปดร้อยคนที่กำลังมองหน้าต่างต้นกำเนิดอยู่ ได้ค้นพบว่าบรรทัดตัวอักษรเหล่านั้นตรงตามกับคำอธิบายของกู่ฉิงซานที่เอ่ยขึ้นก่อนหน้า
ไม่มีคำผิดเลย! แถมยังไม่ตกหล่นสักนิด!
เขาจะสามารถรู้ถึงมันได้อย่างไร หากเขาไม่เคยได้เผชิญกับเนื้อหาทั้งหมดนี้มาก่อนแล้ว?
ในความเป็นจริง กู่ฉิงซานก็ไม่ได้โกหกพวกเขานะ
เพราะในสิบปีที่ผ่านมา
เขาอยู่ร่วมกันกับต้นกำเนิดมาโดยตลอด และเข้าใจเกี่ยวกับมันอย่างแท้จริง
ภายในวิหารบรรพกาลที่ถูกหล่อหลอมขึ้นด้วยผลึกน้ำแข็ง บรรยากาศที่แต่เดิมเย็นสบาย บัดนี้ฟุ้งไปด้วยความหนักอึ้ง
แปดร้อยผู้เข้าสู่วิถีมารตกลงสู่ความเงียบ
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง
โครมเคร้ง…
ภายใต้เสียงถอนหายใจของทุกผู้คน ฝูงชนต่างพากันโยนสิ่งประดิษฐ์เทวะที่แลกเปลี่ยนมา ทิ้งลงบนพื้นผลึกน้ำแข็งอย่างไม่ไยดี
คงไม่ผิดแล้วล่ะ ดูเหมือนว่าที่อีกฝ่ายพูดจะเป็นความจริง
ตอนนี้ พวกตนคงตกหลุมพรางแน่นอนแล้ว
แต่ในเมื่อมีบุคคลคนนี้มาอยู่ที่นี่เพื่อรับมือกับต้นกำเนิดโดยเฉพาะ ถ้าอย่างนั้นเรื่องเลวร้ายคงจะจบลงในเร็วๆ นี้ นี่แหละ
หากลองคิดตามเหตุผลที่เขาถูกส่งมา ก็ย่อมสันนิษฐานได้ว่า เขาเคยใช้เจ้าสิ่งนี้มาก่อนจริงๆ และรู้ถึงวิธีถอน การติดตั้งมันอย่างแน่นอน
ท้ายที่สุดนี้ ต้องไม่ลืมนะ ว่าเขาสามารถบอกได้ว่าต้นกำเนิดจะพูดอะไรก่อนที่ข้อมูลของ มันจะปรากฏขึ้นมาเสียอีก
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางหมู่คนจำนวนมากก็ยังสัมผัสได้ถึงความไม่ยินยอม
นั่นเพราะพวกเขายังไม่ยอมแพ้ ยังไม่อยากที่จะยอมรับเกี่ยวกับเรื่องนี้!
“ถ้าอย่างนั้น ฉันมีคำถามเกี่ยวกับระบบ” ผู้หญิงคนหนึ่งมองมาทางกู่ฉิงซานและกล่าว
“เชิญถามมาได้เลย” กู่ฉิงซานกล่าว
“ฉันไม่สามารถควบคุมหน้าต่างระบบได้ดั่งใจนึกเลย จะต้องทำอย่างไรถึงจะใช้งานมันได้ง่ายขึ้น?”
“เรื่องนี้ง่ายมาก คุณก็แค่ต้องบอกมันว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสถานะอะไร”
“สถานะเหรอ? นั่นมันหมายความว่าอย่างไร”
“มันยังไม่ค่อยฉลาดสักเท่าไหร่ คุณจำเป็นต้องบอกมันว่าตัวเองอยู่ในสถานะกำลังตรวจสอบข้อมูลหรือว่าต่อสู้ เพื่อที่จะเปิดปิดโหมดการแสดงผลตามที่ตัวเองต้องการ”
ผู้หญิงคนนั้นรับฟัง และทดลองทำตามอย่างเงียบๆ
ไม่เพียงแต่เธอ คนอื่นๆ อีกมากมายก็เริ่มทำตามที่เขาบอกบนหน้าต่างของตัวเองเช่นกัน
สำหรับคำเตือนที่เด้งขึ้นมารัวๆบนหน้าต่างต้นกำเนิด ทุกคนได้ละความสนใจจากมันไปโดยสมบูรณ์
“ใช่แล้วล่ะ มันเป็นอย่างที่ว่ามาจริงๆ ” หลังจากที่ทดลอง เธอก็พยักหน้า
ขณะเดียวกันก็รู้สึกเสียใจนิดหน่อย
หากเธอสามารถเข้าสู่วิถีมารได้จริง และได้รับความแข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นั่นก็ยังนับว่าเป็นสิ่งที่เธอยอมรับได้
แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าทุกอย่างมันเป็นเพียงเรื่องหลอกลวง
ทุกอย่างที่เธอทุ่มเทมา มันกลายเป็นเพียงฟองอากาศไปแล้ว!
ผู้หญิงคนนั้นปัดแจ้งเตือนบนหน้าต่างต้นกำเนิดด้วยความรำคาญ
บ้าจริง!
เธอสาปแช่งมันอย่างลับๆ
ถัดมา ก็มีอีกหลายคนยกมือขึ้นเพื่อถามเขา
ทั้งหมดถามกู่ฉิงซานเกี่ยวกับปัญหาเบื้องลึก ที่ตนเองคิดว่ามันยุ่งยาก
ขณะที่ฝูงชนคนอื่นๆคอยรับชมอย่างเงียบๆ
แต่พวกเขาจะรู้ได้อย่างไร ว่ากู่ฉิงซานน่ะเคยใช้งานเกมหมื่นสวรรค์สิ้นโลกาออนไลน์มายาวนานกว่าสิบปีแล้ว!
ดังนั้นทุกๆ ปัญหาในมุมมองของพวกเขา สำหรับกู่ฉิงซานแล้วมันไม่ต่างอะไรกับคำถามเด็กน้อยเลย
กู่ฉิงซานคอยตอบคำถามทีละคนอย่างอดทน
เจ็ดถึงแปดนาทีต่อมา เขาก็ตอบไปหลายสิบคำถาม และคำตอบเหล่านั้นก็ถูกต้องทุกอย่าง โดยไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ
ในขณะนี้ กระทั่งเหล่าผู้เข้าสู่วิถีมารที่ยังคงไม่ยินยอมและสงสัยในตัวเขา ก็ได้เชื่อในคำกล่าวของกู่ฉิงซานอย่างสนิทใจแล้ว
มากกว่าแปดร้อยวิถีมาร ยอมแพ้ที่จะต่อสู้
“แล้วตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรกันดี?” นักรบเทพถามกู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานกล่าว “รอถอนการติดตั้งอยู่ที่นี่ ส่วนทางฉันจะส่งสัญญาณไปให้แสงแห่งรุ่งอรุณทริสเต้ ให้พาพวกนายออกไปเอง”
“แต่ข้าสังหารคนไปมากมายจากการถูกหลอกใช้โดยเจ้าสิ่งนี้ แล้วปัญหานี้พอจะแก้ไขได้หรือไม่?”
นักรบเทพถามอีกครั้ง
ด้วยคำถามนี้ของเขา เหล่าผู้เข้าสู่วิถีมารต่างก็จ้องกู่ฉิงซานเป็นสายตาเดียว
เพราะเกือบทุกๆ ผู้เข้าสู่วิถีมาร ล้วนลงมือฆ่าคนไปแล้วทั้งสิ้น
มิฉะนั้นแล้ว พวกเขาคงไม่สามารถได้รับแต้มพลังวิญญาณมาใช้แลกเปลี่ยนกับพลังหรืออาวุธต่อสู้ได้หรอก
เมื่อต้องออกไปจากโลกใบนี้ นี่คือปัญหาใหญ่ที่สุดที่จะตามมา
กู่ฉิงซานยิ้มอย่างขมขื่น “ปัญหาในส่วนนี้ เกิดจากความรับผิดชอบของราชวงศ์หนาม ส่งผลให้เกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่ขึ้น”
“ฉะนั้น หลังจากที่พวกนายออกไปข้างนอก ทางราชวงศ์วิหคหนามจะเป็นคนจัดการเรื่องทั้งหมดนี้เอง”
ขณะกล่าว กู่ฉิงซานก็หันไปมองลอร่า
ลอร่ายืนขึ้นบนไหล่เขา ย่อเข่าโค้งกายกล่าวขออภัย “ในนามของราชอาณาจักรหนาม เราต้องขอโทษพวกเจ้าทุกคนจริงๆ และขอแสดงความรับผิดชอบโดยการมอบค่าชดเชยแก่ผู้คนทั้งหมดที่ถูกหลอกลวงและตายไป”
ทุกคนมองลอร่า และฟังเธอพูดอย่างเงียบๆ
ขณะเดียวกันก็ลอบถอนหายใจอย่างลับๆ
ในเมื่อเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรหนามออกหน้ายืนยัน แสดงถึงทัศนคติที่มีออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว …
ก็พอจะสันนิษฐานได้ว่านี่คือผลลัพธ์จากการหารือในการแก้ปัญหานี้ระหว่างทุกฝ่าย
มิฉะนั้นแล้ว จะให้ผู้คนหลายร้อยล้านคนเป็นผู้รับผิดชอบแทนความผิดพลาดของวิหคหนามเสียเองเหรอ?
ต้องรู้นะว่าวิหคหนามน่ะอุดมไปด้วยความมั่งคั่ง แม้ว่าพวกเขาจะจ่ายออกไปมากกว่าเดิมหลายเท่า แต่ก็คงจะไม่น่ากังวลใดๆ
สีหน้าของนักรบเทพผ่อนคลายลง
เขาเหลือบมองไปทางตาเทพกับนักพรตเทพและพยักหน้าให้กัน
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าเองก็ไม่มีปัญหา” เทพนักรบกล่าว
ฝูงชนก็ตอบรับในทำนองเดียวกัน
หากทั้งสามเทพที่ทรงพลังที่สุดยอมรับแล้ว ทุกคนก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก
หนึ่งในปัญหาที่ยากเย็นที่สุดได้รับการแก้ไขแล้ว!
“ถ้าเช่นนั้นพวกเราจะถอนการติดตั้งเจ้าสิ่งนี้ได้อย่างไร?” บางคนเอ่ยถาม
“เป็นคำถามที่ดีนี่ แต่มันคงจะลำบากเกินไปหากจะต้องมาคอยสอนมันทีละคน ทีละคน ในเมื่อทางฝั่งพวกนายมีตั้งราวๆ แปดร้อยคน”
กู่ฉิงซานกลั้วลำคอและอธิบายให้ทุกคนฟัง “พวกนายทำตามที่ฉันบอกก็พอ จากนั้นก็จะสามารถถอนการติดตั้งได้ แล้วรออยู่ที่นี่นะ”
เขาฝืนยิ้มและกล่าวว่า “งานของฉันมันหนักหนามาก ฉันยังต้องรีบไปช่วยเหลือเหยื่ออีกหลายร้อยล้านคน เพื่อแก้ปัญหานี้”
“เข้าใจแล้ว ไหนว่ามาสิว่าจะให้ทำอะไร”
“เห็นด้านล่างซ้ายของหน้าต่างต้นกำเนิดไหม? มันจะมีปุ่มตัวอักษรคำว่า ‘ลบ’ ที่เป็นสีแดงอยู่”
“เมื่อพวกนายพยายามที่จะสัมผัสมัน นายจะได้รับคำเตือนว่าถ้ากดลบไปแล้ว ระบบจะทำการรีเซ็ตตัวเองทันที”
“แน่นอน ว่าไม่ต้องไปสนใจมัน และกดลบไปเลยโดยตรง มีอะไรเด้งแจ้งเตือนขึ้นมา ก็กดปฏิเสธไปเสีย”
ฝูงชนพยักหน้า
มันฟังดูง่ายจริงๆ
ท่ามกลางฝูงชน บางคนที่ใจร้อนทนไม่ไหว รีบทำตามที่เขาบอก
“เป็นไงบ้าง? มีใครได้ทดลองดูแล้วรึยัง?” กู่ฉิงซานเอ่ยถามขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม
ชายร่างโตคนหนึ่งยกมือขึ้นทันใดและกล่าวว่า “ฉันลองทำแล้ว และตอนนี้ในสายตาของฉันปลอดโปร่ง ไม่มีอะไรน่ารำคาญมาบดบังอีกแล้ว”
เมื่อมีคนเริ่ม ก็ย่อมต้องมีคนตามเช่นกัน
กู่ฉิงซานตะโกน “เอาล่ะ ถ้าเช่นนั้นก็จัดการกันเองแล้วกัน ส่วนฉันคงต้องรีบขอตัวไปก่อน”
ลอร่ากล่าวเสริม “หลังจากที่ออกไป ทางอาณาจักรวิหคหนามจะจ่ายค่าชดเชยสำหรับผู้ที่ถูกหลอกลวงและเหยื่อเพื่อแสดงถึงความเสียใจอย่างแน่นอน”
หลายคนขานรับคำของเธอ
กู่ฉิงซานพยักหน้าให้ทุกคน และนำลอร่าออกไปนอกตัววิหาร
คราวนี้ ไม่มีใครมากีดขวางทางพวกเขาอีกแล้ว
ผู้เข้าสู่วิถีมารได้แยกตัวออกเป็นสองฝั่ง ถอยหลีกให้พวกเขา
“ขอบคุณมาก”
“ขอบคุณที่นายมาช่วยพวกเรา”
“หลังจากออกไปข้างนอกได้ ไว้ฉันจะไปเยี่ยมเยือนที่สมาคมกำปั้นเหล็กนะ”
หลายคนแสดงทัศนคติที่ดีต่อเขา
กู่ฉิงซานตอบรับด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นเขาก็พาลอร่า และหายตัวไปจากทางเข้าวิหาร
พวกเขาได้จากไปแล้วจริงๆ
ภายในวิหาร คนแล้วคนเล่าได้ถูกปลดปล่อยออกจากต้นกำเนิด
เหลืออยู่น้อยคนนักที่ยังคงสงสัย แต่เมื่อเห็นว่าคนส่วนใหญ่สามารถประสบความสำเร็จในการถอนการติดตั้ง และมองกลับมายังคำแจ้งเตือนที่เด้งอย่างบ้าคลั่งบนหน้าต่างของตน ในหัวใจของพวกเขาก็เริ่มที่จะรู้สึกรำคาญ
หลังจากเฝ้ารอดูอยู่ครู่หนึ่ง ว่าคนอื่นๆ ที่ถอนการติดตั้งน่ะปลอดภัยจริงๆ ที่เหลืออีกไม่กี่คนสุดท้ายจึงค่อยทำตาม
และในที่สุด ทุกคนก็หลุดพ้นจากพันธนาการของต้นกำเนิด
“เอาล่ะ พวกเราจะรออยู่ที่นี่” นักรบเทพกล่าว
ทุกคนพยักหน้ารับคำ
ภายนอกตัววิหาร ท่ามกลางหิมะที่ปกคลุมหนาแน่น
กู่ฉิงซานยกตัวลอร่าขึ้นบนหลังม้า
“ท่านทั้งสองกำลังเร่งรีบ หรืออยากชมทิวทัศน์?” ม้าทมิฬเอ่ยถาม
“วิ่งไปเลย ลงไปทางตีนเขา” กู่ฉิงซานกล่าว
แล้วม้าทมิฬก็ควบสี่กีบ ทะยานลงจากภูเขาท่ามกลางสายลมหนาว
ระหว่างทาง ลอร่าก็ทนไม่ไหวต้องเอ่ยถาม “ถ้าเช่นนั้นตอนนี้”
“ชู่ว!” กู่ฉิงซานส่งสัญญาณให้เธอเงียบก่อนชั่วคราว
หลังจากเจ็ดถึงแปดนาทีต่อมา
เมื่อพวกเขาลงมาได้ครึ่งทางภูเขาแล้ว ก็บังเกิดเสียงกรีดร้องโหยหวนขึ้นจากตรงส่วนยอด
เสียงกรีดร้องคำรามนี้เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและสิ้นหวัง คล้ายกับว่าบางคนกำลังทุกข์ทรมานจากบทลงโทษจนมิอาจบอกบรรยายได้
สรรพเสียงนับไม่ถ้วนที่น่าพรั่นพรึง ร่ำไห้หมดหวัง ฟังจากมัน ราวกับว่าบนยอดภูเขาน้ำแข็งได้กลายเป็นนรกไปเสียแล้ว!
เสียงกรีดร้องครวญครางเริ่มดังขึ้น ดังขึ้นเรื่อยๆ จนสั่นสะท้านกังวานไปตลอดทั้งภูเขา
กู่ฉิงซานลดศีรษะลงและตั้งใจฟังมันอย่างระมัดระวังสักพัก
ท่ามกลางสายลมและหิมะ เขาได้เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มที่ดูโศกเศร้าเล็กน้อย
…………………………………..........