webnovel

ปั้นดินเป็นเดือน

จากดินสกปรกจะถูกปั้นให้เป็นเดือนได้จริงเหรอ? ความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองนั้นมันคุ้มค่าหรือไม่? สุดท้ายแล้วคนเราก็ตัดสินกันแค่ที่หน้าตาใช่ไหม? เบญจมินทร์ หรือ เบ็น เป็นเด็กหนุ่มที่เชื่อสุดใจเลยว่าคนทุกคนบนโลกใบนี้ดูดีในแบบของตัวเอง และทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้หากมีความพยายามมากพอ และด้วยความเชื่อที่ดูจะไปสะกิดต่อมความหมั่นไส้ของคู่อาฆาตนั้น ทำให้เขาถูกท้าแข่งในการประกวดทูตกิจกรรม ไม่ใช่ตัวพวกเขาเองที่จะลงแข่งหรอกนะ แต่พวกเขากำลังแข่งกันปั้นเด็กของตัวเองให้เป็นเดือนคณะให้ได้ต่างหาก ทว่า เด็กที่เบ็นต้องปั้นนั้นกลับเป็นรุ่นน้องปี 1 ที่แสนจืดจาง ใบหน้าห่างไกลจากคำว่าหล่อในยุคสมัยนี้ไปเลย แถมความมั่นใจยังอยู่ในระดับขั้นติดลบ ทุกคนเห็นตรงกันหมดว่าเบ็นไม่ต้องแข่งก็ได้ เพราะรู้ผลตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยด้วยซ้ำ แต่เบ็นเชื่อในตัวน้องคนนี้ และเชื่อในกันและกัน เขาจะปั้นเด็กคนนี้ให้เป็นดวงเดือนสีนวลบนฟ้าให้ได้! สุดท้ายแล้วพวกเขาจะสามารถพิสูจน์ให้โลกวัตถุนิยมใบนี้ยอมรับความพยายามของพวกเขาได้หรือไม่

NIMAJNEB · LGBT+
Classificações insuficientes
56 Chs

บทที่ 15.2

"เปิดเทอมสักทีโว้ยยย!!" ผมตะโกนลั่นเสียงดังจนคนในตึกคณะทุกคนหันมามอง

"อีเบ็น อายเขา" บอลตีแขนดุผม

ตอนนี้พวกผมนั่งจับกลุ่มเม้ามอยกันอยู่ที่ลานใต้ตึกของคณะ ผม กุ้ง และเนตรมาด้วยกันสามคน แล้วมาเจอบอลโดยบังเอิญ พวกเราจึงตัดสินใจนั่งเล่นกันก่อนที่จะถึงเวลาเรียนตอนสิบโมงเช้า

บรรยากาศของคณะในวันแรกของเทอมสองดูหนาแน่นเหมือนปกติ แต่ความคึกคักดูจะสวนทางกัน หลาย ๆ คนเดินไปมาเหมือนผีดิบหน้าซึมมากกว่าจะตื่นเต้นเพราะได้เปิดเทอมใหม่

"แปลกว่ะ มีแต่คนไม่อยากเปิดเทอม มีมึงคนเดียวนี่แหละที่ดีใจ อยากเรียนมากเลยงะ"

"ก็กูคิดถึงแฟนไงไอ้กุ้ง" ฉิบ ผมหลุดปากไปแล้ว

ทุกคนในวงสนทนาอึ้งกับคำตอบของผมไป ผมยังไม่ได้เปิดตัวหรือเล่าให้ใครฟังเลยเรื่องระหว่างผมกับไนน์

"ใช่คนนั้นเปล่าวะ" เนตรยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ผมทันที คนนั้นนี่คนไหนวะ

"ใครวะอีเนตร บอกกูมาดิ พวกมึงมีประเด็นแล้วไม่เล่าให้กูฟังเลยนะ"

"แม่พลาดแล้ว ไอ้ลูกเบ็นของแม่มันหวานกับเขาตั้งนานแล้วเนี่ย"

"ใครวะ มึงรู้งะ"

"ไอ้กุ้ง มึงก็อยู่กับกู ไม่รู้เลยเหรอ" เนตรพูดกับกุ้งแล้วหันมายักคิ้วกวนตีนใส่ผม "ให้เบ็นมันคายความลับออกมาเองดีกว่า"

ผมยังไม่กล้าบอกเพื่อนเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าอายที่จะบอกว่าคบกับผู้ชายหรอกนะ ผมอายเพราะไนน์มันเป็นคนที่พวกมันรู้จักดี ถ้ารู้ล่ะก็โดนแซวหนักแน่

"พี่เบ็น! อ้าวพี่กุ้ง พี่เนตร แล้วก็พี่บอลด้วย หวัดดีครับ" พูดถึงเดวิล เดวิลน้อยก็โผล่มาทันที

ไนน์เดินจากข้างหลังเข้ามานั่งร่วมวงสนทนาด้วยโดยไม่ได้รับเชิญ แล้วยังเลือกที่นั่งข้างผมด้วยนะ

ผมเพิ่งเจอไนน์วันนี้วันแรก อยากจะเข้าไปกอดมันชะมัด แต่ทำไม่ได้ ให้ตายเหอะ แค่มองหน้าเฉย ๆ ยังไม่กล้าเลย

"คิดถึงพี่เบ็นจังเลย" ว่าแล้วก็เอาหัวมาคลอเคลียแขนผมที่ท้าวอยู่บนโต๊ะ กลิ่นหอมจากแชมพูกลิ่นเดิมโชยจากหัวไนน์เข้าจมูก

พี่ก็คิดถึงไนน์ครับ อยากเข้าไปกอดจังเลยโว้ย

"เบ็น มึงจะหน้าแดงทำไมวะ ปกติก็เห็นซบกันตลอดไม่ใช่งะ"

"อ๋อ..." แม่บอลร้องขึ้นแล้วหันไปสบตากับเนตรที่ยิ้มแฉ่งอยู่

"อ๋ออะไรแม่"

"ป๊าว ไม่มีอะไรเล๊ย" เสียงสูงจังเล๊ย

"บอกลูกกุ้งหน่อยไม่ได้แงะ"

กุ้งพยายามเค้นหาคำตอบจากบอลและเนตรอยู่ ผมสบโอกาสหันไปมองไนน์ที่ยังวางหัวไว้ที่แขนผมอยู่ ไนน์มองมาที่ผมเช่นกัน

ผมทำปากเป็นคำพูด 'คิดถึง' แล้วก้มลงจูบกระหม่อมไนน์ด้วยความเร็วแสง สูดดมกลิ่นแชมพูและกลิ่นหอมจากตัวไนน์เข้าไปด้วย

พอทำเสร็จก็หันซ้ายหันขวาทันที รอดไป ไม่มีใครเห็น ไนน์ยิ้มกว้างเห็นฟันเรียงทุกซี่ตอบรับคำบอกรักแบบอวัจนภาษาของผม

สรุปสุดท้ายแล้วกุ้งมันก็ยังไม่ตรัสรู้สักทีว่าผมกับไนน์คบกัน ส่วนเนตรกับบอลก็ส่งสายตาและรอยยิ้มแซวตลอดเวลาที่มีโอกาส

แต่ผมเพิ่งสังเกตไนน์ชัด ๆ หลังจากที่หายจากอาการคิดถึงแล้ว ไนน์ดูผอมลงไปมาก อาจจะเรียกว่าซูบไปเลยก็ได้ แก้มที่เด้งได้ตอนที่อยู่บ้านผมตอนนี้ตอบลงไปเยอะมาก แล้วไหนจะผิวที่คล้ำแดดจนออร่าความขาวใสหายไปอีก

"ไนน์ พี่ขอดูหน้าหน่อย" ผมขมวดคิ้วใส่ไนน์แล้วยื่นมือไปจับคางหมุนไปมาเช็คตามใบหน้า

พอจ้องหน้าชัด ๆ สิวเม็ดน้อยเม็ดใหญ่ผุดขึ้นตามแก้มและคาง ถึงจะไม่ได้รุนแรงเหมือนตอนแรกที่เจอกัน แต่ก็โทรมลงไปถนัดตา

ทั้งที่บอกให้รักษาตัวเองให้ดี ๆ ก่อนแข่งแล้วแท้ ๆ น่าตีจริง ๆ

แต่ที่หนักที่สุด ที่เปลือกตาบนของตาข้างที่มีแผลเป็นอยู่ มันบวมและมีรอยช้ำสีม่วงจาง ๆ

"ไปทำอะไรมา" ผมถามไนน์ห้วน ๆ ด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ผมเผลอทำเสียงดุกว่าที่ตั้งใจไว้ ไนน์ได้ยินถึงกับเปลี่ยนสีหน้าจากยิ้มแย้มเป็นหมองหม่นลงทันที

"ผม...ผม"

"ไปทำอะไรมาครับ หืม?" ผมลดเสียงให้ดูอ่อนโยนลง ไนน์ดูเศร้าเกินไปจนผมดุไม่ลง

"ผมพลาดตกบันไดที่บ้านมาครับ แฮะ ๆ" พูดจบมันก็แลบลิ้นน้อย ๆ ออกมาแล้วเกาท้ายทอยตัวเองเล่น

ตกบันได? ช้ำแค่ที่ตา? แต่ที่อื่นไม่ช้ำเลย?

ในเมื่อเจ้าตัวยืนยันอย่างนี้มา ผมก็คงต้องเชื่อในคำพูดของไนน์

"ดูแลตัวเองหน่อยสิ เป็นห่วงนะรู้ไหม แล้วนี่ทายารึยัง"

"เขาเป็นห่วงกันด้วยแหละแก" เสียงกระซิบของเนตรแทรกขึ้นมา

"ทาแล้วครับ เรียบร้อย ไม่รู้จะหายทันวันเปิดตัวไหม ผมขอโทษนะพี่เบ็น"

"อื้ม ไม่ต้องคิดมาก" ผมลูบหัวปลอบไนน์ไป "เจ็บแย่เลย"

"เขาหวานกันมากเลยแก" คราวนี้เป็นเสียงกระซิบของแม่บอลแทน

ผมทนความหมั่นไส้ไม่ไหวจนต้องใช้หางตามองเนตรและบอลให้หยุดแซวได้แล้ว

"ทำไมมึงต้องมองค้อนด้วยวะไอ้เบ็น" กุ้งพูดขึ้นก่อนจะเพิ่มนระดับเสียงให้ดังกว่าเดิม "เฮ้ย หรือมึงกับน้องไนน์จะคบกันเหรอวะ"

"อื้ม แล้วไง" ในเมื่อรู้กันหมดแล้วก็คงไม่จำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไป

"เช็ดตะเข้! กูไม่ทันสังเกตเลยนะเนี่ย"

"ผมกับพี่เบ็นคบกันนานแล้ว เนอะพี่เบ็นเนอะ" พูดจบมันก็เอื้อมหน้ามาจูบแก้มผมทันที

ไอ้เด็กเวร อย่าทำทีเผลอดิวะ ทำอย่างนี้ก็เขินแย่ดิวะ

"ใจเย็นนะพวกมึง นี่เป็นที่สาธารณะ เกรงใจคนโสดอย่างพวกกูบ้าง" เนตรพูดขึ้นมาทั้งที่กุ้งนั่งอยู่ข้าง ๆ

"แล้วกูล่ะ ไม่ใช่แฟนมึงแงะ"

"อย่างมึงน่ะคนรับใช้กู ไอ้กุ้ง"

"กูนี่แหละโสดตัวแม่ ไปเรียนกันได้แล้ว ใกล้ถึงเวลาเรียนแล้ว"

สิ้นเสียงของบอลทุกคนก็แยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง

แต่ก่อนที่ผมจะเดินออกไป ไนน์กระตุกแขนเสื้อหยุดผมไว้ก่อน สีหน้าดูจะกังวลอะไรบางอย่าง ไนน์ในจังหวะนี้ดูเหมือนช่วงแรก ๆ เลยแฮะ

"พี่เบ็น เสาร์นี้เป็นวันเปิดตัวผู้เข้าประกวดเดือนแล้วใช่ปะ"

"อื้ม ตื่นเต้นเหรอ"

วันเปิดตัวผู้เข้าประกวดดาวเดือนและดาวเทียมเป็นด่านสำคัญก่อนจะถึงวันแข่งจริง วันนี้เป็นวันที่หลาย ๆ คนสามารถเรียกเสียงเชียร์ได้จากการพูดแนะนำตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ และสร้างจุดเด่นหรือภาพลักษณ์ให้คนจดจำได้ ถ้าเสียงตอบรับดี ผู้เข้าประกวดคนนั้นก็จะมีฐานเสียงมากกว่าตั้งแต่เริ่ม

"ครับ ผม ผมไปนอนหอพี่ในคืนวันศุกร์ได้ไหมครับ นะ ผมกลัว ผมไม่ชอบเวลาอยู่ต่อหน้าคนเยอะ ๆ เลย ผมอยากนอนกับพี่แล้วก็ตื่นไปงานพร้อมกับพี่เลย ไนน์กลัว ไนน์ไม่อยากไปคนเดียว"

"ไนน์ที่มั่นใจในตัวเองหายไปไหนแล้วเนี่ย หืม?" ผมจิ้มจมูกไนน์เล่นให้ไนน์สงบลง

"นะพี่เบ็น นะ"

"อื้ม เอาดิ แต่จ่ายค่านอนหอพี่ด้วยนะ คืนละพัน"

"พี่เบ็น!!"