webnovel

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

เมื่อจู่ๆ โชคชะตาก็ทำให้ เยี่ยหวันหวั่น ฟื้นขึ้นมาในคืนแห่งความทรงจำอันเลวร้ายเมื่อ 7 ปีก่อน เธอย้อนเวลากลับมาเกิดใหม่ในบ้านหลังเดิม ที่ยังมีปีศาจแสนเย็นชา ซือเยี่ยหาน คอยอยู่ข้างกาย เขา... คนที่เธอเคยพยายามหนีไปให้พ้น ยอมแม้แต่ทำให้ตัวเองอัปลักษณ์ น่าอับอาย และรักกับชายคนอื่น! แต่ชาติก่อนสมองของเธอคงมีปัญหา ถึงได้ปล่อยสามีสุดหล่อคนนี้เอาไว้ไม่เหลียวแล จึงได้ถูกหญิงร้ายชายชั่วทำร้าย เธอถูก เฉินเมิ่งฉี เพื่อนสนิทที่ไว้ใจที่สุดล้างสมองและหาทางเข้าใกล้ซือเยี่ยหาน จนในที่สุดความสัมพันธ์ระหว่างเธอและสามีก็ถึงคราวแตกร้าว และตัวเธอต้องมีจุดจบอันน่าเวทนา ชาตินี้ในเมื่อมีโอกาสกลับมาอีกครั้ง เธอจะยึดตำแหน่งคนข้างกายซือเยี่ยหานไว้ คอยอาศัยความรักและบารมีของเขา ใช้ชีวิตใหม่ให้คุ้มค่าที่สุดเพื่อเอาคืนคนชั่วพวกนั้น และที่สำคัญคือมีชีวิตที่ดียิ่งกว่าเดิม! ...คิดจะตีหน้าซื่อหลอกใช้ สรรหาวิธีให้เธอยอมถอยเหรอ? ‘ขอโทษที สติปัญญาของฉันอัปเกรดมาแล้ว!’

จ่งจ่งโหย่วเยา · Urbano
Classificações insuficientes
570 Chs

บทที่ 22 เรียนกากไม่มีสิทธิ์พูดแสดงความเห็น

บทที่ 22 เรียนกากไม่มีสิทธิ์แสดงความเห็น

คิดถึงตรงนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่คิดฟุ้งซ่านอะไรอีก เริ่มพลิกหนังสือเรียนอ่านทบทวน

ชายหนุ่มด้านข้างที่ฟุบตัวหลับบนโต๊ะได้ยินเสียงรบกวนจากการพลิกหน้ากระดาษ จึงคิ้วขมวดพลางหันมองข้างกาย

ผลคือเมื่อเงยหน้าขึ้นมา กลับเห็นเยี่ยหวันหวั่นอ่านหนังสืออยู่จริงๆ

ผู้หญิงคนนี้...ถูกกระตุ้นจนนิสัยเปลี่ยนเหรอ?

เขากำลังคิดอยู่เช่นนี้ แต่เมื่อได้เห็นท่าทางของเยี่ยหวันหวั่นอย่างชัดเจนแล้ว ชายหนุ่มมีสีหน้าโมโหทันที

เพราะเยี่ยหวันหวั่นพลิกหน้ากระดาษได้ไวกว่าความเร็วในการเปลี่ยนสีหน้าของวันนี้อีก

นี่มันอ่านหนังสือที่ไหนกันล่ะ?

หากไม่ใช่กำลังอ่านหนังสือ แล้วเธอกำลังทำอะไร? ว่างมากก็เลยพลิกหน้ากระดาษเล่นอย่างนั้นเหรอ?

“หนวกหูจะตายอยู่แล้ว” ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

เยี่ยหวันหวั่นทำหน้าหงุดหงิดเล็กน้อย หมอนี่ คิดจะหาเรื่องกันใช่ไหม!

เชื่อหรือเปล่าว่าฉันใช้สถานะบดขยี้นายให้ตายได้!

หากไล่ตามลำดับศักดิ์แล้ว เขาต้องเรียกเธอว่า ‘สะใภ้เก้า’ อย่างเคารพนอบน้อมด้วยซ้ำ

ชาติก่อนเธอเพิ่งมารู้ทีหลัง ซือเซี่ยหนุ่มหล่อประจำโรงเรียนมัธยมปลายชิงเหอแท้จริงแล้วเป็นหลานชายของซือเยี่ยหาน

เยี่ยหวันหวั่นหัวคิ้วกระตุก “เฮอะ รำคาญว่าหนวกหู? เก่งนักก็สอบไปนั่งข้างหน้าให้ได้สิ ผู้แข็งแกร่งที่สุดคือผู้อยู่รอด ผู้แข็งแกร่งถึงจะได้รับความเคารพ เรียนกากไม่มีสิทธิ์แสดงความเห็น!”

ชายหนุ่มสำลักจนพูดอะไรไม่ออก แสดงสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

เมื่อครู่นี้เขาโดนคนได้ที่โหล่ของโรงเรียนพูดเสียดสีอย่างนั้นเหรอ?

หึ ดีมาก

การสอบในครั้งนี้ เขาจะทำให้เธอรู้ว่าผู้แข็งแกร่งที่สุดคือผู้อยู่รอด ผู้แข็งแกร่งถึงจะได้รับความเคารพมันคืออะไรกันแน่!

เสียงออดเลิกเรียนดังขึ้น เวลาหนึ่งวันได้ผ่านไปเร็วเหลือเกิน

โดดเรียนเป็นเวลาที่แสนสบาย แต่ทบทวนบทเรียนร้อนทรมานเหมือนเมรุเผาศพ

ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา เยี่ยหวันหวั่นเห็นคนเป็นภาพซ้อนหมดแล้ว บนภาพซ้อนยังมีตัวหนังสือเบียดกันแน่น

เจ็ดวันข้างหน้า โรงเรียนจะหยุดให้ทุกคนตั้งใจทบทวนบทเรียนเพื่อการสอบที่จะมาถึง

โรงเรียนมัธยมปลายชิงเหอเป็นโรงเรียนแบบปิด จึงกำหนดให้นักเรียนทุกคนต้องพักที่โรงเรียน นอกเสียจากจะมีเรื่องด่วนเป็นกรณีพิเศษ

ช่วงหลายวันแห่งการทบทวนบทเรียนนี้ ทุกคนสามารถทบทวนอยู่ในหอพักตัวเอง หรือจะไปห้องเรียนก็ได้

หลังจากเลิกเรียน พวกนักเรียนทยอยกลับหอพัก เยี่ยหวันหวั่นเองก็ลากกระเป๋าสัมภาระเดินไปที่ตึกหอพักเหมือนกัน

หอพักของโรงเรียนเป็นห้องพักรวมสี่คน แต่เธอถูกเพื่อนร่วมห้องปฏิเสธไม่อยู่ร่วมกัน จึงถูกจัดให้พักห้องเดี่ยว

อีกทั้งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับซือเยี่ยหานที่ไม่อาจให้คนรู้ได้ การพักห้องเดี่ยวกลับเป็นเรื่องดีสำหรับเธอ

นิ้วมือขาวเรียวยาวค่อยๆ ผลักประตูห้องพักเปิดออก บรรยากาศอันคุ้นเคยปะทะเข้ามา

ห้องพักเดี่ยวห้องนี้แม้จะมีพื้นที่ไม่กว้าง แต่ก็เพียงพอสำหรับเธอที่พักคนเดียว เทียบกับสวนจิ่นหยวนอันกว้างใหญ่จนน่ากลัวแล้ว ที่นี่ให้ความรู้สึกปลอดภัยกับเธอมากกว่า

อีกทั้ง ชิงเหอมีนักธุรกิจร่ำรวยและศิษย์เก่านับจำนวนไม่ถ้วนมาลงทุน สภาพของหอพักจึงดีมาก ไม่เพียงมีเครื่องปรับอากาศ ยังมีห้องอาบน้ำและห้องสุขาในตัว

เยี่ยหวันหวั่นวางสัมภาระลง นำสิ่งของจัดวางไปยังที่เดิม

หลังจากจัดเก็บทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว กำลังเตรียมจะนั่งทบทวนบทเรียนต่อ เสียงเคาะประตูพลันดังขึ้น

พอเปิดประตูออกไป เห็นเฉินเมิ่งฉีในชุดกระโปรงลูกไม้สีชมพูอ่อนยืนน่ารักอยู่หน้าห้อง

เมื่อหญิงสาวเห็นเยี่ยหวันหวั่นสีหน้าก็ตื่นเต้น นัยน์ตาเปล่งประกาย “หวันหวั่น ในที่สุดก็ได้พบเธอสักที ฉันเป็นห่วงแทบแย่ เห็นเธอไม่เป็นอะไร ดีจังเลย!”

เห็นท่าทางเป็นห่วงเป็นใยที่สุดของเฉินเมิ่งฉี เยี่ยหวันหวั่นอดถอนใจข้างในไม่ได้ ไม่แปลกเลยที่ในอนาคตเฉินเมิ่งฉีจะโด่งดังในวงการบันเทิงขนาดนั้น การแสดงนี่ไม่ต้องพูดถึงจริงๆ

เยี่ยหวันหวั่นนั่งลงหน้าโต๊ะหนังสือ เนื่องจากถูกรบกวน สีหน้าจึงเผยอาการหงุดหงิดอยู่บ้าง “มีอะไรเหรอ? ไม่ว่าเธอจะมีเรื่องอะไร อีกเจ็ดวันค่อยมาหาฉันเถอะ ตอนนี้ฉันไม่มีเวลา”

เฉินเมิ่งฉีคิดว่าเธออารมณ์ไม่ค่อยดีเพราะทะเลาะกับกู้เยว่เจ๋อ จึงเอ่ยโน้มน้าวเสียงอ่อนโยน “คุณชายกู้คงจะเข้าใจผิดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับซือเยี่ยหาน แต่เป็นเพราะเขารักมากเลยโมโหมาก ในใจของเขายังมีเธออยู่นะ ไม่เช่นนั้นครั้งนี้เขาคงไม่ไปช่วยเธอหรอก ขอแค่เธอไปหาเขา แล้วอธิบายเรื่องเข้าใจผิดให้ชัดเจนก็พอแล้ว”

เยี่ยหวันหวั่นไม่มีเวลาพูดเรื่องไร้สาระกับเพื่อนสนิทที่แสดงได้ดีเยี่ยมคนนี้ เวลานี้เธอพุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่หนังสือ

เห็นเยี่ยหวันหวั่นหงุดหงิดจนพลิกหน้ากระดาษไม่หยุด คาดว่าอารมณ์ยังไม่ดีขึ้น เฉินเมิ่งฉีจึงไม่พูดโน้มน้าวอีก

“งั้นหวันหวั่น ฉันไปก่อนนะ ใกล้สอบแล้ว ฉันก็ต้องรีบทบทวนบทเรียน พ่อฉันบอกว่าถ้าครั้งนี้รักษาสามอันดับแรกของชั้นเรียนได้จะซื้อมือถือใหม่ให้ ถ้าเธอมีเรื่องอะไร จำไว้ว่าต้องมาหาฉันนะ!”

“ฉันรู้แล้ว” เยี่ยหวันหวั่นตอบโดยไม่เงยหน้า

เฉินเมิ่งฉีขมวดคิ้วเบาๆ ไม่ค่อยชินกับท่าทางเย็นชาของเยี่ยหวันหวั่นเท่าไร

ตอนกำลังจะจากไป หางตาเธอเหลือบเห็นมุมหนึ่งบนโต๊ะเรียนของเยี่ยหวันหวั่นมีอะไรโดดเด่นสะดุดตา นั่นคือจดหมายรักฉบับหนึ่ง

……….…………………………………………………………..