webnovel

Twilight memories : รักต้องห้ามชายาแวมไพร์

โคโกะ หนุ่มน้อยรูปงามผู้เติบโตมาด้วยความเกลียดชังในตัวแวมไพร์ เขาปฏิเสธทุกอย่างแม้กระทั่งสายเลือดที่อยู่ในตัวเองเฉกเช่นเดียวกับกลุ่มแวมไพร์ที่ปฏิเสธในตัวเขา ทว่าความงดงามของหนุ่มน้อยผู้นี้นั้นต่างสร้างความบ้าคลั่ง ความหลงใหลราวกับถูกมอมเมา เมื่อโตขึ้นเขาเลือกที่จะใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์ แต่เมื่อคืนเดือนมืดมาถึงในขณะที่เขากำลังปลูกต้นกุหลาบขาวนั้น เขาได้ถูกแวมไพร์ปริศนาฝังรอยเขี้ยวเอาไว้บนต้นคอ เลือดสีแดงสาดกระเซ็นลงบนกลีบกุหลาบสีพิสุทธิ์ การกระทำทุกอย่างผ่านไปเชื่องช้าราวกับเวลาถูกหยุด สิ่งสุดท้ายที่โคโกะสัมผัสได้ก่อนหมดสติคือน้ำเสียงนุ่มนวลชวนหลงใหลที่บอกราตรีสวัสดิ์กับเขา...

Starry_Alis · Fantasia
Classificações insuficientes
11 Chs

โคโกะ เบลินดา

สภากลาง คือ สภาสูงสุด มีอำนาจในการจัดการข้อพิพาทระหว่างเผ่าพันธุ์ ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดคือตัวแทนจาก 4 เผ่าพันธุ์ ตัวแทนจากเผ่าพันธุ์แวมไพร์ ได้แก่ แวมไพร์เลือดบริสุทธิ์ตระกูลเบรค มนุษย์หมาป่าเลือดบริสุทธิ์ตระกูลวูฟ พ่อมดแม่มดเลือดบริสุทธิ์ตระกูลเบนเนท และมนุษย์ตระกูลแกรนด์วิลด์ ทั้ง 4 จะถูกเรียกขานว่า 'ผู้ทรงสิทธิ์แห่งพันธะสัญญา' มีหน้าที่พิพากษาความขัดแย้งระหว่างเผ่าพันธุ์ รวมไปถึงเป็นประธานในการประชุมร่างพันธะสัญญาย่อยต่าง ๆ จึงสามารถกล่าวได้ว่าสภากลางนั้นมีอำนาจมากกว่าผู้ปกครองประเทศเสียอีก! และเพื่อรับรู้ความเป็นไปในแต่ละประเทศทางสภากลางจึงก่อตั้ง 'ทีมผู้สังเกตการณ์' ขึ้นมา ทีมผู้สังเกตการณ์จะถูกกระจายไปยังประเทศต่าง ๆ เพื่อสังเกตความเป็นไป และคอยรายงานกลับไปยังสภากลาง..

"ผู้สังเกตการณ์ ?" เด็กชายเอ่ยด้วยความสงสัย

"สามีของฉันเป็นผู้สังเกตการณ์ของประเทศโรมานา พวกเขามีหน้าที่รายงานสถานการณ์กลับไปยังสภากลาง" เมลินเอ่ยอธิบายตำแหน่งหน้าที่การงานของสามีให้เด็กชายฟัง

เมื่อได้ยินคำว่าสภากลาง เด็กชายลุกพรวดตั้งใจจะกระโดดหนีไปทางหน้าต่าง แต่ด้วยร่างกายที่อ่อนแอทำให้เขาถูกพ่อบ้านวัยกลางคนตะครุบจับกดลงบนพื้นได้อย่างไม่ยากเย็น เด็กชายพยายามขืนร่างตัวเองออกจากการจับกุม แต่ทุกอย่างไม่เป็นผล เขาแทบไม่มีเรี่ยวแรงเหลืออีกแล้ว

"จะส่งผมไปให้สภากลางสินะ ไม่ได้นะ ไม่ได้ สภากลางต้องฆ่าผมแน่ ๆ" เด็กชายเอ่ยเสียงดัง ดวงตาสีฟ้าอ่อนใสแสดงความหลาดกลัวอย่างปิดไม่มิด

"ใจเย็น ๆ ก่อนนะ" เมลินเอ่ยอย่างใจเย็น "พวกเราจะไม่ส่งเธอให้กับสภากลางแน่นอน ฉันสัญญา" น้ำเสียงอ่อนโยนทำให้เด็กชายหยุดดิ้น ดวงตาสีฟ้าอ่อนใสมองขึ้นมายังใบหน้าของเธอ

"มะ..ไม่จริง ไม่มีทาง" เด็กชายเอ่ยเถียงกลับอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน คนตรงหน้าบอกว่าที่นี่คือคฤหาสถ์ของผู้สังเกตการณ์ที่รายงานทุกสิ่งทุกอย่างต่อสภากลาง ไม่มีทางที่จะไม่รายงานเรื่องของเขา และหากสภารู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ต้องส่งคนมาตามฆ่าเขาเพื่อไม่ให้ความลับของฟาร์มเลือดถูกเปิดเผย

"พวกเราจะไม่รายงานเรื่องของเธอ" เสียงทุ้มต่ำเอ่ย เจ้าของเสียงเดินเข้ามายืนอยู่ด้านข้างภรรยา เขาย่อกายลงไปสบตากับเด็กชาย "นอกจากจะไม่รายงานแล้ว เราจะเลี้ยงเธอในฐานะลูกของพวกเรา"

"เป็นไปไม่ได้ มนุษย์เกลียดแวมไพร์ ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่" เด็กชายเอ่ยอย่างไม่ไว้วางใจ

"ฉันไม่ได้ต้องการอะไรจากเธอทั้งนั้น" บาร์ธาซ่าเอ่ย แต่เขาพูดความจริงเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะมันยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องบอกในตอนนี้

"โกหกรึเปล่า ? โกหกใช่ไหม" เด็กชายเอ่ยอย่างไม่ไว้วางใจ

"ฉันไม่ได้โกหก สัญชาตญาณของเธอคงจะรับรู้ได้ว่าหากฉันโกหก ฉันคงไม่พาเธอมาถึงที่นี่ สำหรับผู้สังเกตการณ์แล้วนั้นการฆ่าแวมไพร์ หรือเผ่าพันธุ์อื่น ๆ นั้นเป็นเรื่องง่ายดาย แต่ฉันเลือกที่จะไม่ทำ พูดถึงตรงนี้เธอคงเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้าง" บาร์ธาซ่าเอ่ยอธิบาย

"จะไม่ฆ่าจริง ๆ ใช่ไหม" เด็กชายเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือดั่งเดิม แต่เขาลดการต่อต้านลง ทำให้พ่อบ้านละมือ แล้วปล่อยให้เขาได้ยืนเอง ร่างบางยืนขึ้นด้วยอาการไม่มั่นคงจนบาร์ธาซ่าต้องเข้ามาช่วยประคอง

"แน่นอน ฉันขอสาบานในนามของผู้สังเกตการณ์ คมดาบของฉันจะไม่มีวันกรีดแทงลงบนผิวกายของเธอ" บาร์ธาซ่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น มั่นคง ทำให้เด็กชายไว้ใจเขาขึ้นมาบ้าง แต่ไม่ทั้งหมด "นับแต่นี้ไปเธอจะมีชื่อว่า 'โคโกะ เบลินดา' เป็นลูกชายบุญธรรมของฉัน เธอจะเติบโตมาอย่างมนุษย์ไม่ใช่แวมไพร์" ชายหนุ่มเอ่ย เขาระบายยิ้มออกมาออกมาอย่างอ่อนโยนเมื่อเห็นลูกชายบุญธรรมพยักหน้าพร้อมกับพึมพำชื่อใหม่ราวกับว่าต้องท่องจำให้ขึ้นใจ

"ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวเบลินดานะจ๊ะ โคโกะ" เมลินเอ่ยต้อนรับพร้อมกับสวมกอดโคโกะ

โคโกะแสดงอาการตกใจจนเผลอผละออกมาจากอ้อมกอดของเมลิน ใบหน้าของเขาแสดงอาการประหม่า มือเล็กเกาท้ายทอยด้วยอาการเขินอายพร้อมกับเอ่ยว่า

"ขอโทษครับ ผมไม่เคยได้รับอ้อมกอดมาก่อน" คำพูดของเขาเรียกเสียงหัวเราะจากทั้งบาร์ธาซ่าและเมลิน

"อีกหน่อยเดี๋ยวก็ชินเองนั่นละนะ" เมลินเอ่ยพร้อมกับลูบเส้นผมสีขาวของโคะโกะ "คุณเอ็ดการ์คะ พาโคโกะไปอาบน้ำที แล้วก็เตรียมเสื้อผ้าให้เขาด้วยนะคะ" เธอเอ่ยสั่งกับพ่อบ้านวัยกลางคน

"รับทราบครับ คุณผู้หญิง" พ่อบ้านเอ็ดการ์น้อมรับคำสั่ง เขาช่วยพยุงโคโกะเดินออกจากห้องพักไป

ซ่า..เสียงเทน้ำอุ่นจากถังไม้โอ๊คลงบนร่างเล็กของโคโกะ เด็กชายสะดุ้งโหยงเพราะสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับน้ำอาบที่ฟาร์มเลือด มือน้อย ๆ ลูบไปตามแขน เส้นผมยาวรุงรังสีขาวตกลงมาปกปิดใบหน้างดงาม

"น้ำเย็นเกินไปหรือครับ" พ่อบ้านเอ็ดการ์เอ่ยถามเมื่อเห็นปฏิกิริยาคล้ายคนหนาวสั่นจากบุตรบุญธรรมคนล่าสุดของเจ้านาย

"ปะ..เปล่าครับ มันอุ่น อุ่นมากจนไม่น่าเชื่อว่าจะได้มีโอกาสอาบน้ำอุ่นแบบนี้" โคโกะเอ่ยขณะวักน้ำในอ่างอาบน้ำหินอ่อนขึ้นมา ดูเหมือนคุณพ่อบ้านจะโปรยกลีบกุหลาบลงไปในน้ำด้วย ไม่น่าถึงส่งกลิ่นหอม "ผะ..ผมทำเองได้ครับ" เขาเอ่ยด้วยความตกใจเมื่อสัมผัสได้ถึงมือที่กำลังนวดลงบนศีรษะของเขา

"คุณหนูในตอนนี้ไม่มีเรี่ยวแรงหรอกครับ ให้กระผมทำดีกว่า" พ่อบ้านเอ็ดการ์เอ่ยปฏิเสธ และลงมือสระผมให้กับโคโกะ

โคโกะมองมืออันสั่นเทาของตัวเอง เขาเชื่อแล้วว่าเขาไม่ควรทำอะไรด้วยตัวเองจริง ๆ เขาปล่อยให้คุณพ่อบ้านเอ็ดการ์จัดการทำความสะอาดร่างกายของเขา แต่ไม่ว่าจะทำความสะอาดมากแค่ไหน ร่างกายของเขาก็โสมมอยู่วันยังค่ำ คุณบาร์ธาซ่าบอกว่าจะเลี้ยงดูเขาในฐานะมนุษย์ เพราะฉะนั้นเขาควรทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้ข้างหลัง แล้วเริ่มต้นใหม่ เขาจะไม่ใช่แวมไพร์อาหารที่ถูกเลี้ยงไว้เพื่อรอวันรีดเลือดไปหล่อเลี้ยงพวกแวมไพร์ เขาจะเป็นมนุษย์ผู้แสนงดงามในนามโคโกะ เบลินดา

10 ปีต่อมา

10 ปีผ่านไปโคโกะใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์มาโดยตลอด กินอาหารมนุษย์ ไม่ดื่มเลือด ใช้ชีวิตตอนกลางวัน นอนตอนกลางคืน พบปะสังสรรค์เพื่อนเผ่ามนุษย์ มาถึงตรงนี้แล้วคงมีเรื่องต้องแจ้งกระจ่างกันเล็กน้อย แวมไพร์กับมนุษย์นั้นมีลักษณะภายนอกเหมือนกันเกือบจะ 100% สิ่งที่บ่งบอกความแตกต่างระหว่างมนุษย์กับแวมไพร์คือเขี้ยว แต่คงไม่มีใครเดินไปบอกคนที่เดินเตร่ในเมืองให้อ้าปากออกเพื่อดูว่ามีเขี้ยวไหม เพราะฉะนั้นอีกสิ่งที่แยกระหว่างมนุษย์กับแวมไพร์ได้คือสีริมฝีปาก ริมฝีปากมนุษย์จะมีสีแดงฝาดเลือด ส่วนริมฝีปากของแวมไพร์จะมีสีคล้ำเนื่องจากเลือดของแวมไพร์เป็นสีดำ สำหรับโคโกะนั้นมีริมฝีปากสีคล้ำอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เขาเอาตัวรอดได้ด้วยการทาลิปสติกที่ผสมส่วนผสมพิเศษของดอกสตรีสีชาด ทำให้เปลี่ยนสีริมฝีปากจากคล้ำเป็นแดง เขาจึงดำเนินชีวิตในสังคมมนุษย์ได้ไม่ยากเย็น

"ช่วงนี้อ่านหนังสือดึกบ่อยจังเลยนะ" เสียงนุ่มนวลของบาร์ธาซ่าเอ่ยถามลูกชายบุญธรรมที่กำลังนั่งอ่านหนังสือประวัติศาสตร์เล่มหนา

"ใกล้สอบเข้าแล้วนี่ครับ ต้องเตรียมตัวสักหน่อย" โคโกะเอ่ย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาได้รับการศึกษาที่ดี มีครอบครัวสนับสนุน แน่นอนว่าเขาตั้งใจจะไม่ทำให้คุณพ่อบาร์ธาซ่าเสื่อมเสียชื่อเสียง

"อย่าหักโหมนักล่ะ พ่อไปอาบน้ำก่อนนะ ถ้าอ่านเสร็จแล้ว บอกพ่อบ้านให้ดับไฟด้วยล่ะ" บาร์ธาซ่าเอ่ยก่อนจะเดินออกจากห้องสมุดของคฤหาสถ์ไป

โคโกะพลิกหน้าหนังสือ เสียงกระดาษกรีดกับนิ้วของเขาดังอยู่ภายในห้องสมุดอันเงียบสงัด หน้าที่เขากำลังอ่านอยู่นั้นคือประวัติศาสตร์การปกครองของโรมานา แม้จะได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแวมไพร์ แต่โรมานาเป็นประเทศที่ปกครองโดยมนุษย์สายตระกูลอาเดลลี่ ตระกูลอาเดลลี่และญาตินั้นจึงมักจะโอ้อวดความภาคภูมิใจที่สามารถปกครองดินแดนแวมไพร์ได้ในนามมนุษย์

"ฮาว..สงสัยคงได้เวลานอนจริง ๆ ซะแล้ว" โคโกะเอ่ย เขาปิดหนังสือลงก่อนจะเดินไปบอกให้พ่อบ้านดับไฟห้องสมุด และส่วนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ใช้งาน

ขณะเดียวกันนั้นเอง

ค่ำคืนย่างเข้าสู่กลางดึกเด็กหนุ่ม ไม่สิ..ดูจากรูปร่างแล้วควรเป็นชายหนุ่มเสียมากกว่า เขาทอดสายตามองออกไปในท้องฟ้ายามรัตติกาล ดวงดาราพราวพร่างคู่กับจันทรา ช่างเป็นค่ำคืนที่สงบนิ่งเหมือนดั่งเสียงของเขา

"อีกไม่กี่วันต้องกลับไปแล้ว" ชายหนุ่มเอ่ย

"นั่นสินะ ที่นั่นห้ามพวกเรากัดคนในโรงเรียน แถมยังกำหนดเวลาเข้าออก หนทางที่จะดื่มเลือดริบหรี่เข้าไปทุกที ให้ตายสิ" เพื่อนของชายหนุ่มเอ่ยขณะมองสมุดโน๊ตในมือ บนหน้ากระดาษมีเส้นสีดำขีดทับไปมา เขาขีดทับตัวเลือก 'ออกจากโรงเรียน' ทิ้ง เพราะทางโรงเรียนกำหนดเวลาเข้าออกชัดเจน คงไม่สามารถปลีกตัวออกมาหาเลือดได้ อีกอย่างมันสุ่มเสียงที่จะถูกจับได้

"ร้านบริการเลือดพร้อมดื่ม" เสียงเนิบนาบของชายหนุ่มที่ทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่างเอ่ย

"จริงด้วย ฉันลืมไปได้ยังไงนะ แต่ว่าถ้าให้ทางนั้นส่งมา อาจจะเสี่ยงนะ" เพื่อนของเขาเอ่ยขณะเคาะปลายดินสอลงบนหน้ากระดาษ

"นายลืมไปแล้วเหรอว่าเรามีกลุ่มเลทเทอร์เรีย" ชายหนุ่มเอ่ย "ถึงจะเป็นบริการเอกชนที่ไม่ยอมขึ้นตรงกับใครเป็นพิเศษ แต่พวกเขาไม่ปฏิเสธเรื่องเงิน"

"สุดยอดเลย! ฉันลืมนึกไปได้ยังไงนะ พรุ่งนี้ฉันจะติดต่อเลทเทอร์เรียเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายเองก็เถอะกลับไปโรงเรียนคราวนี้ช่วยมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นซะบ้างนะ" เพื่อนของชายหนุ่มเอ่ยทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะออกจากห้องไป

ชายหนุ่มมองนาฬิกาพกสีทองในมือของตัวเอง เข็มนาฬิกาเดินไปอย่างช้า ๆ เขาปิดฝามันลงก่อนจะวางมันไว้บนเตียง ในหัวนึกถึงภาพในอดีตที่เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อน ดวงตาสีฟ้าอ่อนใส ใบหน้างดงาม เสียงร้องยามเมื่อเขี้ยวของเขาเจาะทะลุลำคอ นานแล้วที่เขาไม่ได้พบแวมไพร์อาหารที่มีเลือดรสชาติอร่อยเท่าครั้งนั้นมาก่อน จวบจนตอนนี้ยังลืมไม่ได้ ไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว..

กลับมาอัพแล้วค่ะ >O< แอบเปิดชายหนุ่มปริศนา เขาเป็นใครกันเอ่ย รีดเดอร์เดากันได้นะคะ แฮะ ๆ แต่พวกเขาจะมีบทบาทในอนาคตแน่นอนค่ะ ไม่ต้องห่วง เรื่องนี้น้องโคโกะบอกเลยว่าสู้คนสุดพลังค่ะ เขียนไปสนุกไปกับน้องมาก ๆ ตรงนี้แล้วไรท์เตอร์จะตอบคำถามว่าทำไมปากคนเป็นสีแดง เพราะบริเวณริมฝีปากเราผิวบางมากจนเห็นเส้นเลือดนั่นเองค่ะ สำหรับวันนี้ขอให้สนุก แล้วเจอกันใหม่ค่า เลิฟยูวว >3

Starry_Aliscreators' thoughts