webnovel

ปั้นดินเป็นเดือน

จากดินสกปรกจะถูกปั้นให้เป็นเดือนได้จริงเหรอ? ความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองนั้นมันคุ้มค่าหรือไม่? สุดท้ายแล้วคนเราก็ตัดสินกันแค่ที่หน้าตาใช่ไหม? เบญจมินทร์ หรือ เบ็น เป็นเด็กหนุ่มที่เชื่อสุดใจเลยว่าคนทุกคนบนโลกใบนี้ดูดีในแบบของตัวเอง และทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้หากมีความพยายามมากพอ และด้วยความเชื่อที่ดูจะไปสะกิดต่อมความหมั่นไส้ของคู่อาฆาตนั้น ทำให้เขาถูกท้าแข่งในการประกวดทูตกิจกรรม ไม่ใช่ตัวพวกเขาเองที่จะลงแข่งหรอกนะ แต่พวกเขากำลังแข่งกันปั้นเด็กของตัวเองให้เป็นเดือนคณะให้ได้ต่างหาก ทว่า เด็กที่เบ็นต้องปั้นนั้นกลับเป็นรุ่นน้องปี 1 ที่แสนจืดจาง ใบหน้าห่างไกลจากคำว่าหล่อในยุคสมัยนี้ไปเลย แถมความมั่นใจยังอยู่ในระดับขั้นติดลบ ทุกคนเห็นตรงกันหมดว่าเบ็นไม่ต้องแข่งก็ได้ เพราะรู้ผลตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยด้วยซ้ำ แต่เบ็นเชื่อในตัวน้องคนนี้ และเชื่อในกันและกัน เขาจะปั้นเด็กคนนี้ให้เป็นดวงเดือนสีนวลบนฟ้าให้ได้! สุดท้ายแล้วพวกเขาจะสามารถพิสูจน์ให้โลกวัตถุนิยมใบนี้ยอมรับความพยายามของพวกเขาได้หรือไม่

NIMAJNEB · LGBT+
Classificações insuficientes
56 Chs

บทที่ 17.1

วันนี้แหละ ผมกับไนน์จะต้องคุยกันให้รู้เรื่อง ผมจะต้องเปิดประตูหัวใจของไนน์ให้ได้

ผมได้รู้แล้วว่าไนน์ต้องผ่านอะไรบ้าง ถึงจะไม่ได้รู้ทั้งหมด แต่ผมต้องให้ไนน์เล่าปัญหาให้ผมฟัง ถ้าเรื่องแค่นี้ผมช่วยไนน์ไม่ได้ก็ลาออกจากการเป็นคู่ชีวิตของไนน์ไปซะ ไอ้เบญจมินทร์

ใกล้ถึงเวลาบ่ายสามแล้ว ผมรีบพุ่งตัวไปที่หน้าห้องเรียนของไนน์ทันที วันนี้ไนน์มีเรียนถึงแค่คาบบ่ายสามและไม่มีเรียนอีก ส่วนผมมีเรียนตั้งแต่บ่ายยันเย็น

ใช่ ผมโดดเรียนมาหาไนน์ มันไม่ใช่พฤติกรรมของนิสิตที่ดีหรอกนะ แต่ตอนนี้การดูแลคนที่เรารักนั้นสำคัญกว่ามาก

ถ้ามาดักรอหน้าห้องเรียนละก็ รับรองไม่คลาดกันแน่

ถ้ามันจะหนีผม ผมก็จะวิ่งไล่ตามมัน

ถ้ามันวิ่งหนีไปถึงสุดขอบโลก ผมก็จะวิ่งไปสุดขอบฟ้าเพื่อตามมันไป

กระต่ายน้อยอย่างผมต้องอยู่คู่กับเดือนสิ ถูกไหม

ผมเดินวนไปวนมาอยู่ที่หน้าห้องเรียน กระวนกระวายจนเหงื่อแตกเป็นสาย ใจเต้นตึกตักแทบจะทะลักออกมานอกอก ยังดีที่ยังพอควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้บ้าง ถ้าสติหลุดไปอีกนิดมีหวังได้กระชากประตูเข้าไปหาไนน์กลางชั่วโมงเรียนแบบที่หนังโรแมนติกเว่อร์ ๆ จะทำกัน

ใจเย็นก่อนนะเบ็ญจมินทร์

และแล้วก็มีนิสิตคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องก่อนเวลาบ่ายสาม จากนั้นตามด้วยอาจารย์และนิสิตอีกหลายคนที่แห่กันออกมา ทุกคนดูจะแปลกใจที่เห็นผมยืนรอใครสักคนอยู่หน้าห้อง

รุ่นน้องบางคนที่ผมรู้จักเข้ามาทักทายพูดคุยกับผม ผมตอบไปทีตามมารยาทพลางชะเง้อมองหาไนน์ที่ประตูหน้าห้อง

แต่ไนน์ก็ไม่ออกมาสักที

หรือไนน์ออกไปแล้วแต่ผมไม่ทันสังเกตเห็น

บ้าน่า ยืนดักอยู่หน้าห้องขนาดนี้ไม่น่าจะพลาดได้

"เอ่อน้องครับ ไนน์กลับไปแล้วเหรอ"

"อ๋อ วันนี้ไนน์ไม่มาเรียนค่ะ เห็นบอกว่าจะโดด"

เวรเอ้ย! ผมลืมไปเลยว่าถ้าไนน์ไม่มาเรียน การมาดักหน้าห้องเรียนก็คงไม่มีประโยชน์

ผมเดินคอตกกลับไปที่ไอ้ชมพูมอเตอร์ไซค์เพื่อนรัก ผมจำใจต้องขี่รถไปยังห้องเรียนของคาบต่อไปที่อยู่คนละตึกกับคณะ

แต่แล้วผมก็คิดได้ ถ้าไนน์มันจะไม่ออกมาเลย จะหาให้ทั่วมหา'ลัยก็คงไม่เจอแน่ ยกเว้นที่เดียว

...หอใน

ผมหักแฮนด์ไอ้ชมพูเลี้ยวกลับทันที ป้ายต่อไปไม่ใช่ห้องเรียน ไหน ๆ ก็โดดแล้วก็เอาให้สุด

รอพี่ก่อนนะ...ไนน์

ในที่สุดผมก็ได้มาหยุดอยู่ที่หน้าประตูหอในแล้ว ปัญหาสำคัญต่อมาก็คือ คนนอกที่ไม่ได้อยู่ในหอในนั้นไม่สามารถเข้าไปได้เลย ยกเว้นจะเป็นญาติกับเจ้าของหอซึ่งต้องให้เจ้าตัวลงมายืนยันด้วยตัวเอง

ให้ตายเหอะ โทรไปยังไม่รับเลยแล้วจะให้ลงมาหาได้ยังไงวะ

"...สรุปแล้วเบ็นเป็นญาติกับเด็กที่อยู่ห้อง 20421 หรอ" ลุงรปภ.ที่ดูแลอยู่บริเวณประตูหอในโก่งคิ้วสูงถามผม ลุงเขารู้จักผมดีแท้ ๆ ตอนอยู่หอในตอนปี 1 ก็ไหว้แกทุกครั้ง เวลาแกยกของหนักก็ไปช่วยแบกตลอดจนแกจำชื่อผมได้ ทำไมไม่ยอมปล่อยให้เข้าไปง่าย ๆ นะ

"เป็นญาติครับ ...จริง ๆ แล้วเป็นแฟนกันครับ!" ผมพูดออกไปเสียงดังฟังชัด

"แฟน?...ไม่ได้หรอก อย่างน้อยก็ต้องให้เจ้าตัวลงมายืนยันนะ"

"โห่ ลุง ลุงก็รู้จักผมดีนี่ ผมไม่ไปขโมยของหรอกน่า นะครับ"

"เบ็นเอ้ย กฎก็คือกฎนะลูก ลุงปล่อยไปไม่ได้หรอก"

ชิ! ซวยชะมัด รู้งี้แอบแทรกตัวมาตอนคนไหลเข้าประตูหอในเยอะ ๆ ดีกว่า

"อ้าวพี่เบ็น มาหาไนน์หรอ" ลัคกี้! ไอ้ศรน้องกุ้งมาช่วยได้ทันเวลาเลย

"อื้ม ว่าจะเข้าไปหาไนน์ มันไม่สบายหนักมาก ศรดูดิ" ผมทำเสียงและท่าทางเสียใจแบบเล่นใหญ่เกินความ "เด็กหนุ่มคนหนึ่งต้องนอนซมท้องเสียอยู่บนเตียง เขากำลังรอคอยชายหนุ่มสุดที่รักมาดูแลรักษาใจ แต่ท่านผู้นี้กลับไม่ยอมปล่อยพี่ไป ฮือ!"

ศรกับคุณลุงรปภ.ได้แต่มองหน้ากันแล้วเลิกคิ้วใส่ผม

"แล้ว...ทำไงอะ" ศรถามผมมา เข้าทางละ

"ลุงครับ" ผมหันไปหาคุณลุงรปภ.แทนการตอบศร "ถ้ามาเยี่ยมแล้วให้เจ้าตัวมายืนยันก็ได้ใช่ไหมครับ"

"ใช่...จะโทรเรียกลงมาแล้วเหรอ"

"เปล่าครับ ผมเปลี่ยนไปเยี่ยมห้อง..." ผมหันไปหาศรเพื่อขอเลขห้อง "ห้อง 20426 แทนครับ"

"ห๊ะ แต่ลุงจำได้ว่าเป็นห้อง 20421 นะ"

"เปลี่ยนแล้วไงครับ นี่ไง มีเจ้าของห้องมายืนยันตัวให้แล้วด้วย เนอะ" ผมหันไปแสยะยิ้มใส่ศร

"เฮ้ยพี่ เดี๋ยวดิ เอางี้เลยเหรอ" มึง-จะ-ไม่-ช่วย-กู-เหรอ

ผมยิ้มกว้างกว่าเดิมแล้วกัดฟันพูด "เนอะ!"

"ครับ! พี่เขาจะมาเยี่ยมห้องผมครับ ห้อง 20426 ครับลุง" เยี่ยมมากไอ้ศรน้องกุ้ง

ในที่สุดคุณลุงรปภ.ที่น่ารักก็ทนความดื้อดึงของผมไม่ไหว ส่ายหัวด้วยความระอาใจแล้วอนุญาติให้ผมขึ้นไปดูไนน์ได้แค่แป๊ปเดียวเท่านั้น

"ถ้า 'ดูแลรักษาใจ' กันเรียบร้อยแล้วก็รีบลงมานะ นี่เห็นว่าเป็นเบ็นนะลุงถึงยอมอ่อนให้"

"ครับผม ขอบคุณนะลุง ใจมากไอ้ศร"

ไหว้ลุงเสร็จผมก็วิ่งแจ้นเข้าไปข้างในทันทีปล่อยให้ศรผู้เป็นเจ้าของห้องยืนเกาหัวที่หน้าประตู

บรรยากาศหอในยังคงเหมือนเดิม เหมือนปีที่แล้วที่ผมเคยอยู่ นิสิตปีหนึ่งทั้งหญิงและชายเดินขวักไขว่ไปมาตรงทางเดิน

ท่ามกลางเสียงนกร้องเซงแซ่ตามต้นไม้ข้างทางมีเสียงพูดคุยหยอกล้อกันตามประสาเด็กปีหนึ่ง กลิ่นอายเก่า ๆ ผสมกับกลิ่นฉุนจากขี้นกเกรอะกรังตามพื้นเตะเข้าจมูกผมอย่างจัง

จากหน้าประตูมาสู่ทางเดิน เคลื่อนตัวไปยังหน้าตึกที่ไนน์อยู่ ขึ้นบันไดไปข้างบน และแล้วก็จบลงด้วยการยืนค้างอยู่หน้าห้องของไนน์

ภายในห้องมีเสียงพูดคุยและเสียงตึงตังแสดงถึงการมีอยู่ของบุคคลในนั้น ดูแล้วมีมากกว่าสองคนแน่นอน

ไนน์ต้องอยู่ที่นี่สิ จะไปไหนได้ จริงไหม

ผมกล้า ๆ กลัว ๆ ยกมือขึ้นมาเคาะประตูตรงหน้า

ภายในเสี้ยววินาทีหลังจากนั้น สมองผมแล่นหาวิธีตอบรับเสียงที่จะถามขึ้น แน่นอนว่าเวลามีคนมาเคาะประตูเราจะต้องถามคนที่อยู่อีกฟากว่า 'ใครครับ?'

แล้วถ้าผมบอกไปว่าเป็นตัวผม ถ้าไนน์ได้ยิน เพื่อนมันจะเปิดประตูให้ผมหรอ

จะโกหกหรอบ้าน่า เอาไงดีวะ

"ว่าไงไอ้เหี้ยกา..." ปรากฏว่าบุคคลในห้องเปิดประตูทันทีโดยไม่ได้ถามเลยสักคำ สงสัยคงจะชินกับการมีเพื่อนเข้ามาเล่นในห้องบ่อย ๆ "ขอโทษ...ครับ?" เด็กหนุ่มตรงหน้าเลิกคิ้วเป็นเชิงถามผม

"คือ พ..." ไม่ อย่าเรียกตัวเองว่าพี่ ไม่มีปีสองคนไหนเข้ามาหอในหรอก "ผมมาหาไนน์ ไนน์อยู่ไหมครับ"

"อ๋อ ไม่อยู่" เฮ้ย ได้ไงวะ

"แล้วไนน์ไปไหนเหรอครับ"

เด็กหนุ่มตรงหน้ายักไหล่ "ไม่รู้เลย ช่วงนี้ไนน์มันซึม ๆ ไปเพราะข่าวบ้า ๆ นั่น ไปไหนมาไหนไม่ค่อยบอก"

ผมคอตกอีกครั้ง ใจที่เต้นรัวก่อนหน้านี้หล่นลงไปถึงตาตุ่ม หัวใจผมพองโตขึ้นเหมือนการกดไลค์ค้างในแชทสีฟ้าแล้วก็แตกดังปิ้วทันที ไม่เหลือซากเลย

"มึงจะมารอมันที่ห้องกูก่อนปะ เดี๋ยวมันก็คงมาแหละ ช่วงนี้มันไม่ค่อยออกไปไหน" รูมเมทของไนน์เริ่มขึ้นกูมึงตามความเคยชินกับผม

"ขอบคุณครับ"

"เออ มึงไม่ต้องสุภาพมากก็ได้ เข้ามา ๆ"

เด็กหนุ่มเปิดประตูกว้างพร้อมเกาะไหล่ผมดันเข้าไปในห้อง

ภายในห้องนั้นเหมือนห้องที่ผมเคยอยู่เมื่อปีที่แล้วไม่มีผิด เตียงสี่เตียงที่มุมสี่มุม ตอนนี้มีเจ้าของห้องอยู่กันสามคน แต่ละคนอยู่ในมุมของตัวเอง

คนหนึ่งนอนเล่นเกมในโทรศัพท์แล้วส่งเสียงโวยวายออกมาไม่เกรงใจเพื่อนร่วมห้อง ดูเขาจะเคร่งเครียดมากถึงขนาดไม่ได้สังเกตว่ามีผมเข้ามาในห้อง

อีกคนนั่งอ่านหนังสือใส่หูฟังอยู่ที่โต๊ะ เขาหันมามองตอนผมเดินเข้าไป แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรแล้วก้มลงไปอ่านหนังสือต่อ

ส่วนเด็กหนุ่มที่พาผมเข้ามา เชิญผมให้ไปนั่งบนเตียงของไนน์ เขาผายมือไปที่มุมฝั่งติดกับประตูทางเข้าแล้วหันกลับไปเข้ามุมเล่นคอมตามเดิม

มุมของไนน์ดูแตกต่างจากคนอื่นไปบ้าง มองโดยรวมแล้วไนน์วางของได้เป็นระเบียบมาก หนังสือก็อยู่ในส่วนของหนังสือ ส่วนเครื่องบำรุงก็อยู่ในส่วนของมัน ทุกอย่างถูกจัดวางแยกกันชัดเจน ดูสบายตาน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนเจ้าของดี

ที่เตียงคลุมด้วยผ้าปูเตียงสีเหลืองอ่อนตามรสนิยมความชอบน้องไนน์ มีหมอนและหมอนข้างสีส้ม ๆ วางอยู่คู่กับเสื้อคลุมตัวโปรด

แม้ว่ามันจะขาดรุ่งริ่งขนาดนี้...ไนน์ยังเก็บมันไว้อยู่ใช่ไหม

ผมนั่งลงบนเตียงแล้วหยิบเสื้อตัวนั้นขึ้นมาสูบดมรับกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นเดิมที่ไนน์ใช้ประจำ ทำอย่างนี้แล้วเหมือนได้กอดไนน์จริง ๆ เลยแฮะ ผมหวังว่าไนน์คงจะรู้สึกเหมือนกันตอนที่กอดเสื้อตัวนี้นะ

              สายตาผมซุกซนสอดส่องไปทั่วมุมส่วนตัวของไนน์ บนโต๊ะอ่านหนังสือมีตำราภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษมากมายเรียงอย่างสวยงาม ตามผนังโต๊ะมีตารางเวลาของอะไรบางอย่างติดอยู่ด้วย

              ผมเคลื่อนตัวเข้าไปดูใกล้ ๆ มันเป็นตารางเรียนและตารางการออกกำลังกายที่กำหนดวันชัดเจนว่าวันไหนออกส่วนไหน ข้าง ๆ มีโน๊ตกาวหลายแผ่นติดไว้ด้วยว่า 'อย่าขี้เกียจ' 'ไปยิมไอ้สาส' 'พี่เบ็นรอดูมึงล่ำอยู่นะ' 'มึงทำได้ สู้ ๆ' 'คิดจะเหนื่อยคิดถึงหน้าพี่เบ็น' 'กัมบาเร้!!' 'รอผมก่อนนะพี่เบ็น ฮึบ ๆ'

              ไม่ได้มีแค่ที่ข้าง ๆ ตารางการออกกำลังกายเท่านั้น กระดาษโน๊ตกาวหลากหลายสีสันถูกติดไปทั่วตามผนังที่อยู่ภายในมุมของไนน์ ข้อความเหล่านี้สะท้อนถึงความตั้งใจและความพยายามของไนน์ชัดเจน มีทั้งเรื่องเรียน เรื่องการออกกำลังกาย เรื่องความเชื่อมั่นในตัวเอง และเรื่องการพูดการเข้าสังคม

              แทบทุกแผ่นมีชื่อผมอยู่ในนั้น

              ผมกอดเสื้อคลุมสีเหลืองนวลแน่นขึ้นกว่าเดิม

              พี่เข้าใจแล้วนะ ความพยายามของไนน์ ความรักของไนน์ พี่รับรู้ได้แล้วนะครับ

ผมนั่งอ่านข้อความวนซ้ำไปซ้ำมาจนเวลาผ่านไปไม่รู้กี่นาทีแล้ว และในที่สุดก็มีเสียงเคาะมาจากประตูห้อง มันถูกเปิดออกทันทีโดยไม่ได้รอเจ้าของห้องตอบรับ

              แบบนี้ไม่ผิดแน่...เจ้าของห้องอีกคน!

              ผมรีบลุกขึ้นยืนทันที

              "มึงกูไม่เข้าใจโจทย์ข้อสามว่ะ เอามาลอกหน่อยดิ!!" เอ่อ...ไม่ใช่ไนน์เหรอ?

              "แป๊ป ๆ กูหาก่อน"

              "แล้วมึงเป็นใครวะ" ผู้มาเยือนเดินเข้ามาในห้องแล้วยืนขวางประตูทางเข้าอยู่ ประตูถูกเปิดค้างไว้อย่างนั้น

              "เพื่อนของไอ้ไนน์มันน่ะ เอ้า เอาไป"

              "ขอบใจมากเพื่อน"

              "ทำไมไม่ปิดประตูกันอะ" อีกเสียงบ่นหนึ่งดังขึ้นมาจากนอกห้อง

              เสียงนี้...ไม่ผิดแน่