webnovel

บัตรผ่าน The Wild Card

วันพฤหัสบดีของสัปดาห์ที่แรก เหลือเวลาอีกสิบเอ็ดวัน ที่โรงงานโกดังคอนเทนเนอร์ ในภูเก็ต ประเทศไทย

พัฒน์ยืนกำลังครุ่นคิดเอามือจับคางหันหน้าเข้าทุกคนนั่งอยู่ในโรงรถ โทนี่ ยามาซากิ ลิน ลาพาธี พอล ไมล์ ฟามิเนะ ไดโตะ โชและเบนจามิน วอลเตอร์

"ลินบอกว่าเขาเรียกเราว่าชมรมสุดท้าย คิดได้ไง ทำไม่เอาที่ผมคิด" ไมล์อารมณ์เสีย หงุดหงิดใส่พัฒน์

"มันเป็นความร่วมมือ ชื่อบิกแบงหรือคิปป์ทีมล่ะ เรียกอย่างนั้นดูถูกกัน ผมเจ็บกระดองใจเลยรู้มั้ย เราต่างเรียกว่า 'ภารกิจคิปป์ทีม' เราเรียกแบบนั้นตอนทำ ถ้านายอยากเรียกอย่างอื่นละก็" โชออกความเห็นด้วยภาษาญี่ปุ่นพร้อมอารมณ์เสียท้ายประโยค

โทนี่ลุกจากเก้าอี้ "ถามจริง พวกพี่ทำอะไรเจ๋ง ๆ ทำไมไม่บอกผม ผมได้แต่คิดว่าผมรู้จักพี่ซะอีก" เขาเดินเข้าใกล้พัฒน์ "พอกันที" โทนี่เดินออกจากโรงรถเก่านั้นไปทางประตู

พัฒน์รับรู้และก็กลับมาพูด"โอเค กลับมาเรื่องเดิม จากที่เราทำมาบวกดอกเบี้ยลีดูซัมต้องการให้พวกเราทำอวัยวะต่อ ไม่ก็คืนเงินให้ทั้งหมด หักลบกันคนละประมาณ 210 ล้านได้ คนละ สองร้อยล้านใครมีถึงมั่ง"

ทุกคนเงียบพัฒน์คิดถอนหายใจ "ขาดกันคนละเท่าไหร่" ยังไม่มีใครตอบทันทีพัฒน์มองไปที่ไมล์ "นายขาดเท่าไหร่"

ไมล์เอามือกุมขมับตัวเอง "หนึ่งร้อย… หนึ่งร้อยล้าน"

ลินถาม "นายใช้เหลือ 100 ล้านเหรอ"

"ใช่พี่ลิน จะสอนเงินสี่ด้านผมเหรอ พี่ไม่รู้หรอก ว่าเริ่มจากศูนย์มันเป็นยังไง"

พัฒน์พยักพน้ารับรู้จำนวนเงินของไมล์ "โชหล่ะ"

"คิดดอกด้วยของผมขาด 80 ล้าน" โชตอบเป็นภาษาญี่ปุ่น

เบนตอบ "บ้านหลังนั้นสวยนี่.. ของฉันลบห้าสิบล้าน"

ทุกคนหันไปมองหน้าเบน

"ธุรกิจโรงแรมก็งี้แหละเพื่อน" เบนตอบ

พัฒน์ "ผมติดอยู่ 20 ล้าน สรุปว่าเราติดอยู่ 450 ล้าน"

เบนพูดขึ้น "มันไม่ได้หาเราเจอเองมีคนช่วยมันอยู่"

ไมล์ถาม "โจรอีกคนเหรอ"

พัฒน์ตัดเข้าประเด็น "คนที่เรารู้จักไม่มีใครละเมิดกฎข้อที่หนึ่งแน่ ที่เรารู้ก็คือเราต้องหางาน งานที่จ่ายดี"

"พวกเรามาไกลเกินกว่าทำงานที่ไหนในประเทศนี้แล้ว" เบนตอบ

โชนึกบางอย่างออกและพูดขึ้นมา "ทำไมเราไม่ทำอวัยวะอื่นคืนไปหล่ะ"

"นั้นเป็นทางเลือกสอง" พัฒน์ตอบ "นั่นแหละเราเลยเรียกลิน"

ลินที่มองเหม่อสีฟ้าตัดกันที่นอกหน้าต่างอยู่ด้านนอก หันมาทางพัฒน์ ลินรู้ตัวตนของลินไม่อยากถูกเปิดเผยกับบริษัท ลินต้องการชีวิตธรรมดา การมาช่วยพัฒน์คือส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือและทำให้ความธรรมดายังอยู่กับตัวตนลิน

โชถามพัฒน์ที่ยืนอยู่ด้านหน้า "ดี เราจะทำอะไร?"

พัฒน์นิ่งคิดครู่หนึ่ง ทันใดนั้น "หัวใจ!" เบนตอบ ทุกคนสายตาหันไปมองคำตอบที่ออกจากคนพูด

"งั้นก็หัวใจ" พัฒน์พยักหน้ารับรู้ "เวลาไม่คอยท่า ลงมือทำกันเถอะ"

โชกับไมล์ทำหน้ากังวล

ไมล์เดินเข้าไปใกล้เบน "ที่นี่เราก็ใช้มุก ผมสามารถทำใจได้แล้วสินะ" ไมล์พร้อมยิ้มกริ่มสนุก เบนแสดงคำตอบผ่านสีหน้า ว่าเรื่องนี้อาจจะไม่ตลก เพราะคนที่ต้องทำงานหนักคือพัฒน์ โช ลิน และเบน

ตั้งแต่วันพฤหัสทุกคนทำงานสี่วันต่อเนื่อง เอาชั่วโมงนอนของทุกคน สี่คนมัดรวมกันได้แปดชั่วโมง

"ผมทำอย่างนี้มาตั้งแต่สิบสองขวบแล้วนะ พี่มันละเอียดลออเกินไป พี่ต้องหาอุณหภูมิต่อการเต้น แรงพลังงานจลน์ในอวัยวะ ไม่งั้นหัวใจไม่สามารถเต้นได้แน่" โชตะคอกเบนเรื่องความสามารถทางเคมีและสิ่งที่ทำอยู่

"เอาหน่า ๆ คนพวกนี้ไม่อยากได้ชีวิต เราแค่อยากได้ไฟล์การเรียงเซลล์" เบนตอบก่อนลุกไปดูวิวข้างนอกหน้าต่าง

ลินเรียก "โช" พร้อมกับหันหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้โชดู

โชยืนดูข้อมูลการคำนวณอุณหภูมิต่ออวัยวะ และการพลังงานไฟฟ้ากับข้อมูลส่งให้ดู "โอเค" โชเห็นว่าปัญหานี้ถูกแก้แล้วผ่านลิน

"อาจจะใช้ได้" ลินตอบ

พัฒน์หันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง "วิเศษ จำฉากใน 'เวสต์เวิลด์' ที่ยูล บรีนเนอร์ ก่อนถูกเปิดหน้ากากได้มั้ย" เขากล่าวกว้าง ๆ มีแค่เบนที่หันไปทางพัฒน์ ลิน ตั้งใจทำงานเพ่งที่หน้าจอ กับโชใส่หูฟังทำงานต่อหลังจากคำถามเมื่อกี้

"ได้ มือปืนที่ข้างในเป็นหุ่นยนต์ 'ผมมีคำถามคำถามที่ไม่ควรจะถาม' ฉันร้องไห้ทุกครั้ง" เบนเล่าถึงสิ่งที่เคยดู

"ทำไม" ลินสงสัยถามที่พัฒน์เอ่ยเรื่องนี้ขึ้นขณะหาทางสร้างโครงสร้างเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ

พัฒน์เดินตรงเข้ามาที่หน้าจอของตัวเอง เข้ามาเปิดไฟล์ข้อมูลในคอมพิวเตอร์หันหน้าจอไปยังเบน โช ลิน และนั่งเอนหลังพิงเบาะ "ความเป็นไปได้เดียว เยื่อหุ้มเซลล์กับลิ้นหัวใจหน้าเกินไปสองมิล ไม่มีจุดชัดเจนเลย แม้แต่กับโครงสร้างกล้ามเนื้อหัวใจ ในจักรวาลที่เราอาศัยอยู่มันเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้" เขาถอนหายใจหลังพูดเสร็จสิ่งนี้ทำทุกคนหนักใจ

พัฒน์กับเบนเดินออกไปเดินเล่นข้างนอก ทั้งสองคิดว่าการออกไปสูดอากาศหายใจอาจเป็นทางเดียวที่น่าจะคิดอะไรออกหลังจากที่ทำงานจนกระทั่งเจอรากของปัญหา

ท่าเรือคอนกรีตแนวนอนยาว วางตัวชี้เข้าไปในที่ทะเล ก้าวเท้าทั้งสองกำลังคำนึงถึงเรื่องราวและการแก้ปัญหา แววตาสองคู่แทบจะไม่ได้มองไปยังสีฟ้าผู้เคลื่อนไหว ที่เป็นต้นเหตุของเสียงคลื่นรอบตัว

พัฒน์ถามเบน "นายจะโทรหาใครได้อีก คนที่ทำวิจัยเรื่องอิมมูนหล่ะ"

เบน "เอกเหรอ คุยแล้ว"

"ได้เรื่องมั้ย"

"ไอเดียเพียบ แต่ทำจริงไม่ได้ เขากำลังลุ้นเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มจำนวนการทดลองผ่านเอไอแบบใหม่"

"น่าสนใจมาก"

"เขาทำอะไรก็ได้ในการทดสอบข้อมูล กี่ครั้งก็ได้" ทั้งสองคนเงียบ

"พิมพ์เงิน 450 ล้านหล่ะ" เบนเสนอไอเดีย

"หลอกตัวเองแล้วมั้ง" พัฒน์ประชดด้วยเสียงค่อย

"ใช่ เรากำลังหลอกตัวเอง" เบนตอบ "รู้ไหมเรายังไม่ได้นึกถึงอะไร"

"อะไร" พัฒน์ถาม

"มอบตัว" เบนตอบ "ลีดูซัมจะมาทำอะไรเราได้"

"ก็เอาสิ โทรเรียกตำรวจบอกเขาว่า เราเป็นตัวการค้าอวัยวะในเอเชีย เราถูกขังคุก 20 ปีเป็นการสั่งสอนเขา ผมว่าแม่คงรอพี่ได้" พัฒน์ประชดกลับไปที่เบน

"นายทำเรื่องนี้ได้ดีนะรู้มั้ย"

"แล้วพี่อ่ะ ธุรกิจโรงแรมอ่ะ เป็นไงบ้าง"

"ห่วย"

"แฟนพี่หล่ะ"

"ก็ห่วย"

"ไม่รู้สิ ผมหยุดคิดไม่ได้ เป็นซะยังงี้ ไปที่ไหนผมก็คิดเรื่องที่จะพิมพ์อวัยวะ เป็นสิ่งที่ผมทำ ผมทำมาตลอด ผมรักมัน" พัฒน์ถอนหายใจ "ไม่รู้สิ น่าตลกนะ ว่าไหม ฟังนะ โลกนี้มันบ้าและพี่ก็…" พัฒน์สังเกตเห็นสีหน้าของเบนที่นิ่งคิด เขาแทบไม่ได้ฟังในสิ่งที่พัฒน์พูด เบนแสดงสีหน้านึกบางอย่างออก "พี่นึกออกแล้วเหรอเนี่ย"

"นายไม่ชอบแน่" เบนตอบ

พัฒน์เต็มไปด้วยแววตาสงสัย

เบนกลับมาแล็บที่โรงงาน ที่หน้าจอนำเสนองาน

"ทุกคน นี่ทางเลือกนี้เป็นทางเลือกเดียว อาคารซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ของบริษัท เอชเอชเอ็ม ฮาร์ดแวร์ เทคโนโลยี นี่เป็นบริษัทเดียวที่ได้มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ถึงสามตัวในโมร็อกโก อาคารนี้ซ่อนอยู่ใต้โรงไฟฟ้าภายใต้การคุ้มกันของทหาร อยู่ในคุ้มกันแน่นหนา เปลี่ยนกะของหน่วยรักษาความปลอดภัยตลอดเวลา นี่เป็นหนึ่งในสามของบริษัทเทคโนโลยีที่สามารถมีซูเปอร์คอมพิวเตอร์สามตัว ทางเดียวที่จะดาวน์โหลดข้อมูลทั้งหมดได้คือผ่านสถานีคอมพิวเตอร์กลาง" ภาพบนหน้าจอแสดงให้เห็นภายใต้อาคารลักษณะเหมือนแท็งค์น้ำขนาดใหญ่สามปริมาตรทรงกลม เหมือนเครื่องซักผ้าที่มีน้ำหมุนอยู่ภายในตลอดเวลาเพื่อลดความร้อน.."แล้วลินไปไหนล่ะ"

"พี่ลินกลับปารีสไปแล้วเขาฝากบอกว่า 'ฉันไปก่อนนะ มีงานต้องไปทำ นี่เลยเวลาวันลาพักร้อนแล้ว มีอะไรโทรมา'" ไมล์ตอบและทำเสียงแบบลินตอนที่เป็นประโยคของลิน

"ทำไมนายต้องทำเสียงเป็นลินด้วยวะ" เบนถามไมล์ และโชก็มองหน้าไมล์ พัฒน์ปวดหัวกับการพยายามอยากช่วยของไมล์

"เอาเถอะ มันเป็นเรื่องเล่าไงพี่ ผมแค่อยากทำตัวเป็นประโยชน์บ้าง"

พัฒน์และเบนมองหน้าไมล์ โดยที่ไมล์ยังไม่รู้ว่ามีหน้าที่ที่สำคัญที่ต้องทำ

"โอเค ข่าวร้ายคือ ระบบรักษาความปลอดภัยระดับเก็บรักษาหัวรบนิวเคลียร์ ทุกประตูทางเข้าใช้รูปมากกว่าหน้ายิ้ม การจะเข้าไปทุกประตู ต้องใช้รหัสที่เปลี่ยนใหม่ทุกสิบสองชั่วโมง สิ่งที่ดูจะผ่านเข้าไปได้คือท่อหมุนเวียนน้ำ ที่ประตูระบายน้ำจะไม่เปิดถ้าเป็นเหล็กหรือขนาดใหญ่เกิน"

"โดยที่ไม่สามารถปลอมแปลงตัวตนได้ และไม่สามารถขอประกันตัวได้ถ้าติดคุกประเทศโมร็อกโก" พัฒน์พูดต่อ

"สิ่งที่สำคัญกว่านั้น ทางท่อระบายน้ำปล่อยทำให้กระแสน้ำหมุนแรงตลอดเวลา และข้างในช่องลมกว้างแค่หกนิ้ว ฐานรากคอนกรีตหนาสิบสองฟุต"

"ท่อสายไฟฟ้า?" โชถาม

เบนหันไปตอบโช "คำเดียวเลย คุณเข้าสถานีไม่ได้ นอกจากคุณมีประวัติอยู่ในระบบ" เบนกดปุ่มสไลด์ "ข้อมูลบุคคลในระบบ ออฟไลน์ อยู่ในช่องของเหลวเย็น นี่เลยถึงหมุน"

"ของเหลวเย็น? มันอยู่ใต้น้ำเหรอ?" ไมล์ถามซ้ำ

"ใช่" พัฒน์ตอบ

"โอเค"

"งั้นหมายความว่าเราคนหนึ่ง ต้องเข้าไปในถังหมุนสามถัง เปลี่ยนแผ่นดิสประวัติที่ถังแรก ถังที่สองเปลี่ยนข้อมูลกลาง ถังที่สามเปลี่ยนการประมวลผล อีกคนสามารถเข้าใช้คอมพิวเตอร์โดยไม่ถูกจับแล้วเอาไฟล์ออกมา" พัฒน์คิดและหันหน้าไปทางเบน "นั้นเป็นทางเดียว"

"นั้นเป็นทางเดียว" เบนตอบ "มีคำถามมั้ย"

"แสดงว่าต่อให้เข้าไปโดยปลอมตัว ถ้าการประมวลข้อมูลเกินเวลา เราจะถูกจับ พวกเราจะติดคุกโมร็อกโกและออกมาอีกสิบปีข้างหน้า โอเคถ้างั้นความปลอดภัยขั้นต้นก็ไม่เป็นปัญหา" โชเสริม

"ผมเข้าทางนั้นได้มั้ย มันคืออะไร" พัฒน์ชี้ไปทางด้านหนึ่งของปริมาตรทรงกลมลูกแรก

"นั้นคือประตูซ่อมบำรุงเปิดได้จากข้างในเท่านั้น ถ้าคุณเปิดมันจากด้านนอก คุณจะเจอกับแรงดันน้ำปริมาตรสองแสนหนึ่งหมื่นแกลลอน"

"แล้วน้ำมาจากไหน"

"น้ำทะเลที่เอาเกลือออกแล้วผ่านท่อเข้าโรงไฟฟ้า ระบบถูกออกแบบให้ปิดอัตโนมัติถ้ามีโลหะเสียบเข้าไปในท่อ"

"ถังออกซิเจนเข้าไปไม่ได้" พัฒน์ตอบ

"ใช้เวลาเท่าไหร่ในการว่ายจากท่อไปประตูช่าง?" โชถาม

"สองนาที ด้วยแรงพัดของน้ำเต็มกำลัง"

"แล้วข้อดีหล่ะ" ไมล์ถาม

"ในการประมวลผลทั้งหมดของข้อมูลที่ทำได้ สามารถจำลองรูปแบบข้อมูลเชิงชีวภาพและการพิมพ์ หกถึงสิบอวัยวะจากที่เราเคยทำมา ในสามสิบวินาที หมายความว่าแต่ละไฟล์มีมูลค่าอย่างน้อยแปดสิบล้านบาทถึงหนึ่งร้อยยี่สิบล้านบาท แต่จากข้อมูลที่เราทำมาตลาดและความต้องการตลาดพุ่งขึ้นสูงมากกว่าเดิมสองเท่า ในราคาปัจจุบันอยู่ที่ ร้อยหกสิบล้านถึงสองร้อยสี่สิบล้านบาท ถ้าเอาไฟล์ทั้งหมดไปขายจะอยู่ที่อย่างต่ำหนึ่งพันหกร้อยล้านบาท เราจะเอาเงินกลับมาแบ่งทุกคนเท่ากัน ตัดสินใจดูละกัน"

โชอึ้งกับมูลค่าปัญหาและราคาในการแก้

ไมล์ยกมือถาม "ผมมีคำถาม"

เบนพยักหน้ารับข้อสงสัย

"พี่กำลังจะบอกว่า เราสามารถเข้าไปในแท็งค์น้ำ และมีอีกคนหนึ่งผ่านทุกประตูรักษาความปลอดภัย และคนที่อยู่ข้างใต้น้ำที่ไม่มีประตูทางออก และมีทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้านบน พร้อมปืน ถ้าคนในน้ำไม่สามารถเปลี่ยนแผ่นดิสได้ทัน"

"ใช่ คนหนึ่งจะตายในน้ำ และอีกคนหนึ่งจะโดนจับด้านบน แต่ในแท็งค์น้ำไม่มีกล้องนะ" พัฒน์ตอบ

"ขอโทษที่ไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น" เบนกล่าวไปทางไมล์

"โอเค หมายความว่า ถึงแม้เราจะทำทั้งหมดได้ เราจะเดินออกมาโดยที่ได้ไฟล์มูลค่าหนึ่งพันหกร้อยล้านได้โดยที่ไม่โดนจับเลยเนี่ยนะ" ไมล์สงสัย

เบนนิ่งคิดอยู่ครู่และตอบ "ใช่"

ไมล์หยิบหมากฝรั่งมาเคี้ยวพร้อมกับหยิบหูฟังใส่และฟังเพลงต่อ เขากลุ้มใจกับและถอนหายใจกับการทำเรื่องนี้ พัฒน์เคี้ยวช็อกโกแลตเอ็มแอนด์เอ็มด้วยความเครียด พัฒน์หวังว่าเรื่องนี้จะจบลงหลังจัดการเรื่องพวกนี้ได้