webnovel

ปั้นดินเป็นเดือน

จากดินสกปรกจะถูกปั้นให้เป็นเดือนได้จริงเหรอ? ความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองนั้นมันคุ้มค่าหรือไม่? สุดท้ายแล้วคนเราก็ตัดสินกันแค่ที่หน้าตาใช่ไหม? เบญจมินทร์ หรือ เบ็น เป็นเด็กหนุ่มที่เชื่อสุดใจเลยว่าคนทุกคนบนโลกใบนี้ดูดีในแบบของตัวเอง และทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้หากมีความพยายามมากพอ และด้วยความเชื่อที่ดูจะไปสะกิดต่อมความหมั่นไส้ของคู่อาฆาตนั้น ทำให้เขาถูกท้าแข่งในการประกวดทูตกิจกรรม ไม่ใช่ตัวพวกเขาเองที่จะลงแข่งหรอกนะ แต่พวกเขากำลังแข่งกันปั้นเด็กของตัวเองให้เป็นเดือนคณะให้ได้ต่างหาก ทว่า เด็กที่เบ็นต้องปั้นนั้นกลับเป็นรุ่นน้องปี 1 ที่แสนจืดจาง ใบหน้าห่างไกลจากคำว่าหล่อในยุคสมัยนี้ไปเลย แถมความมั่นใจยังอยู่ในระดับขั้นติดลบ ทุกคนเห็นตรงกันหมดว่าเบ็นไม่ต้องแข่งก็ได้ เพราะรู้ผลตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยด้วยซ้ำ แต่เบ็นเชื่อในตัวน้องคนนี้ และเชื่อในกันและกัน เขาจะปั้นเด็กคนนี้ให้เป็นดวงเดือนสีนวลบนฟ้าให้ได้! สุดท้ายแล้วพวกเขาจะสามารถพิสูจน์ให้โลกวัตถุนิยมใบนี้ยอมรับความพยายามของพวกเขาได้หรือไม่

NIMAJNEB · LGBT+
Classificações insuficientes
56 Chs

บทที่ 13.4

ผมเปิดประตูห้องนอนของตัวเอง และด้วยความเคยชินผมไม่ได้เคาะประตูบอกคนที่อยู่ข้างในก่อน ภาพที่เห็นตรงหน้าเลยเป็นไนน์ที่เปลือยเกือบทั้งตัว เหลือแค่ผ้าเช็ดตัวสั้น ๆ ที่ผูกไว้ที่เอว

ผมจ้องค้างอยู่ที่หน้าประตูอยู่นาน ผมไม่ได้ตั้งใจจะมองนะ แต่สายตามันเห็นเอง หุ่นของไนน์ล่ำขึ้นกว่าตอนที่ไนน์เคยมาค้างที่หออย่างเห็นได้ชัด ไหล่กว้างขึ้น แผ่นอกหนา ท้องเป็นลอนสวยงาม กล้ามลีนสวยตั้งแต่หัวไหล่ลงมาที่แขน มีเส้นเลือดเขียว ๆ ประดับอยู่รอบ ๆ ด้วย

ไนน์ที่ได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามาโดยไม่ได้ส่งสัญญาณมาเลยก็สะดุ้งโหยงสุดตัว และตามสัญชาติญาณ ไนน์ดึงผ้าที่ผูกไว้ที่เอวมาปิดส่วนบนทันที

และนั่นทำให้ส่วนล่าง...

ผมตั้งสติได้ก่อนในเสี้ยววินาทีที่จะเห็นภาพบาดลูกตา ปึง! ผมปิดประตูลงทันที ตัวผมร้อนไปหมดทั้งที่อากาศไม่ได้ร้อนอะไรเลย ลมหายใจเข้าออกแรงทั้งที่ไม่ได้ออกแรงอะไรไป

หุ่นของมันโคตร...

"พี่เบ็น เสร็จแล้วครับ"

ผมค่อย ๆ แง้มประตูเปิดเข้าไปข้างใน ถึงจะบอกว่าพร้อมแล้วแต่เจ้าตัวยังใส่แค่บ็อกเซอร์ขาสั้น ๆ โชว์ขาเรียวสวยอยู่

ผมปิดประตูแล้วหันหลังทันที

"พี่จะอายทำไมครับ" เออ กูก็อยากรู้เหมือนกัน

"ใส่เสื้อให้เรียบร้อยก่อนดิ โป๊จะตาย"

"ไม่เห็นต้องอายเลย" ยิ่งผมแสดงอาการเขินก็เหมือนยิ่งยั่วให้ไนน์แกล้งผมหนักกว่าเดิม ไนน์ก้าวเข้ามาข้างหลังแล้วกอดเอวผมไว้ มันเอาหัวแนบกับแผ่นหลังของผมด้วย

"ไอ้ไนน์! เล่นไม่รู้เรื่องนะมึง"

"หูย ไม่แกล้งแล้ว ขึ้นกูมึงกับผมเลยอะ" โล่งไปที ไนน์ยอมผละตัวออกมาจากผมสักที

"...ใส่เสื้อเสร็จยัง"

"แป๊ปนึงคร้าบ" เสียงฉึบฉับใส่เสื้อของไนน์ดังขึ้นที่ข้างหลัง ตอนนี้แค่เสียงใส่เสื้อยังทำผมตัวร้อนได้ขนาดนี้เลย "เสร็จแล้วครับ"

"โอเค...เฮ้ย มึงใส่กางเกงด้วยดิ" ผมหันหลังกลับอีกครั้ง ไนน์ใส่เสื้อแล้วก็จริงแต่ส่วนล่างยังเป็นบ็อกเซอร์ขาสั้นรัดเป้าอยู่เลย

"พี่เบ็น อย่าพูดกูมึงกับผมได้ไหมเนี่ย ผมไม่ชอบเลย"

"มึงก็...ไนน์ก็ใส่กางเกงก่อนดิ ไอ้ฉิบหาย"

"เรียบร้อยครับ" โอเค หันกลับไปได้แล้วกู

"เออ ดีมา...เหี้ย!" ภาพตรงหน้าคือไนน์ที่พยายามเขย่งให้หน้าเราอยู่ในระดับเดียวกัน แล้วหน้ามันก็ใกล้ผมซะด้วย ใกล้ขนาดที่ผมได้กลิ่นลมหายใจหอมมิ้นท์จากปากของมัน

"นี่ไนน์สุดหล่อเอง ไม่ใช่เหี้ยที่ไหนซะหน่อย"

"ไอ้เด็กจังไร อย่ามาใกล้ดิวะ" ผมถอยห่างออกมาเรื่อย ๆ จนหลังชิดกับประตู ไม่มีที่ให้ผมถอยหนีอีกต่อไปแล้ว หน้าไนน์เข้ามาใกล้เรื่อย ๆ เรื่อย  ๆ กระแสไฟฟ้าแล่นผ่านระหว่างหน้าผากของเราทั้งคู่จนจั๊กจี้ไปทั้งหน้า

"พี่เบ็น...ผม ผมขอรบกวนทั้งชุดนอนนะครับ" อะไรวะ อะไร อะไร อะไร อะไรวะ

"ไอ้ผีบ้า! ไอ้ไนน์! จะทำอะไรพี่" ผมหลับตาปี๊ มันจะทำอะไรผม จูบเหรอ ไม่ดิ อย่านะ ผมยัง...

"จุ๊บ" ไนน์เอาปากของกระต่ายน้อยมาชนจมูกผม "เสร็จผม" พอทำเสร็จก็ลั่นเสียงหัวเราะออกมาเลย "พี่เอาบันนี่น้อยมาด้วยอะ ผมดีใจนะเนี่ย"

ผมยังคงนิ่งทำตัวไม่ถูกอยู่ ตัวร้อนไปหมดจนจะเป็นลมล้มไปตรงนั้น ให้ตายซิวะ เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง

ผมทำหน้าบึ้งใส่ไนน์ไปแต่มันดูจะสะใจมากกว่าเดิม

"บันนี่น้อย?" ผมพยายามเปลี่ยนเรื่องแก้เขิน แต่ไม่ได้ผลเลย

"อื้ม ก็ตัวที่ผมให้ไง" ไนน์ยื่นตุ๊กตากระต่ายน้อยสวมเสื้อสีเหลืองตัวเดิมให้ผมดู

"รื้อกระเป๋าพี่เหรอ"

"เปล่านะ กระเป๋าพี่มันเปิดอยู่ แล้วเจ้าบันนี่น้อยก็อยู่บนสุดก็เลยเห็น"

              พอแกล้งจนสมใจอยาก ไนน์ก็เดินกอดบันนี่น้อยกลับไปที่เตียงตามเดิม ปล่อยผมให้หน้าชาตัวร้อนอยู่ที่เดิม

หนีมันไปอาบน้ำแล้วดีกว่า มันทำผมเหงื่อท่วมจนตัวเหนียวไปหมด

ผมเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวจากกระเป๋าเตรียมจะเข้าไปอาบน้ำ ส่วนไอ้ไนน์ตัวดีก็ยังไม่เลิกหัวเราะสักที

"เข้าไปห้องน้ำทำไมพี่"

"ก็อาบน้ำดิวะ"

"อ๋อ นึกว่า..."

ผมง้างผ้าเช็ดตัวไปฟาดไอ้เด็กลามกด้วยความหมั่นไส้ แต่มันหลบได้ก่อน ไวนักนะไอ้ลิงแสบ

              พออาบน้ำเสร็จก็สบายตัวชะมัด อาบน้ำอุ่นแล้วมาตากแอร์เย็น ๆ สวรรค์ชัด ๆ

              "พี่ไม่เช็ดตัวให้แห้งก่อนอะแล้วค่อยมาใส่เสื้อข้างนอก"

"ไม่เอา! เดี๋ยวมึง..." ผมกัดฟันพูดประชดต่อ "เดี๋ยวไนน์จะเห็นพี่โป๊ไงครับ"

"ไม่เห็นเป็นไรเลย ผมชอบนะ พี่เซ็กซี่ดี" มันพูดแล้วก็ยิ้มกรุ้มกริ่มมาที่ตัวผม

"มึงจะหื่นไปแล้วนะไอ้เด็กเวร" ผมทนไม่ไหวหยิบหมอนข้างมาฟาดไนน์เต็มแรง "นี่! เป็นไง เจอบ้องพิฆาตเข้าไป"

"เล่นทีเผลอเหรอพี่เบ็น ได้!" ไนน์หยิบหมอนข้างอีกใบมาตีผมบ้าง

              แล้วสงครามหมอนก็เริ่มขึ้น

              ทั้งหมอนข้าง หมอนหนุนหัว ตุ๊กตาตัวเล็กตัวใหญ่ ถูกขว้างปาข้ามไปข้ามมาในอากาศ เสียงของหล่นตุบตับประสานกับเสียงหัวเราะของพวกเรา

พอกระสุนหมด พวกเราจึงหยิบอาวุธที่ใกล้ที่สุดมาตีกันและกันอีกครั้ง ผมเหมือนจะชนะเพราะแรงเยอะกว่า ผมเล่นตีไนน์จนมันล้มลงไปนอนกับเตียงเลย

              "โอ๊ย พี่เบ็น ผมเจ็บ" ไนน์เอามือกุมหัวตัวเองแล้วร้องโอดโอย ผมคงตีหัวมันแรงเกินไป

              "เฮ้ย พี่ขอโทษ เป็นไงบ้าง ไหนดูดิ" ผมรู้สึกผิดจริงจัง แรงผมเยอะกว่ามาก หัวของไนน์คงรับพลังการตีของผมไม่ไหว

              ผมก้มลงไปดูแล้วลูบหัวน้อย ๆ ของไนน์ แต่แล้วใบหน้าบิดเบี้ยวจากความเจ็บปวดก็หันมาแสยะยิ้มร้ายกาจใส่ผม

              "พี่เบ็น...ตาย!" ฉิบหายแล้ว มันหลอกผมได้สนิทเลย ไนน์หยิบหมอนที่อยู่ใกล้ที่สุดฟาดหัวผมอย่างแรง แรงจนผมหงายลงไปนอนบนเตียงเลย

              ยังไม่สะใจน้องชายผม ไนน์ขึ้นมานั่งคร่อมแล้วเอาหมอนฟาดใส่ไม่ยั้ง ไนน์ฟาดไปหัวเราะไป ส่วนผมก็โดนฟาดไปหัวเราะไปเหมือนกัน

ฟาดไปได้สักพักก็หมดแรง ไนน์หายใจหอบเหนื่อยอยู่บนตัวผม ผมเองก็เช่นกัน หายใจแรงจนท้องกระเพื่อมขึ้นลง ทำเอาไนน์ที่นั่งทับท้องผมอยู่เด้งน้อย ๆ

"พี่เบ็นครับ"

"หืม? ว่าไงครับ"

ไนน์ยังคงนั่งทับบนตัวผมอยู่ ส่วนผมก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรเหมือนกัน

"มา...กันนะ" เสียงไนน์เบามากจนได้ยินไม่ครบประโยค ได้ยินแค่ช่วงต้นกับท้าย

"ว่าไงนะ พี่ไม่ได้ยิน"

"มา.ป..ฟ.กันนะ"

"หืม?"

"มาดูหนังกันนะ!" ในที่สุดไนน์ก็พูดออกมาได้สักที เสียงดังฟังชัดจนแสบแก้วหู

"ก็แค่ดูหนังเอง ทำไมต้องอายอะไรขนาดนั้น หืม?"

"เออน่า มาดูหนังกับผมนะ นะ"

"เอาดิ ไม่ได้ดูมานานแล้วเหมือนกัน"

ผมทำท่าจะลุกขึ้นมาจากเตียง ไนน์จึงลุกขึ้นจากตัวผมได้สักที

มีแผ่นหนังเก่า ๆ มากมายเรียงอยู่ในตู้กระจกใต้ทีวีจอแบบนขนาดกว้าง ส่วนใหญ่เป็นภาพยนต์เก่า ๆ เพราะสมัยนี้ไม่นิยมดูผ่านแผ่นกันแล้ว ไม่นานแผ่นหนังพวกนี้ก็คงจะกลายเป็นของเก่าแก่หายากไปในที่สุด

"ดูเรื่องอะไรดีไอ้เด็กขี้อ้อน"

"ให้ผมเลือกเหรอ..."

"เอ้า ก็เราเป็นคนชวนเอง เอาแนวไหน สยองขวัญ แอคชั่น ไล่ฆ่า แฟนตาซี การ์ตูน หรือตลกดี พี่มีหมดเลยเนี่ย มาเลือกเอา"

ไนน์กระโดดลงจากเตียงมานั่งข้าง ๆ ผม ไนน์ใช้เวลาไล่หาชื่อหนังผ่านสันปกดีวีดีสักพักก็หยิบออกมาได้

"เอาเรื่องนี้ครับ"

"...เราชอบดูแนวรักโรแมนติกด้วยเหรอ"

"อื้ม ผมเคยดูรอบนึง สนุกดีนะ"

"ตามใจคุณน้องชายเลย" ผมยีหัวไนน์เล่นแล้วใส่แผ่นดีวีดีเข้าไปที่เครื่องเล่นดีวีดีตัวเก่าแก่ ถึงจะเก่าไปหน่อยแต่ก็ใช้งานได้ดี

"เริ่มแล้ว ๆ พี่เบ็นมานั่งดูกัน" ไนน์นั่งอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว

"จ้า ๆ แป๊ปนึง พี่ปิดไฟก่อน" ผมเดินไปปิดไฟในห้องจนมืด เหลือแต่แสงจากหน้าจอทีวีที่สว่างวาบออกมา เสริมบรรยากาศให้เหมือนโรงหนังมากที่สุด ถ้ามีกลิ่นป็อปคอร์นหน่อยละก็ ครบ

ผมนั่งลงข้าง ๆ ไนน์บนเตียง เราสองคนนั่งพิงหัวเตียงโดยมีหมอนหนุนหลังไว้ ไนน์กอดหมอนส่วนผมกอดเจ้าบันนี่น้อย

ผมไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้นานแล้วแฮะ ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามันจบยังไง รู้แค่ว่าเป็นเรื่องความรักของคนหลายคู่ในช่วงวันคริสต์มาส หรือก็คือ วันที่เราอยากอยู่กับคนที่รัก

หนังเปิดมาด้วยฉากผู้คนมากมายที่ได้กลับมาพบเจอกันที่ประตูผู้โดยสารขาเข้าของสนามบินแห่งหนึ่ง ทุกคนดูจะมีความสุขที่ได้เห็นหน้ากันอีกครั้ง

'General opinion's starting to make out that we live in a world of hatred and greed, but I don't see that.'

'โลกนี้มันไม่ยุติธรรม โลกนี้มีแต่ความโสมมและสกปรก' นี่คือสิ่งที่ผมเคยคิด

'It seems to me that love is everywhere. Often it's not particularly dignified or newsworthy, but it's always there.'

แต่แค่ไม่กี่ประโยคในฉากเปิดของหนังเรื่องนี้กลับทำให้ผมเห็นว่าโลกนี้ไม่ได้น่ารังเกียจอะไรขนาดนั้น

'…fathers and sons, mothers and daughters, husbands and wives, boyfriends, girlfriends, old friends.'

ยังมีคุณพ่อที่รักผม คุณแม่ที่อยู่บนฟ้า น้าพลอยคุณแม่คนใหม่ กุ้งเนตรและเพื่อนคนอื่น ๆ และไนน์ เด็กหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ ผม ความรักมีอยู่ทุกที่ทุกหนแห่งจริง ๆ

'If you look for it, I've got a sneaky feeling you'll find that love actually IS all around.'

และตอนนี้ความรักของผมมันอยู่ใกล้เพียงแค่เสื้อบาง ๆ ที่กั้นไหล่เราสองคนอยู่เท่านั้นเอง