webnovel

Twilight memories : รักต้องห้ามชายาแวมไพร์

โคโกะ หนุ่มน้อยรูปงามผู้เติบโตมาด้วยความเกลียดชังในตัวแวมไพร์ เขาปฏิเสธทุกอย่างแม้กระทั่งสายเลือดที่อยู่ในตัวเองเฉกเช่นเดียวกับกลุ่มแวมไพร์ที่ปฏิเสธในตัวเขา ทว่าความงดงามของหนุ่มน้อยผู้นี้นั้นต่างสร้างความบ้าคลั่ง ความหลงใหลราวกับถูกมอมเมา เมื่อโตขึ้นเขาเลือกที่จะใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์ แต่เมื่อคืนเดือนมืดมาถึงในขณะที่เขากำลังปลูกต้นกุหลาบขาวนั้น เขาได้ถูกแวมไพร์ปริศนาฝังรอยเขี้ยวเอาไว้บนต้นคอ เลือดสีแดงสาดกระเซ็นลงบนกลีบกุหลาบสีพิสุทธิ์ การกระทำทุกอย่างผ่านไปเชื่องช้าราวกับเวลาถูกหยุด สิ่งสุดท้ายที่โคโกะสัมผัสได้ก่อนหมดสติคือน้ำเสียงนุ่มนวลชวนหลงใหลที่บอกราตรีสวัสดิ์กับเขา...

Starry_Alis · Fantasia
Classificações insuficientes
11 Chs

จดหมายจากไบรอันนา

ครอบครัวบาร์เบอร์มาร่วมรับประทานอาหารเย็นกับครอบครัวเบลินดาที่คฤหาสถ์ ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นที่ได้พบกับคู่สามีภรรยาที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ ของโรมานา คนที่ตื่นเต้นที่สุดคงไม่พ้นเอลีน เขานั่งหลังตรง มือทั้งสองข้างสั่นเทาน้อย ๆ ดวงตาไม่กล้าสบกับเจ้าของบ้าน จะให้กล้าได้ยังไงกันเล่า..เขาน่ะชื่นชมท่านบาร์ธาซ่าและท่านเมลินมาเนิ่นนาน ทั้งสองท่านเป็นแรงบันดาลใจให้เขาอยากสอบเข้าโรงเรียนไบรอันนาเชียวนะ เพราะทั้งสองต่างเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนนี้

"ครอบครัวของคุณเป็นช่างทำผมนี่เอง ฉันอยากให้พวกคุณช่วยออกแบบทรงผมให้ฉันจังเลยค่ะ" เมลินเอ่ยด้วยท่าทีสนใจเมื่อทราบว่าครอบครัวของแขกผู้มาเยือนเป็นช่างทำผม

"แต่ว่าพวกเราเป็นร้านเล็ก ๆ แถมไม่มีชื่อเสียงนะคะ" เอเลน่า บาร์เบอร์ ผู้เป็นแม่เอ่ยด้วยท่าทีนอบน้อม เธอไม่กล้าคิดกล้าฝันว่าจะมีวันที่ได้ออกแบบทรงผมให้ชนชั้นสูงมาก่อน อีกอย่างทรงผมของชนชั้นสูงแตกต่างจากทรงผมทั่วไป ต้องใช้เทคนิคขั้นสูงบวกกับเครื่องประดับราคาแพง ซึ่งแน่นอนว่าร้านทำผมเล็ก ๆ ของครอบครัวเธอนั้นคงไม่สามารถหาเครื่องประดับราคาแพง หรือสามารถทำผมด้วยเทคนิคชั้นสูงได้

"ไม่เห็นจะเป็นปัญหาเลยนี่คะ ฉันเองก็ไม่ได้ชอบทรงผมเกล้าสูงสักเท่าไหร่" เมลินเอ่ย หลายครั้งที่เธอรู้สึกปวดคอแทนให้กับชนชั้นสูงที่ต้องแบกทั้งรัฟฟ์ ทั้งวิกผม "อีกอย่างฉันไม่ค่อยออกงานสังคมโดยที่ไม่จำเป็นค่ะ ส่วนมากจะเป็นสามีมากกว่าที่ออกงาน"

"แต่ว่า.." เอเลน่าตั้งใจจะปฏิเสธ แต่เอลเดน ผู้เป็นสามีกลับชิงพูดตัดหน้าว่า

"ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ ท่านเมลิน"

"ท่งท่านอะไรกันคะ เรียกเมลินก็พอค่ะ ถ้าฉันต้องการให้ออกแบบทรงผมเมื่อไหร่จะติดต่อพร้อมส่งรถไปรับนะคะ" เมลินเอ่ยพร้อมกับระบายยิ้มออกมา รอยยิ้มของเธอทำให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารผ่อนคลายลงมาบ้าง

ครอบครัวบาร์เบอร์มีความสุขกับมื้ออาหาร แต่ถึงกระนั้นพวกเขายังคงกริ่งเกรงในอำนาจของครอบครัวเบลินดา ใครจะไปทันคาดคิดว่าวันหนึ่งจะได้มาร่วมโต๊ะกับคนที่ทรงอิทธิพลขนาดรัฐสภา หรือกษัตริย์ยังต้องหวั่น ๆ มื้ออาหารมื้อนี้จะเป็นมื้อที่พวกเขาจดจำไปชั่วชีวิต จดจำว่ากลืนอะไรลงไปแทบไม่รู้รสชาติ

หลังจากมื้ออาหารผ่านพ้นไปครอบครัวเบลินดาเชิญให้ครอบครัวบาร์เบอร์พักค้างแรมที่คฤหาสถ์เนื่องด้วยข้างนอกมืดมากแล้ว แม้จะมีพันธะสัญญารักษาความสงบสุข มีกฎหมายที่คุ้มครอง แต่ผู้คนต่างรู้ดีว่าเมื่อดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ดวงดาราและจันทรามาแทนที่ข้างนอกนั้นหาใช่ริตติกาลของมนุษย์ไม่ แต่เป็นรัตติกาลของเหล่าแวมไพร์..

ร้านบริการเลือดพร้อมดื่ม

เสียงดังกรุ๊งกริ๊งของระฆังที่ห้อยอยู่กับบานประตูหน้าร้านดังขึ้น ชายหนุ่มผมสีดำมัดรวบตึงเป็นหางม้าคลอเคลียกับไหล่กว้างภายใต้เสื้อสีดำสนิทส่งเสริมให้เขาดูกลมกลืนไปกับยามรัตติกาล ชายชราหลังค่อม ศีรษะล้านเหลือเพียงเส้นผมไม่กี่เส้นเดินอาด ๆ มาด้วยท่าทีนอบน้อม ชายชราปีนขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ตัวสูงหลังเคาท์เตอร์บาร์สีน้ำตาล ด้านหลังของเขาเต็มไปด้วยอุปกรณ์สำหรับชงกาแฟ แต่นั่นคืออาชีพเบื้องหน้าที่ทำเพื่อกลบอาชีพที่แท้จริง นั่นคือร้านบริการเลือดพร้อมดื่มสำหรับแวมไพร์ อาชีพที่หากถูกผู้สังเกตการณ์จับได้ เขาคงถูกหิ้วให้ไปรับโทษทัณฑ์จากสภากลางข้อหาละเมิดพันธะสัญญา 4 เผ่าพันธุ์ หากผู้สังเกตการณ์มีความสามารถที่จะจับเขา และสภากลางมีอารมณ์มานั่งลงโทษเขาน่ะนะ

"น้ำชาคืนนี้หอมหวนมากกว่าคืนไหน ๆ ท่านทาคุยะ" ชายชราเอ่ยพร้อมกับรินของเหลวสีแดงลงในแก้วไวน์ปริมาณครึ่งแก้วที่ตั้งอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มนามทาคุยะ

"ได้ยินมาว่าปีนี้มีเด็กหัวกะทิมาสอบเข้า" ทาคุยะเอ่ยเพียงสั้น ๆ ก่อนจะหยิบแก้วมาดื่มของเหลวสีแดง

"เรื่องนี้นี่เอง..กระผมไปสอบถามเนโรมาแล้ว ปีนี้มีลูกชายจากครอบครัวเบลินดา เขาชื่อว่าโคโกะ เบลินดา สักครู่นะท่าน ข้าขอไปค้นหาอะไรสักเล็กน้อย" ชายชราเอ่ยก่อนจะปีนลงจากเก้าอี้ เขาเดินหายไปภายในด้านหลังร้านที่มืดสนิทชวนให้รู้สึกน่ากลัวพอ ๆ กับน่าสงสัย ใช้เวลาไม่นานเขาเดินออกมาพร้อมกับซองเอกสารสีน้ำตาล จากนั้นจึงวางมันลงตรงหน้าทาคุยะ "เด็กคนนี้เป็นลูกบุญธรรมของครอบครัวเบลินดา ประวัติเป็นไปตามที่ท่านเห็นในเอกสาร เป็นเด็กเรียนดี กิจกรรมเด่น ถ้าสอบไม่ติดโรงเรียนไบรอันนา คงเป็นที่เสื่อมเสียเกียรติ์ของพ่อแม่น่าดู" ชายชราเอ่ยอย่างขำขันไปเรื่อยในขณะที่ทาคุยะกำลังอ่านประวัติบนหน้ากระดาษ

คิ้วเรียวของทาคุยะขมวดมุ่นเข้าหากันเมื่อพบว่าดวงตาของเด็กหนุ่มนามโคโกะมีสีฟ้าอ่อนใสเหมือนกับตาของเด็กคนนั้นไม่มีผิด.. เขาไล่สายตาอ่านประวัติ พบเพียงประวัติที่ไม่มีอะไรโดดเด่น โคโกะถูกรับมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าโดยคู่สามีภรรยาเบลินดา ซึ่งเจ้าตัวเป็นเด็กฉลาด เรียนเก่ง กิจกรรมดี ทุกอย่างดูปกติ ปกติเกินไป.. เขาพอจะรู้มาบ้างว่าบาร์ธาซ่าเป็นหมันจากเหตุการณ์ฟาร์มเลือด แต่ถ้าอยากรับเลี้ยงเด็ก ทำไมถึงมารับเอาตอนนี้ ทำไมถึงไม่รับมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้น ราวกับว่ากำลังรอเวลานี้มาตลอด

"ขอบใจนะนอร์ธ" ทาคุยะขอบคุณชายหลังค่อม เขาวางธนบัตรปึกหนาตรงหน้าชายหลังค่อมนามว่านอร์ธอย่างไม่สะทกสะท้านต่อจำนวนเงินที่ควักจ่ายไป

"ยินดีรับใช้อย่างยิ่งนายเหนือหัวของพวกเรา" นอร์ธเอ่ยด้วยท่าทีนอบน้อม แต่กลับรีบใช้มือโกยเงินเข้ากระป๋องเก็บเงินย่างรวดเร็ว สำหรับเรื่องเงินแล้วไม่มีคำว่าพลาดสำหรับเขา แหม..ถึงจะเป็นแวมไพร์ แต่ต้องกินต้องใช้ไม่ต่างจากมนุษย์นั่นละนะ ยิ่งเขาต้องอำพรางตัวจน ยิ่งมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงภาพลักษณ์อีกมากมายก่ายกองไม่จบไม่สิ้น

ทาคุยะเดินออกมาจากร้านบริการเลือดพร้อมดื่มของนอร์ธ เขาดื่มเลือดไปหมดแก้ว มันช่วยลดอาการกระหายเลือดได้ แต่ไม่สามารถเติมเต็มได้ มีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อ 10 ปีที่แล้วเขาเกิดอาการกระหายเลือดอย่างรุนแรง แต่วันนั้นเขาได้รับเลือดชนิทพิเศษที่สภากลางจัดหามาให้ หยดเลือดที่ไม่สามารถลืมได้ราวกับว่ารสชาติของมันติดอยู่ที่ปลายลิ้นทุกขณะ ความกระหายก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาสีดำมืดดุจท้องนภายามรัตติกาลเกิดประกายสีแดง จากที่จะกลับปราสาท ทาคุยะเดินกลับไปยังร้านของนอร์ธ..

3 วันต่อมา

ตามระเบียบการของโรงเรียนไบรอันนา ผู้ที่สอบผ่านจะได้รับจดหมายสีเหลืองบัตเตอร์มิลค์อันเป็นสีสัญลักษณ์ของนักเรียนเผ่ามนุษย์โรงเรียนไบรอันนา การสอบเข้าโรงเรียนไบรอันนาของมนุษย์และแวมไพร์จะมีความแตกต่างกัน เผ่ามนุษย์จะเป็นการสอบข้อเขียน ส่วนการสอบของแวมไพร์จะเป็นความลับ ผู้ที่ผ่านการสอบเข้าจะได้รับจดหมายสีแดงโกเมนอันเป็นสีสัญลักษณ์ของนักเรียนเผ่าแวมไพร์โรงเรียนไบรอันนา

จดหมายสีทองบัตเตอร์มิลค์ลอยผ่านประตูคฤหาสถ์ไบรอันนา มันหยุดบนฝ่ามือของโคโกะ ประกายสีเหลืองสะท้อนแสงระยิบระยับ บนจ่าหน้าเขียนว่า

'จาก โรงเรียนไบรอันนา ถึง คุณโคโกะ เบลินดา'

ขอแสดงความยินดีกับผู้สอบเข้าหมายเลข 4344 ท่านได้สอบผ่านเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนไบรอันนา ทางโรงเรียนได้แนบรายการหนังสือ และสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการเข้าเรียนในชั้นเรียนให้แล้ว ขอให้ท่านเตรียมตัวให้พร้อม อีก 1 สัปดาห์จะเป็นวันเปิดภาคเรียน อนึ่งในจดหมายได้แนบกำหนดการวันเปิดเทอมมาให้ด้วยเช่นกัน ทางโรงเรียนตั้งตารอที่จะได้พบท่าน ผู้เชื่อมั่นในสันติสุข 4 เผ่าพันธุ์

ลงชื่อ เนโร เนลาเฟอรี่ (ผู้อำนวยการโรงเรียนไบรอันนา)

รายการของที่ต้องซื้อเพื่อประกอบการเรียน

ตำราเรียน

- ประวัติศาสตร์เบื้องต้น อาจารย์ผู้รับผิดชอบ มาสเตอร์โดมนิเตอร์ คูซาอิน

- การปฏิบัติตนในทางสันติภาพ อาจารย์ผู้รับผิดชอบ มาสเตอร์อานา ยูกิระ แอนนาเบตตา

- ศาสตร์ว่าด้วยเรื่องเผ่าพันธุ์ทั้ง 4 อาจารย์ผู้รับผิดชอบ มาสเตอร์คาโรไลน์ โยชิยูกิ

- ศาสตร์การต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเองจากแวมไพร์ อาจารย์ผู้รับผิดชอบ มาสเตอร์เฟอร์ดินาน เฟริสเซโร่

- การเล่นแร่แปรธาตุสำหรับป้องกันตัวจากแวมไพร์เบื้องต้น อาจารย์ผู้รับผิดชอบ มาสเตอร์ไมเคิล มิฟุเนะ

- ศาสตร์ว่าด้วยเรื่องสมุนไพร อาจารย์ผู้รับผิดชอบ มาสเตอร์มาการิต้า มาเจลโต

- ภาษาโรมาริสโบราณ อาจารย์ผู้รับผิดชอบ มาสเตอร์เวลก้า วาลองก้า

- ศาสตร์ว่าด้วยเรื่องสัตว์วิเศษ อาจารย์ผู้รับผิดชอบ มาสเตอร์อิพาเซร่า โทโคเมะ

เครื่องแบบ

- เสื้อเชิร์ตสีขาว (สามารถปรับความยาวของเสื้อ และแขนได้ตามใจชอบ)

- เนคไทด์สีเหลืองบัตเตอร์มิลค์สลับดำ

- เสื้อกั๊กสีเหลืองบัตเตอร์มิลต์

- เสื้อคลุมตัวยาวสีเหบืองบัตเตอร์มิลค์

- กางเกงสีดำ (สามารถปรับความยาวได้ตามใจชอบ)

- ถุงเท้า (สามารถเลือกได้ระหว่างสีดำ สีเทา และสีขาว)

- รองเท้าหุ้มส้น (สามารถเลือกสีได้ระหว่างสีดำ สีเทา และสีขาว)

อุปกรณ์สำหรับการเรียน

- ไม้กายสิทธิ์

- อุปกรณ์เพิ่มเติมที่เห็นว่าจำเป็น

โคโกะลดจดหมายลงพร้อมกับผ่อนลมหายใจออกมา ดูเหมือนเขาจะต้องไปหอบหนังสือกองใหญ่กลับมาจากจตุรัสค้าขายใจกลางเมืองรามานี่เสียแล้ว บาร์ธาซ่าเห็นท่าทีของผู้เป็นลูกชาย เขาจึงลดระดับความหนักของฝีเท้าก่อนจะโผล่พรวดไปตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้โคโกะตกใจจนทำจดหมายร่วงจากมือ

"โอ้..สอบติดสินะ ยินดีด้วยนะ โคโกะ" บาร์ธาซ่าเอ่ยพร้อมกับลูบหัวลูกชายด้วยความภูมิใจ

"ลูกของแม่เก่งที่สุด" เมลินที่เพิ่งจะเดินเข้ามาสวมกอดลูกชายจากด้านหลัง เธอได้ยินเสียงบาร์ธาซ่าลอยเข้ามาระหว่างกำลังเก็บกระเป๋าหลังจากออกไปทำธุระกับสามีมา "วันนี้สงสัยต้องฉลองซะแล้วละมั้ง วันนี้อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมจ๊ะ"

"สตูเนื้อ!" โคโกะตอบรับในทันทีด้วยแววตาเปล่งประกาย เขาชอบทานสตูเนื้อมากที่สุด เพราะมันเป็นอาหารอย่างแรกที่เขาได้ลิ้มลองหลังจากตัดสินใจมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเบลินดา

"ดูเหมือนวันนี้แม่ต้องเข้าครัวเองซะแล้ว" เมลินเอ่ยพร้อมกับก้มลงไปหอมแก้มลูกชายสุดที่รักหนึ่งฟอด จากนั้นเธอจึงเดินไปทางห้องครัวเพื่อไปเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำมื้อพิเศษฉลองให้กับโคโกะ

"ไหนดูซิ มีของที่ต้องซื้อเยอะแยะเลยนี่น่า ถ้าอย่างนั้นพ่อจะไปจตุรัสกลางเมืองเป็นเพื่อนนะ" บาร์ธาซ่าเอ่ย เขาเคยเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนไบรอันนามาก่อน แต่ว่าพวกตำราเรียนของเขานั้นถูกนำไปขายตามร้านขายเศษกระดาษเสียแล้ว เพราะมันหลายปีมาแล้วที่เขาจบการศึกษามา ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเนื้อหาในตำราเรียนย่อมมีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยอย่างที่มันควรจะเป็น

"ครับ!" โคโกะขานรับด้วยท่าทีร่าเริง เขากึ่งเดินกึ่งวิ่งไปบอกพ่อบ้านการ์ดเนอร์ให้ไปเตรียมรถเดินทางไปยังจตุรัสค้าขายใจกลางเมือง

จตุรัสค้าขายใจกลางเมือง

ยามนี้จตุรัสค้าขายใจกลางเมืองคราคร่ำไปด้วยทั้งเผ่ามนุษย์และเผ่าแวมไพร์ ทั้งสองเผ่าพันธุ์ต่างเดินจับจ่ายใช้สอยตำราเรียน เครื่องแบบ รวมไปถึงอุปกรณ์พิเศษสำหรับการเรียน ทั้งที่เป็นตอนกลางวันแวมไพร์กลับออกมาเดินปะปนกับมนุษย์ได้ นั่นเพราะในช่วงขณะที่โลกยังถูกปกครองโดยมนุษย์ ในโลกใต้ดินนั้นเหล่าแวมไพร์ได้พัฒนาตัวเองด้วยการปลูกถ่ายยีนส์ชนิทพิเศษแก้อาการแพ้แสงแดด เมื่อมีการสมรสยีนส์เหล่านั้นจึงถ่ายทอดไปยังลูกหลาน จึงสามารถเรียกได้ว่าแวมไพร์ส่วนใหญ่ที่ดำรงชีวิตอยู่ในตอนนี้เป็นแวมไพร์สายพันธุ์ใหม่ ส่วนแวมไพร์ยุคก่อนหน้านั้นจะได้รับยาชนิทพิเศษ เมื่อดื่มเข้าไปแล้วสามารถออกมาทำกิจกรรมในยามกลางวันได้โดยระยะเวลาขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของยาที่ดื่มเข้าไป

โคโกะรู้สึกเหม็นสาปกลิ่นแวมไพร์ เสียงหัวเราะคิกคักของพวกมันยังคงฝังอยู่ในหัวของเขา เสียงหัวเราะคิกคักสะใจยามมองหยาดโลหิตของเขาไหลบ่าออกมาหลังจากถูกกัดตรงซอกคอเพื่อเป็นอาหารป้อนให้กับพวกมัน เขายังจำภาพมือของพวกมันที่เคาะกระจกห้องขัง แล้วพูดจาเหยียดหยาม ถมน้ำลายสมเพชในตัวเขา เขาจึงอยากรีบซื้อของ แล้วรีบกลับคฤหาสถ์ ไม่อยากจะหายใจร่วมหลังคาด้วยกันเลยแม้แต่วินาทีเดียว

"พ่อว่าพวกเราไปร้านของคุณโรเวลกันเถอะ" บาร์ธาซ่าเอ่ยแนะนำ ตอนนี้เขาและโคโกะเดินสวนไปมากับทั้งมนุษย์และแวมไพร์ เขารู้ว่าลูกชายคงอึดอัดไม่น้อยที่จะต้องเดินร่วมกับสิ่งมีชีวิตที่ย่ำยีตัวเองมาตั้งแต่จำความได้

ร้านสารพัดอุปกรณ์การเรียนมิสเตอร์โรเวล คือ ร้านขายอุปกรณ์การเรียนร้านใหญ่ร้านหนึ่งในรามานี่ ร้านนี้ขายอุปกรณ์ให้กับมนุษย์เท่านั้น เจ้าของจะสืบทอดชื่อ 'โรเวล' ต่อ ๆ กันมา เมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งหน้าร้าน ชายชราผมสีดอกเลาเดินเงอะ ๆ เงิ่น ๆ ออกมาจากชั้นวางของที่อัดแน่นจนแทบไม่เห็นพื้นที่ส่วนตัว เมื่อเห็นว่าลูกค้าเป็นใคร เขาถึงกับแย้มยิ้มออกมาพลางเชื้อเชิญให้ดูสินค้า

"ลมอะไรหอบท่านบาร์ธาซ่ามาถึงร้านเก่า ๆ ของผม" โรเวลเอ่ยด้วยท่าทีนอบน้อม "โอ้..หรือว่าถึงเวลาของคุณหนูโคโกะแล้วงั้นรึ"

"ใช่แล้ว คุณโรเวล ผมต้องการตำราเรียน ชุดเครื่องแบบ ไม้กายสิทธิ์ และอุปกรณ์เพิ่มเติม เอ..อย่างสุดท้ายนี้ผมเชื่อมั่นในประสบการณ์การขายของคุณที่สั่งสมมาเนิ่นนาน" บาร์ธาซ่าเอ่ยหยอกล้อกับโรเวล เขาใช้บริการร้านนี้ตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน ในตอนนั้นโรเวลยังเป็นชายวัยกลางคน จนถึงบัดนี้ได้เป็นชายชราโดยสมบูรณ์แล้ว หากจะกล่าวว่าวิทยาศาสตร์ก้าวหน้าเพียงใด แต่ก็ไม่สามารถตามทันเวลาได้นั้นเป็นเรื่องไม่เกินจริง

"ได้ตามคำขอ ขอเวลาให้ผมสักครู่" โรเวลเอ่ย เขาเดินเงอะ ๆ เงิ่น ๆ เข้าไปตามชั้นวางของ

ใช้เวลาไม่นานตำราเรียน ไม้กายสิทธิ์ และอุปกรณ์เสริมอย่างเช่นถุงมือป้องกันเขี้ยวสัตว์ แว่นตาป้องกันไอพิษวางบนโต๊ะตัวกลม โรเวลเดินกลับออกมาพร้อมกับเครื่องแบบสีบัตเตอร์มิลค์

"ลองสวมก่อนได้เลยหนุ่มน้อย" โรเวลเอ่ยกับโคโกะ

โคโกะรับเครื่องแบบมา เขาเดินเข้าห้องน้ำของร้านไปเพื่อเปลี่ยนชุด ร่างบางเดินออกมาด้วยท่าทีเก้ ๆ กัง ๆ มือข้างหนึ่งจับขอบเอวกางเกงเพื่อรั้งให้ความยาวไม่เกะกะฝีก้าว เขาเดินมาหยุดอยู่หน้ากระจกก่อนจะลอบถอนหายใจออกมา

"ดูเหมือนกางเกงจะยาวไปนะ" บาร์ธาซ่าเอ่ย

"นั่นสินะท่าน แต่ว่านี่คือไซส์ที่เล็กที่สุดในบรรดาเครื่องแบบที่เรามีแล้ว หากต้องการเล็กกว่านี้คงต้องสั่งตัดเอา" โรเวลเอ่ย

"แต่เอว สะโพก ต้นขาไม่หลวมเกินไม่แคบเกิน มีแต่ความยาวนี่ละ อืม..ถ้าเราตัดขากางเกงอาจจะพอช่วยได้" โคโกะเสนอวิธีแก้ปัญหา "แต่ว่าทางโรงเรียนจะเข้มงวดเรื่องความยาวรึเปล่า"

"ไม่เลยคุณหนู โรงเรียนไบรอันนาเปิดโอกาสให้นักเรียนดัดแปลงเครื่องแบบได้ตามใจชอบ ขอเพียงสวมเสื้อครบตามรูปแบบ จะแขนสั้น ขาสั้นล้วนเป็นเรื่องที่นักเรียนตัดสินใจเองได้ ผมขอใช้ประสบการณ์การขายตลอดเวลาร่วม 50 ปีเป็นประกัน"

"ถ้าอย่างนั้นตัดขากางเกงประมาณนี้แล้วกัน" บาร์ธาซ่าเข้ามาช่วยกะเกณฑ์ความยาวกางเกงให้กับลูกชาย "ฝากคุณโรเวลส่งไปตัดให้ทีนะครับ"

"ด้วยความยินดีอย่างยิ่ง" โรเวลรับคำสั่งพร้อมกับเก็บเครื่องแบบใส่ถุงพลาสติกอย่างเรียบร้อย

ณ จตุรัสใจกลางเมืองรามานี่ชายหนุ่มผมสีน้ำผึ้ง ดวงตาสีเขียวมรกตกำลังเดินพร้อมกับกินขนมฝังไส้คัสตาร์ดครีม ตลอดทางที่เขาเดินผ่านนั้นมีสายตาที่มองด้วยความเคารพ และสายตาที่มองด้วยความรังเกียจปนสงสัยว่าทำไมแวมไพร์อย่างเขาถึงเดินถือขนมปังกินได้อย่างสบายใจ ช่างแตกต่างจากแวมไพร์ตนอื่น ๆ ที่ดื่มเลือดประทังชีวิต

ตุบ! ในขณะที่เขากำลังเพลิดเพลินกับความหวานของครีมนั้นใครบางคนเดินชนเข้าอย่างจัง ขนมปังในมือตกเพละลงบนพื้น ดวงตาสีเขียวมรกตตวัดกลับไปมอง และแล้วเขาค้นพบกับบุคคลที่คุ้นเคยดี

"ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ นะครับ" บาร์ธาซ่าเอ่ยขอโทษ "ไม่น่าเชื่อเลยว่าคุณเอย์จิจะมาเดินเล่นในจตุรัสเช่นนี้"

"พอดีอยากเที่ยวก่อนเปิดเทอมน่ะ ว่าแต่คุณมาทำอะไรแถวนี้ เพราะตอนนี้น่าจะเป็นเวลาเลิกงานแล้ว คงไม่ต้อง 'สังเกตการณ์' แล้วละ" เอย์จิเอ่ยโดยเน้นคำว่าสังเกตการณ์

"พอดีว่าผมชอบสังเกตอะไรไปเรื่อย ดูเหมือนจะกลายเป็นนิสัยส่วนตัวไปซะแล้ว" บาร์ธาซ่าเอ่ยกลับ

"โอ๊ะ..เธอคือคุณหนูโคโกะสินะ" เอย์จิเอ่ยเบี่ยงประเด็นเมื่อสังเกตว่าบาร์ธาซ่าไม่พอใจคำหยอกล้อเล่นของเขาสักเท่าไหร่ เขาจึงมาสนใจหนุ่มน้อยที่อยู่ด้านหลังแทน "ปีนี้อายุ 16 แล้วสินะ ยินดีต้อนรับสู่โรงเรียนไบรอันนานะ" แม้จะมีท่าทางเป็นมิตรเช่นไร แต่หนุ่มน้อยผู้อยู่เบื้องหลังกลับไม่ตอบสนอง หนำซ้ำยังทำท่าทางเหมือนรังเกียจเขาเสียเต็มประดา

"ดูเหมือนลูกชายของผมจะเสียมารยาทต่อคุณเอย์จิเข้าแล้ว หากไม่ว่าอะไรพวกเราขอตัวก่อนนะครับ" บาร์ธาซ่าเอ่ยขอตัวลา

"แล้วเจอกันใหม่นะ" เอย์จิเอ่ยกลับด้วยท่าทีแจ่มใส

ทั้งสามเดินสวนกันไปคนละทาง เอย์จิก้าวไปได้ไม่กี่ก้าว เขาหยุดฝีเท้าลงก่อนจะหันกลับไปมองทางบาร์ธาซ่าพลันนึกถึงเรื่องที่คุยกับเพื่อนสนิทเมื่อหลายวันก่อน

'ฉันจำได้ เด็กคนนั้นมีดวงตาสีฟ้าอ่อนใส'

'ดวงตาสีฟ้า ใครก็มีได้ทั้งนั้น นี่..ฉันเข้าใจนะว่ารสชาติเมื่อครั้งนั้นดีมาก แต่เด็กคนนั้นอาจจะตายไปแล้วก็ได้ นายคิดว่าพวกคุณตาสภากลางจะปล่อยคนที่รู้ความลับฟาร์มเลือดให้ไปเดินเตร่ในเมืองรึไง'

'ฉันว่าสภากลางอาจจะเจอแล้ว แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ฉันไปเจอนอร์ธมา ดูเหมือนจะมีเด็กที่มีประวัติแปลก ๆ อยู่ ไว้ฉันจะลองหาข้อมูลอีกที'

'ฉันถามนายหน่อยนะ ทาคุยะ ถ้านายหาเด็กคนนั้นเจอ นายจะทำอะไรกับเขา'

เป็นอีกหลายครั้งที่ทาคุยะเงียบใส่เขาราวกับจะบอกว่าไม่ต้องการให้มายุ่งกับเรื่องนี้ เขาเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ได้ดื่มเลือดแวมไพร์อาหารหมายเลข 4004 ใช่..เขาติดใจไม่ต่างจากทาคุยะ แต่ถอดใจที่ตามหา เพราะใครก็รู้ว่าสุนัขรับใช้ของสภากลางตัดตอนปัญหารวดเร็วแค่ไหน เด็กคนนั้นคงจะไม่มีวันรอดไปได้ คงตายไปอย่างเงียบงันพร้อมกับความลับของฟาร์มเลือด ความลับที่ว่าสภากลางนี่ละที่เป็นคนใช้บริการฟาร์มเลือดมากที่สุด!

ของขวัญจากผู้อ่านคือกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ช่วยส่งกำลังใจให้ไรต์หน่อยนะ!

Starry_Aliscreators' thoughts