webnovel

ชีวิตนักล่า

หลายวันต่อมา ด้วยคำขอของคาเร็นและความมุ่งมั่นที่จะมีอนาคตที่ดี ชีฟจึงทำใจและกลับออกไปนอกเมืองอีกครั้งในยามเช้าที่สดใสเหมาะก็แก่การเริ่มต้น

ฮิกที่กำลังขับรถมองดูนักล่าตัวเล็กในชุดเกราะสีดำ ที่กำลังเดินอยู่คนเดียวข้างหน้า ก่อนจะขับรถเข้าไปหา

รถกระบะคันหนึ่งแล่นมาจากทางด้านหลัง เสียงที่คุ้นเคยทำให้ชีฟหันไปมอง เป็นคริสและฮิกที่ขับรถเข้ามา ฮิกเปิดกระจกออกแล้วเรียกให้ชีฟขึ้นรถ

"ขึ้นมา ไปล่าด้วยกัน"

ชีฟยิ้มและกระโดดขึ้นท้ายกระบะทันที ทั้งสามคนไปด้วยกันอีกครั้ง คราวนี้คริสขับมายังทุ่งหญ้าแห่งหนึ่งที่อยู่ทางทิศเหนือของเมือง ในทุ่งหญ้าเต็มไปด้วยสัตว์ขนาดเล็กมากมาย

ทั้งสามพากันลงมาจากรถ ฮิกบอกให้ชีฟเล็งปืนไปที่หมาป่าตัวหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป

"จัดการหมาป่าตัวนั้นให้ดูหน่อย"

"ได้"

ชีฟตั้งท่าเล็ง ปรับโหมดการยิงเป็นแบบทีละนัดแล้วลั่นไก กระสุนพุ่งเข้าใส่ศีรษะของหมาป่าตัวนั้นอย่างแม่นยำ และปลิดชีพมันในนัดเดียว

ฮิกมองอย่างน่าสนใจ

'ไอ้หนูนี่จดจำสิ่งที่เรากับคริสเคยทำให้ดูมาตลอด'

หากมีโอกาสในการเตรียมตัว คริสกับเขาจะเน้นเล็งยิงที่หัวเพื่อประหยัดกระสุนให้มากที่สุด ฮิกมองไปรอบ ๆ อีกครั้งเพื่อหาสิ่งที่เขากับคริสจะมาล่าในวันนี้ นั่นก็คือมนุษย์หมาป่า

มนุษย์หมาป่าเป็นสัตว์ประหลาดที่มักจะอยู่ตามทุ่งหญ้า พวกมันตะกละตะกลามเป็นอย่างมาก นั่นทำให้สัตว์ป่าน้อยใหญ่ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว การมีพวกมันอยู่จึงเป็นปัญหาอย่างมากสำหรับพวกที่มีอาชีพล่าเนื้อไปขาย พวกเขาจึงมักจะจ้างนักล่าให้มากำจัดพวกมันยามเมื่อพบเจอ

ชีฟรู้สึกเสียวสันหลังอีกแล้ว เขามองไปรอบ ๆ ก่อนจะไปหยุดสายตาอยู่ที่พงหญ้า ที่ใหญ่พอจะเอารถเข้าไปซ่อนได้เลย ชีฟชี้บอกถึงสิ่งที่ตนสัมผัสได้ให้ทั้งสองคนรับรู้

"ลุงคริส ในนั้น"

คริสยักคิ้วให้กับความสามารถของชีฟ ก่อนจะเล็งปืนแล้วเหนี่ยวไก เมื่อกระสุนพุ่งเข้าไปในพงหญ้า มนุษย์หมาป่าที่รู้ตัวว่าถูกพบเข้าให้แล้ว ก็วิ่งออกมาจู่โจมพวกเขาทันที

คริสหันมาบอกชีฟ

"ดูไว้เจ้าหนู"

มนุษย์หมาป่าแยกเขี้ยวแล้ววิ่งตรงเข้าใส่ทั้งสามคน ฮิกและคริสใช้ไรเฟิลจู่โจมกราดยิงใส่มันแบบไม่เล็งเป้าหมาย การยิงแบบเล็งที่หัวนั้นเป็นไปได้ยากสำหรับมนุษย์หมาป่าที่เคลื่อนไหวได้รวดเร็ว ทุกครั้งที่คริสและฮิกเล็งปืนแล้วเหนี่ยวไก มนุษย์หมาป่าจะพุ่งตัวไปด้านข้างทันทีเพื่อหลบกระสุน ถึงจะเป็นสัตว์ประหลาด แต่มันก็รู้จักวิธีสู้กับมนุษย์เป็นอย่างดี

ทั้งสองกราดยิงไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้มนุษย์หมาป่าเข้ามาใกล้พวกเขาได้ ด้วยร่างกายที่สูงสองเมตรของมัน จะทำให้พวกเขาเสียเปรียบทันทีหากเกิดการต่อสู้ระยะประชิด แม้คริสและฮิกจะช่วยกันกราดยิง แต่ก็ไม่สามารถยิงโดนมนุษย์หมาป่าได้ง่าย ๆ แต่การกราดยิงนี้นั้นมีเป้าหมาย พวกเขาใช้กระสุนราคาถูกเพื่อหลอกล่อให้มนุษย์หมาป่านั้นวิ่งจนเสียกำลังในระดับหนึ่งจนมันเริ่มช้าลง จากนั้นทั้งสองคนก็เปลี่ยนไปใช้กระสุนพิเศษที่สามารถติดไฟได้เมื่อเกิดการกระทบ คริสและฮิกกราดยิงอีกครั้ง ถึงแม้แรก ๆ มันจะหลบได้ แต่ความเร็วของมันก็ช้าลงมากจนกระสุนนัดหนึ่งโดนเข้าที่ไหล่ของมัน มนุษย์หมาป่าช้าลงกว่าเดิมเมื่อมันได้รับบาดเจ็บ ความเร็วที่ลดลงทำให้กระสุนพิเศษที่เหลือเข้าเป้าอย่างแม่นยำ

คริสถอนหายใจเมื่อเห็นเจ้ามนุษย์หมาป่าล้มลง ก่อนจะเดินกลับไปหาชีฟที่อยู่ด้านหลัง พวกเขาไม่เคยพาชีฟมาล่าสัตว์อันตรายแบบนี้มาก่อน วันนี้พวกเขาจึงอยากให้ชีฟเห็นวิธีที่พวกเขาใช้

ชีฟมองการล่าครั้งนี้ด้วยความสงสัย แล้วเอ่ยถามเมื่อเห็นคริสเดินเข้ามา

"ทำไมกราดยิงมั่ว ๆ แบบนั้น"

คริสยิ้มแล้วเริ่มอธิบาย

"พวกเราแก่แล้ว การที่พยายามจะเล็งยิงสัตว์ประหลาดที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วขนาดนั้นเป็นไปได้ยากมากสำหรับเรา"

"แล้วทำไมไม่ใช้ระเบิดแสงช่วย"

"มันแพงนะสิ นักล่าอย่างเราไม่ได้เจอของดีดีกันทุกวันหลอกนะ อันไหนประหยัดได้เราก็ประหยัด อย่างกระสุนที่ฉันกับฮิกใช้ยิงในรอบแรก กระสุนพวกนั้นเป็นกระสุนที่มีราคาถูกมาก สัตว์เล็ก ๆ ผิวหนังบาง ๆ อาจจะยิงเข้าได้สบาย ๆ แต่กลับพวกหนังหนาแบบมนุษย์หมาป่าตัวเมื่อกี้อย่าหวังเลยว่าจะยิงเข้า"

พอฟังถึงตรงนี้ชีฟก็ยิ่งงง

"ทำไมถึงใช้กระสุนนั้นทั้ง ๆ ที่มันยิงไม่เข้าละ"

ฮิกที่พึ่งไปเก็บผลึกกลับมากระโดดเข้าร่วมวงสนทนาก่อนจะเป็นคนอธิบายต่อ

"เพราะเจ้ามนุษย์หมาป่าไม่รู้ไงละว่าเราใช้กระสุนอะไร เมื่อเราลั่นไก พวกมันก็หลบตามสัญชาตญาณ พอมันเหนื่อยเราถึงเอากระสุนพิเศษสำหรับจัดการกับมันออก แต่กระสุนพิเศษเหล่านี้มีราคาแพง เพราะฉะนั้นใช้อย่างประหยัดคือดีที่สุด"

ชีฟถึงกลับบางอ้อเรื่องเงินนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับทุกคน กระสุนเม็ดเล็ก ๆ นั้นมีราคาถูกกว่าระเบิดแสงที่ต้องใช้แร่หายาก หากสามารถใช้กระสุนเหล่านั้นในการจัดการกับสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งได้ ก็จะช่วยเพิ่มกำไรจากการล่ามากยิ่งขึ้น

ฮิกจ้องมองชีฟก่อนจะนึกอะไรบางอย่าง แล้วพูดออกมา

"คริส นายคิดว่าชีฟจะยิงหัวมนุษย์หมาป่านั่นโดนมั้ย"

คริสเลิกคิ้ว แล้วหันไปมองหน้าฮิก ก่อนจะหันมายิ้มให้กับชีฟ

"ลองดูกัน"

ภารกิจที่พวกเขารับมาคือกำจัดมนุษย์หมาป่าสองตัว นั่นทำให้ตอนนี้ยังเหลืออีกหนึ่งที่พวกเขายังไม่ได้กำจัด ทั้งสามคนขับรถหาเจ้ามนุษย์หมาป่าตัวสุดท้ายที่เหลือ ทุกครั้งที่ชีฟรู้สึกเสียวสันหลัง คือตอนที่พวกสัตว์ประหลาดคิดจะจู่โจมเขา นั่นทำให้ฮิกบอกว่าสัมผัสที่หกที่ชีฟมีคือการจับจิตมุ่งร้ายหรือจิตสังหารของสิ่งมีชีวิตอื่น เพราะกับสัตว์ธรรมดาเวลาชีฟเข้าใกล้พวกมัน เขาไม่รู้สึกถึงอะไรเลย

ขับรถมาได้สักพักชีฟก็จับสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่ซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ใกล้กับป่าทึบ ฮิกกับคริสลงจากรถและให้ชีฟยืนอยู่บนท้ายกระบะ ทั้งสองคนจะคอยยิงสกัดไม่ให้มนุษย์หมาป่าเข้ามาใกล้ เพื่อให้ชีฟมีโอกาสในการยิงให้มากที่สุด

ชีฟปรับปืนเป็นแบบทีละนัด เพื่อให้ปืนเหลือแรงถีบน้อยลง เมื่อเตรียมพร้อมกันเรียบร้อย คริสก็เหนี่ยวไกคนแรกเพื่อกระตุ้นให้มนุษย์หมาป่าออกมาจากพุ่มไม้ เมื่อกระสุนนัดแรกพุ่งเข้าไปมนุษย์หมาป่าก็กระโจนออกมาทันที ชีฟไม่รอช้าเหนี่ยวไกนัดแรกออกไปอย่างรวดเร็ว ร่างสูงใหญ่ของมนุษย์หมาป่าเบี่ยงหลบกระสุนอย่างง่ายดาย คริสและฮิกเริ่มกราดยิงอีกครั้ง

นัดที่สองชีฟตั้งสมาธิมากขึ้น ก่อนจะเล็งแล้วยิงออกไป กระสุนเฉี่ยวหน้ามนุษย์หมาป่าไปเพียงเล็กน้อย ชีฟหายใจออกมาแรง ๆ ก่อนจะสูดหายใจกลับเข้าไป นัดที่สามพุ่งออกไป เจ้ามนุษย์หมาป่าก้มหลบอย่างรวดเร็ว นัดที่สี่ที่ห้ายังคงพลาดเหมือนเดิม เจ้ามนุษย์หมาป่าไม่ได้เอาแต่วิ่งหลบไปด้านข้าง แต่มันก็ค่อย ๆ หาทางย่นระยะเข้ามาหาทั้งสามคนเรื่อย ๆ

ฮิกมีเม็ดเหงื่อไหลอาบเต็มใบหน้าเมื่อมนุษย์หมาป่าเข้ามาใกล้พวกเขามากขึ้น ปากก็พึมพำว่า

"ยิงให้โดนสิไอ้หนู"

คริสเหลือบมองเพื่อน แต่เมื่อเห็นว่าฮิกยังคงใช้กระสุนราคาถูกต่อไป เขาก็จะไม่เปลี่ยนเป็นกระสุนพิเศษเหมือนกัน ตอนนี้กระสุนราคาถูกของพวกเขาหมดไปคนละสามแม็กแล้ว แต่ชีฟยังคงยิงไม่โดนเลยสักนัด ตอนนี้มนุษย์หมาป่าอยู่ห่างจากพวกเขาไม่ถึงสิบเมตร

ด้วยร่างกายที่ใหญ่โตและพละกำลังที่มหาศาล มนุษย์หมาป่าตัดสินใจกระโจนใส่ฮิกจากระยะห้าเมตรแบบสุดกำลัง มันแยกเขี้ยวออกหวังขย้ำเหยื่อตรงหน้าให้สิ้นชีพ ฮิกล้มไปกระแทกกับขอบรถกระบะอย่างแรง พร้อมกับมนุษย์หมาป่าที่กดทับตัวเขาเอาไว้ คริสตะโกนเรียกเพื่อนสุดเสียง

"ฮิก!"

คริสรีบวิ่งเข้าไปหวังจะช่วยเพื่อน แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อฮิกชูมือขวาและยกนิ้วโป้งขึ้น ฮิกผลักมนุษย์หมาป่าที่มีรูกระสุนอยู่กลางหน้าผากออกไป ก่อนจะลุกขึ้นแล้วมองหน้าคริสด้วยรอยยิ้มเจือน ๆ เพราะเขาเกือบจะตายไปแล้ว

คริสและฮิกมองหน้าและหัวเราะออกมาเล็กน้อย พวกเขาเกือบจะตายเพราะแค่อยากฝึกเด็กคนหนึ่งเนี่ยนะ จากนั้นทั้งสองก็หันไปมองหน้าชีฟที่หัวเราะแห้ง ๆ และยิ้งแหย ๆ อย่างรู้สึกผิด

หลังจากการล่าคริสฮิกและชีฟก็เอาศพมนุษย์หมาป่ากลับมารับรางวัล มนุษย์หมาป่าไม่ได้มีแต่ค่าหัวเท่านั้น แต่หนังของพวกมันยังเอาไปทำเป็นเสื้อกันหนาวชั้นดีได้ด้วย รอบนี้เงินรางวัลถูกหารสามเช่นเคย แต่ภารกิจในวันนี้กลับมีมูลค่าน้อยกว่าครั้งที่พวกเขาขนฮาร์ทดิสกลับมาอย่างมาก

เมื่อได้เงินรางวัล คริสกับฮิกก็พาชีฟไปร้านอาหาร ก่อนฮิกจะจับชีฟนั่งลงที่โต๊ะแล้วพูดว่า

"วันนี้นักแม่นปืนอันดับหนึ่งของเมืองจะเลี้ยงอาหารพวกเราใช่มั้ย"

ชีฟได้ยิ้มอย่างจนใจ

"ผมเลี้ยงก็ได้"

คริสและฮิกสั่งอาหารมากินเต็มโต๊ะ แต่กลับไม่สั่งของที่พวกเขาเคยสั่งเป็นประจำ นั่นคือเหล้าเบียร์และนารี เพราะทั้งสองอย่างนี้จะทำให้อาหารมื้อนี้ราคาแพงขึ้นเป็นอย่างมาก

ทั้งสามรับประทานอาหารด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อยจนกระทั่งพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน บนโต๊ะของพวกเขาตอนนี้เต็มไปด้วยจานเปล่า

ชีฟจ่ายค่าอาหารก่อนจะขอตัวกลับไปหาครอบครัว ระหว่างทางชีฟแวะร้านขนมปังที่เขาเคยชอบซื้อบ่อย ๆ

เจ้าของร้านเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงที่สดใส

"ไง ไม่มาร้านป้าหลายวันเลยนะ แล้วนั่นใส่ชุดอะไรน่ะ"

ชีฟไม่ใส่หมวกทำให้คุณป้าจำได้ทันที แต่เขาก็ยังคงใส่ชุดเกราะเอาไว้อยู่ ชีฟยิ้มแล้วมองดูขนมปังที่เหลืออยู่ในร้าน

"ชุดเกราะของคาเร็น ว่าแต่ ขนมปังทั้งหมดที่เหลือมีราคาเท่าไหร่"

ป้าเจ้าของร้านเลิกคิ้ว ก่อนจะสังเกตชุดที่อีกฝ่ายใส่ เนื้อผ้าคุณภาพดีออกแบบมาอย่างประณีต ไม่ใช่เสื้อผ้าราคาถูก ๆ แน่นอน เมื่อเห็นดังนั้นป้าเจ้าของร้านก็บอกราคา

"สองพันสามร้อยพ็อย สนใจจะเหมามั้ย"

"เหมา"

ชีฟยื่นบัตรนักล่าให้กับอีกฝ่ายทันที

ป้าเจ้าของร้านรับบัตรมาด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นชื่ออาชีพบนบัตร แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายนัก เพราะเรื่องที่เด็กอายุสิบสามจะกลายเป็นนักล่า ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยมีมาก่อน ป้าเจ้าของร้านเดินไปที่เครื่องสแกน แล้วสแกนเงินออกไปตามราคาขนมปังที่เหลืออยู่ จากนั้นเธอก็ห่อขนมปังทั้งหมดใส่ถุง พร้อมกับเนยน้ำตาลและแยมรสชาติดีจำนวนหนึ่ง ป้าเจ้าของร้านส่งบัตรและถุงขนมปังให้แกชีฟ

"แยมรสหวานนี้ป้าแถมให้จ้ะ"

ชีฟรับของมาด้วยความดีใจ

"ขอบคุณ"

ชีฟตรงดิ่งกลับที่พักก่อนที่ตะวันจะลับขอบฟ้า จากนั้นก็แวะไปเคาะประตูห้องชิซูกะเพื่อชวนอีกฝ่ายไปที่ห้องของเขา ชีฟกลับเข้ามาในห้องแล้ววางขนมปังลงบนโต๊ะ จากนั้นเรียกร้องเรียกหญิงวัยกลางคนที่นอนหลับอยู่ในห้อง

"แม่ ผมเอาของอร่อยกลับมาละ"

คุณแม่ค่อย ๆ ลุกจากเตียงแล้วออกจากห้องมาลูบหัวผู้เป็นลูกอย่างเอ็นดู ชิซูกะก็เข้ามานั่งร่วมวงด้วย ทั้งสามรับประทานขนมปังทาแยมรสหวานกันอย่างเอร็ดอร่อย

ชิซูกะเหลือบมองชีฟด้วยสายตาที่ห่วงใย อาวุธปืนคุณภาพดี ชุดเกราะราคาแพง ถึงเธอจะไม่อยากให้ชีฟเป็นนักล่า แต่ตอนนี้เธอก็รั้งเด็กคนนี้ไว้ไม่ได้แล้ว เพราะเด็กน้อยที่เธอเคยรู้จัก ตอนนี้เขากลายเป็นนักล่าเต็มตัว และไปไกลเกินกว่าที่เธอจะรั้งเอาไว้ได้