webnovel

ปั้นดินเป็นเดือน

จากดินสกปรกจะถูกปั้นให้เป็นเดือนได้จริงเหรอ? ความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองนั้นมันคุ้มค่าหรือไม่? สุดท้ายแล้วคนเราก็ตัดสินกันแค่ที่หน้าตาใช่ไหม? เบญจมินทร์ หรือ เบ็น เป็นเด็กหนุ่มที่เชื่อสุดใจเลยว่าคนทุกคนบนโลกใบนี้ดูดีในแบบของตัวเอง และทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้หากมีความพยายามมากพอ และด้วยความเชื่อที่ดูจะไปสะกิดต่อมความหมั่นไส้ของคู่อาฆาตนั้น ทำให้เขาถูกท้าแข่งในการประกวดทูตกิจกรรม ไม่ใช่ตัวพวกเขาเองที่จะลงแข่งหรอกนะ แต่พวกเขากำลังแข่งกันปั้นเด็กของตัวเองให้เป็นเดือนคณะให้ได้ต่างหาก ทว่า เด็กที่เบ็นต้องปั้นนั้นกลับเป็นรุ่นน้องปี 1 ที่แสนจืดจาง ใบหน้าห่างไกลจากคำว่าหล่อในยุคสมัยนี้ไปเลย แถมความมั่นใจยังอยู่ในระดับขั้นติดลบ ทุกคนเห็นตรงกันหมดว่าเบ็นไม่ต้องแข่งก็ได้ เพราะรู้ผลตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยด้วยซ้ำ แต่เบ็นเชื่อในตัวน้องคนนี้ และเชื่อในกันและกัน เขาจะปั้นเด็กคนนี้ให้เป็นดวงเดือนสีนวลบนฟ้าให้ได้! สุดท้ายแล้วพวกเขาจะสามารถพิสูจน์ให้โลกวัตถุนิยมใบนี้ยอมรับความพยายามของพวกเขาได้หรือไม่

NIMAJNEB · LGBT+
Classificações insuficientes
56 Chs

บทที่ 14.1

"พี่เบ็น พี่เบ็น"

"อืม..."

"ตื่น! ได้! แล้ว!" ของนุ่มกระทบหัวผมดังป้าบ ๆ

"โอ๊ย! โอ๊ย โอ๊ย อะไรหืม?"

"ตื่นได้แล้ว เช้าแล้วครับ"

ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาท่ามกลางแสงแดดสว่างจ้าที่สาดเข้ามาในห้อง ผมอ้าปากกว้างหาวเอาดาวเอาเดือนออกมา แต่พอลืมตาได้เต็มตื่น เดือนก็ออกมาอยู่ข้างหน้าผมจริง ๆ

"เฮ้ย! ตกใจหมด ใกล้เกินไปแล้ว"

"ไปอาบน้ำกินข้าวเร็วคุณพี่ขี้เซา"

"ครับ ๆ เข้าใจแล้วครับคุณน้องชายตัวยุ่ง"

ผมดันหลังผลักให้ไนน์ออกไปข้างนอกก่อน ส่วนผมก็ลุกไปเตรียมตัวอาบน้ำแล้วลงไปข้างล่าง

เมื่อคืนเราดูหนังกันจนจบโดยที่ไม่มีใครนอนหลับไปก่อน เมื่อถึงช่วงกลางเรื่องศรีษะของไนน์เลื่อนต่ำลงมาซบไหล่ผม ไป ๆ มา ๆ ก็เอาแขนมาเกาะผม แล้วสักพักผมก็เลื่อนหัวไปซบหัวของไนน์อีกที

เรานั่งอยู่ในท่านั้นตลอดจนจบเรื่องแล้วนอนหลับข้าง ๆ กันแม้เตียงจะกว้างแค่ไหนก็ตาม

ผมลงมาข้างล่างแต่ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่บ้านเลย "พ่อกับน้าพลอยล่ะ"

"ออกไปทำงานกันตั้งแต่เช้าตรู่แล้วครับ"

"อ่าวเหรอ" ผมเดินไปนั่งที่โต๊ะทานข้าวที่ตอนนี้ยังว่างเปล่าอยู่ แต่แล้วกลิ่นหอมของไข่ทอดก็ลอยเด่นออกมาจากครัว "หอมจัง ไนน์ทำกับข้าวเหรอ"

"ครับพี่เบ็น ข้าวไข่เจียว"

"ไนน์ทำอาหารเป็นด้วยเหรอเนี่ย"

"อย่าดูถูกผมนะ ผมทำเป็นตั้งแต่อายุสิบกว่าขวบแล้ว" ตอนผมอายุสิบขวบยังแบมือขอตังค์พ่อแม่ซื้อของเล่นอยู่เลย

"คร้าบ เดี๋ยวจะรอชิมเลย ฝีมือของพ่อครัวตัวน้อย"

ยังไม่ทันขาดคำ อยู่ ๆ ก็มีมือนุ่ม ๆ มาปิดตาผมสนิท ไม่ใช่ไนน์แน่ เพราะไนน์ทำอาหารอยู่ในห้องครัวซึ่งอยู่ข้างหน้าผม แล้วใครล่ะที่อยู่ข้างหลัง

"ทายซิ ใครเอ่ย" บุคคลปริศนาที่อยู่ข้างหลังเข้าใกล้ผมมาเรื่อย ๆ หน้าอกนุ่ม ๆ ของผู้หญิงคนนั้นดันมาที่หลังคอของผม

เสียงนี้ เป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก...

"อ๋อ คุณยายข้างบ้านน่ะเอง"

"ให้-พูด-อีก-รอบ" ผู้หญิงข้างหลังกัดฟันพูดใส่ผม ส่วนมือที่ปิดตาผมอยู่ก็กดแน่นกว่าเดิม

"โอ๊ย ๆ ผมขอโทษครับ พี่โบว์ พี่สาวสุดสวยในสามโลกแปดโลก"

"เก่งมากจ้า เด็กดีของพี่" หญิงสาวที่ผมเรียกว่าพี่โบว์ปล่อยมือออกจากหัวผมได้ในที่สุด แต่ไม่ทันได้หันไปหา พี่แกก็ก้มตัวลงมากอดคอผมที่นั่งหันหลังอยู่ หน้าอกของพี่โบว์...ตอนนี้มันดันหลังคอผมเต็มแรงเลย "ไม่เจอกันนานเลย คิดถึ๊ง คิดถึง"

"พี่เบ็น คุยกับใครอะ" ไนน์เดินออกมาจากห้องครัวแล้วยืนค้างอยู่อย่างนั้นเพราะเห็นพี่โบว์ยืนกอดคอผมอยู่

"แฟนของเบ็นไงจ๊ะ"

"ใช่ที่ไหนล่ะ!!" ผมปฏิเสธพี่โบว์แทบไม่ทัน

ไนน์ได้ยินก็เลิกคิ้วสูงใส่พวกเราทันที ไม่รู้ว่าในหัวคิดเลยเถิดไปถึงไหนแล้ว ในขณะที่ผู้หญิงซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเอาแต่หัวเราะจนตัวโยน

"ล้อเล่นจ้ะ ล้อเล่น"

ผมถอนหายใจยาวเหยียดแล้วลุกขึ้นมายืนตรงกลางระหว่างบุคคลทั้งสอง

เป็นครั้งแรกในรอบปีที่ได้เห็นพี่โบว์อีกครั้ง พี่โบว์ยังเหมือนเดิมไม่มีผิด ผมยาวสีน้ำตาลที่มาจากการย้อมสีถูกรวบไว้ข้างหลังด้วยโบว์อันใหญ่ยักษ์สีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของพี่แก

พี่โบว์ใส่เสื้อเดรสสีขาวดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแต่ก็ยังชอบแกล้งผมเหมือนเด็ก ๆ อยู่ดี เสื้อตัวนี้เป็นแบบแขนสั้นเผยให้เห็นผิวขาวนวลของพี่โบว์ และเผยเอกลักษณ์อีกอย่างของพี่แกซึ่งก็คือรอยสักแสดงสัญลักษณ์อะไรสักอย่างที่แขนซ้าย

"พี่โบว์ นี่ไนน์ครับ" ผมหันไปหาพี่แล้วผายมือไปที่ไนน์แล้วหันไปหาไนน์อีกที "ไนน์ นี่พี่โบว์"

พี่โบว์ไม่สนใจสิ่งที่ผมพูดเลย "อุ้ยเบ็น แกหล่อขึ้นรึเปล่าเนี่ย" ว่าแล้วพี่แกก็เอาหน้ามาถูกับแก้มของผมทันที ถึงจะเล่นแบบนี้กันมาตั้งแต่เด็ก แต่พอโตขึ้นผมกลับเขินพี่แกอย่างบอกไม่ถูก

ไนน์ทำหน้าถอดสีอีกครั้งเมื่อเห็นพี่โบว์ทำตัวสนิทสนมกับผม เป็นอะไรของมันนะ

"สรุปแล้ว พี่โบว์กับพี่เบ็น...เป็นแฟนกันเหรอ...ครับ" เหอะ ใช่ก็บ้าแล้ว

"ใช่" ไม่จริงงงงง!

ผมรีบหันไปหาไนน์แล้วส่ายหน้ารัว ๆ จนหน้าสั่น ทำมือปัดไปมาบอกปฏิเสธไปชัดเจน "ตอนเด็ก ๆ เบ็นยังบอกพี่อยู่เลย 'ถ้าผมโตขึ้นจะแต่งงานกับพี่โบว์นะครับ' น่ะ"

"ก็นั่นมันตอนเด็กนี่ ตอนนี้พี่แก่จะเป็นคุณยายผมได้แล้ว"

"ไอ้เบ็น!" พี่โบว์เอามือมาแตะที่เป้ากางเกงผมจนสะดุ้งออกแทบไม่ทัน

"เฮ้ย ไม่!!"

"แหม ไม่เห็นต้องตะคอกใส่พี่เลย" พูดเสร็จพี่โบว์ก็กระโดดมาเกาะแขนผมอีกรอบ

"ไม่ใช่ไม่! ไหม้!!" กลิ่นไหม้โฉยออกมาจากครัวเตะเข้าจมูกผมอย่างจัง

พี่โบว์ดูจะไม่เข้าใจสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อเท่าไหร่ ผิดกับไนน์ที่วิ่งกลับไปที่ครัวแล้ว

ถึงไนน์จะไม่ยินดีนัก แต่ก็ต้องกลับไปดูไข่เจียวที่ครัวต่อ ปล่อยให้ผมกับพี่โบว์อยู่กันสองคนที่โต๊ะกินข้าว

ระหว่างที่รอ ผมก็คุยกับพี่โบว์ไปเรื่อยเปื่อย ทั้งเรื่องเรียน เรื่องภารกิจลับของเรา รวมไปถึงเรื่องครอบครัว คงเพราะไม่ได้เจอกันมานานเกือบปีเลยทำให้เรามีเรื่องให้คุยเยอะแยะเต็มไปหมด

พี่โบว์เล่าว่าพ่อของผมบอกพี่แกเมื่อวานว่าผมจะกลับมาบ้าน พี่โบว์เลยรีบมาหาในวันนี้ทันที แต่พี่แกก็บ่นเสียดายที่มาไม่ทันเจอพ่อกับน้าพลอย

ผมกับพี่โบว์รู้จักกันมาตั้งแต่ตอนพูดภาษาคนยังไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะบ้านเราอยู่ข้างกันจึงไปมาหาสู่กันบ่อย แทบจะเรียกได้ว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน

สมัยก่อนพี่โบว์ชอบเข้ามาในบ้านของผมทุกวันจนพ่อขี้เกียจเปิดประตูให้ เขาจึงปั้มกุญแจบ้านให้ซะเลย อยากจะเข้ามาตอนไหนก็มาตามสบายไม่ต้องรอให้ใครมาเปิดประตูให้

แต่พอพี่แกย้ายไปช่วงประถมผมก็ไม่ได้เจอพี่โบว์อีก จนกระทั่งช่วงมัธยมปลายผมก็ได้เจอพี่แกอีกครั้งที่โรงเรียน

ที่สนิทกันขนาดนี้คงเป็นเพราะเราสองคนมีอะไรบางอย่างที่เหมือนกัน บางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายให้ใครฟังได้ง่าย ๆ พวกเราเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น รู้ในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้ และมีในสิ่งที่คนอื่นไม่มี

แต่มันก็เป็นอดีตไปแล้ว บางสิ่งบางอย่างที่ว่า ผมเก็บเอาไว้แล้วไม่ได้เอามันออกมาอีกเลย ผิดกับพี่โบว์ที่ยังใช้สิ่งนั้นช่วยเหลือคนอื่นอยู่บ้าง

"แล้วนี่เบ็น...จะไม่กลับไปจริง ๆ เหรอ เด็กคนนั้นน่ะ...น่ากลัวเอาเรื่องอยู่นะ ถึงฉันจะพอจัดการได้บ้างแต่ฉันก็อุ่นใจกว่านะถ้ามีแกคอยระวังหลังให้ อีกอย่างแกกับเด็กคนนั้นก็มีอะไรเหมือนกันมาก ด้วยมือสองข้างของแกคงจัดการได้ไม่ยากเท่าไหร่"

"ผมตัดสินใจแล้วครับพี่โบว์...ขอโทษนะครับ"

พี่โบว์คลี่ยิ้มบาง ๆ ให้ผม "ไม่เป็นไรหรอก ฉันคิดถึงแกนะ ครูใหญ่เองก็คิดถึงแกเหมือนกัน ถึงเขาจะชอบทำเป็นเข้มใส่แกก็เถอะ ถ้ามีเวลาก็ไปเยี่ยมพวกฉันบ้างนะ"

"ครับพี่โบว์" ผมยิ้มแป้นใส่เพื่อกลบความรู้สึกผิดที่มีต่อพี่โบว์และครูใหญ่

ครั้งหนึ่งผมเคยช่วยเหลือพวกเขา แต่ตอนนี้ผมผละตัวเองออกมาแล้วใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป ปล่อยให้ทั้งคู่แก้ปัญหาที่ผมทิ้งค้างคาเอาไว้

พี่โบว์เห็นสีหน้าผมสลดลงไปก็สบสายตาจ้องผมอยู่นาน

'ไม่ต้องคิดมากหรอก ฉันเข้าใจแก'

"เสร็จแล้วพี่เบ็น ขอโทษที่ให้รอคร้าบ" ไนน์หยิบจานข้าวไข่เจียวสีเหลืองอร่ามกลิ่นหอมฉุยสองจานออกมาวางไว้บนโต๊ะ "ขอโทษนะครับพี่โบว์ ผมไม่รู้ว่าพี่จะมา เลยไม่ได้ทำอาหารเผื่อไว้" ถึงปากจะขอโทษไปแต่ก็ไม่ได้สบตาพี่โบว์เลย ไอ้ไนน์เอ้ย

"จ้า ก็ว่าจะกลับแล้วละ หายคิดถึงน้องเบ็นสุดที่รักแล้ว" พี่โบว์พูดแล้วหันมาหยิกแก้มทั้งสองข้างของผมเล่นอีกแล้ว

"อ๋อดีเลยครับ งั้นก็เชิญออกไปได้เลยครับ" ไนน์ดูจะเสียมารยาทเกินไปหน่อยแฮะ

"เธอชื่ออะไรนะ ไนน์ใช่ไหม มองตาพี่ซิ!" พี่โบว์เรียกให้ไนน์จ้องตาพี่แกอยู่สักพักจนไนน์สะดุ้งโหยงสุดตัว นี่คงใช้สายตาพิฆาตแกล้งไนน์เล่นละซิท่า

"งั้นฉันไปก่อนนะเบ็น ฝากสวัสดีคุณลุงคุณน้าด้วยนะจ๊ะ เอ่อเกือบลืมแหน่ะคุณลุงกับคุณน้าเขาฝากพี่มาบอกว่าคืนนี้จะไม่ได้กลับมานอนบ้าน เพราะงั้น..." พี่โบว์พูดกับผมแต่สายตาหันไปหาไนน์ "อยู่ดูแลบ้านกันดี ๆ นะจ๊ะ"

"ครับพี่โบว์"

พี่โบว์หันหลังกลับออกไป แต่แล้วก็หยุดอยู่กลางทางแล้วเอี้ยวตัวมาพูดกับไนน์

"โอกาสมาขนาดนี้แล้วจะทำอะไรก็รีบทำนะไนน์ อย่ามัวแต่อ้ำอึ้ง"

"ครับ?...พี่จะพูดซ้ำสองรอบทำไม" สองรอบ? ไนน์ถามพี่โบว์กลับไป แต่พี่โบว์ตอบกลับมาด้วยการชูสองนิ้วสู้ ๆ มาข้างหลังแทน

อะไรวะ?