webnovel

ความทรงจำที่หวนคืน

ชีฟโดนเตะเต็มแรงจนกลิ้งไปกับพื้นหญ้าข้างโกดังที่อยู่ใกล้กับตึกด้านทิศตะวันออก ตอนนี้เขาถูกอีกฝ่ายจับได้ แต่ที่เขายังมีชีวิตอยู่ ก็เพราะอีกหกคนที่โดนเขาขโมยสกิลไปอยากได้สกิลคืน

บีรีบเข้ามาห้ามแจ็ค

"นี่อย่าทำแรงเกินไปสิ ถ้าเกินมันตายขึ้นมาใครจะเอาสกิลคืนให้ฉัน"

แจ็คตอบอย่างหัวเสีย

"โดนแค่นี้มันไม่ตายหลอกน่า"

พูดจบแจ็คก็เดินไปบีบคอชีฟแล้วดึงให้ลุกขึ้น ก่อนจะขว้างใส่พื้นหญ้าอีกครั้ง

"เอาสกิลพวกกูคืนมาเดี๋ยวนี้ แล้วกูจะใจดีปล่อยมึงไปหนหนึ่ง"

ชีฟไอแค่ก ๆ แล้วกระอักเลือดออกมา ก่อนจะยกนิ้วกลางให้อีกฝ่าย

"ถึงคืนไปก็โดนฆ่าอยู่ดี คืนให้โง่สิ"

ปัก! แจ็ดหวดเท้าใส่ท้องของชีฟเต็มแรงจนลอยขึ้นจากพื้น แล้วปลิวไปหลายเมตร ชีฟที่ร่วงกระแทกพื้นก็กระอักเลือดออกมาชุดใหญ่ พร้อมกับความจุกที่ทำให้เขาถึงกับพูดอะไรไม่ออก

ชีฟก้มมองพื้นอย่างหมดหวัง เขาไม่ได้อยากจะสู้กับใครหรือฆ่าใครตายทั้งนั้น แต่ทำไมเขาต้องมาเจอเรื่องแย่ ๆ แบบนี้ เขาแค่อยากจะมีชีวิตที่ดี มีความรักที่ดี มีครอบครัวที่ดีเหมือนคนอื่น เขาไม่ได้อยากจะมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ เขาฆ่าครอบครัวเจ้าสัวด้วยความสิ้นคิด เพราะคิดว่าถ้าทำลงไปแล้วเรื่องน่าจะจบ แต่ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะยังมีลูกชายที่ส่งคนมาตามล่าเขา เขาจะทำยังไงเขาจะสู้ยังไง หรือยอมแพ้ตรงนี้ให้เรื่องทุกอย่างมันจบ ๆ ไป เมื่อคิดถึงตรงนี้ตาชีฟก็เริ่มพร่ามั่ว และเห็นภาพหลอนบางอย่าง

ภาพการฆ่าฟัน ภาพเหล่าตัวละครในเกมที่เขาเคยเล่น กำลังไล่เข่นฆ่าศัตรูอย่างโหดเหี้ยม เพราะแค่พวกเขาต้องเอาชีวิตรอด คำพูดมากมายจากตัวละครหลาย ๆ เกมดังซ้ำไปซ้ำมาในหัวของเขา เสียงหลาย ๆ เสียงดังก้องกังวานในหัวของชีฟไม่หยุด

"ต้องรอด" "ต้องฆ่ามัน" "ฆ่าพวกมัน" "ฆ่าให้หมด!"

จากนั้นก็มีชายใส่แว่นสุดเท่คนหนึ่ง เดินมาพร้อมกับท่อนเหล็กขนาดพอดีมือ แล้วโยนท่อนเหล็กมาให้ชีฟ เมื่อเขากำท่อนเหล็กไว้ในมือ ท่อนเหล็กก็กลายเป็นละอองสีขาวไหลเข้าไปในหัวของเขา ความทรงจำบางอย่างที่เคยหายไป ไหลทะลักกลับเข้ามาในหัวจนเขามึนหัวไปหมด แต่แล้วภาพหลอนที่กำลังเกิดขึ้นก็หายไป มันถูกแทนที่ด้วยเท้าใหญ่ ๆ ของแจ็คที่อัดเข้าใส่ใบหน้าของเขา

"สรุปมึงจะคืนสกิลให้พวกกูดีดีหรือมึงจะตายอยู่ที่นี่"

ชีฟที่กระเด็นไปค่อย ๆ พยุงตัวเองให้ลุกขึ้น ก่อนจะแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วพูด

"ไม่ฆ่าเขา เขาก็ฆ่าเรา งั้น กูขอฆ่าพวกมึงก่อนละกัน"

แจ็คและคนอื่น ๆ หัวเราะลั่น

"อย่างมึงเนี่ยนะ จะฆ่าพวกกู ฮ่าฮ่าฮ่าๆๆๆ"

ชีฟสาดเมล็ดพันธุ์ไปทางคนทั้งหมดหลายสิบเมล็ด

แจ็คยกมือขึ้นบังหน้าตัวเอง ก่อนจะก้มมองเมล็ดพืชแล้วหัวเราะออกมา

"เมล็ดนี่เหรอที่มึงจะใช้ฆ่าพวกกู"

ชีฟไม่สนใจ ก่อนจะเอามือทาบพื้น

"เจริญเติบโตเฉียบพลัน"

เมล็ดพันธุ์ที่ชีฟหว่านออกไปคือ เบาบับดิจิทาทา (เอาชื่อไปค้นในเน็ตได้) ต้นไม้ที่มีลำต้นหนาและสูงใหญ่ เมล็ดพันธุ์เม็ดเล็กแตกหน่อออกใบ ก่อนจะเจริญเติบโตขึ้นมากลายเป็นต้นเล็กที่ขึ้นแทรกกลางและล้อมรอบเหล่านักรบสกิลทั้งสิบสี่คนเอาไว้ และจากต้นเล็กก็ค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นต้นใหญ่ เหล่านักรบสกิลที่แทรกกลางอยู่ระหว่างต้นไม้แต่ละต้น ก็ค่อย ๆ ถูกเบียดดันจนไปติดกับอีกต้นหนึ่ง เมื่อไม่มีทางไปร่างกายอันบอบบางก็ถูกการขยายใหญ่ของต้นไม้บดขยี้จนแหลกเหลวราวกับเนื้อบด ทุกอย่างนี้เกิดขึ้นเพียงในเวลาแค่หนึ่งวินาที นั่นทำให้ไม่มีใครจะได้ทันตั้งตัวหรือแม้แต่จะส่งเสียงร้อง

ชีฟมองภาพตรงหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะต้องขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นเหล่าต้นไม้กำลังขยับสั่นไหว

หญิงสาวผู้ถือดาบและโล่บินพุ่งขึ้นมาจากดงต้นไม้ใหญ่ด้วยปีกนกสีขาว รอบ ๆ ตัวของนักดาบนั้นหุ้มด้วยออร่าสีทองอร่าม และยังไม่หมดแค่นั้น ต้นไม้สองต้นถูกดันจนเอียง ก่อนที่แจ็คและชายถือขวานอีกคนจะโผล่ออกมา

แจ็คหันกลับไปมองด้านหลัง ก่อนจะเห็นเลือดสด ๆ เปรอะอยู่ตามซอกของต้นไม้ นั่นหมายถึงคนอื่น ๆ ในทีมของเขา โดนบดขยี้ตายไปหมดแล้ว

ชีฟมองทั้งสามคนด้วยความทึ่งเล็กน้อยพลางคิดในใจ

'ดาบโล่มีสกิลออร่าคุ้มกาย สายขวานก็มีสกิลเสริมความแข็งแกร่งของร่างกายมากกว่าสายอื่น เพราะงี้ต้นไม้ของเราเลยทำอะไรไม่ได้สินะ'

แจ็คหันมาจ้องมองชีฟด้วยความโกรธเกรี้ยว

"มึงนะมึง อย่าอยู่เลย"

แจ็ควิ่งเข้าใส่ชีฟสุดกำลัง โดยมีเคิร์กวิ่งตามมาด้วย

ชีฟยิ้มเย้าะ

"จะฆ่าคนอื่นเสือกไม่รู้สึกอะไร แต่พอพวกพ้องตัวเองตายดันโกรธซะงั้น ไอ้ขี้ข้าโจรเอ้ย"

พูดจบต้นไม้สูงใหญ่สองต้นก็ปรากฏขึ้นมากำบังชีฟเอาไว้

แจ็คเหวี่ยงขวานในมือตัวเองใส่ต้นไม้สุดแรง

"คิดว่าต้นไม้แค่นี้จะขวางกูได้เรอะ!"

ต้นไม้ต้นใหญ่หักโค่นในพริบตา ชีฟโยนเมล็ดพันธุ์ขึ้นไปในอากาศเหนือหัวแจ็คกับเคิร์ก ต้นไม้ใหญ่สองต้นปรากฏขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะหล่นใส่ทั้งสองคน

จากนั้นชีฟก็หันขวับไปจ้องนักดาบโล่ที่กำลังบินมาทางเขาพร้อมกับดาบที่เรื่องแสงสีทองเจิดจรัส

ชีฟเปลี่ยนมาใช้เมล็ดมะขามก่อนจะทาบมือลงพื้น

"ป่ามะขามยักษ์"

ชีฟผสมต้นมะขามกับต้นเบาบับดิจิทาทา ขนาดและจำนวนของมันทำให้พื้นที่ระหว่างโกดังกับตึกสูงกลายเป็นป่าทึบ

นักดาบโล่ที่กำลังพุ่งเข้าหาชีฟมีอันต้องหยุดชะงัก เมื่อตอนนี้เธอไม่สามารถมองเห็นเป้าหมายได้ แถมเธอก็ยังถูกต้นไม้เหล่านี้หนีบเอาไว้จนเคลื่อนไหวได้ลำบาก แต่อยู่ดีดีต้นมะขามหลายต้นก็หักโค่นลง

แจ็คและเคิร์กช่วยกันโค่นต้นมะขามที่หนีบนักดาบโล่ออกไป ก่อนที่แจ็คจะเดินเข้าไปหานักดาบโล่ที่กำลังล่วงลงมาบนพื้น

"เหมียว ไอ้พืชนั่นไปไหนแล้ว"

นักดาบโล่หรือเหมียวส่ายหัว

"ไม่เห็น"

ในขณะที่ทั้งสามคนกำลังมองซ้ายมองขวา อยู่ดีดีป่าทั้งป่าก็สลายกลายเป็นฝุ่นผง ก่อนจะมีผลทุเรียนที่โตเต็มที่หลายลูกร่วงลงมาจากตึกสูงเจ็ดชั้น

เหมียวยกโล่ขึ้นมากันส่วนแจ็คกับเคิร์กก็ยกขวานขึ้นมาป้องกันแทน

ชีฟนั่งเรียกทุเรียนออกมาจากช่องเก็บของอยู่บนดาดฟ้าของตึกอย่างสบายใจ เมื่อทุเรียนหลายร้อยลูกในช่องเก็บโดนใช้จนหมด ชีฟก็ชะโงกหน้าลงไปดูผลงานของตัวเอง

เมื่อฝนทุเรียนหยุดลงเหมียวก็บินขึ้นตรงดิ่งไปหาเจ้าของทุเรียนที่อยู่ด้านบน ชีฟที่เห็นดังนั้นก็โปรยเมล็ดพันธุ์หนามอสรพิษที่ผสมกับเถาวัลย์น้ำออกไปหลายเมล็ด เมื่อเหมียวบินขึ้นมาสัมผัสกับเมล็ด ชีฟก็เร่งโตทันที เถาวัลย์หนามขนาดใหญ่โตปรากฏขึ้นมาเกี่ยวพันทั้งปีกและตัวของเหมียวเอาไว้ จนเหมียวไม่สามารถขยับปีกได้ เมื่อบินไม่ได้ร่างอันบอบบางก็ร่วงกลับลงไปยังพื้นเบื้องล่าง

ชีฟฟังเสียงแจ็คกับเคิร์กที่กำลังวิ่งขึ้นบันไดมา แต่คงจะขึ้นมาได้ยากสักเล็กน้อย เมื่อตามทางขึ้นเขาได้ปลูกเถาวัลย์ขวางไว้มากมาย ชีฟนำเถาวัลย์ธรรมดาไปผูกกับเสาปูน ก่อนจะค่อย ๆ โรยตัวลงไปจากตึกสูง เพื่อไปหานักดาบโล่สาวที่พยายามจะเอาตัวเองออกมาจากการเลื้อยพันธุ์ของหนามอสรพิษ

เมื่อมาถึงข้างล่าง ชีฟก็เดินเข้าไปเร่งโตหนามที่รัดเหมียวไว้ให้มากกว่าเดิมเพื่อให้เหมียวดิ้นออกมาไม่ได้ ตอนนี้หนามอสรพิษไม่สามารถทำอะไรเหมียวได้ ด้วยออร่าที่ปกคลุมอยู่ และถึงจะไม่มีออร่า ชุดคอมมานโดที่ทำจากเนื้อผ้าอย่างดีก็ยังปกป้องเหมียวไว้อีกชั้น

เมื่อเหมียวโดนรัดจนไม่สามารถดิ้นขัดขืนได้ ชีฟก็เดินเข้าไปถอดหน้ากากอีกฝ่ายออก

"ไงคนสวย"

เหมียวจ้องอีกฝ่ายเขม่น

"แก"

แล้วตะโกนออกมา

"มันอยู่ข้างล่าง! อุบ"

ชีฟอาศัยจังหวะที่เหมียวตะโกนหักหนามอสรพิษแล้วยัดเข้าไปในปากของเหมียวอย่างรวดเร็ว

เหมียวหุบปากทันที แต่ก็สายไปเสียแล้ว เมื่อหนามอสรพิษได้อยู่ในปากของเธอเป็นที่เรียบร้อย

เหมียวชักกระตุกอย่างแรงและเริ่มมีน้ำลายฟูมปาก ก่อนที่ตาทั้งสองข้างจะเหลือกขึ้นบนแล้วค่อย ๆ สิ้นใจไปอย่างทรมาน

แจ็คกับเคิร์กที่ได้ยินเสียงตะโกนก็วิ่งกลับลงมาข้างล่าง ก่อนจะเห็นว่าเหมียวสิ้นใจไปแล้ว

ชีฟที่นั่งยอง ๆ อยู่ข้าง ๆ ศพของเหมียวลุกขึ้นยืนแล้วมองไปที่ทั้งสองคน ตอนนี้แขนเสื้อของทั้งสองคนนั้นขาดเพราะโดนลูกทุเรียนกระแทกและข่วนใส่หลายรอบ

"อุ๊บ แฟนใครหรือเปล่า"

แจ็คมองชีฟด้วยใบหน้าที่โกรธจัด พร้อมกับดวงตาที่แดงก่ำ

ชีฟสังเกตเห็นแจ็คที่จับขวานแน่นจนด้ามจับมีรอยร้าว

"อ๊า แฟนนายนั่นเอง น้ำลายฟูมปากแบบนี้คงอดเสียบแล้วสิ"

แจ็คตะโกนลั่นพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบเต็มใบหน้า

"ไอ้สัส!!!"