webnovel

Twilight memories : รักต้องห้ามชายาแวมไพร์

โคโกะ หนุ่มน้อยรูปงามผู้เติบโตมาด้วยความเกลียดชังในตัวแวมไพร์ เขาปฏิเสธทุกอย่างแม้กระทั่งสายเลือดที่อยู่ในตัวเองเฉกเช่นเดียวกับกลุ่มแวมไพร์ที่ปฏิเสธในตัวเขา ทว่าความงดงามของหนุ่มน้อยผู้นี้นั้นต่างสร้างความบ้าคลั่ง ความหลงใหลราวกับถูกมอมเมา เมื่อโตขึ้นเขาเลือกที่จะใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์ แต่เมื่อคืนเดือนมืดมาถึงในขณะที่เขากำลังปลูกต้นกุหลาบขาวนั้น เขาได้ถูกแวมไพร์ปริศนาฝังรอยเขี้ยวเอาไว้บนต้นคอ เลือดสีแดงสาดกระเซ็นลงบนกลีบกุหลาบสีพิสุทธิ์ การกระทำทุกอย่างผ่านไปเชื่องช้าราวกับเวลาถูกหยุด สิ่งสุดท้ายที่โคโกะสัมผัสได้ก่อนหมดสติคือน้ำเสียงนุ่มนวลชวนหลงใหลที่บอกราตรีสวัสดิ์กับเขา...

Starry_Alis · Fantasia
Classificações insuficientes
11 Chs

รั้วโรงเรียน 2 เผ่าพันธุ์

วันเดินทางมาถึง รถม้าเทียมด้วยยูนิคอร์นสีดำจอดอยู่หน้าคฤหาสถ์เบลินดา ปลายทางของการเดินทางคือเมืองเรสซูเน่ สถานที่ตั้งของโรงเรียนชายล้วนไบรอันนา โคโกะสวมกอดคุณพ่อคุณแม่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะต้องไปใช้ชีวิตเด็กหอร่วมกับนักเรียนคนอื่น ๆ อีกหลายร้อยชีวิต รวมไปถึงแวมไพร์แสนน่ารังเกียจในความคิดของเขา ร่างบางก้าวขึ้นรถม้า พ่อบ้านการ์ดเนอร์ปิดประตูลงตามหลัง เสียงฝีเท้าของยูนิคอร์นควบไปด้านหน้า เด็กหนุ่มโบกมือลาครอบครัวเป็นครั้งสุดท้าย คู่สามีภรรยาเบลินดายืนส่งลูกชายจนรถเทียมหายลับไปจากครรลองสายตา รอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าทั้งคู่ค่อย ๆ เลือนหายไป

"วันนี้คุณต้องเข้าประชุมกับรัฐสภาใช่ไหมคะ" เมลินเอ่ย "ถ้าอย่างนั้นฉันจะเข้าร่วมประชุมกลุ่มเอง"

"ขอโทษที่ทำให้ต้องลำบากนะ เมลิน" บาร์ธาซ่าเอ่ยด้วยความเป็นห่วงในตัวภรรยา

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เพื่อประเทศโรมานา..ฉันทำได้เสมอ" เมลินเอ่ยก่อนจะเดินตามผู้เป็นสามีกลับเข้าคฤหาสถ์เบลินดาไป

ทุกวันที่ 1 เมษายนคือวันเปิดภาคเรียนของโรงเรียนไบรอันนาทั้งโรงเรียนชายล้วนและหญิงล้วน รถเทียมด้วยสัตว์พาหนะที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นยูนิคอร์น เพกาซัส ไทเกอร่า วูแฟง หมีโพลาร์ กริฟฟิน หรือแม้แต่สัตว์ดุร้ายอย่างฮิปโปกริฟฟ์ เสียงร้องของสัตว์พาหนะทั้งหลายดังกระหึ่มไปทั่วลานด้านหน้าโรงเรียนไบรอันนา นักเรียนหลากหลายชั้นปีทยอยลงจากรถม้า และไปยังตามสถานที่ที่ระบุไว้ในกำหนดการ สำหรับนักเรียนเผ่ามนุษย์ที่เข้ามาใหม่ในปีนี้นั้นจะต้องรออยู่ที่ลานฟอนตานา สวนกว้างขนาดใหญ่ มีน้ำพุบ่อใหญ่อยู่ตรงกลาง ภายในสวนยังแบ่งย่อยสวนเล็ก ๆ อีกสองสวนที่มีบ่อน้ำเล็ก ๆ ไว้ปลูกพืชน้ำ

โคโกะก้าวลงจากรถ เขาหยิบกระเป๋าเสื้อหนังใบใหญ่สีน้ำตาล กล่องหนังสือที่บรรจุตำราเรียนและอุปกรณ์การเรียน และสารพัดอาหารที่คุณแม่เตรียมมาให้ เขาเห็นว่านักเรียนคนอื่น ๆ ต่างมีรถลากขนาดเล็กสำหรับขนย้ายสิ่งของในลักษณะเดียวกัน นั่นหมายความว่านี่เป็นรถลากของทางโรงเรียน เขากวาดสายตาหาไปทั่วบริเวณจนในที่สุดก็พบกับป้ายเขียนว่า 'รถลากสำหรับนักเรียน' เขาจึงรีบตรงดิ่งไปหามันทันที ทว่าชั่วขณะที่มือจับราวของรถลากได้นั้นมือของใครบางคนจับได้พร้อมกัน

"นาย!" โคโกะเอ่ยด้วยความแปลกใจเมื่อพบกับเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลทองทรงประหลาดตา เจ้าของดวงตาสีชมพู

"ไง นายสอบติดเหมือนกันสินะ ไม่สิ..นายสอบติดอยู่แล้ว" เอลีนเอ่ยราวกับไม่แปลกใจที่เห็นโคโกะยืนอยู่ตรงนี้ "ฉันน่ะโชคช่วยสุด ๆ ไปเลย กามั่วไปหลายข้อ ใครจะคิดว่าผ่านกัน อ๊ะ..นายกำลังจะใช้รถลากสินะ ใช้ด้วยกันไหม เหลือคันสุดท้ายพอดี เดี๋ยวฉันลากให้"

"อา..อืม ขอบใจนะ" โคโกะเอ่ยขณะเดินตามเอลีนที่กำลังลากรถลาก

"ที่บ้านฉันน่ะนะชอบครอบครัวนายมากเลยล่ะ เพราะเป็นคนที่งัดข้อกับพวกคนใหญ่คนโตได้ ฉันตั้งใจสอบเข้ามาโรงเรียนนี้เพราะอยากเจอนาย ฉันได้ยินมาตลอดนะเรื่องที่นายเป็นตัวแทนเมืองรามานี่ไปแข่งขันหลายรายการ ได้รางวัลระดับประเทศกลับมา" เอลีนเอ่ยขณะขนกระเป๋าตัวเองขึ้นรถลาก "ถึงจะฟังดูแปลก ๆ แต่ฉันเป็นแฟนคลับนายเบอร์ต้น ๆ เชียวนะ" เขาเอ่ยด้วยท่าทีภูมิใจขณะลากรถลากตามมา

"ฮ่ะ ๆ นายตลกชะมัดเลย" โคโกะหัวเราะออกมา ไม่บ่อยนักที่เขาจะหัวเราะ ใครจะไปคิดว่าตัวเองจะมีแฟนคลับคอยติดตามทั้งที่ไม่ใช่ดารานักร้อง เขาไม่ใช่คนชอบออกงานสังคมสักเท่าไหร่ อีกทั้งเรื่องการแข่งขันที่เอลีนว่ามานั้นเขาแทบไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ ว่ากันตามความจริงเขาแทบไม่เปิดเผยข้อมูลของตัวเอง อีกทั้งข้อมูลหลายอย่างที่ถูกบันทึกเป็นประวัติปลอมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างแนบเนียน เพราะฉะนั้นเขาถึงบอกว่ามันตลก..ตลกที่เด็กหนุ่มธรรมดาสนอกสนใจในข้อมูลที่มีทั้งคำลวงและคำจริง

"อย่าหัวเราะสิ" เอลีนเอ่ยด้วย ใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ เขาหนีไปสนใจยกกระเป๋าโคโกะขึ้นรถลาก "ว่าแต่กำหนดการมีอะไรบ้างนะ" เขาเอ่ยถามโคโกะ

"เวลา 8 โมงครึ่งจะมีคนมาอธิบายเกี่ยวกับระบบหอพัก แนะนำอาจารย์ที่ปรึกษา แนะนำระบบการเรียน จากนั้นแยกย้ายเข้าหอ แล้วมาเจออาจารย์ที่ปรึกษาอีกทีในเวลาบ่ายโมงครึ่ง เขามีกำหนดการมาให้ ของนายไปไหนซะละ" โคโกะเอ่ยถาม เขามั่นใจว่าทางโรงเรียนส่งกำหนดการให้ผู้ที่สอบผ่านทุกคน เขาเชื่อว่าอย่างน้อยต้องได้อ่านผ่านตากันมาบ้าง

"ฉันทำมันหายตอนไปซื้อหนังสือน่ะสิ ตอนนั้นกลัวว่าจะเตรียมของขาดเลยถือทั้งรายการของและกำหนดการไปด้วย แต่ฉันดันทำกำหนดการร่วงหาย จำได้แค่ว่าต้องมาให้ถึงโรงเรียนวันนี้ ตอนฉันมาถึงประตูรั้วโรงเรียนยังไม่เปิดด้วยซ้ำ ร้านค้าแถวนี้เพิ่งจะเปิดไม่กี่ร้าน ฉันไปนั่งเล่นรอประตูรั้วเปิด แต่พอจะเข้ามาด้านในดันติดพวกรถเทียมของคนอื่น ไหนจะต้องคอยถามทางอีกว่าต้องไปตรงไหน กว่าจะหาคนรู้จักลานฟอนตานาได้ฉันเดินวนอยู่หน้าประตูหลายรอบทีเดียว" เอลีนเอ่ยด้วยสีหน้าเหนื่อย ๆ ถ้าเขาไม่ทำใบกำหนดการนั่นหายคงจะดี คงไม่ต้องแหกขี้ตาตื่นมาตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่โผล่ และรีบเร่งหาพาหนะที่จะมาถึงที่นี่ในราคาที่ทางครอบครัวจ่ายไหว

วุบ..ในขณะที่บทสนทนาระหว่างเอลีนและโคโกะกำลังจะดำเนินต่อลมวูบหนึ่งพัดรวมตัวกันกลายเป็นลมพายุลอยคว้างกลางอากาศ เมื่อกระแสลมอ่อนตัวจนหยุด ร่างของชายวัยกลางคนผู้มีเรือนผมสีขาวแซมครามสวมชุดสีเหลืองบัตเตอร์มิลค์เสื้อคอเต่าสีแดงโกเมน บนหัวมีช่อมะกอกสวมเอาไว้ เขากำลังยืนอยู่กลางอากาศ ด้านหน้ามีแท่นโพเดียมที่ลอยอยู่เช่นกัน

"ยินดีที่ได้รู้จักนักเรียนชั้นแลนเฌียนทั้งหลาย ตั้งแต่นี้ต่อไปพวกเธอเป็นนักเรียนของโรงเรียนไบรอันนาโดยสมบูรณ์แบบ การศึกษานั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมันจะติดตัวเราไปจนวันตายและเป็นเครื่องมือในการเลี้ยงชีพไม่ให้อดอยาก เอาละ..ครูขอแนะนำตัวอีกครั้้ง ครูชื่อเนโร เนราเฟอรี่ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนชายล้วนไบรอันนา ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย หากมีปัญหาต้องการคนรับฟังเชิญมาที่ห้องพักขอครูได้" เนโรกล่าวแนะนำตัว เมื่อจบประโยคลมพายุที่พัดในตอนแรกพัดมาอีกระลอก ร่างของเนโรพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอย แต่ยังคงแท่นโพเดียมค้างกลางอากาศ จากนั้นมีหญิงวัยกลางคนค่อนไปทางชราผมสีน้ำตาลวอลนัทรวบเป็นมวย สวมเสื้อครุยตัวยาวสีเขียวต้นสนเดินมาที่โพเดียมกลางอากาศ เธอเคาะนิ้วลงบนไมโครโฟน 2 - 3 ทีก่อนจะเอ่ยว่า

"สวัสดีนักเรียนชั้นแลนเณียน ครูชื่อเวลก้า วาลองก้า จะมาอธิบายเกี่ยวกับการแบ่งห้อง และระบบการเรียน ก่อนอื่นขอให้พวกเธอแบมือออก" มาสเตอร์เวลก้าเอ่ย เธอโบกไม้กายสิทธิ์ในมือไปซ้ายทีขวาที บัตรสีทองหล่นลงมาบนมือของนักเรียนชั้นแลนเฌียนทุกคนที่อยู่ ณ ลานฟอนตานา เมื่อกวาดสายตามองว่าทุกคนได้รับบัตรสีทองหมดแล้วนั้น มาสเตอร์จึงเอ่ยต่อว่า "บัตรที่อยู่ในมือพวกเธอคือบัตรนักเรียน บัตรนี้จะบอกหมายเลขห้องเรียน หมายเลขห้องพัก และชั้นเรียน ทางโรงเรียนใช้การสุ่มในการจัดหอพัก ห้องเรียน และเพื่อนร่วมห้อง 100% หากพวกเธอมีปัญหากับเพื่อนร่วมห้อง สามารถแจ้งทำเรื่องขอเปลี่ยนได้ แต่ขอเตือนว่าขั้นตอนนั้นยุ่งยากมาก เพราะต้องหาคนที่พร้อมจะเปลี่ยนเพื่อนร่วมห้องในเวลาเดียวกัน เพราะฉะนั้นพยายามปรับตัว อะไรโอนอ่อนกันได้ ก็อย่าถือสากัน ต่อมาคือห้องเรียน..ปีนี้เราจะแบ่งเป็นทั้งหมด 4 ห้องด้วยกัน พวกเธอรู้ไหมว่าทำไมพวกเราถึงต้องแบ่งห้องกัน"

"เพราะว่าจำนวนนักเรียนที่ผ่านในปีนี้มีทั้ง 120 คนครับ ซึ่งเป็นจำนวนที่มากเกินไปหากให้มาสเตอร์คนใดคนหนึ่งดูแลเพียงคนเดียว" ลูเซียโน่ โอดิน เด็กชายเรือนผมสีทอง ดวงตาสีเขียวเอ่ยตอบฉะฉาน

"ดีมาก คุณตอบได้ถูกต้อง แต่ถูกเพียงครึ่งเดียว ที่เราต้องแบ่งห้องออกเป็น 4 ห้อง เพราะพวกเธอจะต้องไปเรียนรู้ และฝึกงานที่ต่างประเทศในชั้นโบโซนิดและโรชชิงตามกฎของกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อขึ้นชั้นออทโท..พวกเธอต้องสอบหลักสูตรมือปราบ หรือผู้ใช้เวทมนตร์ด้านแวมไพร์ หรือสาขาอื่น ๆ ที่แตกแขนงแยกย่อยที่เปิดรับให้มนุษย์สอบเข้า" มาสเตอร์เวลก้าเอ่ยอธิบายให้เข้าใจอย่างง่ายดาย "เอาละ ตอนนี้ขอให้พวกเธอทุกคนดูหมายเลขห้องเรียนบนบัตรนักเรียน ใครอยู่ห้อง 1 ให้เดินขึ้นไปทางทิศเหนือ ใครอยู่ห้อง 2 ให้เดินลงไปทางทิศใต้ ใครอยู่ห้อง 3 ให้เดินไปทางทิศตะวันออก และใครที่อยู่ห้อง 4 ให้เดินไปทางทิศตะวันตกที่ปลายทางจะมีครูที่ปรึกษารออยู่"

"นี่ ๆ โคโกะ นายอยู่ห้องไหนน่ะ" เอลีนกระซิบถาม เนื่องจากลานฟอนตานานั้นมีเสียงดังกระหึ่มจากนักเรียนชั้นแลนเฌียนที่ทยอยเดินไปตามทิศที่มาสเตอร์เวลก้าบอก

"ห้อง 4 แล้วนายล่ะ" โคโกะเอ่ยพร้อมกับยื่นบัตรนักเรียนสีทองให้เอลีนดู

"ห้องเดียวกัน โอ้..พวกเราเป็นรูมเมทกันด้วย" เอลีนเอ่ยด้วยความดีใจเมื่อเห็นหมายเลขทั้งของห้องเรียนและห้องพักเป็นหมายเลขเดียวกัน อะไรจะช่างเหมาะเจาะถึงเพียงนี้

"โคโกะอาจจะเป็นคนเฉื่อย ๆ เอลีนอย่าเพิ่งเบื่อก่อนแล้วกัน" โคโกะเอ่ยด้วยท่าทีทีเล่นทีจริง เขาเป็นคนเฉื่อย ไม่ค่อยกระตือรือร้นมากเท่าไหร่นักหากไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวพันกับความลับของตัวเองและครอบครัว

"ไม่หรอก แค่ได้อยู่กับคนดังอย่างนาย ทุกอย่างก็น่าสนุกไปหมดทั้งนั้นแหละ" เอลีนเอ่ยด้วยท่าทีร่าเริง "พวกเราต้องไปทางทิศตะวันตกแล้ว รีบกันหน่อยเถอะ เดี๋ยวเราจะไม่รู้ว่าได้ใครเป็นครูที่ปรึกษา" เขาเอ่ยพร้อมกับลากรถลากให้ ส่วนโคโกะเดินตามเงียบ ๆ

ณ ยอดปราสาทสูงอันเป็นสถานที่เรียนของเหล่าแวมไพร์ ปราสาทนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกของลานฟอนตานา เด็กหนุ่มผมสีแดงมะฮอกกานีตัดแต่งอย่างทันสมัย เจ้าของดวงตาสีม่วงนั่งอยู่บนชั้นบนสุดของปราสาท เขานั่งไขว่ห้างทอดสายตามองไปยังนักเรียนชั้นแลนเฌียนที่เข้ามาใหม่ เขาได้กลิ่นอันหอมหวานพัดลอยมากับสายลม เขาพยายามจับจ้องไปยังเจ้าของกลิ่นนั้น แต่ท่ามกลางนักเรียนเผ่ามนุษย์ที่มากมาย เขาไม่สามารถแยกแยะได้เลยว่าเจ้าของกลิ่นคือใคร รู้เพียงว่ามันทั้งหอมหวาน ทั้งยั่วเย้าให้ลิ้มลอง

"ดูเหมือนต้องฝึกอีกเยอะเลยนะตัวเรา" เด็กหนุ่มเอ่ยก่อนจะเดินหันหลังลงไป เส้นผมสีมะฮอกกานีลู่ไปตามสายลม

โคโกะที่กำลังเดินตามเอลีนอยู่นั้นหันขวับกลับมามองไปทางด้านหลัง เขาได้กลิ่น..กลิ่นของพวกแวมไพร์ลอยมาตามสายลม จะว่าไปวันนี้เป็นวันเปิดเทอม พวกแวมไพร์หน้าใหม่ที่เข้ามาเรียนคงจะต้องรวมตัวกันเหมือนอย่างที่พวกเขาทำ แต่กลิ่นที่ลอยมานั้นกลับบางเบาเกินกว่าที่จะเป็นกลิ่นจากกลุ่มแวมไพร์ แสดงว่าเมื่อสักครู่ก่อนหน้ามีแวมไพร์อยู่ที่ปราสาทด้านหลังเขาเพียงตนเดียว

"เฮ้! โคโกะ ถ้าไม่รีบ เดี๋ยวสายนะ" เอลีนหันมาตะโกนเร่งโคโกะที่เริ่มทิ้งระยะห่างจากเขา

"ไปเดี๋ยวนี้ละ" โคโกะหันไปตะโกนบอกกลับก่อนจะรีบสาวเท้าตามไป

หอพักของนักเรียนเผ่ามนุษย์มีทั้งหมด 4 หอพัก ได้แก่ หอพักบราน พอพักคอร์วิน หอพักเพเลส หอพักเบรียเท่นหอพักทั้งสี่ตั้งเป็นมุมสี่เหลี่ยมโดยทางออกของทุกหอพักจะตรงเข้ามาจุดตรงกลาง ซึ่งเป็นที่ตั้งรูปปั้นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์อาเดลลี่ผู้สามารถโค่นอำนาจแวมไพร์ แล้วปกครองทั้งมนุษย์และแวมไพร์ นามนั้นคืออีธาน อาเดลลี่ คอนเซปต์ของการสร้างหอพัก 4 ทิศ และทางออกมุ่งตรงมายังรูปปั้นกษัตริย์อีธานคือทุกถนนล้วนสร้างขึ้นโดยปฐมกษัตริย์ผู้นี้

โคโกะและเอลีนอยู่หอพักเพเลส หอพักเพเลสเป็นปราสาทอิฐทึบสีเขียวแก่ อายุเกือบ 1000 ปี สร้างเลียนแบบปราสาทสมัยยุคกลาง ทว่าภายในกลับมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เด็กนักเรียนจะจับคู่ 2 คนต่อ 1 ห้อง ภายในห้องมีห้องน้ำในตัว อีกทั้งยังเป็นผนังเก็บเสียง ทำให้ใครก็ตามที่ชอบเล่นดนตรีถูกใจเป็นที่สุด แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นย่อมต้องเป็นเอลีน

เด็กหนุ่มดีดกีตาร์โปร่งสีน้ำตาลที่ตัวเองพกมาจากบ้าน เสียงใสของกีต้าร์ทำให้มือที่กำลังจัดชั้นในของโคโกะหยุดกึก ดวงตาสีฟ้าอ่อนใสหันมามองเอลีนที่ตอนนี้กำลังปรับจูนเครื่องดนตรี ถึงแม้จะได้ชื่อว่าเป็นเด็กที่เรียนดี กีฬาเด่น แต่มีสิ่งหนึ่งที่โคโกะไม่ถนัดคือการเล่นดนตรี เขาพอจะดีดเปียโนได้บ้าง แต่ถ้าหากเป็นเพลงคงจะลำบากไม่น้อย แต่กระนั้นเขาเป็นคนชอบฟังเพลงคนหนึ่ง เมื่อรู้ว่าเพื่อนร่วมห้องเล่นดนตรีได้ เขาจึงลังเลที่จะปรบมือให้

"ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ นายปรบมือทำไม" เอลีนเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงง เขาแค่ปรับสาย และลองเทสต์เสียงเท่านั้น แต่โคโกะกลับปรบมือให้ราวกับว่าเขาได้บรรเลงเพลงอันไพเราะจบ

"โคโกะน่ะนับถือคนเล่นดนตรีได้" โคโกะเอ่ยตอบด้วยแววตาเปล่งประกาย เขาเอ่ยต่อว่า "เพราะโคโกะไม่มีความสามารถด้านนี้"

"อุ๊บ..ฮ่า ๆ" เอลีนขำก๊ากออกมาทำเอาโคโกะมีสีหน้ามุ่ยลงทันที "โทษที ฉันไม่นึกว่าเธอจะเล่นดนตรีไม่ได้" เขารับรู้มาตลอดว่าโคโกะเป็นเด็กเรียนดีกีฬาเด่น แต่ไม่ยักกะรู้ว่าหนุ่มน้อยผู้เพรียบพร้อมจะมีเรื่องที่ไม่สามารถทำได้อยู่

"อย่าล้อกันสิ" โคโกะเอ่ยพร้อมกับศอกเข้าท้องของเอลีนเข้าให้จนเจ้าตัวร้องโอยออกมา

"ศอกหนักชะมัด เอาอย่างนี้เพื่อเป็นการตอบแทนที่เเธอเคยพาฉันไปกินข้าวที่บ้าน ฉันจะร้องเพลงให้เธอฟังจนกว่าจะถึงเวลารวมตัว" เอลีนเอ่ย เมื่อเห็นดวงตาสีฟ้าอ่อนใสของโคโกะเปล่งประกาย เขาจึงลอบยิ้มออกมา นิ้วของเขากรีดลงบนสายกีต้าพร้อมกับเสียงทุ้มแสนมีเสน่ห์เปล่งเสียงร้องเพลงออกมา

ณ ตรอกอันมืดมิดไร้ซึ่งผู้คน บนพื้นเต็มไปด้วยน้ำนองอันแสนสกปรกจากเครื่องปรับอากาศ ผนังที่หันเข้าหากันเต็มไปด้วยตะไคร้น้ำที่เกิดจากความชื้น ชายหนุ่มร่างใหญ่สวมเสื้อฮู้ดสีดำสนิท ในมือมีซองเอกสารซองใหญ่และหนา เขาเดินไปยังกำแพงอิฐก่อนจะเอามือทาบ ลำแสงสีดำเกิดบนมือของเขา ทันใดนั้นผนังอิฐแดงที่เรียงตัวกันไม่สวยงามเคลื่อนย้ายสลับไปมากลายเป็นทางลงอันมืดมิด เขาแบมือออกดวงไฟสีน้ำเงินปรากฎบนมือของเขา มันช่วยส่องสว่างพาเขามายังห้อง ๆ หนึ่ง บานประตูเปิดออกโดยที่เขายังไม่ทันได้สัมผัสราวกับว่ารู้ถึงการมาเยือนของเขา ประตูปิดตามหลังทันทีเมื่อเท้าของเขาเหยียบลงบนพรมลวดลายสัญลักษณ์องค์กรที่ทำหน้าที่ส่งมอบของทุกสิ่งโดยไม่เกี่ยงว่าจะถูกหรือผิดกฎหมาย ชายหนุ่มผมสีเหลืองข้าวโพดปาดเจลเรียบแป้นั่งพาดเท้าบนโต๊ะที่ถูกจัดอย่างมีระเบียบ

"ผมนำรายชื่อมาให้แล้วครับ" ชายร่างยักษ์เอ่ยอย่างนอบน้อมพร้อมกับวางซองเอกสารบนโต๊ะ

"ขอบคุณมาก" ชายหนุ่มผมสีเหบืองข้าวโพดเอ่ย เขาฉีกเปิดซองเอกสาร แล้วหยิบเอกสารปึกหนาออกมา เขากวาดตาคร่าว ๆ ก่อนจะหยุดอยู่ที่หน้า ๆ หนึ่ง รอยยิ้มปรากฎบนริมฝีปาก เขาดึงกระดาษใบนนั้นออกมาส่งให้ชายร่างยักษ์

"ส่งอุปกรณ์ไปให้เขาพร้อมบอกว่ายินดีต้อนรับสู่เลทเทอร์เรีย"

หายไปนานเพราะไปหาข้อมูลมาค่ะ เรื่องนี้ตอนแรกอาจจะดู slice of life แต่มันมี coming of age และอีกมากมายค่ะ ขอบคุณสำหรับยอดวิวที่พุ่งพรวดมาก ๆ ทำให้มีกำลังใจแต่งทุกวันเลยค่ะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ

Starry_Aliscreators' thoughts