บทที่ 24 เลี่ยนจนน่าพะอืดพะอม
หลังจากส่งข้อความแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่สนใจเรื่องจดหมายรักอีก ตั้งใจอ่านหนังสือต่อแข่งกับทุกนาที
แต่ที่สวนจิ่นหยวนในเวลานี้ บรรยากาศเหมือนโลกกลับตาลปัตร ผู้คนโกลาหลวุ่นวาย...
ชายหนุ่มบนโซฟามีดวงตาสีน้ำหมึกดั่งค่ำคืนในฤดูหนาว ความรู้สึกกดดันรุนแรงโจมตีอย่างบ้าคลั่งในพื้นที่กว้างใหญ่
เหล่าคนใช้ในบ้านต่างหลบมุมตัวสั่นเทา ไม่กล้าแม้จะหายใจเสียงดัง
สวี่อี้แผ่นหลังเปียกชุ่มด้วยเหงื่อเย็น ยืนกระดูกสันหลังแข็งทื่ออยู่ข้างชายหนุ่ม แววตาสั่นไหวเหลือบมองโทรศัพท์หน้าจอแตกยับที่กองอยู่กับพื้นเครื่องนั้น สีหน้ามีแต่ความสิ้นหวัง
โทรศัพท์คุณภาพดีมาก หน้าจอถูกปาแตกแล้วก็ยังทนทาน ยังคงแสดงภาพจดหมายรักที่ถูกซูมใกล้ได้อย่างชัดเจน
น่าตายนัก เขาคิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้
ผู้หญิงคนนั้นรักเจ้าคนสกุลกู้นั่นหมดหัวใจจริงๆ แม้โดนทิ้งโดนถอนหมั้นก็ไม่สนใจ ยังคงตามติดอยู่เช่นเดิม แล้วจะมาเปลี่ยนนิสัยปุบปับ คิดจะใช้ชีวิตดีๆ กับนายท่านได้อย่างไร?
แบบนี้ไม่เท่ากับว่าเท้าหน้าเพิ่งหลอกนายท่าน เท้าหลังก็รีบวิ่งตามกู้เยว่เจ๋อไปอีกหรอกเหรอ
ทั้งยังเขียนจดหมายรักเลี่ยนจนน่าพะอืดพะอมแบบนี้!
ไร้ยางอายเกินไปแล้ว!
ข้อความในจดหมายรักเป็นกลอนบทหนึ่ง เมื่อถอดความหมายออกมาแล้วมีเนื้อหาประมาณว่ายินดีเป็นปกคอเสื้อ เพื่อรับรู้กลิ่นหอมของคุณ ยินดีเป็นเข็มขัดบนเสื้อคลุม จะได้โอบกอดเอวคุณไว้ ยินดีเป็นน้ำมันชโลมบนเส้นผม ให้ความชุ่มชื้นกับเส้นผมดกดำของคุณ...
เป็นบทกลอนที่อนาจารเหลือเกิน!
ถึงว่านายท่านถึงได้โกรธได้ขนาดนี้!
แต่ว่าก็แค่ผู้หญิงคนเดียว ในเมื่อไม่เชื่อฟัง ก็คิดซะว่าเป็นสิ่งของเลี้ยงไว้ในคฤหาสน์ก็พอแล้ว ทำไมต้องตามใจเธอขนาดนี้ด้วย
นายท่านก็เลอะเลือนไปแล้ว ผู้หญิงคนนั้นพูดดีด้วยไม่กี่คำก็หลงเชื่อ
เวลานี้ สีหน้าของชายหนุ่มลึกล้ำราวกับน้ำ อสูรร้ายที่ซ่อนอยู่ในตัวกระโจนออกมาจากกรง กำลังเลียกรงเล็บแหลมคม รัศมีกระหายเลือดแผ่ซ่าน
หวันหวั่น...
ฉันเคยบอกเธอแล้ว...
นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่ฉันจะให้เธอ...
ครั้งสุดท้ายที่ฉันจะเชื่อเธอ...
“จับตัวกลับมา” เสียงทุ้มต่ำแหบแห้งของชายหนุ่มบนโซฟาดังขึ้น
สวี่อี้ตกใจตัวสั่นกับสีหน้าเย็นเยียบของเขา รีบเอ่ยว่า “ครับ! ผมจะส่งคนไปเดี๋ยวนี้!”
ทันใดนั้น รถสีดำเป็นแถวก็แล่นออกจากสวนจิ่นหยวนหายไปในราตรีกาลอย่างเงียบๆ
ในห้องรับแขก คนใช้ทุกคนต่างเงียบเป็นจักจั่นหน้าหนาว ในใจเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
ตั้งแต่ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาอยู่ในสวนจิ่นหยวน พวกเขาก็ไม่เคยได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขสักวัน ทั้งสวนจิ่นหยวนถูกเธอสร้างความวุ่นวายจนบรรยากาศอึมครึม
สวี่อี้ทอดมองไปนอกหน้าต่าง เห็นสีท้องฟ้าราตรีเข้มจนแยกกันไม่ออก ในใจก็รู้สึกหดหู่อึมครึม ถัดไปรอพวกเขากลับมาแล้ว เกรงว่าต้องมีพายุฝนโหมกระหน่ำอีก...
หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นถูกจับตัวมา ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป
ถึงตอนนั้นคนที่ต้องน่าเวทนาที่สุด และโชคร้ายที่สุด คงไม่พ้นลูกน้องอย่างพวกเขา...
“กริ๊ง...”
เวลานี้เอง โทรศัพท์ที่แตกยับอยู่บนพื้นพลันมีเสียงดังขึ้น ไฟหน้าจอสว่างขึ้นมา
จิตใต้สำนึกสวี่อี้สั่งให้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู หัวคิ้วพลันขมวด
ทำไมถึงได้เป็นจดหมายรักฉบับนั้นอีก?
อีกทั้งครั้งนี้ยังเป็นรูปจดหมายรักเพียงอย่างเดียวอีกด้วย
สวี่อี้กำลังหาพิรุธ สายตาพลันเหลือบไปเห็นช่องผู้ส่ง ทันทีที่เห็นก็ตะลึงไปเลย ผู้ส่งข้อความนี้มาไม่ใช่เฉินเมิ่งฉี แต่เป็น...แต่เป็นเยี่ยหวันหวั่น!
นี่...นี่มันหมายความว่ายังไง?
หรือว่าจดหมายรักที่เลี่ยนจนสะอิดสะเอียนฉบับนั้นไม่ได้เขียนให้กับกู้เยว่เจ๋อ แต่เยี่ยหวันหวั่นเขียนให้...เขียนให้นายท่าน!?
พระเจ้าช่วย!
……….…………………………………………………………..