webnovel

ปั้นดินเป็นเดือน

จากดินสกปรกจะถูกปั้นให้เป็นเดือนได้จริงเหรอ? ความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองนั้นมันคุ้มค่าหรือไม่? สุดท้ายแล้วคนเราก็ตัดสินกันแค่ที่หน้าตาใช่ไหม? เบญจมินทร์ หรือ เบ็น เป็นเด็กหนุ่มที่เชื่อสุดใจเลยว่าคนทุกคนบนโลกใบนี้ดูดีในแบบของตัวเอง และทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้หากมีความพยายามมากพอ และด้วยความเชื่อที่ดูจะไปสะกิดต่อมความหมั่นไส้ของคู่อาฆาตนั้น ทำให้เขาถูกท้าแข่งในการประกวดทูตกิจกรรม ไม่ใช่ตัวพวกเขาเองที่จะลงแข่งหรอกนะ แต่พวกเขากำลังแข่งกันปั้นเด็กของตัวเองให้เป็นเดือนคณะให้ได้ต่างหาก ทว่า เด็กที่เบ็นต้องปั้นนั้นกลับเป็นรุ่นน้องปี 1 ที่แสนจืดจาง ใบหน้าห่างไกลจากคำว่าหล่อในยุคสมัยนี้ไปเลย แถมความมั่นใจยังอยู่ในระดับขั้นติดลบ ทุกคนเห็นตรงกันหมดว่าเบ็นไม่ต้องแข่งก็ได้ เพราะรู้ผลตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยด้วยซ้ำ แต่เบ็นเชื่อในตัวน้องคนนี้ และเชื่อในกันและกัน เขาจะปั้นเด็กคนนี้ให้เป็นดวงเดือนสีนวลบนฟ้าให้ได้! สุดท้ายแล้วพวกเขาจะสามารถพิสูจน์ให้โลกวัตถุนิยมใบนี้ยอมรับความพยายามของพวกเขาได้หรือไม่

NIMAJNEB · LGBT+
Classificações insuficientes
56 Chs

บทที่ 6.2

คำพูดของกุ้งวนเวียนอยู่ในหัวผมตลอดช่วงที่เดินกลับไปหาไนน์ที่หอสมุด

ผมเดินจนมาหยุดอยู่ที่ตู้เก็บงานวิจัยตู้เก่า เพียงแค่อ้อมไปข้างหลังเหมือนครั้งก่อน ๆ ก็จะเข้าไปในมุมอับมุมเดิมที่ไนน์อยู่ได้แล้ว แต่ทว่าเท้าผมกลับไม่ยอมขยับเขยื้อน แม้แต่จะก้าวไปหายังไม่กล้าเลย แล้วจะกล้าชวนได้ยังไง

สงครามครั้งที่สองก่อตัวขึ้น ทุกอย่างสับสนอลหม่านขึ้นอีกครั้ง ฝุ่นตลบอบอวลในสนามรบจนไม่สามารถมองเห็นได้เลยว่าฝั่งไหนชนะ

ในหัวสมองผมไม่สามารถเรียบเรียงความคิดออกมาได้ แต่ถ้าหากถามหัวใจของผม มันกำลังบอกว่า ผมเชื่อ ผมเชื่อในตัวผมเอง ผมเชื่อในตัวไนน์ และผมเชื่อในตัวเรา

เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ผมสูดหายใจลึกก่อนตัดสินใจก้าวเท้าไปข้างหน้า

"ไนน์ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย..."

เมื่ออ้อมไปถึงมุมนั้น กลับพบไนน์กำลังนั่งหลับอยู่ ลำตัวและหัวเอนลงไปทับบีนแบ็กสีฟ้าซีด ในมือกอดบีนแบ็กอีกใบที่เล็กกว่าไว้แทนหมอนข้าง ลมหายใจเข้าออกแผ่วเบาสม่ำเสมอ แว่นตาถูกถอดวางไว้บนกองหนังสือที่ถมกันอยู่บนพื้นพรม

หลับไปนานรึยังนะ เดี๋ยวตื่นแล้วค่อยมาคุยกันก็ได้

ยังไม่ทันไรเจ้าชายนิทราก็ตื่นจากการหลับใหล "พี่เบ็น กลับมาแล้วเหรอครับ" มันเอามือปิดปากหาวใส่ผมเป็นการทักทาย จากนั้นกำมือขยี้ตาที่กึ่งตื่นกึ่งหลับเบา ๆ ทั้งสองข้าง

"โห่ ตื่นมาทำไมเนี่ย ว่าจะเอาปากกาสีวาดหน้าซะหน่อย"

"ไม่ต้องวาดผมก็น่ารักอยู่แล้วครับ" พอเริ่มสนิทกันก็ชมตัวเองใหญ่เลยนะไอ้เด็กบ้า

"ใครบอกว่าจะวาดหน้าแมวน่ารัก ๆ ล่ะ ว่าจะวาดท่านนายไนน์ให้เป็นหน้าผีซะหน่อย จะเอาให้น่าเกลียด น่ากลัว น่าขนลุก น่าขยะแขยงไปเล้ย" ผมเผลอเน้นคำเหล่านั้นหนักมากกว่าที่ตั้งใจไว้

คราวนี้ไนน์กลับหัวเราะแห้ง ๆ ไม่รับมุกเหมือนเมื่อกี้

มันไม่ใช่รอยยิ้มที่สดใส แต่มันดูเหมือนรอยยิ้มที่เย้ยหยันตัวเองมากกว่า "อันนั้นก็ไม่ต้องวาดก็ได้ครับ ผมน่าเกลียดอยู่แล้ว..." ผมเผลอทำร้ายจิตใจเด็กคนนี้ไปโดยไม่รู้ตัว "ขอโทษครับพี่เบ็น ไนน์...แค่ล้อเล่น"

"ทำไมถึงคิดว่าตัวเองน่าเกลียดล่ะ หืม?" ผมไม่ได้สนใจคำขอโทษของไนน์ซึ่งไม่ได้เป็นฝ่ายที่จะต้องขอโทษ แต่กลับสนใจสิ่งที่ไอ้หมอนี้คิดอยู่มากกว่า

"ไนน์...ไนน์อยากเป็นสจ๊วต แต่ผมคงเป็นไม่ได้หรอก เนอะพี่เบ็น" เจ้าหนูนี่ตอบไม่ตรงคำถามของผม แถมยังทำหน้าเศร้าใส่อีก

"ทำไมถึงคิดว่าจะเป็นไม่ได้ล่ะ"

"ก็สจ๊วตต้องมีบุคคลิกกดี สูง มั่นใจในตัวเอง แต่ไนน์...ไนน์ไม่ใช่แบบนั้น อีกอย่าง ต้องหน้าตาดีด้วย ไม่ได้น่าเกลียดแบบผม" พูดไปน้ำเสียงสั่นไป ถึงปากจะยิ้มเยาะเย้ยตัวเองอยู่ แต่ตาไนน์แดงและชุ่มน้ำขึ้นเรื่อย ๆ

พอเขื่อนเริ่มกั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ไนน์ก็เอามือขึ้นมาปาดเช็ดน้ำตาออก "ผมขอโทษ ปะ กลับกันเถอะครับ"

"ไนน์รู้ไหม..." คำพูดของผมทำเอาไนน์ที่กำลังเตรียมตัวลุกหยุดชะงักลง นิ้วมือจิกบีนแบ๊คแน่น "ว่าไนน์ไม่ได้น่าเกลียดเลยนะ" ทันทีที่พูดจบ เขื่อนน้ำตาของไนน์ก็พังทลายลงในพริบตา

"จะไม่ให้น่าเกลียดได้ยังไง" เสียงไนน์แผ่วมากจนเกือบไม่ได้ยิน แต่แล้วเสียงก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ "หน้าเป็นสิวขนาดนี้ แผลเป็นน่าเกลียดที่คิ้วที่แก้มนี่อีก ผิวก็คล้ำ ตัวก็เตี้ย หุ่นก็เหมือนผีเดินได้ พี่จะเรียกไนน์ว่าหล่อได้เหรอ ขนาดตอนคัดลีดเขายังไม่ให้ไนน์เป็นเลย แค่ลีดของคณะยังเป็นไม่ได้ แล้วไนน์จะกล้าไปสมัครสจ๊วตได้ยังไง สิ่งที่คนเราอยากได้มากที่สุดมันก็แค่นั้น คนที่หน้าตาดีคือคนที่ชนะ พี่เบ็นก็ด้วย คนหล่ออย่างพี่คงไม่รู้หรอกว่าไนน์รู้สึกยังไง พี่มีหน้าหล่อ ๆ หุ่นดี ๆ เรียนเก่ง หัวไว มีคนรู้จักรายล้อม ส่วนไนน์มันไร้ค่า ไนน์มันน่าเกลียด ไนน์ไม่มีอะไรดีเลย...ไม่มีเลย..."

ไนน์พึมพำคำว่า ไม่มี วนซ้ำไปมาไม่หยุด น้ำตาไหลพรากเป็นทางลงไปรดพรมที่อยู่บนพื้น แขนกอดบีนแบ็กไว้แน่น นิ้วมือจิกแขนของตัวเองเป็นรอยแดง ตัวสั่นเทาไปทั้งร่าง

ไม่ใช่แค่ไนน์ที่กำลังร้องไห้ ผมเองก็เช่นกัน น้ำตาไหลอาบแก้มโดยไม่รู้ตัว คำพูดของไนน์เมื่อครู่มีใจความวนไปวนมา แต่ความรู้สึกที่ส่งออกมามันสื่อชัดเจน

คำพูดที่ว่า 'นายมันไร้ค่า' 'นายมันน่าเกลียด' 'นายไม่มีอะไรดีเลย' มันเสียดแทงเข้าไปในใจของผม แม้จะรู้ดีว่าไนน์กำลังสื่อถึงตัวเองอยู่ แต่มันกลับย้อนเข้ามาหาผมเช่นเดียวกัน

คำพูดเหล่านั้นผมเคยได้ยินเมื่อตอนประถม ผมจำท่อนร้องของพวกมันได้ไม่แม่นยำเท่าไหร่ แต่ความรู้สึกยังชัดเจนอยู่ในอก จะอีกกี่ปีก็ยังคงวนเวียนอยู่ไม่หายไปสักที

มันเป็นความเจ็บปวดจากการถูกล้อเลียน ความเจ็บปวดจากการถูกเมินเฉย ความเจ็บปวดจากความคิดของตัวเอง ทั้งหมดหลอมรวมเป็นความชิงชัง

ทุกคน...

กู เกลียด ทุก คน บน โลก ใบ นี้

กู เกลียด ตัว เอง ที่ เป็น แบบ นี้

สิ่งที่ไนน์เป็นก็ไม่ต่างอะไรจากสิ่งที่ผมเคยเป็นมาก่อน แต่ผมโชคดีที่เจอกุ้ง พี่ชายร่วมสาบานที่รักและดูแลกันและกันมาโดยตลอด ผมได้เจอเนตร บอล ลักษณ์ และคนอื่น ๆ ที่เข้ามาเติมเต็มสิ่งสวยงามให้โลกสีเทาใบนี้ ผมโชคดี และผมก็ผ่านมันมาได้แล้ว

และตอนนี้ ณ ขณะนี้ บุคคลที่กำลังเจ็บปวดอยู่เบื้องหน้ายังขาดสิ่งเหล่านั้น ผมอยากเติมเต็มให้เขา โลกที่โหดร้ายนี้จะต้องไม่ทำให้ใครต้องเจ็บปวดแบบนี้อีก

"ในสายตาพี่...ไนน์เป็นเด็กที่น่ารักของพี่เสมอนะ"

สิ้นเสียงที่สั่นเทาของผม ไนน์หยุดร้องแล้วเงยหน้าขึ้นมามอง

"หน้าตาอย่างผมเหรอ ที่เรียกว่าน่ารักอะ"

"ไม่สิ พี่ไม่ได้หมายถึงหน้าตา พี่หมายถึงทุกอย่างที่เป็นไนน์ เพราะไนน์น่ารักไงครับ"

"...พี่เบ็น..."

"ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องห่วง พี่สัญญาแล้วนี่ ว่าจะดูแลไนน์"

ผมโผเข้ากอดน้องไนน์ เด็กชายที่กำลังเผชิญโลกอันแสนเจ็บปวดด้วยตัวคนเดียว แต่ต่อจากนี้เขาจะไม่เดินคนเดียวอีกต่อไปแล้ว ผมจะจับมือเดินเคียงข้างไนน์ไปสู่โลกที่สดใสกว่านี้

เราร้องไห้กอดกันอยู่นานพอสมควร ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่นาทีแล้ว หรืออาจจะเป็นชั่วโมง พวกเราใช้เวลานานกว่าจะหยุดสะอื้นได้

ตอนนี้บีนแบ็กที่เด็กขี้แยกอดอยู่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาเช่นเดียวกับน้ำตาของผมที่ชุ่มตามคอเสื้อของไนน์ มือที่ประคองหัวของไนน์อยู่ชักกลับเข้าที่แล้วจึงค่อย ๆ คลายกอดออกมา

ไอ้เด็กนี่หน้ายับยู่ยี่ไปหมด ตา จมูกและใบหน้าแดงก่ำ

"ไอ้เด็กขี้แยเอ้ย"

"พี่เบ็นก็ด้วยแหละ"

ไม่นานเราก็เปล่งเสียงหัวเราะออกมา ผมยื่นมือไปลูบหัวน้อย ๆ ของไนน์อีกครั้ง คราวนี้เด็กตาแดงยิ้มรับ เราจ้องตากันอยู่นานพอสมควร จนกระทั่งไนน์เอ่ยขึ้น...

"ไนน์ขอเป็นน้องชายของพี่ได้ไหมครับ"

"ได้ดิ เป็นน้องเล็กนะ"

"น้องเล็ก?"

"อ่า พี่ยังไม่เคยบอกละมั้ง พี่กุ้ง จำได้ใช่ไหม นั่นพี่ชายร่วมสาบานของพี่เอง"

"งั้นไนน์ก็มีพี่ชายสองเลยดิ"

"จ้า คุณน้องชาย"