time to time
ที่ว่าความแข็งแกร่งวัดกันที่ระดับนั้นมันเป็นความจริงแค่ครึ่งเดียว เขาคนนั้นเดินทางมาจากความมืด ปรากฏตัวมาไล่ตามความเปลี่ยนแปลงในดวงดาว เผ่าพันธ์นั้นมันจะงดงามเหมือนดาวฤกษ์ที่สุกสกาว จะเดินทางมาจนกว่าจะถึงคราวของการกำเนิดใหม่ ความหิวโหยของเขาคนนั้นมันบอกมาว่าไม่สิ้นสุด เดินทางผ่านห้วงเวลานั้นมาไม่หวนคืน พลังงานปลดปล่อยก้เรื่องหนึ่ง พละกำลังกา่ยของทอร์ที่ทุบสร้างแรงได้ถึงหกหมื่นจูลนี้นับว่าไม่ธรรมดาปรากฏตัวมาจากแดนมืดไม่คืนมา ชาวแอสการ์ดนั้นแท้จริงเป็นพวกเลือดเย็น ใครไม่ทำประโยชน์ก็จับไปโยนลงแกนดาว ย่อยสลายทำให้เกิดพลังงานมหาศาล มนุษย์หนัก 100 กิโลกรัมหนึ่งคน อาจให้พลังงานได้ถึง 9*10 ยกกำลัง 19 จูล พลังงานเท่านี้ถือว่าเหลือเฟือในการใช้ผ่าดาวทั้งดวง หรือไดร์ฟพลังงานมหาศาลเข้าไปในน้ำหนัก
ของอุกกาบาติ มันทรงพลังพอจะป่นอุกกาบาติขนาด500 กิโลเมตร ให้กลายเป็นสวะอวกาศได้ และถ้าใช้มนุษย์ระดับพันล้านคนเป็นเครื่องสังเวยในฐานะเชึ้อเพลิง ให้กับเตาพลังงานของแอสการ์ดละ พลังทำลายที่ออกมา มันจะมหาศาล ระดับเป่าดาวทั้งดวงให้หายไปได้สบายเลยทีเดียว พลังงานมหาศาลนั้นมันบอกมาว่าผู้ปรากฏตัวในเวลานี้มันไม่ใช่ว่าจะทำลายได้ง่ายดาย กองกำลังของชาวแอสการ์ดรู้ดีถึงเรื่องแผ่นการรบ ยิ่งเป็นตัวตนทรงพลังอย่างทอร์ที่ได้รับขุมพลังอันมีค่าจากระบบ มันทำให้เขาทรงพลัีงไปอีกขั้น เขาคนนั้นได้พลังจากโลหะ ขอสาบานมาว่าจะไม่อ่อนแอแม้สักครั้ง ปรากฏตัวมาจากความมืดระหว่างดวงดาวไม่หวาดหวั่น เขาคนนั้นมันสัญญาว่าจะไม่กลับคืนสู่ความอ่อนแอ จะเปลี่ยนแปลงแม้โชคชะตาที่พันธนาการ ปรากฏตัวมาจากความมืดไม่หวั่นหวาดต่อผู้ใด
ใครคนหนึ่งเป็นหนึ่งไม่มีสองไม่กลัวใคร หอกกังเนียร์ของโอดินที่ปาไปไม่พลาดเป้าแท้จริงมันก็มีหลักการของมันปรากฏตัวมาจากดินแดนที่จะไล่ตาม ปรากฏตัวมาจากความมืดมันเหมือนกับว่าที่เดินตามมานั้นมันคือร่างอวตารที่จะไม่ขอเปลี่ยนแปลง เขาคนนั้นมันสัญญามาแล้วว่าจะไม่พ่ายแพ้ จะไม่ขออ่อนแอต่อผู้ใด เดินทางมาจากอวกาศลงสู่ผิวดาว ปรากฏตัวมาพ้นการเผาไหม้อันสุกสกาวจากดินแดนที่แสนใกล ใครคนนั้นสัญญามาว่าไม่อ่อนแอต่อหน้าศัตรูใด ปรากฏตัวมาไม่สนเภทภัยไม่คืนมา คนหนึ่งจะไล่ตามไปสุดดินแดนที่เหมือนกับสวรรค์ ปรากฏตัวมาเหมือนว่าวีรชนนั้นจะไขว่คว้า เดินทางมาจากความมืดเหมือนภาพมายา ปรากฏตัวมาจากอวกาศเดินทางมาด้วยกำลังที่เหนือกว่าใครๆ หิวโหนทรัพยากรจากดาวต่างๆ เหมือนแร่อวกาศถูกทำขึ้นมาอย่างง่ายดาย
ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงไซร้ อุกกาบาติสีดำสนิท ที่อัดด้วยนาโนแมชชีน กัมมันตภาพรังสี แล้วข้อมูลมหาศาล กำลังถูกทำให้ตกลงไปยังผิวดาว การปรากฏมาของวัตถุประหลาดนี้จะนำพาการเปลี่ยนแปลงให้มาถึง ผู้ปรากฏตัวมาจากความมืดนั้นมันยังคงหวนคำนึง ความในใจนั้นยังลึกซึ้งทว่าไม่อ่อนแอ จะไม่ล่าถอยด้วยความกลัวต่อผู้ใด เดินทางผ่านพ้นดินแดนที่ต้องสาปด้วยกำลังใงจะขอต่อกร ปรากฏตัวมาจากช่วงเวลาที่อ้อนวอน วีรชนคนหนึ่งจะไม่อ่อนแอต่อหน้าดวงจันทรา วิวัฒนาการมาเหมือนกับว่าเขาคนนั้นเดินทางมาจากเงามืด เดินทางมาจากดินแดนที่ไร้นำตา อุกกาบาติขนาดหนึ่งกิโลเมตรพุ่งลงมาจากอุกกาบาติลงมา มันมีพลังงานมากกว่าอาวุธนิวเคลียร์ทั้งโลกรวมกันนับร้อยๆ เท่า ปะทะผิวดาวด้วยความเร็วมากกว่าสามสิบกิโลเมตรต่อวินาที กระแทกขึ้นมา
ที่ไม่ต่างจากเปลือกโลกภูกทุบด้วยค้อนมหึมา คลื่นแผ่นดินไหวใหญ่ถูกทำให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เปลือกดาวกำลังถูกทำให้ยุบตัวลงเป็นหลุมขนาดใหญ่ สายตานั้นมันบอกมาว่าเขาคนนั้นมันไม่สามารถจะถูกทำลายด้วยกำลังของใครๆ เดินทางมาจากเวลาที่ยิ่งใหญ่ไม่หวนคืน ปรากฏตัวมาจากดินแดนประหลาดที่ไม่มีออกเซเจน คลื่นความร้อนอันร้ายแรงถูกแผ่ออกมาจากอุกกาบาติ ร่างของสิ่งมีชีวิตในพึ้นที่ของหลุมอุกกาบาติ กำลังถูกบดขยี้ลงไปได้อย่างสบาย ปรากฏตัวมาจากดินแดนที่ไม่สามารถถูกทำลาย เขาคนนั้นมันเดินทางมาพ้นจากแดนของเงาปีศาจ สายตานั้นมันบอกมาว่าปรากฏตัวมาจากแดนมืดไม่หวนคืน สายตานั้นมันบอกมาว่าเป็นไปตามที่คาด
คลื่นเสียงรุนแรงแผ่ไปทั่ว คลื่นความร้อน แรงสั่นสะเทือน อุกกาบาติลูกขนาดนี้ถ้าตกในทะเลก็จะเกิดสึนามิ ตกบนโลกก็จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่คราชีวิตมากมาย ปรากฏตัวมาในเวลานี้สาบานมาว่าจะไม่อ่อนแอ จะไม่ยอมให้ผู้ปรากฏตัวมาถูกทำลาย วีรชนจากแดนมืดนั้นมันไม่อาจถูกทำลาย ปรากฏตัวมาในเวลานี้มันร้ายกว่าภาพมายา ไนโตรเจนและคาร์บอนถือเป็นธาตุพึ้นฐาน สีหน้าของชายหนุ่มซีดขาวเหมือนกับภูติผี ใครคนหนึ่งที่ปรากฏตัวมาจากเงามืดจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ด้วยสุดกำลังที่มี ปรากฏตัวมานี้มันไม่อาจหวนกลับคืน วีรชนเป็นหนึ่งไม่มีสอง ปรากฏตัวมาจะทำลายคำสาปสีทองด้วยกำลังที่มีใว้ จะบอกอะไรใว้ว่าไม่อ่อนแอต่อผู้ใด ปรากฏตัวมาเหมือนกับว่าไม่มีใครจะทำให้ย่อยสลายไปโดยง่ายดายได้เลย เดินทางมาจากแดนมืดนั้นมันไร้ขีดจำกัด
ปรากฏตัวมาเพื่อซัดศัตรูให้แหลกเหลว ปรากฏตัวมาในเวลานี้บางคนอาจบอกว่าดี บางคนอาจบอกว่าเลว แต่สิ่งมีชีวิตประหลาดพวกนั้นไม่สนใจคำวิจาร์ณของผู้คน พวกมันเดินทางมาจากดินแดนระหว่างดาวดาว โบยบินข้ามเขติควบคุมของเนบิวล่า แสวงหาทรัพยากรข้ามกาแล็คซี่ ดวงตานั้นมันบอกมาว่าใครคนนั้นมันเหมือนกับว่าจะใช้งานแม้ความมืดของสสารมืด จะเดินทางข้ามผ่านดินแดนที่จะทำลายให้แหลกเหลว ปรากฏตัวมาเหมือนกับว่าไม่สามารถจะถูกทำลาย สายตานั้นมันบอกมาว่าจะเดินทางมาไม่หวนคืน เขาคนนั้นมันจะตื่นพบดวงตะวัน ใครคนหนึ่งไม่สามารถถูกทำลาย เปลี่ยนแปลงมาจากดินแดนที่อยู่ระหว่างดวงดาวไม่คืนมา ปรากฏตัวมาในเวลานั้นมันไม่ใช่
ว่าจะถูกทำลายได้อย่างง่ายดาย ที่เกิดขึ้นมาในเวลานี้มันเหมือนกับว่าไม่สามารถถูกย่อยสลายไปจากดินแดนของความมืดดำ ปรากฏตัวมาจากดินแดนที่เดินทางมาเหมือนกับว่าถูกทำลายด้วยความมืดที่สุดจะล้ำ แววตานั้นมันบอกมาว่าจะทำลายหนทางอันมืดดำด้วยกำลัง ใครคนหนึ่งมันไม่สามารถถูกทำลาย เดินทางมาผ่านพ้นความวอดวายในระหว่างดวงดาว" ไอ้พวกนั้นลงมือทำเรื่องใหญ่จนได้ จอห์นพูดขึ้น" สาวงามอย่างอลิเซียเอ่ยคำพูดสบทบขึ้น ไอ้ที่โจ็กเกอร์คาดการ์ณใว้มันก็ถูกจริงๆ พวกมังกรอวกาศเริ่มต้นการคัดเลือกแล้วสินะ สายตานั้นมันยังคงเยือกเย็นนางไม่เคยสูญเสียสติ นางไม่เคยจะอ่อนแอ ปรากฏตัวมาในเวลานี้ไม่มีบางแผล เดินทางมาจากความมืดนั้นมันสภาพไม่แย่ลงด้วยการทำลายของผู้ใด หมอนั่นมันเหมือนกับว่าจะไม่สามารถย่อยสลาย
สายตานั้นมันเหมือนกับว่าจะเดินทางมาจากความหิวโหยของอวกาศไม่หวนคืน สายตานั้นมันบอกมาว่าใครคนหนึ่งจะตื่นพบตะวัน สายตานั้นมันบอกมาว่าไม่ใช่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันจะเป็นภาพลวงตา ปรากฏตัวมาเหมือนกับว่าไม่สามารถจะหวนกลับคืน เดินทางมาจากความมืดจะสามารถตื่นขึ้นมางั้นหรือคงไม่ใช่ แต่สงครามในดวงดาวกำลังจะเริ่ม" ข่าวฉลามทำลายเรือก็แปลว่า ก็เริ่มเรื่องที่วางแผนเอาใว้ แต่ไอตัวแสบในทะเลก็ยังไม่เท่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับอุกกาบาติที่ตกลงมานั่น สายตานั้นมันบอกมาว่าเหมือนกับว่าปรากฏตัวมาจากการเปลี่ยนแปลงรีะหว่างดวงดาว เดินทางมาพ้นอวกาศ ซากศพที่ถูกควบคุมด้วยนาโนแมชชีน อาบด้วยรังสี และป้อนข้อมูล จำนวนมา่กเข้าไปมันถูกทำให้ลุกขึ้นมามันลุกขึ้นมาเหมือนักรบใร้วิญญาน พวกมันคือสิ่งที่เรียกว่าหุ่นเชิดมนุษย์
ร่างของพวกนั้นมันเคลื่อนใหวด้วยจังหวะการขยับร่างกายที่แปลกประหลาด สายตานั้นมันบอกมาว่าเป็นความอาฆาติไม่เปลี่ยนแปลง ปรากฏตัวมาจากความมืดนั้นไร้จิตวิญญาน เดินทางมาจากอวกาศเพื่อลงมือในครั้งเดียว พวกร็อคอวกาศเองก็ส่งพลังงานลงไปยังผิวดาวผ่านฐานประจุพลังงานค้างฟ้า สายตาที่จ้องมองมาเหมือนกับว่าจะเดินทางมาจากดินแดนที่ไร้ความกลัวจะบรรเลง ปรากฏตัวมาในเวลาที่ไม่สามารถถูกทำลายดั่งบทเพลง เสียงร้องของเหล่าดวงดาวมันจะกู่ก้องทั่วจักรวาล ปรากฏตัวมาจากความมืดไม่อ่อนแอ ปรากฏตัวมาไม่พ่ายแพ้ต่อใครๆ สาบานมาว่าไม่อ่อนแอต่อใครๆ ดวงตานั้นมันเปิดมาตลอดไป จะมองทะลุความมืดใดด้วยตัวเอสถานการณ์ที่เดือดพล่านไม่สามารถถุูกทำลาย ใครคนนั้นมันบอกมาว่าเหมือนกับว่าจะ้เดินทางมาจากดินแดนนั้นมันไร้ขีดจำกัด ไม่สามารรถถูกทำลายด้วยพลังที่ถูกจำกัดใว้ในความมืดดำ ขอสาบานไม้ว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงหนทางก็ตาม